เที่ยวสี่ดรุณีกับเงินหมื่นนิด ๆ ทำยังไง ตามมาจ้ะพี่จ๋า


สวัสดีจ้าพี่จ๋า อ่านไม่ผิดหรอก เงินหมื่นนิด ๆ ได้เห็นวิวนี้จริงๆ ละมีว้าว ๆ กว่านี้อีกนะ แต่บอกไว้ก่อน ว่างบน้อยหอยสังข์จะมาเที่ยวหรู อยู่สบาย นอนห้าดาว เหมารถเที่ยว ลากเป๋าชิว ๆ มันเป็นไปบ่ได้ มันก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง ที่ไม่ใช่ตัวน่ะ (ไม่มีใครแลก) ถ้าคิดว่ากินง่ายอยู่ง่ายหลับง่าย ก็ตามมาโลด
เริ่มต้นจากหาตั๋วโปรก่อน เรากับเพื่อนเดินทางกันสองสาว (ใหญ่) ได้ตั๋วโปรของแอร์เอเชีย เดินทางคืนวันที่ 10 ต.ค.61-16 ต.ค. ลางานแค่สองวันนะ เพราะเดินทางดึกวันที่สิบ และกลับถึงไทยเช้ามืดวันที่ 16 สามารถตาลีตาเหลือก น้ำไม่อาบ ฟันไม่แปรง ไปทำงานต่อได้เลย ส่วนวีซ่าจีนก็ไปหาอ่านเอา รีวิวเป็นแสนวิวละ เวิ่นเว้อไปละ เจ็บคอ ออกเดินทางเถอะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.ก็ถึงสนามบินเฉิงตู ผ่าน ตม.ออกมา เวลาท้องถิ่นก็ประมาณตีสองนิด ๆ ณ จุดจุดนี้ ยังไม่ต้องดิ้นรนไปไหน หามุมดีๆ วางเป๋า เข้าเฝ้าพระอินทร์ก่อนเลย บางรีวิวอาจจะบอกว่า มันมีเก้าอี้ที่ปรับนอนได้ ใช่ มันมี แต่มันไม่พอหรอก เชื่อสิ (เดินหามาแล๊วววว) เสียเวลา นอนบนพื้นสนามบินไปเล้ย ก่อนนอน หาเสื้อผ้ามาใส่ให้อบอุ่น เพราะพื้นสนามบินหนาวมาก และอย่าลืม ตั้งนาฬิกาปลุกซักตีสี่ครึ่งนะ

แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ นอนดี ๆ มีหมีแอบมอง
ช่วงที่คุณผู้อ่านกำลังหลับอยู่นั้น ทางเราก็จะขออธิบายการเดินทางเข้าเมืองซักหน่อย สถานีรถบัสที่เราจะไปขึ้นเพื่อเดินทางไปอุทยานสี่ดรุณีเนี่ย เค้าชื่อว่า Chadianzi Bus Station  หน้าตาเป็นยังไง เสริจกูเกิ้ลก็มี เซฟรูปเก็บไว้ในมือถือ จากนั้นไปดูตารางเดินรถได้ที่
http://www.chinabusguide.com  เข้าไปเราก็เลือกเมืองต้นทางคือ chengdu ปลายทางคือ xiaojin รถเที่ยวแรก 07.30/09.00/12.00 ตามลำดับ หรืออยากจะไปเมืองไหน ก็เสริจได้ ไม่ห้าม สถานีรถบัสเปิดประมาณหกโมงเช้า จริงๆ  จากสนามบินเนี่ย มีบริการรถ shuttle bus ไปถึงเลยนะ รอบแรกแปดโมงครึ่ง แต่เราอยากไปรถเที่ยวแรกไง ตัดไป และจากสนามบินก็มีรถไฟใต้ดินไปถึงด้วยนะ เปิดตอนหกโมงเช้า นั่งสายสิบไปต่อสายสอง แต่พวกเราคิดว่ามันไม่ทัน เพราะเราสองคนเคยไปซื้อตั๋วช่วงเวลากระชั้นชิดก่อนรถออกแล้ว อุแหม่แม่เต็ม ดังนั้น เราจะไม่พลาดทุกการติดต่อ ใครอยากไปเที่ยวอื่น แล้วแต่ ไปดูรายละเอียดที่ https://www.travelchinaguide.com เลือกดูข้อมูลในส่วนของสนามบินเฉิงตูนะ มีหมดทั้งรายละเอียดรถบัส รถไฟใต้ดิน ส่วนที่เหลือตามเจ๊มา
ได้เวลาตีสี่ ตื่นเว้ยยย ไปล้างหน้าแปรงฟัน เดินออกไปหน้าสนามบินตามป้าย taxi ไปเลย ไม่ต้องกลัว ตีห้าก็มีรถ taxi จอดนอนเรียงกันเป็นแถว เคาะกระจกปลุกเฮียแกเลย ช่วงแกกำลังงง ๆ รีบยื่นรูปสถานีรถบัสให้ อย่าพูดมาก เจ็บคอ เค้าไม่ปฏิเสธหรอก ที่นี่ไม่มีเติมแก๊ส กดมิเตอร์ปลอดภัย ใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที (ป่าววะ) ก็ถึงสถานีรถบัส ที่ยังไม่เปิด แฮร่!!! รีบมาเพื่อ ค่ารถน่าจะประมาณ 80 หยวนนะ ถ้าจำไม่ผิด ไม่มีบวกอะไรเพิ่ม ตามยอดมิเตอร์

