MIND: ‘เฉาก๊วย ถั่วดำ เนยสด’ ว่าด้วยเหตุผลตามหลักจิตวิทยา ทำไมคนเราถึงมัก ‘ตั้งชื่อ’ ให้กับสิ่งต่างๆ
ใครเป็นบ้างที่มักจะ ‘ตั้งชื่อ’ ให้กับสิ่งของบางอย่าง โดยเฉพาะบรรดาสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ จักรยาน โน้ตบุ๊ก เครื่องดนตรี เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของเล่นทั่วๆ ไปอย่างตุ๊กตา ทั้งที่บางครั้งของบางอย่างมันอาจไม่จำเป็นต้องมีชื่อด้วยซ้ำไป
แล้วเคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้มีคำอธิบายตามหลักจิตวิทยาไว้ว่าสิ่งของเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กับจิตใจของมนุษย์เรา โดย นิโคลัส เอปลีย์ (Nicholas Epley) นักจิตวิทยา ระบุไว้ว่า มนุษย์เรากำลัง ‘สมมติสิ่งไม่มีชีวิต หรือสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ ให้มีความรู้สึกนึกคิดคล้ายคลึงกับความเป็นมนุษย์’

หรือสามารถเชื่อมโยงพฤติกรรมของสิ่งต่างๆ เข้ากับพฤติกรรมมนุษย์ได้ จึงไม่แปลกที่คนเรามักจินตนาการไปต่างๆ นานา เช่น ตุ๊กตาคงเศร้าแน่ ถ้ารับรู้ได้ว่าเรากำลังจะนำมันไปทิ้ง, รถยนต์คันนี้เก่ามากเหมือนผู้สูงวัยเลย ฯลฯ เช่นนี้เองที่ทำให้เราปฏิบัติกับสิ่งของชิ้นนั้นๆ ราวกับเป็นคนคนหนึ่ง
ยกตัวอย่างงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Experimental Social Psychology เมื่อปี 2014 พบว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยจะรู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจในรถยนต์มากขึ้น เนื่องจากรถยนต์คันนั้นมีการปรับแต่งให้มีลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์มากขึ้น เช่น รถสามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไร้คนขับ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารด้วยเสียง จึงทำให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยรู้สึกว่ารถยนต์มีชีวิตจิตใจ จนอยากที่จะตั้งชื่อให้กับรถคันนั้นมากยิ่งขึ้น
ประการถัดมา การตั้งชื่ออาจเกิดขึ้นจากคนเรากำลังพยายาม ‘แสดงความเป็นเจ้าของหรือสร้างความผูกพันต่อสิ่งนั้นๆ’ เพราะความจริงแล้วหลักการของ ‘ชื่อ’ มันมีฟังก์ชันในการช่วยแยกแยะทรัพย์สินต่างๆ ระหว่างที่เป็นของส่วนบุคคลและของส่วนรวม หรืออีกนัยหนึ่ง ‘ชื่อ’ ยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชัน คือการประกาศถึงระดับการให้ความสำคัญ รวมทั้งความรู้สึกทางอารมณ์ที่มีต่อสิ่งนั้น
โดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะตั้งชื่อให้กับสิ่งของที่มีความเชื่อมโยงกับเรามากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นของที่เราอาจใช้บ่อยๆ เป็นประจำก็ได้ หากอธิบายง่ายๆ เราตั้งชื่อเพราะว่าสิ่งนั้นมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ จนเกิดความหวงแหน อยากที่จะแสดงความเป็นเจ้าของขึ้นมา
นอกจากนี้การตั้งชื่ออาจมาจากเหตุผลของ ‘ความรู้สึกเหงา’ สืบเนื่องจากผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Science ในปี 2008 ระบุว่า คนที่ขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมส่วนใหญ่ จะเลือกชดเชยในสิ่งที่ขาด ด้วยการเชื่อมโยงตนเองเข้ากับสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์
ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ตัวละคร Chuck Noland (ที่แสดงโดย Tom Hanks) ใน ‘Cast Away’ ที่ตั้งชื่อให้กับลูกวอลเลย์บอลว่าวิลสัน และได้กลายมาเป็นเพื่อนสมมติคนเดียวบนเกาะ อาจบ่งบอกถึงการแสดงออกซึ่งความรักที่มีให้กับของชิ้นนั้น แม้มันจะโต้ตอบไม่ได้ และไม่มีความรู้สึกใดๆ ตอบกลับมาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งหากมองให้ลึกถึงการกระทำนี้ (การตั้งชื่อให้สิ่งของ) จะสังเกตเห็นว่ามีเงื่อนไขบางอย่างที่อาจทำให้คนเรามีแนวโน้มที่จะลดทอนความเป็นมนุษย์ของสิ่งของบางอย่างมากขึ้นตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมผู้คนทุกวันนี้ถึงได้ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันเองเสมือนวัตถุสิ่งของมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา : BrandThink
