สวัสดีปีใหม่ 2019 ครับ
เนื่องจากผมมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวในช่วงเดือน ธค ปี 2018 ที่เมืองเฉิงตูแบบไม่เหมารถแท็กซี่ ซึ่งดูจะเป็นประสบการณ์การเดินทางที่ดีสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวประเทศจีนแบบคนน้อยๆ หรืออยากไปคนเดียว แต่พูดจีนไม่ได้มาแชร์ให้ได้อ่านกันครับ
ทริปนี้ขอเล่าในส่วนของวิธีการเดินทางในจีนเป็นส่วนใหญ่ครับเพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่อยากจะเดินทางเอง ส่วนเรื่องรายละเอียดงบที่ใช้นั้น ขอบอกเป็นภาพรวมแทนนะครับ
สิ่งที่ต้องมีก่อนเดินทาง
1. แอพ Google translate หากินได้ทั่วโลก ช่วยได้มาก
2. แอพ metro chengdu subway ดีมากๆบอกราคาให้ด้วย
3. Trip.com แอพหาที่พักในจีน ดีตรงที่มีการแสดงตำแหน่งของที่พักสำหรับกรณีใช้แท็กซี่ในจีน
4. sim ต่างประเทศจะได้เปิด google map ได้ เข้าใจว่า 399 บาททุกค่ายแต่ระยะเวลาการใช้งานจะแล้วแต่ค่ายนะ
5. คำศัพท์พื้นฐานเรื่องเงินเพื่อกันการโดนโกง โดยเฉพาะแท็กซี่สนามบิน แต่จริงๆส่วนใหญ่จะไม่โกงนะ
6. เสื้อกันหนาว ฮีทเทคไปเลยครับบนภูเขาหนาวสุดๆ และออกซิเจนต่ำด้วย ถ้าเตรียมถังออกซิเจนไปได้ก็จะดี แต่ถ้าไม่อยากแบกไปสามารถไปหาซื้อบนภูเขาได้
ภูเขาสี่ดรุณี Siguniang shan

[Day 1]
วันแรกของการเดินทางผมออกเดินทางจากดอนเมืองไปลงที่เฉิงตู เวลา 9.55 PM ถึงตอน 2.00 AM (เวลาที่ประเทศจีน) การที่ผมมาถึงก่อนเวลาเดินรถไฟใต้ดินของเมืองนั้น ทำให้แท็กซี่คือหนทางเดียวที่ผมจะไปเข้าที่พักได้ครับ ขอแนะนำว่าหลังจากที่เดินออกมานอกเกตแล้วไม่ต้องคุยกับใครทั้งนั้น เพราะคนจีนผู้หวังเงินเราจะมารอดักแล้วถามว่าพักที่ไหน ซึ่งพวกเค้าพูดภาษาอังกฤษได้นี่อาจทำให้หลายคนโลเลที่จะคุยกับพวกเขา แต่ไม่ต้องดีใจที่ได้เจอคนพูดอังกฤษได้นะครับเพราะเค้าคิดค่าเดินทางเข้าตัวเมืองประมาณ 500-700 บาท ขอให้เดินออกมาข้างนอกแล้วมองไปทางขวามือจะเจอคิวรถแท็กซี่อยู่ ให้เดินไปตรงนั้นแล้วยื่นที่อยู่ที่พักให้กับแท็กซี่แทนครับ เพราะค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 160-200 บาท (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พัก) ก่อนขึ้นรถไปก็ยื่นที่อยู่ที่พักจากแอพ trip.com ที่เป็นภาษาจีนให้คนขับดู เค้าจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน
สำหรับที่พัก
วันแรกที่เข้าพักจำเป็นต้อง check in ช่วงตีสอง ตอนจองเลยพยายามดูโรงแรมที่มีบริการแผนกต้อนรับ 24 ชม.ไว้ ผมจอง Holly's hostel ไว้ครับพนักงานต้อนรับพูดอังกฤษได้ดีเลย แต่ห้องพักจะธรรมดาหน่อยและเตียงไม่มีฮีตเตอร์ให้ด้วย นอนขดไปปป
นอนพักกันไปได้ 2-3 ชม ก็เริ่มออกไปเดินเล่นรอบๆที่พักกันเลย ซึ่งสถานที่แรกที่ไปคือ Wuhou temple ตั๋วเข้าวัดคนละ 50 หยวน

