สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนว่า ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีหรือเรื่องลี้ลับอะไรทั้งนั้น ไม่นับถือศาสนาอะไร และเชื่อแค่ในหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้นครับ จนพอมาเจอกับตัวถึงได้เข้าใจว่าของแบบนี้ ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก
เรื่องมีอยู่ว่าช่วงก่อนโควิดผมได้กลับไปเที่ยวเมืองไทยหลังจากที่ไม่ได้กลับมานาน ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดนึงกับเพื่อนอีก 4 คน เราเช่าบังกะโลในรีสอร์ตที่นึง เราเช่าอยู่กัน 3 หลังครับ ลักษณะแผนผังของบังกะโลที่นี่คือมันจะแบ่งเป็น 3 แถวๆละ 7-8 หลัง ซึ่งพวกเราอยู่แถวแรก เพื่อนผม 2 คน(ชื่อไอ้ชายกับผิง-เป็นแฟนกัน) พักหลังที่สองจากด้านซ้ายห้อง 102 ผมพักหลังถัดมาห้อง 103 เพื่อนอีกคน(แก๊ป)พักหลังถัดมาห้อง 104 โดยบังกะโลทุกหลังที่นี่คือหน้าตาเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ป้ายเลขห้องเล็กๆที่ข้างประตูทางเข้า
พวกเราขับรถจากอุบลมาถึงที่นี่ประมาณเกือบ 4 โมง พอมาถึงเราก็เรียก Grab ไปกินเที่ยวในเมืองจนเมา เราก็เรียกรถกลับมาถึงที่รีสอร์ตประมาณเกือบ 5 ทุ่ม พอลงรถก็เห็นว่ารีสอร์ตมันเงียบและมืดมากๆ มีแค่โคมไฟเล็กๆตามทางพอให้ไม่เดินสะดุดแค่นั้น บริเวณเค้าเตอร์ที่เราเช็คอินตอนมาถึงก็ไม่มีพนักงานอยู่เลย ผมมองไปที่สระว่ายน้ำก็เห็นผู้ชายฝรั่งหัวโล้นใส่แว่นกันแดดนั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำคนเดียวมืดๆไม่ใส่เสื้อ ในมือถืออะไรสักอย่างคิดว่าน่าจะขวดเบียร์ ผมก็คิดในใจ “มันมานั่งให้ยุงกัดทำไมคนเดียววะ” แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ แล้วก็แยกกันเข้าห้องนอน วันแรกผ่านไปไม่มีอะไรผิดปกติ
วันที่สอง
เราก็ตื่นมากินข้าวแล้วก็ออกไปเที่ยวไปถ่ายรูปไปขับโกร์คาร์ทเล่นในเมือง จน 6 โมงเย็นเราก็กลับมาถึงรีสอร์ตเพื่อจะมากินหมูกระทะกัน โดยเป็นหมูกระทะที่รีสอร์ตมีให้สั่ง เราก็ทั้งกินหมูกระทะทั้งดื่มจนเวลาเกือบ 2 ทุ่มครึ่งน้องพนักงานผู้หญิงก็เดินมาถามว่า “พี่คะ จะสั่งอะไรอีกไหมเพราะครัวจะปิดตอน 3 ทุ่ม ถ้าจะสั่งต้องสั่งตอนนี้” เพื่อนผมก็สั่งน้องพนักงานว่าเอาแค่เบียร์มาอีกคนละขวดพอ น้องพนักงานก็ถามต่อทันทีเลยว่า “ซื้อเผื่อไว้อีกไหมคะ เพราะปิดครัวเสร็จพวกหนูก็กลับกันหมดแล้ว สั่งอีกไม่ได้แล้วนะคะ” พวกผมก็งง ทำไมกลับกันไวจังแล้วจะไม่มีพนักงานอยู่กะดึกสักคนเลยเหรอ? แต่เราก็ไม่ได้ถามอะไร แค่สั่งเบียร์มาอีก 20 ขวดแล้วก็นั่งสังสรรค์กันต่อ...
ดูเวลาอีกทีก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ในรีสอร์ตมีแต่เสียงพวกเราคุยกันทุกอย่างมันเงียบมากๆ สักพักไอ้แก๊ปขอตัวไปฉี่ที่ห้องมัน มันก็เดินผ่านหลังผมไป พวกผมก็นั่งคุยกันต่อผ่านไปเกือบ 10 นาทีไอ้แก๊ปก็ไม่กลับมา ผมเลยอาสาลุกไปตามมันที่บังกะโลห้องมัน ผมเรียกชื่อมัน “แก๊ปทำไรวะ เสร็จยัง” มันไม่ตอบได้ยินแต่เสียงคนอื่นที่หัวเราะเฮฮากันอยู่ที่โต๊ะ ผมก็เรียกหามันอีกมันก็ไม่ตอบ ผมเลยเคาะประตูดังๆไป 2-3 ที ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมา ผมเลยจับไปที่ลูกบิดประตู ยังไม่ทันหมุนเลย กรประตูมันก็ดังก๊อก เหมือนกับถูกหมุนปลดล็อคจากด้านใน ผมแปลกใจนิดนึงคิดในใจว่าเพื่อนคงอยู่ตรงประตูพอดีล่ะมั้ง พอผมหมุนเท่านั้นแหละครับ มันดึงสวนเลยแต่มันติดโซ่ที่ล็อคอยู่อีกชั้น ผมตกใจมากเลยเรียกชื่อไอ้แก๊ปไปแต่ก็ไม่มีคนตอบอยู่ดี ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นลมแหละประตูมันเลยเปิดแบบนั้น ผมเลยมองผ่านประตูที่แง้มอยู่แต่ผมก็เห็นเพียงแค่ความมืดและความว่างเปล่า..ตอนนั้นใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยครับ พยายามตั้งสติหันไปมองเลขห้อง โถ่ไอ้***ห้อง 105 นี่หว่า... ผมมาผิดหลังครับ ผมสบทไปหลายยกแล้วก็ถอยหลังออกมาแต่รู้สึกได้เหมือนเหยียบอะไรสักอย่างเลยเปิดแฟลชผ่านโทรศัพท์ก้มดู เห็นสีแดงๆ ”โอโหตาย**“ ผมคิดในใจ ผมเหยียบผ้ายันต์ครับ... ผมไม่รู้ว่ามันคือยันต์อะไรและไม่รู้ว่ามันปลิวหรือหล่นมาจากไหน ผมเลยหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาพนมมือขึ้นหัวและไหว้ไปทีนึงแล้วก็เอาไปหนีบไว้ที่ประตูห้อง 105 นั่นแหละ แล้วก็ไปเช็คที่ห้อง 104 ต่อ ประตูมันไม่ได้ล็อคเปิดเข้าไปก็เห็นว่าไอ้แก๊ปมันแอบหนีไปนอนหลับอยู่บนเตียง (ก็พอเข้าใจได้เพราะพรุ่งนี้มันเป็นคนขับรถกลับอะนะ) ผมก็เอามือไปเช็คที่จมูกมันเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังหายใจอยู่แล้วผมก็ปิดประตูเดินออกมาจะไปนั่งดื่มต่อกับเพื่อน จังหวะเดินกลับผมเหลือกไปเห็นฝรั่งคนเดิมนั่งมืดๆคนเดียวอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมที่ริมสระแต่ก็ไม่ได้อะไร ผมกลับมาถึงโต๊ะนั่งคุยเฮฮาต่อจนน่าจะเลยเที่ยงคืนแล้ว ผมก็หันไปมองฝรั่งคนนั้น เขาก็ยังอยู่ที่เดิม ผมเลยกะว่าจะเดินไปทักทายเขาหน่อยเผื่อเขามาจากประเทศที่ผมอยู่ถือว่าเป็นการพักสูบบุหรี่ด้วย ผมก็เดินไปที่ริมสระน้ำละก็นั่งเก้าอี้ข้างๆเขานั้นแหละ แต่มันแปลกมากเพราะตั้งแต่ที่ผมเดินออกมาฝรั่งคนนั้นเขาไม่หันมามองเลย เขามองไปที่สระน้ำอย่างเดียว พอผมนั่งปุ๊ปผมก็ทักทายเขาละก็ถามว่ามาเที่ยวคนเดียวเหรอ เขาก็พยักหน้าแบบที่ไม่ได้หันมามอง ผมก็อ่อๆโอเคแล้วมาพักที่นี่นานแล้วเหรอ เขาก็พยักหน้าแบบเดิม