สวัสดีครับ บอกก่อนว่าผมปกติจะเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ วิตกกังวล คิดอะไรชอบคิดในแง่ร้ายๆก่อนและบอกตัวเองว่าเวลาผิดหวังจะได้ไม่เสียใจมาก ช่วงปีนี้ผมสุขภาพแย่ครับ ด้วยอายุที่มากขึ้น เลยยิ่งเครียดไปใหญ่ มาทั้งไมเกรน เบาหวาน เบาหวานขึ้นตา ความกันตาสูง ความดัน ไขมันสูง เสียงในหู มันประดังมาเลยครับ แน่นอนไอ้คนแบบผมยิ่งคิดมากเครียดกังวลไปใหญ่ ผมตอนนั้นไม่รู้ว่าผมเครียดอะไรนักหนา ใครๆก็ป่วยได้นะ หมอก็หาแล้วรักษาต่อเนื่องต้องกลัวอะไรอีกนะ จนวันนึงครับ ด้วยความเครียดของผมบวกกับนอนน้อย ผมเกิดวูบครับขณะขี่มอเตอร์ไซน์
เล่าเหตุตอนนั้น เป็นเวลา 4 โมงเย็นอากาศไม่ได้ร้อนมาก ขี่ในสวนมะพร้าวร่มๆลมเย็นๆ ผมไม่มีอาการอะไรก่อนหน้าเลยครับ แค่ก่อนออกจากบ้านรู้สึกง่วงนิดหน่อยแค่นั้นเลย ขี่ๆอยู่ผมก็หลับครับ . . . แบบนั้นเลย ถามว่าทำไมถึงคิดว่าหลับ ก็ผมฝันครับ ฝันว่าขี่รถต่อไปอีกแล้วมาตื่น รู้สึกว่าตื่นเพราะกู้ภัยครับมาเรียกแล้วยัดแอมโมเนียให้ผมดม ผมก็ดมนะแล้วพยายามยกหัวขึ้นมามองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลืมตาได้แค่หรี่ๆครับ ( ตอนนั้นไม่รู้ว่าหน้าบวมไปซีกนึง ) แล้วพี่เค้าถามว่าจำอะไรได้มั้ย? ผมก็บอกแบบไม่เสียเวลาคิดครับ "จำไม่ได้ครับพี่ เกิดอะไรขึ้น " ก็ไม่ได้ตอบผมนะเค้าแค่บอกไม่เป็นไรน้องนอนลงไปก่อน แล้วก็ไปรพ.ครับ ตั้งแต่เกิดเนื่องจนผมได้เตียงนอนคือตั้งแต่ 4 โมงเย็นจบตอน 5 ทุ่มครับ ( ทั้งเอ็กเซรย์ ทั้งย้ายรพ. )
ผมใช้เวลาในการนอนรพ.รักษาตัว 7 วันถ้วน จนกลับมาบ้านก็ต้องพักต่อนะครับเพราะร่างกายยมมาก จนมันมีเวลาว่างมากครับนั่งๆนอนๆ ผมเลยนึกย้อนไปวันเกิดเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นะนั่นนี่โน่น จนมาเอ๊ะใจครับ เห้ยเราหัวฟาดพื้นแบบไม่มียั้งตัวเลยนะ หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่เออตายได้เลยนะเพราะมีเลือดออกในสมองด้วย ร่างกายซีกซ้ายคือถลอกปอกเปิก ระบมหน้าบวมทั้งซีก . . . . . . ถ้าวันนั้นผมหัวฟาดพื้น แล้วเกิดตายไปเลย มันก็แวบเดียวเองนี่หว่า เพราะถ้ากู้ภัยไม่มาปลุกหรือไม่มีคนมาเจอผมนอนสลบบนถนน ผมก็อาจตายไปแล้วแถมไม่รู้ตัวด้วย
มันทำให้ผมคิดว่า เออจริงๆการตายมันก็....ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะ มันแค่แวบเดียวเอง แล้วตอนนอนรพ.ผมนอนห้องรวมรพ.รัฐผมก็ยิ่งเห็นคนป่วยเยอะมากๆ บางคนยิ่งกว่าผมอีก เด็กน้อยแว๊นมอไซน์ชนเสาไฟฟ้าไม่ตายแต่จะตายตอนทำแผล ผมก็เลยนึกๆย้อนดูก่อนหน้านี้ผมเครียดอะไร อ่อ ผมอาจจะกลัวตาย กลัวตามองไม่เห็น คิดเยอะ คิดอนาคตที่ยังไม่เกิด และมันไม่ส่งผลดีต่อผมเลยครับ ผมก็เลยคิดว่าในเมื่อความตายมันแปปเดียว และสุดท้ายผมก็ต้องตายอยู่ดี ผมจะไปกังวลทำไมนะ? โอเคก่อนตายอาจจะทรมาน อาจจะต้องดิ้นรน แต่มันยังไม่เกิด มันไม่มีอพไรแน่นอนเลย สิ่งที่ผมกังวลอนาคตอาจจะไม่เกิดก็ได้นี่นา