ชุมนุมหน้าประตู

ทางเดินไปดูบอนไซ

มุมยอดฮิต แต่ต้องรอคนเดินผ่านให้หมดก่อน

โซนต้นบอนไซ

ที่นี่แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนมากครับ

ศาลาต้นหลิว
จริงๆแล้ววันนี้ไม่ใช่แค่วันเดินเล่นธรรมดาๆครับ แต่เป็นเพราะการที่จะเดินทางไปภูเขาสี่ดรุณีนั้นเราต้องจองตั๋วเดินทางล่วงหน้า 1 วัน ฉะนั้นหลังจากเดินถ่ายรูปเล่นที่นี่เสร็จแล้ว ผมก็จะนั่งรถไฟใต้ดินจาก Gaoshengqiao ไปลง Chadianzi ตรงนี้แอพ metro จะบอกวิธีเดินทางให้ครับไปง่ายเหมือนของไทยเลย แต่ก่อนเดินทางไกล เราเดินไปหาของกินที่ Jinli street กันก่อนเลย อยู่ข้างๆทางเข้าวัดเลยครับหาไม่ยาก

ทางเข้า Jinli street

เป็นไม้แรกที่อร่อยที่สุด

อาหารเสียบไม้ยอดฮิต อร่อยอยู่นะ

ตลอดข้างทางจะมีแต่ของกินเต็มไปหมด

มุมสวยๆ กำแพงขาวๆ

ของกินเต็มไปหมดเลย

ปลาหมึกรสเลิศ ไม่ได้ลองนะ แต่น่าจะอร่อยเห็นคนกินเยอะมากๆ

ขนมไส้ข้าวโพดครับ ร้อนๆอร่อยดี
ผมเดินทางต่อเพื่อไปจองตั๋วรถบัสสำหรับเดินทางพรุ่งนี้ เป้าหมายคือเมือง อื้อหลง (Rilong) เพราะจองที่พักไว้ที่นั้น หากต้องการจองตั๋วที่จีนสิ่งที่ต้องพกคือ Google translate แต่จะดีกว่านั้นถ้าเจอ counter service ซึ่งที่สถานีรถบัส Chadianzi bus station มีพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลย ผมแค่บอกว่าอยากไปภูเขา Siguniangshan พรุ่งนี้รอบ 9.00 AM ลงที่เมือง Rilong เค้าจะเขียนกระดาษใบหนึ่งให้เราไปยื่นที่จุดขายตั๋ว โดยในใบนั้นเขียนว่า Xiaojin 9.00 AM ลง Rilong ค่าเดินทางคนละ 95 หยวน พอได้ตั๋วแล้วเก็บให้ดีๆครับเดี๋ยวพรุ่งนี้มาขึ้นรถไม่ได้

ถึงแล้วสถานีรถบัส

ถนนที่นี่โล่งตามาก ถนนกว้างไม่มีสายไฟให้เห็น

วิถีผู้คน

หลังเสร็จภารกิจจองตั๋วในวันนี้แล้ว จากนี้จะเป็นการพักผ่อนตามอัธยาศัย ซึ่งผมเลือกไปเดินเล่นที่ people's park เดินดูการใช้ชีวิตของคนในเฉิงตู จริงๆก็คล้ายๆกับจตุจักรครับ แต่จะดูชิวและร่มรื่นกว่ามาก ส่วนข้าวเย็นนะเหรอเจอกันที่ Dongmen bridge กันเลย

ไม่ถ่ายดอกไม้ละ ถ่ายน้องละกัน

เล่นเป่าฟองสบู่

ผู้นำท่าเต้น

เต้นตามๆ

รถเข็นเฟี้ยวมากน้อง

คู่ชีวิต

เซียนโกะ

พระอาจารย์

ข้างหน้าวัดเก่า ข้างหลังตึกระฟ้า

มุมน้ำชา นั่งชิวๆแทะเมล็ดแตงโม
ถึงแล้วครับสถานี Dongmen bridge ลงจากสถานีอาจจะงงๆนะครับ แนะนำว่ามองหาแม่น้ำในกูเกิ้ลแมพแล้วเดินไปทางนั้นเลย แวะกินข้าวก่อนค่อยไปถ่ายรูปสะพานก็ยังทันนะครับ