ผมเลยถามเขาว่าเอาบุหรี่ไหม เขาก็ส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้หันมามองเหมือนเดิม จังหวะนั้นใจผมเริ่มไม่ดีละ คิดว่าเขาคงอยากอยู่คนเดียวล่ะมั้ง เลยไม่ได้ชวนคุยต่อ พอสูบเสร็จผมก็บอกเค้าว่า “see you around” แล้วก็เดินกลับมานั่งโต๊ะกับเพื่อนต่อ ผมก็พูดให้เพื่อนฟังว่า “ฝรั่งไม่คุยด้วยเลยว่ะ” ไอ้ชายก็หัวเราะแล้วตอบกลับมาว่า “มีใครฝรั่งกว่าอีกเหรอวะ 5555” แล้วทุกคนก็หัวเราะกัน ผมก็หัวเราะกลบเกลื่อนไป สักพักผมหันไปอีกที ฝรั่งคนนั้นไม่อยู่แล้ว ผมคิดในใจว่าเขาคงรำคาญเราเลยกลับบังกะโลไปแล้วล่ะมั้ง เวลาผ่านไปจนเกือบตี 2 ตอนนั้นทุกคนก็เริ่มนั่งต่อไม่ไหวแล้วเบียร์ก็หมดแล้ว ก็เลยแยกย้ายกันไปนอน ผมก็กลับเข้าห้องพักล้างหน้าแปรงฟันปิดไฟกำลังจะนอน สักพักก็ผมได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตกแต่ก็ไม่ได้คิดไรมากนะ คิดว่าตอนเราออกมาจากโต๊ะคงมีเพื่อนเราสักคนอาจจะวางขวดเบียร์ไว้ไม่ดีมันเลยตก ผมก็พยายามหลับต่อ ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นผมก็ได้ยินอีกแต่ว่าคราวนี้มันเหมือนขวดเบียร์เป็น 10ๆ ขวดมันตกแตกพร้อมกัน ผมเลยรีบลุกขึ้นมาแล้วเปิดม่านส่องออกไปดู ปรากฏว่าขวดเบียร์ทุกขวดมันก็ยังว่างอยู่บนโต๊ะแบบเดิม มองดูที่พื้นก็ไม่เห็นเศษแก้วแตกอะไรเลย กลับมานอนสักพักได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรตกพื้นดังมากแล้วก็มีเสียงเหมือนคนหายใจทางปากเฮือกๆ(ไม่รู้จะอธิบายยังไง) ตอนนั้นผมไม่รู้แล้วหลอกตัวเองว่าคงเสียงไอ้แก๊ปหลังข้างๆกรน ไม่ก็เสียงไอ้ชายกับน้องพิงกำลังมีอะไรกันล่ะมั้งวะ แต่ตอนนี้ขอนอนดีกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว เดี๋ยวค่อยถามเพื่อนเอา...
แต่ คืนนั้นผมฝันครับ ผมฝันว่าผมกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆฝรั่งคนเดิมคนนั้นที่ริมสระ สถานการณ์เหมือนที่ผมเล่าตอนแรกเลยครับ แต่คราวนี้ฝรั่งเขาหันหน้ามาชวนผมคุย และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มองหน้าฝรั่งคนนี้แบบชัดๆครับ เขาหัวโล้นและค่อนข้างมีอายุ น่าจะสัก 60 กว่าๆไม่ใส่เสื้อใส่แค่กางเกงขาสั้นแต่ในฝันเขายังใส่แว่นดำอยู่ครับ ผมจำไม่ได้ว่าเขาคุยอะไรกับผมบ้าง จำได้แค่ตอนผมตื่นเขาลุกขึ้นและหันมายิ้มให้ผมแล้วพูดว่า see you around แล้วผมก็ตื่นเลย
พอเช้ามาผมก็ไปถามเพื่อนว่าตอนเข้านอนเมื่อคืนได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตกไหม แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเลยครับ ผมเดินดูรอบๆก็ไม่มีเศษแก้วจริงๆตอนนั้นผมไม่รู้จะสันหาคำอธิบายไหนมาอธิบายให้ตัวเองเข้าใจแล้ว 55555