อย่าคิดว่าจะเหงา มีคนตื่นเต้นกว่าเราอีก กว่าจะเปิดก็หกโมงครึ่ง วิ่งกันกระบังลมตั้งไปต่อคิวที่เคาน์เตอร์ ช่องไหนก็ได้ เข้าไปเลย ถึงคิวแล้วยื่นพาสปอร์ตให้ แล้วพูดว่า ซือกู่เหนียงซาน หรือถ้าเจ็บคอ ก็ใช้มุกเดิม เซฟรูปเซฟชื่อภาษาจีนไว้ แล้วยื่นให้ คนขายอาจจะถามเป็นภาษาจีนว่าซื้อกี่ใบ ให้ชูนิ้วตามจำนวนคนค้างไว้ รถบัสเนี่ยมันไม่มีสุดสายที่อุทยาน ที่อยู่ในเมืองรื่อหลง rilong แต่มันเป็นแค่ทางผ่านที่จะไปสุดสายที่เมือง Xiaojin ถ้าได้ยินอะไรจิน ๆ ก็พยักหน้าไป ค่าตั๋วคนละ 95 หยวน ถ้าไม่ใช่ราคานี้ และไม่มีอัพเดทราคาใหม่ในเว็บ แสดงว่าผิดที่ ผ่าม!!! พยายามคุยใหม่ อิอิ ได้ตั๋วแล้ว อยากจะทำอะไรก็ได้ ห้องน้ำสะอาด และทุกสถานีสาธารณะของจีนมีน้ำร้อนบริการ จกเอามาม่าและกาแฟซองออกมาจ้ะ หรืออยากจะเดินดูร้านค้าแถวนั้นก็มีให้เลือก ซื้อขนมนมเนยเอาไว้ระหว่างทางก็ได้เผื่อหิว แต่ระดับเรา ซื้อเสบียงมาตั้งแต่เมืองไทย เอาเสื้อผ้าออก เอาของกินยัด ขากลับแดรกกกหมด เบาสบาย ในตั๋วมันจะมีบอกเที่ยวรถกะเวลาอยู่นะ ภาษาจีนก็จริง ไม่ต้องตื่นเต้น เน้นดูเลขกะเวลา ถ้าไม่ชัวร์ ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่แถวนั้นดู เดี๋ยวเค้าก็ไล่ไปขึ้นรถเอง รถออกตรงเวลาเด้อ
นั่งไปสองชั่วโมง จะถึงจุดพักรถ มีร้านอาหารขาย มีห้องน้ำสะอาดให้เข้า แต่ฟังเค้าไม่รู้เรื่อง ว่าพักกี่นาที ดังนั้น อย่าเถลไถลไปไกลจากรถ ทำทรงเดินถ่ายรูปเหมือนมาบ่อยแถว ๆ นั้นไป ไม่หิวหรอก เพิ่งกินมาม่ามา วิวตรงจุดพักรถก็จะประมาณนี้


