“White Bird ไวต์ เบิร์ด หัวใจมหัศจรรย์” #แนะนำหนัง ภาพยนตร์ที่จะมาเยียวยารักษาใจแห่งปี คะแนนฝั่งผู้ชมสูง 99%

“White Bird ไวต์ เบิร์ด หัวใจมหัศจรรย์” #แนะนำหนัง
จากหนังฟีลกู๊ดในดวงใจใครหลายคน สู่ภาพยนตร์ที่จะมาเยียวยารักษาใจแห่งปีการันตี ด้วยคะแนนฝั่งผู้ชมสูง 99%
.
1.
สานต่อความประทับใจ สู่เส้นเรื่องใหม่ที่ประทับใจยิ่งกว่าเดิม
เมื่อปี 2017 มีหนังเรื่องหนึ่งออกฉาย หลายคนต่างยกให้เป็นหนังฟีลกู้ดที่ดีที่สุดของปีนั้น กระแสปากต่อปากทำให้หนังทำรายได้ไปหมื่นล้านบาท และ Novel ขายดีถล่มทลายมากกว่า 16 ล้านเล่มติดอันดับหนังสือ bestseller เรื่องนั้นคือ “Wonder ชีวิตมหัศจรรย์วันเดอร์” และในปีนี้จะเป็นการสานต่อความประทับใจอีกครั้งใน “White Bird: A Wonder Story” นี่ถือเป็นการขยายจักรวาลของ Wonder โดยเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ “จูเลียน อัลบานส์” (ไบรซ์ ไกซาร์) อดีตหัวโจกที่เคยกลั่นแกล้งอ๊อกกี้จนถูกให้ออกจากโรงเรียนในภาคก่อน​
.
2.
"ความมืดไม่สามารถขับไล่ความมืดได้
มีเพียงแสงสว่างที่สามารถขับไล่ความมืดได้เท่านั้น"
White Bird: A Wonder Story เริ่มต้นภายหลังจากที่จูเลี่ยนได้ย้ายเข้าโรงเรียนใหม่ เขาอยู่ในช่วงปรับตัวกับสังคมใหม่ วันหนึ่ง “แกรนด์แมร์” หรือคุณย่า (เฮเลน มีร์เรน) เดินทางจากปารีสเพื่อมาเยี่ยมหลาน ก็เล่าเรื่องในวัยเด็กให้ฟัง ตอนนั้นคุณย่ายังเป็นเด็กหญิงชาวยิวที่ถูกรุกรานโดยกองทัพนาซี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอได้รับการช่วยเหลือเด็กผู้ชายคนหนึ่งให้หลบอยู่ในโรงนาเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้ได้เรียนรู้ถึงความหมายอันแท้จริงของคำว่า “กล้าหาญ” และเรียนรู้ที่จะทำดีต่อคนรอบข้าง แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตก็ตาม ซึ่งสิ่งที่คุณย่าได้เล่าให้จูเลี่ยนฟังกำลังจะส่งต่อมุมมองความคิดของเขาไปตลอดกาล
.
3.
ผลงานของผู้กำกับที่รักษาหัวใจผู้คนมากมายมาแล้วทั่วโลก
นี่คือผลงานของผกก. “มาร์ก ฟอร์สเตอร์” ที่มีผลการการันตีความฟีลกู๊ดมากมาย “A Man Called Otto” (2022), “Christopher Robin” (2018), “The Kite Runner” (2007) และ “Finding Neverland” (2004) แถมยังได้มีมือเขียนบทคุณภาพอย่าง มาร์ก บอมแบ็ก (War for the Planet of the Apes) รับหน้าที่ดัดแปลงนวนิยายสู่แรงบันดาลใจในจอภาพยนตร์ โดยฟอร์สเตอร์ผู้กำกับได้กล่าวว่า “เรามักเลือกเรื่องราวที่สามารถมอบพลังบวกให้โลกซึ่ง ‘Wonder’ คือตัวอย่างที่ดี ส่วน ‘White Bird’ เป็นเรื่องราวที่จะสอนให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุด ความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นก็สามารถสร้างความแตกต่างในโลกนี้ได้”
.
4.
การพบกันครั้งสำคัญของ 2 ควีนแห่งฮอลลีวูด
นอกจากการคัดเลือกนักแสดงเด็กมารับบทนำเป็น ซาร่า (คุณย่าในวัยเด็ก) และ จูเลียน (เด็กชายขาพิการเพราะโปลิโอ) แล้ว ยังถือเป็นการรวม 2 ควีนแห่งวงการฮอลลีวูด “เฮเลน มีร์เรน” เจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก “The Queen” และ “จิลเลียน แอนเดอร์สัน” เจ้าของรางวัลเอ็มมีนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากซีรีส์ “The Crown” มาไว้ในหนังเรื่องเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่เปรียบเสือนหัวใจหลักในการเล่าเรื่องให้ภาพยนตรฺ์รื่องนี้อีกด้วย
.
5.
งานสร้าง โปรดักชั่นที่ประณีตและงดงาม
ก่อนที่จะถ่ายทำเรื่องนี้ ทีมโปรดักชั่นดีไซน์ได้ใช้เวลาในการเตรียมงานยาวนานกว่าสี่เดือน ในการแปรงโฉมเมือง Kutna Hora ในสาธารณรัฐเช็กซึ่งเป็นมรดกโลกของ UNESCO ให้กลายเป็นหมู่บ้านในฝรั่งเศสช่วงสงครามโลก ขณะเดียวกันก็เนรมิตรโรงหนัง Orechovka Cinema หนึ่งในโรงหนังยุคคลาสสิคแห่งสุดท้ายของปราก ที่ปิดตายมานานกว่า 20 ปี ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง รวมถึงฉากสำคัญของเรื่องอย่างโรงนาที่เต็มไปด้วยโลกแฟนตาซีในจินตนาการอีกด้วย
.
6.
การันตีด้วยคะแนนฝั่งผู้ชมสูง 99%
คะแนน rottentomatoes ฝั่งผู้ชมหรือ All Audience สูงมากๆๆ 99% จากทั้งหมดเกือบ 300 คน ส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “สุดยอดครับ เป็นหนังที่ดีมาก!!” “เรื่องราวสวยงามและมีแมสเสจที่ทรงพลัง อยากให้มีภาพยนตร์แบบนี้อีก แนะนำเลย!” “มหัศจรรย์ รักทุกนาที นี่คือภาพยนตร์ที่ทุกคนควรดู” “เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูมา”
.
ในช่วงปีที่มีเรื่องราวมากมาย ทั้งน้ำท่วมและการสูญเสียต่างๆ การไปดู “White Bird ไวต์ เบิร์ด หัวใจมหัศจรรย์” ในโรงภาพยนตร์จึงไม่ต่างอะไรกับการได้ชาร์จพลังหัวใจให้กลับมาเต็ม 100% อีกครั้งร่วมพิสูจน์ความดีงามได้ 31 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์
#WhiteBird #ไวต์เบิร์ดหัวใจมหัศจรรย์ #WonderMovie

แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่