พอ 11 โมงก็ถึงเวลาที่เราต้องเช็คเอาท์จากรีสอร์ต ก่อนกลับผมก็ถามน้องพนักงานคนเมื่อคืน “น้องๆฝรั่งแก่ๆหัวโล้นเขามาพักคนเดียวเหรอครับไม่เห็นเมียเขาเลย“ น้องเขาก็มองหน้าแล้วตอบกลับมา ”ฝรั่งไหนหรอพี่ ตอนนี้มีแค่พวกพี่กับคู่ผัวเมียเกาหลีที่บังกะโลแถวหลังพี่นะคะ“
ผมก็ยืนยันไปอีกทีว่ามีฝรั่งนั่งอยู่ที่สระว่ายน้ำผมเห็นเขามาสองคืนแล้ว ไอ้ชายเพื่อนผมก็พูดขึ้นมาว่า ”ฝรั่งไหนวะ“ ผมก็ ”เอ้า ก็ฝรั่งที่กูบอกว่าเขาไม่คุยกับกูเมื่อคืนไง“ กลายเป็นว่าเพื่อนผมไม่มีใครเห็นฝรั่งคนนั้นเลย ตอนนั้นผมรู้แล้วว่าผีแน่นอนเลยขอให้น้องเขาเล่าให้ฟังหน่อย น้องพนักงานเลยหันไปเรียกแม่เขาออกมาจากครัวแล้วบอกแม่ว่า ”เพิ่นเห็นพ่อใหญ่(ชื่อ)เมื่อคืนอยู่ริมสระ“ ป้าเเม่ครัวเลยถามผมว่าใช่เหรอเห็นยังไง ผมก็เล่าไปว่าผมเจอเขาแบบไหนฝันเห็นเขาแบบไหน ป้าก็ยืนยันเลยว่า ”ใช่แน่นอน 100% พ่อใหญ่(ชื่อ)นี่ล่ะ“
สิ่งที่ป้าเล่า
คือลุงฝรั่งคนนี้เขามาพักที่นี่บ่อยแล้วมาตั้งแต่สมัยสินามิตอนนั้นแกเป็นอาสาสมัครแล้วแวะมาเที่ยวที่จังหวัดนี้ที่รีสอร์ตที่นี่แหละ เวลาแกอยู่แกก็ชอบมานั่งอาบแดดอยู่ที่สระว่ายน้ำนั่นแหละ แล้วอยู่ไปอยู่มาแกก็มาชอบคอกับเด็กเสิร์ฟคนไทยที่บาร์นี้ แกก็ไปๆมาๆประเทศไทยปีละ 2-3 ครั้งเพื่อมาหาเด็กเสิร์ฟคนที่ว่าเนี่ยแหละแถมแกส่งเงินให้ตลอดให้เยอะจนผู้หญิงมีบ้านมีรถ แต่พอมาปี 60 กลับมารอบนี้แกจับได้ว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นไปติดผู้ชายฝรั่งอีกคนแล้วกำลังจะหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน แกก็เมาทุกคืนๆจนคืนนึงแกเมาหนักมากมาอาละวาดใหญ่เลยที่บาร์แกพังโต๊ะทำแก้วทำอะไรแตกหมด แล้วก็ขี่มอไซค์ไม่รู้ขี่ไปไหน พอเช้ามายามไปส่องห้องก็เห็นแกแขวนคออยู่ในห้องที่แกอยู่ประจำนั้นแหละ เจ้าของรีสอร์ตก็ไม่เคยเปิดห้องนั้นให้ใครอยู่อีกเลย
ตอนนั้นผมรู้สึกหน้าชาเหมือนเลือดมันไหลออกจากหน้าไปหมดแล้ว ผมถามป้าว่า “ใช่ห้อง 105 ไหมครับ” ป้ามีท่าทีตกใจตาโตเลยแต่บอก ”ไม่ใช่ๆ ห้องแถวหลัง“
เออเคร ”แล้วยันต์ที่หน้าห้องนั้นมันคืออะไรวะ“ ผมคิดในใจและภาวนาขอให้ป้าพูดจริงเรื่องที่ว่ามันไม่ใช่ห้อง 105 ก่อนที่เราจะเดินขึ้นรถผมก็กลั้นหายใจแล้วหันกลับไปมองที่สระน้ำอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรครับ สงสัยยังสว่างอยู่ แกเลยไม่ออกมา
กลับถึงบ้านที่อุบลนอนหลับคืนแรกผมฝันแบบเดิมเลยครับว่านั่งอยู่ริมสระกับฝรั่งคนนั้น สะดุ้งตื่นตอนดึกเหงื่อแตกเลย เช้ามาก็เล่าให้แม่ฟัง แม่พาไปทำบุญ ก็ดีขึ้นบ้าง บางคืนไม่ฝัน บางคืนฝัน กลับมาอยู่ต่างประเทศก็ยังฝันเห็นเขาเป็นบางครั้ง แต่ไม่ได้ฝันแบบเดิมแล้วครับ ฝันแบบปกติแต่แค่เห็นเขาอยู่ในฝัน ยืนมองเราอยู่ไกลๆบ้าง เดินผ่านบ้าง อะไรประมาณนั้น เคยไปคุยกับพระ(เผื่อพระจะทักว่ามีใครตามมาเหมือนในเดอะโกสต์)แต่ก็ไม่เคยทักพระท่านก็บอกว่ามันไม่มีอะไรหรอกโยม