โซนร้านอาหารและร้านเหล้าดีๆ

ร้องเพลงเปิดหมวก บรรยากาศ และเสียงร้องเป็นความสุขเล็กๆของค่ำคืนนี้เลยครับ

บันไดแสง สำหรับนั่งฟังเพลง

จากตรงนี้มองเห็นสะพานแล้วครับ

สะพานสวยมากก

ป้ายทางขึ้น

เงาสะท้อนของค่ำคืนที่แสนสุข
การเดินทางด้วยแท็กซี่
ช่วงเช้า 8 หยวนใน 2 กม.แรก ถัดไป 1.9 หยวน/กม.
ช่วงค่ำ 9 หยวนใน 2 กม.แรก ถัดไป 2.2 หยวน/กม.
ที่ต้องระวังคือ มิเตอร์แท็กซี่ต้องขึ้นขณะขับรถ ถ้าไม่ขึ้นตัวเลขแสดงคุณกำลังโดนโกง รีบบอกให้หยุดแล้วชี้ไปที่มิเตอร์หากเค้าไม่ยอมคุณก็แข็งแกร่งลุกออกมาเรียกคันอื่นเลย
เดินจนเมื่อยก็ขอนั่งแท็กซี่กลับที่พักเลยนะครับ ลาแล้วครับสำหรับค่ำคืนแรก วันถัดไปจะพาไปดูภูเขาสี่ดรุณีครับ
รีวิวทริปส่งท้ายปีกับการเดินทางไปดูภูเขาหิมะสี่ดรุณี Siguniang shan ที่เมืองเฉิงตู 5 วัน 4 คืน
ทริปนี้ขอเล่าในส่วนของวิธีการเดินทางในจีนเป็นส่วนใหญ่ครับเพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่อยากจะเดินทางเอง ส่วนเรื่องรายละเอียดงบที่ใช้นั้น ขอบอกเป็นภาพรวมแทนนะครับ
สิ่งที่ต้องมีก่อนเดินทาง
1. แอพ Google translate หากินได้ทั่วโลก ช่วยได้มาก
2. แอพ metro chengdu subway ดีมากๆบอกราคาให้ด้วย
3. Trip.com แอพหาที่พักในจีน ดีตรงที่มีการแสดงตำแหน่งของที่พักสำหรับกรณีใช้แท็กซี่ในจีน
4. sim ต่างประเทศจะได้เปิด google map ได้ เข้าใจว่า 399 บาททุกค่ายแต่ระยะเวลาการใช้งานจะแล้วแต่ค่ายนะ
5. คำศัพท์พื้นฐานเรื่องเงินเพื่อกันการโดนโกง โดยเฉพาะแท็กซี่สนามบิน แต่จริงๆส่วนใหญ่จะไม่โกงนะ
6. เสื้อกันหนาว ฮีทเทคไปเลยครับบนภูเขาหนาวสุดๆ และออกซิเจนต่ำด้วย ถ้าเตรียมถังออกซิเจนไปได้ก็จะดี แต่ถ้าไม่อยากแบกไปสามารถไปหาซื้อบนภูเขาได้
[Day 1]
วันแรกของการเดินทางผมออกเดินทางจากดอนเมืองไปลงที่เฉิงตู เวลา 9.55 PM ถึงตอน 2.00 AM (เวลาที่ประเทศจีน) การที่ผมมาถึงก่อนเวลาเดินรถไฟใต้ดินของเมืองนั้น ทำให้แท็กซี่คือหนทางเดียวที่ผมจะไปเข้าที่พักได้ครับ ขอแนะนำว่าหลังจากที่เดินออกมานอกเกตแล้วไม่ต้องคุยกับใครทั้งนั้น เพราะคนจีนผู้หวังเงินเราจะมารอดักแล้วถามว่าพักที่ไหน ซึ่งพวกเค้าพูดภาษาอังกฤษได้นี่อาจทำให้หลายคนโลเลที่จะคุยกับพวกเขา แต่ไม่ต้องดีใจที่ได้เจอคนพูดอังกฤษได้นะครับเพราะเค้าคิดค่าเดินทางเข้าตัวเมืองประมาณ 500-700 บาท ขอให้เดินออกมาข้างนอกแล้วมองไปทางขวามือจะเจอคิวรถแท็กซี่อยู่ ให้เดินไปตรงนั้นแล้วยื่นที่อยู่ที่พักให้กับแท็กซี่แทนครับ เพราะค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 160-200 บาท (ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พัก) ก่อนขึ้นรถไปก็ยื่นที่อยู่ที่พักจากแอพ trip.com ที่เป็นภาษาจีนให้คนขับดู เค้าจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน
สำหรับที่พัก
วันแรกที่เข้าพักจำเป็นต้อง check in ช่วงตีสอง ตอนจองเลยพยายามดูโรงแรมที่มีบริการแผนกต้อนรับ 24 ชม.ไว้ ผมจอง Holly's hostel ไว้ครับพนักงานต้อนรับพูดอังกฤษได้ดีเลย แต่ห้องพักจะธรรมดาหน่อยและเตียงไม่มีฮีตเตอร์ให้ด้วย นอนขดไปปป
นอนพักกันไปได้ 2-3 ชม ก็เริ่มออกไปเดินเล่นรอบๆที่พักกันเลย ซึ่งสถานที่แรกที่ไปคือ Wuhou temple ตั๋วเข้าวัดคนละ 50 หยวน
จริงๆแล้ววันนี้ไม่ใช่แค่วันเดินเล่นธรรมดาๆครับ แต่เป็นเพราะการที่จะเดินทางไปภูเขาสี่ดรุณีนั้นเราต้องจองตั๋วเดินทางล่วงหน้า 1 วัน ฉะนั้นหลังจากเดินถ่ายรูปเล่นที่นี่เสร็จแล้ว ผมก็จะนั่งรถไฟใต้ดินจาก Gaoshengqiao ไปลง Chadianzi ตรงนี้แอพ metro จะบอกวิธีเดินทางให้ครับไปง่ายเหมือนของไทยเลย แต่ก่อนเดินทางไกล เราเดินไปหาของกินที่ Jinli street กันก่อนเลย อยู่ข้างๆทางเข้าวัดเลยครับหาไม่ยาก
ผมเดินทางต่อเพื่อไปจองตั๋วรถบัสสำหรับเดินทางพรุ่งนี้ เป้าหมายคือเมือง อื้อหลง (Rilong) เพราะจองที่พักไว้ที่นั้น หากต้องการจองตั๋วที่จีนสิ่งที่ต้องพกคือ Google translate แต่จะดีกว่านั้นถ้าเจอ counter service ซึ่งที่สถานีรถบัส Chadianzi bus station มีพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลย ผมแค่บอกว่าอยากไปภูเขา Siguniangshan พรุ่งนี้รอบ 9.00 AM ลงที่เมือง Rilong เค้าจะเขียนกระดาษใบหนึ่งให้เราไปยื่นที่จุดขายตั๋ว โดยในใบนั้นเขียนว่า Xiaojin 9.00 AM ลง Rilong ค่าเดินทางคนละ 95 หยวน พอได้ตั๋วแล้วเก็บให้ดีๆครับเดี๋ยวพรุ่งนี้มาขึ้นรถไม่ได้
ถึงแล้วครับสถานี Dongmen bridge ลงจากสถานีอาจจะงงๆนะครับ แนะนำว่ามองหาแม่น้ำในกูเกิ้ลแมพแล้วเดินไปทางนั้นเลย แวะกินข้าวก่อนค่อยไปถ่ายรูปสะพานก็ยังทันนะครับ
การเดินทางด้วยแท็กซี่
ช่วงเช้า 8 หยวนใน 2 กม.แรก ถัดไป 1.9 หยวน/กม.
ช่วงค่ำ 9 หยวนใน 2 กม.แรก ถัดไป 2.2 หยวน/กม.
ที่ต้องระวังคือ มิเตอร์แท็กซี่ต้องขึ้นขณะขับรถ ถ้าไม่ขึ้นตัวเลขแสดงคุณกำลังโดนโกง รีบบอกให้หยุดแล้วชี้ไปที่มิเตอร์หากเค้าไม่ยอมคุณก็แข็งแกร่งลุกออกมาเรียกคันอื่นเลย
เดินจนเมื่อยก็ขอนั่งแท็กซี่กลับที่พักเลยนะครับ ลาแล้วครับสำหรับค่ำคืนแรก วันถัดไปจะพาไปดูภูเขาสี่ดรุณีครับ