ถ้าไม่ใช่ คงไปผิดที่ หื้มมมม..
พักรถน่าจะประมาณ 15 นาที รถออก เดินทางไปอีก 2 ชม. จับเวลา แต่ถ้าพอมีกำลังทรัพย์อยู่บ้าง แนะนำให้ซื้อซิมเน็ตจากเมืองไทย ของทรูก็ได้ asia ซิมอ่ะ เล่นได้ 15 GB แปดวัน เหลือเฟือ ใช้ได้ทุกประเทศในเอเชีย ยกเว้นเมดาน อินโด อย่าเติมเงินไปเชียว เสียดายชิบ ซื้อซิมร้อยห้าสิบบาทเอ้ง อ่ะ ถ้ามีเน็ต ก็เปิด gps แล้วดู เราจะต้องลงที่เมือง rilong ไง เสริจสิ แต่เอาจริงๆ บอกคนขับไว้ก็ได้ว่า ซือกู่เหนียงนะ ซือกู่เหนียง พยายามทำหน้านักท่องเที่ยวไว้ เค้าจะสงสาร พอถึงเมืองรื่อหลง เค้าก็จะเรียก ซือกู่เหนียง อ้าว ลงสิ รออะไร คนจีนเนี่ย เค้าจะน่ารักกับนักท่องเที่ยวมากนะ ระหว่างทางที่พวกเราตื่นเต้นกับวิวภูเขาหิมะ เค้าก็จะพยายามชี้ชวนให้เราดูวิวจากมุมนั้นมุมนี้ อะไรนะ? รูประหว่างทางเหรอ ไม่ได้ถ่าย หลับไง ไปดูที่รีวิวอื่น


เนี่ย ๆ รถจอดตรงป้ายแบบนี้ เงยหน้ามองด้วย ถ้าใช่ก็เดินทวนแม่น้ำขึ้นไปเลย


ลืมบอก พวกเราจองที่พักที่ชื่อว่า mountain voice เอาไว้ เห็นว่าเจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้ แถมมีวิวภูเขา และดาดฟ้าไว้ดูดาวตอนกลางคืนด้วย ไปเสริจดูเอาใน booking ละกัน เผื่อเจอที่ดีกว่าก็ไปที่ที่ชอบนะ ส่วนเราเดินทวนน้ำไป เจอทางแยก ก็ดูตามจีพีเอสไปให้แยกซ้ายขึ้นเขาไป เหนื่อยชิบ แต่ไม่ว่าจะแยกซ้ายหรือแยกขวา ก็เต็มไปด้วยโรงแรม ที่พัก เต็มไปหมด ต่อให้ไปจองไป ก็น่าจะหาได้ แต่วิวทางเดินไปที่พักเราก็ไม่ธรรมดานะ ดูซะก่อน


และแล้วก็มาถึง หน้าตาแบบนี้แหละใช่เลย

ฮัลโหล... อันยองงงง... มีป้าเดินออกมา แต่แกพูดภาษาจีน เอาแล่ว พยายามสื่อสารกันด้วยวีแชท ป้าแกน่ารักนะ เล่นเน็ตเก่ง อิอิ ป้าเอาไอดีวีแชทเจ้าของโรงแรมมาให้พวกเราคุย ปรากฏว่า เจ้าของที่พูดภาษาอังกฤษได้ นางไปเที่ยวกระบี่บ้านเราจ้า ขณะนี้ เหลือแต่ป้า และน้องหมาต้อนรับ แต่มีอะไรก็คุยกับเจ้าของได้ แกชื่อเจ๊ sunny แอ๊ดเฟรนแกไว้ มีอะไรก็บอกแก เดี๋ยวแกบอกป้าให้ เก็บข้าวของแล้วออกสำรวจแถวนั้นกันดีกว่า


ที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลสามพันนิด ๆ ถ้าใครเหนื่อยก็พัก ใครไม่รักก็ปล่อยเค้าไป เฮ้อ.. ไปเถอะว่ะ ไปเดินดู หาข้าวกินซักหน่อย แถวนั้นก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะอยู่นะ ไม่ลำบากหรอก เซฟรูปไข่เจียวกะผัดผักไป อยากกินไรก็เซฟไป ยื่นให้เค้าดู มันต้องมีซักเมนูล่ะวะ ค่าอาหารก็ไม่แพง มื้อนึงสองคนก็ประมาณไม่เกินร้อยหยวน (อย่าสั่งเยอะดิ)
เอาจริงๆ นะ คือวันแรกเนี่ย พวกเราก็ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไง ก็เดินย้อนกลับมาทางที่ลงรถ เผื่อว่าจะมีอะไรน่าสนใจ จะบอกว่า ไม่ต้องมานะ มันไม่มีอะไรหรอก ยกเว้นร้านค้าตรงถนนที่ขายผลไม้ คือ แอ้ปเปิ้ลไม่ค่อยสวย แต่อร่อยโคตร หวานกรอบ ซื้อเก็บไว้เป็นเสบียงในวันพรุ่งนี้ได้เลย