เคยปรึกษาหมอที่นี่แต่หมอก็ไม่ได้ทำการรักษาอะไรเพราะมันไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ผมก็แทบจะชินแล้วครับ เวลามีโอกาสไปวัดไทยทำบุญก็พยายามนึกถึงเขาตลอด หวังว่าเขาจะได้รับผลบุญ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมเจอและทำให้ผมเชื่อเรื่องผีจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ อาจรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง อ่านพอเป็นเรื่องสนุกพอนะครับ ไม่ถามชื่อสถานที่, จังหวัด และไม่หลังไมค์ครับ
เจอผีที่รีสอร์ต 4 ปีแล้วยังฝันเห็นเขาอยู่
เรื่องมีอยู่ว่าช่วงก่อนโควิดผมได้กลับไปเที่ยวเมืองไทยหลังจากที่ไม่ได้กลับมานาน ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่จังหวัดนึงกับเพื่อนอีก 4 คน เราเช่าบังกะโลในรีสอร์ตที่นึง เราเช่าอยู่กัน 3 หลังครับ ลักษณะแผนผังของบังกะโลที่นี่คือมันจะแบ่งเป็น 3 แถวๆละ 7-8 หลัง ซึ่งพวกเราอยู่แถวแรก เพื่อนผม 2 คน(ชื่อไอ้ชายกับผิง-เป็นแฟนกัน) พักหลังที่สองจากด้านซ้ายห้อง 102 ผมพักหลังถัดมาห้อง 103 เพื่อนอีกคน(แก๊ป)พักหลังถัดมาห้อง 104 โดยบังกะโลทุกหลังที่นี่คือหน้าตาเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ป้ายเลขห้องเล็กๆที่ข้างประตูทางเข้า
พวกเราขับรถจากอุบลมาถึงที่นี่ประมาณเกือบ 4 โมง พอมาถึงเราก็เรียก Grab ไปกินเที่ยวในเมืองจนเมา เราก็เรียกรถกลับมาถึงที่รีสอร์ตประมาณเกือบ 5 ทุ่ม พอลงรถก็เห็นว่ารีสอร์ตมันเงียบและมืดมากๆ มีแค่โคมไฟเล็กๆตามทางพอให้ไม่เดินสะดุดแค่นั้น บริเวณเค้าเตอร์ที่เราเช็คอินตอนมาถึงก็ไม่มีพนักงานอยู่เลย ผมมองไปที่สระว่ายน้ำก็เห็นผู้ชายฝรั่งหัวโล้นใส่แว่นกันแดดนั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำคนเดียวมืดๆไม่ใส่เสื้อ ในมือถืออะไรสักอย่างคิดว่าน่าจะขวดเบียร์ ผมก็คิดในใจ “มันมานั่งให้ยุงกัดทำไมคนเดียววะ” แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ แล้วก็แยกกันเข้าห้องนอน วันแรกผ่านไปไม่มีอะไรผิดปกติ
วันที่สอง
เราก็ตื่นมากินข้าวแล้วก็ออกไปเที่ยวไปถ่ายรูปไปขับโกร์คาร์ทเล่นในเมือง จน 6 โมงเย็นเราก็กลับมาถึงรีสอร์ตเพื่อจะมากินหมูกระทะกัน โดยเป็นหมูกระทะที่รีสอร์ตมีให้สั่ง เราก็ทั้งกินหมูกระทะทั้งดื่มจนเวลาเกือบ 2 ทุ่มครึ่งน้องพนักงานผู้หญิงก็เดินมาถามว่า “พี่คะ จะสั่งอะไรอีกไหมเพราะครัวจะปิดตอน 3 ทุ่ม ถ้าจะสั่งต้องสั่งตอนนี้” เพื่อนผมก็สั่งน้องพนักงานว่าเอาแค่เบียร์มาอีกคนละขวดพอ น้องพนักงานก็ถามต่อทันทีเลยว่า “ซื้อเผื่อไว้อีกไหมคะ เพราะปิดครัวเสร็จพวกหนูก็กลับกันหมดแล้ว สั่งอีกไม่ได้แล้วนะคะ” พวกผมก็งง ทำไมกลับกันไวจังแล้วจะไม่มีพนักงานอยู่กะดึกสักคนเลยเหรอ? แต่เราก็ไม่ได้ถามอะไร แค่สั่งเบียร์มาอีก 20 ขวดแล้วก็นั่งสังสรรค์กันต่อ...