เปลี่ยนความคิดไปหลังจากเกิดอุบัติเหตุครับ
เล่าเหตุตอนนั้น เป็นเวลา 4 โมงเย็นอากาศไม่ได้ร้อนมาก ขี่ในสวนมะพร้าวร่มๆลมเย็นๆ ผมไม่มีอาการอะไรก่อนหน้าเลยครับ แค่ก่อนออกจากบ้านรู้สึกง่วงนิดหน่อยแค่นั้นเลย ขี่ๆอยู่ผมก็หลับครับ . . . แบบนั้นเลย ถามว่าทำไมถึงคิดว่าหลับ ก็ผมฝันครับ ฝันว่าขี่รถต่อไปอีกแล้วมาตื่น รู้สึกว่าตื่นเพราะกู้ภัยครับมาเรียกแล้วยัดแอมโมเนียให้ผมดม ผมก็ดมนะแล้วพยายามยกหัวขึ้นมามองว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลืมตาได้แค่หรี่ๆครับ ( ตอนนั้นไม่รู้ว่าหน้าบวมไปซีกนึง ) แล้วพี่เค้าถามว่าจำอะไรได้มั้ย? ผมก็บอกแบบไม่เสียเวลาคิดครับ "จำไม่ได้ครับพี่ เกิดอะไรขึ้น " ก็ไม่ได้ตอบผมนะเค้าแค่บอกไม่เป็นไรน้องนอนลงไปก่อน แล้วก็ไปรพ.ครับ ตั้งแต่เกิดเนื่องจนผมได้เตียงนอนคือตั้งแต่ 4 โมงเย็นจบตอน 5 ทุ่มครับ ( ทั้งเอ็กเซรย์ ทั้งย้ายรพ. )
ผมใช้เวลาในการนอนรพ.รักษาตัว 7 วันถ้วน จนกลับมาบ้านก็ต้องพักต่อนะครับเพราะร่างกายยมมาก จนมันมีเวลาว่างมากครับนั่งๆนอนๆ ผมเลยนึกย้อนไปวันเกิดเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นะนั่นนี่โน่น จนมาเอ๊ะใจครับ เห้ยเราหัวฟาดพื้นแบบไม่มียั้งตัวเลยนะ หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่เออตายได้เลยนะเพราะมีเลือดออกในสมองด้วย ร่างกายซีกซ้ายคือถลอกปอกเปิก ระบมหน้าบวมทั้งซีก . . . . . . ถ้าวันนั้นผมหัวฟาดพื้น แล้วเกิดตายไปเลย มันก็แวบเดียวเองนี่หว่า เพราะถ้ากู้ภัยไม่มาปลุกหรือไม่มีคนมาเจอผมนอนสลบบนถนน ผมก็อาจตายไปแล้วแถมไม่รู้ตัวด้วย
มันทำให้ผมคิดว่า เออจริงๆการตายมันก็....ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะ มันแค่แวบเดียวเอง แล้วตอนนอนรพ.ผมนอนห้องรวมรพ.รัฐผมก็ยิ่งเห็นคนป่วยเยอะมากๆ บางคนยิ่งกว่าผมอีก เด็กน้อยแว๊นมอไซน์ชนเสาไฟฟ้าไม่ตายแต่จะตายตอนทำแผล ผมก็เลยนึกๆย้อนดูก่อนหน้านี้ผมเครียดอะไร อ่อ ผมอาจจะกลัวตาย กลัวตามองไม่เห็น คิดเยอะ คิดอนาคตที่ยังไม่เกิด และมันไม่ส่งผลดีต่อผมเลยครับ ผมก็เลยคิดว่าในเมื่อความตายมันแปปเดียว และสุดท้ายผมก็ต้องตายอยู่ดี ผมจะไปกังวลทำไมนะ? โอเคก่อนตายอาจจะทรมาน อาจจะต้องดิ้นรน แต่มันยังไม่เกิด มันไม่มีอพไรแน่นอนเลย สิ่งที่ผมกังวลอนาคตอาจจะไม่เกิดก็ได้นี่นา