เนี่ย ๆ ประมาณสามสิบบาทมั้ง อร่อยเหาะ เชื่อเจ๊ ไปแดรก (อุ๊ย พิมพ์คำหยาบได้ป่าววะ) อธิบายก่อน ตรงจุดที่เราลงรถเนี่ย มันคือทางเข้าอุทยานสี่ดรุณี
อุทยานเนี้ย มันมีเส้นทางเข้าชมทั้งหมดสามทาง คือ
1.Haizigou ทางนี้ ต้องสำหรับคนมีเวลาเย๊อะ ๆ ไปนอนค้างกางเต๊นคืนนึง เพราะเดินล้วน ๆ ค่าเข้าคนละ 60 หยวน ในช่วงไฮน์
ทางเดินมันก็จะเหนื่อยหน่อย เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ เหมือนชีวิตนี้กุจะไม่เจอวิวอะไรแล้วนอกจากบันได หากคุณคิดว่า ขึ้นไปอีกนิด คุณจะเห็นวิวสวยงาม คุณคิดผิด วิวบันไดเหมือนเดิม อาเมน

และเมื่อคุณพยายามจนถึงที่สุดแล้ว ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น คุณจะได้พบกับสิ่งนี้

ป้ายจุดขายตั๋ว ยิ้มดดดดด นี่แค่ทางเข้าไปซื้อตั๋ว ยังต้องเดินข้ามเขามาหนึ่งลูก เหตุการณ์ข้างหน้าเป็นเช่นไร คงไม่ต้องบอก เส้นทางนี้พี่ไม่ไป จบ

ดังนั้น ถ้าเห็นเส้นทางนี้ แนะนำให้เดินผ่านไป มองมันแค่หางตาพอ
ส่วนเส้นทางที่ 2. Changpinggou ก็คือจุดที่เราลงรถแล้วมีป้ายบอกไง จุดนี้มีนั่งรถเข้าไป 5 กม. ที่เหลือเดินล้วน ๆ ค่าเข้าคนละ 70 ค่ารถอีก 20 หยวน

ที่ขายตั๋วก็จะอยู่ซ้ายมือตามรูปภาพ ส่วนเส้นทางสุดท้าย ต้องหารถไปจากที่พักเนี่ย ประมาณ 8 กม. ก็คือเส้นทางที่
3.Shuangqiaogou นั่งรถบัสอุทยานเข้าไป 40 กม.แล้วก็เดินเที่ยว มีรถบัสจอดรับตามจุด เส้นทางนี้น่าจะสบายที่สุด ค่าเข้าคนละ 80 หยวน ค่ารถ 70 หยวน

วันแรกนี้ แนะนำว่า เดินเล่นสำรวจเส้นทางแถวอุทยานหนึ่งและสองนี้ไปชิวๆ ก่อน หรือถ้าง่วงก็ไปนอน หนาวก็ไปนอน ตามอัธยาศัย
ส่วนเรากลัวไม่คุ้ม เลยเก็บภาพมาฝาก เอานิดหน่อยพอ เปลืองเน็ตท่านผู้ชมเนาะ


กลับถึงโรงแรม ให้ป้าติดต่อเจ๊ซันนี่ไว้ ว่าพรุ่งนี้พวกเราจะไป Shuangqiaogou อยากจะให้เจ๊ซันนี่ หารถแท็กซี่ไปส่ง ค่ารถไปกลับก็แปดสิบหยวน ถ้ามีหลายคนก็แชร์ไป เรามาสองคนก็หารกัน อย่าเรื่องมาก แล้วก็ให้เจ๊แกจองตั๋วรถทัวร์ขากลับเฉิงตูไว้ให้พวกเราด้วยเลย กลับเช้าวันไหนก็บอกเจ๊แกไป แกบวกค่าจองนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ให้ไป เพราะที่นี่มันไม่มีท่ารถ มันต้องไปรอขึ้น ถ้าเราไม่รู้จักทางก็อาจจะตกรถได้ แกคิดพวกเราคนละ 120 หยวน (ถ้าขึ้นเองเป็นก็ 95 หยวนไง) จบวันแรกแต่เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้พบกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่