ดูเวลาอีกทีก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ในรีสอร์ตมีแต่เสียงพวกเราคุยกันทุกอย่างมันเงียบมากๆ สักพักไอ้แก๊ปขอตัวไปฉี่ที่ห้องมัน มันก็เดินผ่านหลังผมไป พวกผมก็นั่งคุยกันต่อผ่านไปเกือบ 10 นาทีไอ้แก๊ปก็ไม่กลับมา ผมเลยอาสาลุกไปตามมันที่บังกะโลห้องมัน ผมเรียกชื่อมัน “แก๊ปทำไรวะ เสร็จยัง” มันไม่ตอบได้ยินแต่เสียงคนอื่นที่หัวเราะเฮฮากันอยู่ที่โต๊ะ ผมก็เรียกหามันอีกมันก็ไม่ตอบ ผมเลยเคาะประตูดังๆไป 2-3 ที ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรตอบกลับมา ผมเลยจับไปที่ลูกบิดประตู ยังไม่ทันหมุนเลย กรประตูมันก็ดังก๊อก เหมือนกับถูกหมุนปลดล็อคจากด้านใน ผมแปลกใจนิดนึงคิดในใจว่าเพื่อนคงอยู่ตรงประตูพอดีล่ะมั้ง พอผมหมุนเท่านั้นแหละครับ มันดึงสวนเลยแต่มันติดโซ่ที่ล็อคอยู่อีกชั้น ผมตกใจมากเลยเรียกชื่อไอ้แก๊ปไปแต่ก็ไม่มีคนตอบอยู่ดี ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นลมแหละประตูมันเลยเปิดแบบนั้น ผมเลยมองผ่านประตูที่แง้มอยู่แต่ผมก็เห็นเพียงแค่ความมืดและความว่างเปล่า..ตอนนั้นใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยครับ พยายามตั้งสติหันไปมองเลขห้อง โถ่ไอ้***ห้อง 105 นี่หว่า... ผมมาผิดหลังครับ ผมสบทไปหลายยกแล้วก็ถอยหลังออกมาแต่รู้สึกได้เหมือนเหยียบอะไรสักอย่างเลยเปิดแฟลชผ่านโทรศัพท์ก้มดู เห็นสีแดงๆ ”โอโหตาย**“ ผมคิดในใจ ผมเหยียบผ้ายันต์ครับ... ผมไม่รู้ว่ามันคือยันต์อะไรและไม่รู้ว่ามันปลิวหรือหล่นมาจากไหน ผมเลยหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาพนมมือขึ้นหัวและไหว้ไปทีนึงแล้วก็เอาไปหนีบไว้ที่ประตูห้อง 105 นั่นแหละ แล้วก็ไปเช็คที่ห้อง 104 ต่อ ประตูมันไม่ได้ล็อคเปิดเข้าไปก็เห็นว่าไอ้แก๊ปมันแอบหนีไปนอนหลับอยู่บนเตียง (ก็พอเข้าใจได้เพราะพรุ่งนี้มันเป็นคนขับรถกลับอะนะ) ผมก็เอามือไปเช็คที่จมูกมันเพื่อให้แน่ใจว่ามันยังหายใจอยู่แล้วผมก็ปิดประตูเดินออกมาจะไปนั่งดื่มต่อกับเพื่อน จังหวะเดินกลับผมเหลือกไปเห็นฝรั่งคนเดิมนั่งมืดๆคนเดียวอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมที่ริมสระแต่ก็ไม่ได้อะไร ผมกลับมาถึงโต๊ะนั่งคุยเฮฮาต่อจนน่าจะเลยเที่ยงคืนแล้ว ผมก็หันไปมองฝรั่งคนนั้น เขาก็ยังอยู่ที่เดิม ผมเลยกะว่าจะเดินไปทักทายเขาหน่อยเผื่อเขามาจากประเทศที่ผมอยู่ถือว่าเป็นการพักสูบบุหรี่ด้วย ผมก็เดินไปที่ริมสระน้ำละก็นั่งเก้าอี้ข้างๆเขานั้นแหละ แต่มันแปลกมากเพราะตั้งแต่ที่ผมเดินออกมาฝรั่งคนนั้นเขาไม่หันมามองเลย เขามองไปที่สระน้ำอย่างเดียว พอผมนั่งปุ๊ปผมก็ทักทายเขาละก็ถามว่ามาเที่ยวคนเดียวเหรอ เขาก็พยักหน้าแบบที่ไม่ได้หันมามอง ผมก็อ่อๆโอเคแล้วมาพักที่นี่นานแล้วเหรอ เขาก็พยักหน้าแบบเดิม ผมเลยถามเขาว่าเอาบุหรี่ไหม เขาก็ส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้หันมามองเหมือนเดิม จังหวะนั้นใจผมเริ่มไม่ดีละ คิดว่าเขาคงอยากอยู่คนเดียวล่ะมั้ง เลยไม่ได้ชวนคุยต่อ พอสูบเสร็จผมก็บอกเค้าว่า “see you around” แล้วก็เดินกลับมานั่งโต๊ะกับเพื่อนต่อ ผมก็พูดให้เพื่อนฟังว่า “ฝรั่งไม่คุยด้วยเลยว่ะ” ไอ้ชายก็หัวเราะแล้วตอบกลับมาว่า “มีใครฝรั่งกว่าอีกเหรอวะ 5555” แล้วทุกคนก็หัวเราะกัน ผมก็หัวเราะกลบเกลื่อนไป สักพักผมหันไปอีกที ฝรั่งคนนั้นไม่อยู่แล้ว ผมคิดในใจว่าเขาคงรำคาญเราเลยกลับบังกะโลไปแล้วล่ะมั้ง เวลาผ่านไปจนเกือบตี 2 ตอนนั้นทุกคนก็เริ่มนั่งต่อไม่ไหวแล้วเบียร์ก็หมดแล้ว ก็เลยแยกย้ายกันไปนอน ผมก็กลับเข้าห้องพักล้างหน้าแปรงฟันปิดไฟกำลังจะนอน สักพักก็ผมได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตกแต่ก็ไม่ได้คิดไรมากนะ คิดว่าตอนเราออกมาจากโต๊ะคงมีเพื่อนเราสักคนอาจจะวางขวดเบียร์ไว้ไม่ดีมันเลยตก ผมก็พยายามหลับต่อ ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นผมก็ได้ยินอีกแต่ว่าคราวนี้มันเหมือนขวดเบียร์เป็น 10ๆ ขวดมันตกแตกพร้อมกัน ผมเลยรีบลุกขึ้นมาแล้วเปิดม่านส่องออกไปดู ปรากฏว่าขวดเบียร์ทุกขวดมันก็ยังว่างอยู่บนโต๊ะแบบเดิม มองดูที่พื้นก็ไม่เห็นเศษแก้วแตกอะไรเลย กลับมานอนสักพักได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรตกพื้นดังมากแล้วก็มีเสียงเหมือนคนหายใจทางปากเฮือกๆ(ไม่รู้จะอธิบายยังไง) ตอนนั้นผมไม่รู้แล้วหลอกตัวเองว่าคงเสียงไอ้แก๊ปหลังข้างๆกรน ไม่ก็เสียงไอ้ชายกับน้องพิงกำลังมีอะไรกันล่ะมั้งวะ แต่ตอนนี้ขอนอนดีกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว เดี๋ยวค่อยถามเพื่อนเอา...
แต่ คืนนั้นผมฝันครับ ผมฝันว่าผมกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆฝรั่งคนเดิมคนนั้นที่ริมสระ สถานการณ์เหมือนที่ผมเล่าตอนแรกเลยครับ แต่คราวนี้ฝรั่งเขาหันหน้ามาชวนผมคุย และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มองหน้าฝรั่งคนนี้แบบชัดๆครับ เขาหัวโล้นและค่อนข้างมีอายุ น่าจะสัก 60 กว่าๆไม่ใส่เสื้อใส่แค่กางเกงขาสั้นแต่ในฝันเขายังใส่แว่นดำอยู่ครับ ผมจำไม่ได้ว่าเขาคุยอะไรกับผมบ้าง จำได้แค่ตอนผมตื่นเขาลุกขึ้นและหันมายิ้มให้ผมแล้วพูดว่า see you around แล้วผมก็ตื่นเลย
พอเช้ามาผมก็ไปถามเพื่อนว่าตอนเข้านอนเมื่อคืนได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตกไหม แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเลยครับ ผมเดินดูรอบๆก็ไม่มีเศษแก้วจริงๆตอนนั้นผมไม่รู้จะสันหาคำอธิบายไหนมาอธิบายให้ตัวเองเข้าใจแล้ว 55555
พอ 11 โมงก็ถึงเวลาที่เราต้องเช็คเอาท์จากรีสอร์ต ก่อนกลับผมก็ถามน้องพนักงานคนเมื่อคืน “น้องๆฝรั่งแก่ๆหัวโล้นเขามาพักคนเดียวเหรอครับไม่เห็นเมียเขาเลย“ น้องเขาก็มองหน้าแล้วตอบกลับมา ”ฝรั่งไหนหรอพี่ ตอนนี้มีแค่พวกพี่กับคู่ผัวเมียเกาหลีที่บังกะโลแถวหลังพี่นะคะ“
