เมนูอาหาร.. แว็บแรก! ที่นึกถึงกัน เป็นเมนูอะไรกันบ้างครับผม

24 ตุลาคม วันอาหารแห่งชาติ National Food Day


วันนี้ในทุกปีเป็นวันอาหารแห่งชาติ ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975
โดยศูนย์วิทยาศาสตร์และสาธารณประโยชน์ (CSPI)
ด้วยเป้าหมายในการให้ทุกคนเห็นคุณค่าทางโภชนาการ
เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
และยังให้เข้าใจถึงที่มาของวัตถุดิบในการผลิตอาหารที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ยังเป็นการเตือนถึงความก้าวหน้าที่เราทำในการปลูกอาหารในวิธีที่ยั่งยืน
และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวะล้อม

มองย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1971 มีนักจุลชีววิทยา นักอุตุนิยมวิทยา นักเคมี และนักวิทยาศาสตร์ จากศูนย์ศึกษากฎหมายได้ก่อตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อสาธารณประโยชน์ (CSPI) ขึ้น เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารและสนับสนุนอาหารที่ปลอดภัยกว่า

โดยในช่วงแรกนั้น องค์กร CSPI มุ่งเน้นไปที่การปกป้องสิ่งแวดล้อม และแหล่งพลังงานหมุนเวียน ต่อมาเริ่มให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีการปรับเปลี่ยน เพิ่มในเรื่องของโภชนาการ และความปลอดภัยของอาหารขึ้นทั่วโลก โดยสนับสนุนให้ร้านอาหารรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และดูแลให้ร้านอาหารปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

CSPI มีบทบาทสำคัญในการนำประเด็นเรื่องไขมันอิ่มตัวจำนวนมากที่พบในป๊อปคอร์นในโรงภาพยนตร์ขึ้นมาพูดถึง นอกจากนี้ ยังเป็นองค์กรที่รณรงค์ต่อต้านไขมันทรานส์ที่พบในอาหารจานด่วนอีกด้วย

ในวันอาหารแห่งชาตินี้ เป็นหนึ่งในแคมเปญที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดทั่วโลกของ CSPI และในวันนี้ มีการฉลองกันในแต่ละที่ แตกต่างกันออกไป อย่างในประเทสแคนนาดา วันอาหารเป็นแคมเปญด้านอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากการเฉลิมฉลอง "บาร์บีคิวที่ยาวที่สุดในโลก" แต่จุดประสงค์หลักจริงคือ เพื่อส่งเสริมให้กินอาหารที่มีประโยชน์ กินผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และอาหารที่มีโปรตีน แทนที่จะกินอาหารแปรรูป

.
"อาหาร" เปรียบได้กับสะพานเชื่อมโยงวัฒนธรรม และความสัมพันธ์

นั้นก็เพราะไม่เพียงแค่เป็นสิ่งที่เรากินเพื่อความอยู่รอด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก

การเติบโต เปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมอาหารไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาในด้านการเกษตร แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์

อาหารท้องถิ่นไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวของดินแดน และธรรมชาติของพื้นที่นั้นๆ แต่ยังแสดงถึงวิธีการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ การทานอาหารจากวัฒนธรรมที่ต่างกันทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจถึงประเพณี และวัฒนธรรมของสถานที่อื่นๆ ทั่วโลกได้

อีกทั้งอาหารยังเป็นสื่อกลางที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และครอบครัว การปรุงอาหารร่วมกันและการนั่งทานอาหารที่โต๊ะเดียวกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและความทรงจำที่ดี

.
อาหารยังเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อเกิดตำนานต่างๆ มากมายทั่วโลก ล้วนเป็นวิธีที่ชุมชนใช้ในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ คำสอนให้กับคนรุ่นหลัง  ผ่านการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและมีสีสัน

.
อย่างในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตำนานเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเชื่อและความศรัทธาของผู้คน เช่น ตำนานเกี่ยวกับกัปปะ เป็นตัวอย่างที่ดีของการเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และธรรมชาติ และเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมานั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว

ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่มีสายน้ำไหลผ่าน ที่ซึ่งเชื่อกันว่า มีกัปปะ อาศัยอยู่

กัปปะนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับเด็กหากแต่มีผิวเป็นสีเขียว บนหัวมีชามน้ำอยู่ และมีพลังเหนือธรรมชาติ โดยต้นกำเนิดของพลังนั้นมาจากชามน้ำที่อยู่บนหัว

มีอยู่วันหนึ่ง เด็กน้อยนาม โทริโกะ กำลังวิ่งเล่นอยู่ตรงบริเวณแม่น้ำ จู่ๆ เขาก็เห็นมือเล็กๆ โผล่ขึ้นมาจากน้ำ จากนั้นก็จับขาของเขาไว้ เด็กน้อยตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ถึงอย่างนั้นก็พยายามสลัดขาไปมา เพื่อให้มือนั้นหลุดออก และพยายามจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่สามารถวิ่งออกไปได้ จากนั้นเด็กน้อยก็ได้เห็นชามน้ำที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าสีเขียวที่ดูแล้วอายุก็ไม่ต่างจากเขา

เสียงหนึ่งดังขึ้นว่า
“อย่ากลัวไปเลย ข้าไม่ทำอันตรายเจ้าหลอก”

