สวัสดีครับ ไม่ได้รีวิวเที่ยวต่างประเทศเสียนาน เที่ยวนี้ได้ไปเที่ยวกับทัวร์ครั้งแรกในรอบสิบกว่าปี ประทับใจมากเลยขอรีวิวสักหน่อย เพื่อเป็นข้อมูล และแบ่งปันประสพการณ์
เรื่องก็เริ่มจาก ผมมาทำงานสงขลาเกือบปีแล้ว ต้องห่างครอบครัว เดือนนึงจะได้กลับบ้านสักครั้ง ก็เลยอยากหาโอกาสไปเที่ยวด้วยกันยาวๆสักที และปีนี้ยังไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศประจำปีเลย ก็เลยหาโปรแกรมว่าจะไปไหนดี แบบไม่ไกล สวยๆ ไม่เหนื่อย อากาศเย็นสบาย ก็ไปเจอ จิ่วจ้ายโกว ที่เขาว่าเป็นที่เที่ยวระดับ A5 ของจีน อยู่ไม่ไกล และเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นช่วงสวยที่สุดของที่นี่ ก็คิดว่าจะไปเองเหมือนเดิมดีไหม เพราะผมกับลูกสาวพูดจีนได้ แต่ดูหลายรีวิวแล้ว การเดินทางค่อนข้างลำบาก ต่อรถหลายทอด เลยซื้อทัวร์ดีกว่า จิ้ม จ่าย จบ ก็เลือกเอาวันปลายตุลา เพราะพ้นวันชาติจีนไปแล้ว ไปจิ่ววันจันทร์ คนคงไม่มากเพราะต้องทำงานแล้ว เลือกเจ้าที่เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจะได้ประหยัดเวลาเดินทาง ไม่เข้าร้านรัฐบาล มีรถตู้ส่วนตัวในจิ่ว ไม่ต้องรอรถอุทยาน ก็ได้มาเจ้านึง แพงกว่าเขา แต่ option ตามที่ต้องการ ก็แจ้งลูกเมีย ก็เห็นชอบทุกคน ก็เตรียมตัว ลางาน ลาเรียน เก็บกระเป๋า พร้อมเดินทาง
เริ่มเดินทางบ่ายวันเสาร์ 19 ตค บินสิงโต ออกจากดอนเมือง เวลาดี ออก 17:10 แต่เครื่อง Delay ไปเกือบชั่วโมงเพราะเครื่องมีปัญหาต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็ไม่เป็นไรไปถึงสามทุ่มกว่า บินแค่ ๒ชั่วโมงครึ่ง ไม่เหนื่อย ในเครื่องมีแต่คนไทยที่ไปเที่ยวเฉิงตูหลายๆทัวร์ มาด้วยกัน ลงมาแล้วก็เข้าที่พักเป็นโรงแรมติดกับสถานีรถไฟความเร็วสูงเฉิงตูเลย
วันที่สอง ออกเดินทางสายหน่อย เดินข้ามถนนไปขึ้นรถไฟความเร็วสูง มีฝนพรำๆพอได้ใช้ร่ม รถออก 10:30 คนเต็มขบวน รถวิ่งนิ่มสบาย แต่ไม่เร็วเท่าไหร่แค่ 190 km/Hr ไม่เท่าที่เคยนั่ง ปักกิ่ง หางโจว สายนั้นวิ่งกัน 300 km/Hr จนบ่ายไปลงเกือบสุดสายที่สถานีซงพาน นั่งรถบัสประจำกรุ๊ปไปในเมืองไปกินข้าว และแวะเที่ยวเมืองโบราณซงพาน เป็นเมืองเก่าเล็กๆไม่มีอะไรมาก พอดีอยู่ระหว่างทางเลยแวะเสียหน่อย แล้วก็นั่งรถไปอีก๒ชั่วโมงไปจิ่ว แล้วมีโปรแกรมเสริมคือดูการแสดงที่Romantic show of Jiwzaigou ใครอยากดูก็จ่ายเพิ่ม 300 หยวน เห็นไกด์โปรโมทนักหนา บอกว่าเป็นโชว์ระดับ A5 ก็เลยอยากดู ไหนๆก็มาแล้ว และแถวโรงแรมไม่มีอะไรทำ ก็ไปดูกัน ๘คนจาก ๒๐ คน ขอบอกว่าดีงามมากๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยิ่งใหญ่มากๆทั้งฉาก การแสดง แสงสี มีเหาะไปมาข้ามหัวไปมาสนุกมาก เกาะอี้ก็มีสั่นได้ขยับได้ เคลื่อนที่ได้ ฝนตกกลางที่นั่งคนดูแต่ไม่เปียก อย่าเสียดายเงินเลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ดูเสร็จก็กลับไปกินข้าวโรงแรม ระหว่างทางเห็นแต่โรงแรม ร้านอาหารตลอดแนวหลายกิโล นึกแล้วก็ใจฝ่อ เพราะทุกคนต้องไปแย่งกันเข้าจิ่ววันพรุ่งนี้เหมือนกัน ไกด์บอกวันนี้คนเข้าจิ่ว 50,000 กว่า ยิ่งสยอง
เมืองโบราณ ซงพาน ไม่มีอะไรมาก
การแสดง Romantic Show of Jiuzhaigou อลังการมากๆ ต้องดู
วันที่สาม รีบตื่นมาแต่เช้าเพราะจะได้อยู่ในจิ่วได้นานๆ แต่เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะโรงแรมติดถนนรถวิ่งไปมาก็บีบแตรกันตลอด จะประสาทเสีย ตื่นมาโมงเช้ารถก็ติดกันยาวแล้ว ทุกคัน ทุกคนมุ่งสู่จิ่วจ้ายโกว ไกด์เสนอว่าจะเหมาแทกซี่ให้ไปส่งที่หน้าทางเข้าเลย ถ้านั่งบัสไปต้องเดินอีกครึ่งชั่วโมง ก็เลยเอา คันละ๔คน คนละ ๕ หยวน ก็ไปสบายๆไม่ต้องเดินไกล ระหว่างทางเห็นขบวนรถ ขบวนคนยิ่งท้อ หน้าทางเข้ายังกับมีจลาจล ดีว่ากรุ๊ปเรามีรถเหมาเองไม่ต้องไปต่อคิวกับคนอื่น ก็รีบขึ้นรถออกไป ก็ไกลเลยกว่าจะถึงจุดเที่ยว แต่เห็นแล้วตะลึง อะไรมันจะสวยได้ขนาดนี้ ขนาดใบไม้เปลี่ยนสีแค่ 40% ยังขนาดนี้ ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ใบไม้ ทุกอย่างสวยไปหมด แต่ก็ต้องแลกกับคนที่มามหาศาล ยังดีว่าข้างในกว้างใหญ่มาก คนเลยกระจายไปได้หลายที่ พอหามุมถ่ายรูปสงบๆได้บ้างอากาศก็ดีมากต่ำสิบ ไม่มีฝน แจ๊กเก็ตตัวเดียวก็เอาอยู่ ก็อยู่กันจนบ่ายแก่ก็ออกเดินทางไปพักที่ตำบลเล็กๆใกล้ๆหวงหลง
ทางเข้าจิ่วจ้ายโกว ดูคนสิ ยังกะตลาดนัด
ดูคนแต่ละจุด เป็นอย่างนี้ทุกจุด
ลูกสาว Happy มาก
วิวภายในจิ่วจ้ายโกว สวยจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร รูปที่ถ่ายมาเหลือความสวยไม่ถึงครึ่ง
วันที่สี่ ออกแต่เช้าจะไปหวงหลง จะได้คนไม่เยอะ วิ่งไปครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เพิ่งมีคนมา ดีเลยต่อคิวขึ้นกระเช้าไม่กี่นาที แต่หนาวมาก เช้านี้ -5 องศา แต่ก็ชอบมาก เบื่ออากาศร้อนที่ไทยมาเจอแบบนี้สะใจดี ขึ้นไปหวงหลง ที่นี่สูงมาก ประมาณ 3,900 เมตร สูงกว่าจุงฟราวด์ อากาศบางหายใจไม่ทัน เดินขึ้นบันไดไม่กี่ก้าวต้องหยุดหอบ แฟนเดินไปได้ชั้นเดียวยอมแพ้ ลูกเดินไปจนถึงวัดก็ยอมแพ้ ผมลุยต่อไปจนสุดทาง ได้เจอหวงหลงตัวเป็นๆ สวย แต่มันไม่ใหญ่ไม่อลังการ มีแค่จุดเดียวก็แวะถ่ายรูปไปให้ลูก เมียดูแล้วก็กลับ ขากลับเจอคนมาเที่ยวต่อคิวรอขึ้นกระเช้าแถวยาวเป็นกิโล โชคดีที่ไกด์วางแผนมาดี แล้วก็นั่งรถยาวไปนอนซงพานเตรียมไปสี่ดรุณีพรุ่งนี้ ก็นั่งรถกัน ๔ ชั่วโมง ไกด์บอกว่ารถขับได้แค่ 50 km/Hr มิน่า ระยะก็ไม่ไกลทำไมวิ่งนานนัก
จะไปที่ไหน หนาวแค่ไหน เธอต้องกินไอติม ตอนนี้ประมาณ -2 เซลเซียส
นี่คือหวงหลง สวยนะ แต่ก็มีแค่นี้ กว่าจะเดินมาถึงแทบตาย
แวะพักระหว่างทาง ถ่ายรูปกับน้องจามรี น้องน่ารักมาก
เที่ยวกับทัวร์ เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว หวงหลง สี่ดรุณี 19-24 ตค 2567
เริ่มเดินทางบ่ายวันเสาร์ 19 ตค บินสิงโต ออกจากดอนเมือง เวลาดี ออก 17:10 แต่เครื่อง Delay ไปเกือบชั่วโมงเพราะเครื่องมีปัญหาต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็ไม่เป็นไรไปถึงสามทุ่มกว่า บินแค่ ๒ชั่วโมงครึ่ง ไม่เหนื่อย ในเครื่องมีแต่คนไทยที่ไปเที่ยวเฉิงตูหลายๆทัวร์ มาด้วยกัน ลงมาแล้วก็เข้าที่พักเป็นโรงแรมติดกับสถานีรถไฟความเร็วสูงเฉิงตูเลย
วันที่สอง ออกเดินทางสายหน่อย เดินข้ามถนนไปขึ้นรถไฟความเร็วสูง มีฝนพรำๆพอได้ใช้ร่ม รถออก 10:30 คนเต็มขบวน รถวิ่งนิ่มสบาย แต่ไม่เร็วเท่าไหร่แค่ 190 km/Hr ไม่เท่าที่เคยนั่ง ปักกิ่ง หางโจว สายนั้นวิ่งกัน 300 km/Hr จนบ่ายไปลงเกือบสุดสายที่สถานีซงพาน นั่งรถบัสประจำกรุ๊ปไปในเมืองไปกินข้าว และแวะเที่ยวเมืองโบราณซงพาน เป็นเมืองเก่าเล็กๆไม่มีอะไรมาก พอดีอยู่ระหว่างทางเลยแวะเสียหน่อย แล้วก็นั่งรถไปอีก๒ชั่วโมงไปจิ่ว แล้วมีโปรแกรมเสริมคือดูการแสดงที่Romantic show of Jiwzaigou ใครอยากดูก็จ่ายเพิ่ม 300 หยวน เห็นไกด์โปรโมทนักหนา บอกว่าเป็นโชว์ระดับ A5 ก็เลยอยากดู ไหนๆก็มาแล้ว และแถวโรงแรมไม่มีอะไรทำ ก็ไปดูกัน ๘คนจาก ๒๐ คน ขอบอกว่าดีงามมากๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยิ่งใหญ่มากๆทั้งฉาก การแสดง แสงสี มีเหาะไปมาข้ามหัวไปมาสนุกมาก เกาะอี้ก็มีสั่นได้ขยับได้ เคลื่อนที่ได้ ฝนตกกลางที่นั่งคนดูแต่ไม่เปียก อย่าเสียดายเงินเลย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ดูเสร็จก็กลับไปกินข้าวโรงแรม ระหว่างทางเห็นแต่โรงแรม ร้านอาหารตลอดแนวหลายกิโล นึกแล้วก็ใจฝ่อ เพราะทุกคนต้องไปแย่งกันเข้าจิ่ววันพรุ่งนี้เหมือนกัน ไกด์บอกวันนี้คนเข้าจิ่ว 50,000 กว่า ยิ่งสยอง