ผมก็ยืนยันไปอีกทีว่ามีฝรั่งนั่งอยู่ที่สระว่ายน้ำผมเห็นเขามาสองคืนแล้ว ไอ้ชายเพื่อนผมก็พูดขึ้นมาว่า ”ฝรั่งไหนวะ“ ผมก็ ”เอ้า ก็ฝรั่งที่กูบอกว่าเขาไม่คุยกับกูเมื่อคืนไง“ กลายเป็นว่าเพื่อนผมไม่มีใครเห็นฝรั่งคนนั้นเลย ตอนนั้นผมรู้แล้วว่าผีแน่นอนเลยขอให้น้องเขาเล่าให้ฟังหน่อย น้องพนักงานเลยหันไปเรียกแม่เขาออกมาจากครัวแล้วบอกแม่ว่า ”เพิ่นเห็นพ่อใหญ่(ชื่อ)เมื่อคืนอยู่ริมสระ“ ป้าเเม่ครัวเลยถามผมว่าใช่เหรอเห็นยังไง ผมก็เล่าไปว่าผมเจอเขาแบบไหนฝันเห็นเขาแบบไหน ป้าก็ยืนยันเลยว่า ”ใช่แน่นอน 100% พ่อใหญ่(ชื่อ)นี่ล่ะ“
สิ่งที่ป้าเล่า
คือลุงฝรั่งคนนี้เขามาพักที่นี่บ่อยแล้วมาตั้งแต่สมัยสินามิตอนนั้นแกเป็นอาสาสมัครแล้วแวะมาเที่ยวที่จังหวัดนี้ที่รีสอร์ตที่นี่แหละ เวลาแกอยู่แกก็ชอบมานั่งอาบแดดอยู่ที่สระว่ายน้ำนั่นแหละ แล้วอยู่ไปอยู่มาแกก็มาชอบคอกับเด็กเสิร์ฟคนไทยที่บาร์นี้ แกก็ไปๆมาๆประเทศไทยปีละ 2-3 ครั้งเพื่อมาหาเด็กเสิร์ฟคนที่ว่าเนี่ยแหละแถมแกส่งเงินให้ตลอดให้เยอะจนผู้หญิงมีบ้านมีรถ แต่พอมาปี 60 กลับมารอบนี้แกจับได้ว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นไปติดผู้ชายฝรั่งอีกคนแล้วกำลังจะหนีไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน แกก็เมาทุกคืนๆจนคืนนึงแกเมาหนักมากมาอาละวาดใหญ่เลยที่บาร์แกพังโต๊ะทำแก้วทำอะไรแตกหมด แล้วก็ขี่มอไซค์ไม่รู้ขี่ไปไหน พอเช้ามายามไปส่องห้องก็เห็นแกแขวนคออยู่ในห้องที่แกอยู่ประจำนั้นแหละ เจ้าของรีสอร์ตก็ไม่เคยเปิดห้องนั้นให้ใครอยู่อีกเลย
ตอนนั้นผมรู้สึกหน้าชาเหมือนเลือดมันไหลออกจากหน้าไปหมดแล้ว ผมถามป้าว่า “ใช่ห้อง 105 ไหมครับ” ป้ามีท่าทีตกใจตาโตเลยแต่บอก ”ไม่ใช่ๆ ห้องแถวหลัง“
เออเคร ”แล้วยันต์ที่หน้าห้องนั้นมันคืออะไรวะ“ ผมคิดในใจและภาวนาขอให้ป้าพูดจริงเรื่องที่ว่ามันไม่ใช่ห้อง 105 ก่อนที่เราจะเดินขึ้นรถผมก็กลั้นหายใจแล้วหันกลับไปมองที่สระน้ำอีกครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรครับ สงสัยยังสว่างอยู่ แกเลยไม่ออกมา
กลับถึงบ้านที่อุบลนอนหลับคืนแรกผมฝันแบบเดิมเลยครับว่านั่งอยู่ริมสระกับฝรั่งคนนั้น สะดุ้งตื่นตอนดึกเหงื่อแตกเลย เช้ามาก็เล่าให้แม่ฟัง แม่พาไปทำบุญ ก็ดีขึ้นบ้าง บางคืนไม่ฝัน บางคืนฝัน กลับมาอยู่ต่างประเทศก็ยังฝันเห็นเขาเป็นบางครั้ง แต่ไม่ได้ฝันแบบเดิมแล้วครับ ฝันแบบปกติแต่แค่เห็นเขาอยู่ในฝัน ยืนมองเราอยู่ไกลๆบ้าง เดินผ่านบ้าง อะไรประมาณนั้น เคยไปคุยกับพระ(เผื่อพระจะทักว่ามีใครตามมาเหมือนในเดอะโกสต์)แต่ก็ไม่เคยทักพระท่านก็บอกว่ามันไม่มีอะไรหรอกโยม เคยปรึกษาหมอที่นี่แต่หมอก็ไม่ได้ทำการรักษาอะไรเพราะมันไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ทุกวันนี้ผมก็แทบจะชินแล้วครับ เวลามีโอกาสไปวัดไทยทำบุญก็พยายามนึกถึงเขาตลอด หวังว่าเขาจะได้รับผลบุญ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมเจอและทำให้ผมเชื่อเรื่องผีจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ อาจรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง อ่านพอเป็นเรื่องสนุกพอนะครับ ไม่ถามชื่อสถานที่, จังหวัด และไม่หลังไมค์ครับ