โทริโกะ จึงถามกลับไปว่าเจ้าเป็นใคร

เสียงที่ดังขึ้นอีกครั้งได้ตอบกลับไปว่า
"ข้าคือกัปปะ"
ข้าอาศัยอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ และข้าจะต้องการขอบคุณเจ้า ถึงความมีเมตตา ที่คอยโยนแตงกวาลงมาในแม่น้ำแห่งนี้ให้กับข้า

โทริโกะ จำได้ว่าชาวบ้านมักจะทิ้งแตงกวาลงในแม่น้ำแห่งนี้ เพื่อบูชากัปปะ รวมทั้งขอพรกับกัปปะเพื่อให้ครอบครัวและหมู่บ้านปลอดภัย

จากนั้นเด็กน้อยจึงสงบลง และเริ่มพูดคุยกับกัปปะอย่างไม่ตกใจกลัวอีกต่อไป

หลังจากที่ได้พูดคุยกันไปสักระยะนึง โทริโกะก็นึกถึงเรื่องที่เวลาจะขอพร นอกจากขอให้ปกป้องครอบครัวและหมู่บ้าน ยังขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งในเวลานั้น มีคนในหมู่บ้านกำลังป่วยด้วยโรคประหลาดอย่างหนึ่ง ที่ยังหาสาเหตุและรักษาไม่ได้ ซึ่งโรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะมีแผลพุพองตามตัว และคันเป็นอย่างมาก และยิ่งเกา แผลก็จะรามไปทั่วทั้งตัว และจะเจ็บแสบมาก ซึ่งมีคนในหมู่บ้านเป็นโรคนี้กันหลายคนแล้ว

โทริโกะ จึงได้เล่าให้กัปปะฟัง และขอให้ช่วยรักษา กัปปะตอบตกลง พร้อมเดินตามเด็กน้อยไปยังหมู่บ้าน พร้อมทั้งใช้พลังเหนือธรรมชาติรักษาให้กับชาวบ้านที่เป็นโรคนี้ทุกคน

ชาวบ้านทุกคนรู้สึกขอบคุณ และมีความเคารพต่อกัปปะมากยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังทิ้งแตงกวาไว้ที่แม่น้ำมากขึ้น และทำการเล่าสืบต่อรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้เข้าใจว่าการทิ้งแตงกวาลงแม่น้ำนี้ เป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อกัปปะ

จากวันนั้นเป็นต้นมา กัปปะได้กลายเป็นเพื่อนของชาวบ้าน และเป็นผู้ปกป้องหมู่บ้านจากภัยอันตรายต่างๆ ด้วยความมีเมตตาและความช่วยเหลือนี้ ทำให้หมู่บ้านนั้นกลายเป็นที่อยู่ที่มีความความเจริญรุ่งเรือง และสงบสุข


.
การเล่าตำนานไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเชื่อมโยงกับอดีต แต่ยังเป็นวิธีที่ทำให้เรามีความเข้าใจ มีเคารพต่อวัฒนธรรม และความเชื่อของผู้อื่น

.
ตำนานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่น มีทั้งสนุกพร้อมกับสอนไปด้วยอีกหลายเรื่อง หรือแบบน่ากลัวน่าติดตามก็มี อย่าง ตำนานขบวนร้อยอสูร ส่วนถ้าเป็นเมนูอาหาร แน่นอนว่าเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ไม่ว่าจะราเมง ซูชิ เทมปุระ ซึ่งยังมีเมนูอาหารท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ของญี่ปุ่นอยู่อีกมากมายที่อาจยังเป็นที่รู้จักกันน้อยอยู่ อย่าง

1. ชิราสุด้ง しらす丼 (คานากาว่า)
ข้าวหน้าปลาชิราสุสดๆ

2. โทวาดะบาระยากิ 十和田バラ焼き (อาโอโมริ)
เนื้อวัวส่วนซี่โครงปรุงรสด้วยซอสโชยุกับหอมใหญ่

3. โมริโอกะเรเมง 盛岡冷麺 (อิวาเตะ)
เมนูเส้นโปะด้วยกิมจิ แตงกวา ไข่ต้ม ผลไม้

4. คิริทันโปะ きりたんぽ (อาคิตะ) 
ข้าวใส่ไว้ไม้สนญี่ปุ่นย่างด้วยเตาถ่าน แล้วต้มในซุปไก่ เห็ดไมทาเกะ ต้นหอม ผักชีญี่ปุ่น

5. อิโมะนิ 芋煮 (ยามากาตะ)
ต้มเผือหม้อไฟ ใส่ต้นหอม เห็ด รากโกโบ และเนื้อสัตว์

6. เจงกิสข่าน ジンギスカン (ฮอกไกโด)
อาหารพื้นเมืองที่ใช้เนื้อแกะกับผักย่างบนกระทะ

7. โฮโท ほうとう (ยามานาชิ)
เส้นจากแป้งสาลีหม้อไฟ ในน้ำซุปมิโซะ ผักต่างๆ และเห็ด



.
แล้ว แว็บแรก! ของเพื่อนๆ เป็นเมนูอะไรกันบ้างครับผม
* เชื่อว่าต้องมีกะเพราหมูสับไข่ดาวแน่ๆ เลยครับผม
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: nationaldayfood
: kyoudo-ryouri
.
On This Day
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่