คำร้องเพิกถอนสถานะ “บริษัทชั้นนำ” ของ HYBE จากประเด็น Workplace bullying และข่าวปกปิดการเสียชีวิตของพนักงานในบริษัท

กระทู้ข่าว
โอซอริน ผู้สื่อข่าวจาก topstarnews รายงานว่า มีคำร้องระดับประเทศที่ขอให้มีการเพิกถอนสถานะ “บริษัทชั้นนำ” ของ HYBE โดยในวันนี้มีผู้ลงนามในคำร้องบนแพลตฟอร์ม e-petition ของสมัชชาแห่งชาติมากกว่า 9,000 คน โดยมีหัวข้อว่า “คำร้องเพื่อเพิกถอนสถานะบริษัทชั้นนำของ HYBE”

ผู้ร้องเรียนกล่าวว่า “การเพิกถอนสถานะบริษัทชั้นนำของ HYBE อันเนื่องมาจากประเด็นปัญหาการกลั่นแกล้งในที่ทำงานนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบการบริหารมีความสมบูรณ์และยั่งยืน อีกทั้งยังเพื่อส่งเสริมความสามารถและสร้างวัฒนธรรมการบริหารจัดการแรงงานแบบบูรณาการอีกด้วย”

ผู้ร้องยังอ้างถึงเหตุการณ์ที่พัคฮยองแบ สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ได้หยิบยกประเด็นการกลั่นแกล้งในที่ทำงานของ HYBE ในการสอบสวนของสมัชชาฯ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา และได้มีการร้องขอให้เพิกถอนสถานะ “บริษัทชั้นนำ” ของบริษัทดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนหรือตารางเวลาใดๆ โดยอ้างถึงความจำเป็นในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมผ่านสำนักงานแรงงานท้องถิ่น

ผู้ร้องเรียนชี้ให้เห็นว่าการไม่ตอบสนองของกระทรวงแรงงานเป็นการถ่วงเวลาในการแก้ไขปัญหาที่ทางสมัชชาฯ ได้หยิบยกขึ้นมาก่อนหน้านี้ โดยยกตัวอย่างการเพิกถอนสถานะในกรณีที่คล้ายกันเมื่อเดือนเมษายน 2565 เนื่องจากมีการกลั่นแกล้งในที่ทำงานเหมือนๆ กัน โดยเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเร่งด่วนว่า เหตุใดจึงไม่มีการตัดสินใจอย่างทันท่วงทีสำหรับกรณีที่คล้ายกันนี้

ซึ่งก่อนหน้านี้ HYBE ตกเป็นประเด็นถกเถียงอย่างหนัก หลังจากที่ฮันนิ (หนึ่งในสมาชิกวง NewJeans) ได้ออกมาพูดถึงการกลั่นแกล้งในที่ทำงานระหว่างการถ่ายทอดสดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ต่อมาเธอได้ระบเชิญมาเป็นพยานในการสอบสวนของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและแรงงานของสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม โดยมีคิมจูยอง CEO คนปัจจุบันของ ADOR (ค่ายลูกในเครือของ HYBE) เข้าร่วมเป็นพยานด้วย

ในระหว่างการถ่ายทอดสด ฮันนิได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ฉันรออยู่คนเดียวในโถงทางเดินชั้น 4 ของตึก HYBE ซึ่งเป็นที่ที่เราไปแต่งหน้าและทำผม มีศิลปินคนอื่นและพนักงานเข้าออกอยู่ในบริเวณนั้น ขณะที่ฉันรออยู่ พนักงานบางคนและผู้จัดการเดินผ่านมา ฉันก็ทักทายกันอย่างสุภาพ แต่พอพวกเขาเดินผ่านไป ฉันได้ยินผู้จัดการพูดว่า ‘เมินเธอไปเถอะ’ ต่อหน้าฉัน”

ในส่วนของคำให้การของฮันนินั้น คิมจูยองได้ให้การว่า “เราได้ดำเนินการทุกขั้นตอนที่เป็นไปได้ รวมถึงการตรวจสอบว่ามีฟุตเทจจากกล้องวงจรปิดที่หมดอายุแล้วสามารถกู้คืนได้หรือไม่ แต่โชคร้ายที่สถานการณ์นี้มีความขัดแย้งระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง” คิมยังอ้างว่า “บริษัท HYBE นั้นให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างศิลปินและพนักงาน โดยระบุว่าบริษัทได้จัดทำข้อบังคับ แนวทางภายใน และการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอเพื่อสนับสนุนสภาพแวดล้อมนี้”

อย่างไรก็ตาม ฮันนิก็ได้ออกมาตอบโต้คำให้การของคิมยูจองว่า “ฉันไม่คิดว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณน่าจะสามารถทำได้ ในตอนแรกคุณก็บอกว่าจะปกป้องพวกเราเสมอ แต่กลับดูเหมือนว่าคุณไม่มีความตั้งใจจริงในการลงมือทำหรือทุ่มเทในสิ่งที่เคยสัญญาไว้ให้ถึงที่สุดเลย” และเธอยังกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า “ฉันรู้ว่าไม่ใช่ทุกปัญหาบนโลกนี้จะแก้ได้ด้วยกฎหมาย แต่ถ้าทุกคนได้รับการเคารพในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง การกลั่นแกล้งและการถูกกีดกันในที่ทำงานก็คงจะไม่เกิดขึ้นแบบตอนนี้”

ซึ่งการพิจารณาคดีนี้ ยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่า HYBE มีการปกปิดการเสียชีวิตของพนักงานในบริษัทเนื่องจากการทำงานที่หนักเกินไปหรือไม่ ทำให้เกิดความกังวลต่อสาธารณชนมากขึ้น และในขณะเดียวกัน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อ HYBE ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ HYBE ได้รับเลือกให้เป็น “บริษัทชั้นนำของเกาหลีในปี 2024” ร่วมกับบริษัทในเครืออย่าง Weverse Company



โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1851988153562992876?t=u4OKQr9Z9LwaA_fq-QMpBg&s=19

แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://www.topstarnews.net/news/articleView.html?idxno=15565492
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่