แล้วเพื่อนๆหล่ะครับ ตั้งชื่อให้กับสิ่งรอบๆตัว ด้วยชื่ออะไรกันบ้าง
ทำไมคนเราถึงมัก ‘ตั้งชื่อ’ ให้กับสิ่งต่างๆ
ใครเป็นบ้างที่มักจะ ‘ตั้งชื่อ’ ให้กับสิ่งของบางอย่าง โดยเฉพาะบรรดาสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ จักรยาน โน้ตบุ๊ก เครื่องดนตรี เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของเล่นทั่วๆ ไปอย่างตุ๊กตา ทั้งที่บางครั้งของบางอย่างมันอาจไม่จำเป็นต้องมีชื่อด้วยซ้ำไป
แล้วเคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้มีคำอธิบายตามหลักจิตวิทยาไว้ว่าสิ่งของเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กับจิตใจของมนุษย์เรา โดย นิโคลัส เอปลีย์ (Nicholas Epley) นักจิตวิทยา ระบุไว้ว่า มนุษย์เรากำลัง ‘สมมติสิ่งไม่มีชีวิต หรือสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ ให้มีความรู้สึกนึกคิดคล้ายคลึงกับความเป็นมนุษย์’
ยกตัวอย่างงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Experimental Social Psychology เมื่อปี 2014 พบว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยจะรู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจในรถยนต์มากขึ้น เนื่องจากรถยนต์คันนั้นมีการปรับแต่งให้มีลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์มากขึ้น เช่น รถสามารถขับเคลื่อนเองได้โดยไร้คนขับ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารด้วยเสียง จึงทำให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยรู้สึกว่ารถยนต์มีชีวิตจิตใจ จนอยากที่จะตั้งชื่อให้กับรถคันนั้นมากยิ่งขึ้น
ประการถัดมา การตั้งชื่ออาจเกิดขึ้นจากคนเรากำลังพยายาม ‘แสดงความเป็นเจ้าของหรือสร้างความผูกพันต่อสิ่งนั้นๆ’ เพราะความจริงแล้วหลักการของ ‘ชื่อ’ มันมีฟังก์ชันในการช่วยแยกแยะทรัพย์สินต่างๆ ระหว่างที่เป็นของส่วนบุคคลและของส่วนรวม หรืออีกนัยหนึ่ง ‘ชื่อ’ ยังมีอีกหนึ่งฟังก์ชัน คือการประกาศถึงระดับการให้ความสำคัญ รวมทั้งความรู้สึกทางอารมณ์ที่มีต่อสิ่งนั้น
โดยส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะตั้งชื่อให้กับสิ่งของที่มีความเชื่อมโยงกับเรามากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นของที่เราอาจใช้บ่อยๆ เป็นประจำก็ได้ หากอธิบายง่ายๆ เราตั้งชื่อเพราะว่าสิ่งนั้นมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ จนเกิดความหวงแหน อยากที่จะแสดงความเป็นเจ้าของขึ้นมา
นอกจากนี้การตั้งชื่ออาจมาจากเหตุผลของ ‘ความรู้สึกเหงา’ สืบเนื่องจากผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Science ในปี 2008 ระบุว่า คนที่ขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมส่วนใหญ่ จะเลือกชดเชยในสิ่งที่ขาด ด้วยการเชื่อมโยงตนเองเข้ากับสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์
ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ตัวละคร Chuck Noland (ที่แสดงโดย Tom Hanks) ใน ‘Cast Away’ ที่ตั้งชื่อให้กับลูกวอลเลย์บอลว่าวิลสัน และได้กลายมาเป็นเพื่อนสมมติคนเดียวบนเกาะ อาจบ่งบอกถึงการแสดงออกซึ่งความรักที่มีให้กับของชิ้นนั้น แม้มันจะโต้ตอบไม่ได้ และไม่มีความรู้สึกใดๆ ตอบกลับมาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งหากมองให้ลึกถึงการกระทำนี้ (การตั้งชื่อให้สิ่งของ) จะสังเกตเห็นว่ามีเงื่อนไขบางอย่างที่อาจทำให้คนเรามีแนวโน้มที่จะลดทอนความเป็นมนุษย์ของสิ่งของบางอย่างมากขึ้นตามไปด้วย ท้ายที่สุดก็อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมผู้คนทุกวันนี้ถึงได้ปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันเองเสมือนวัตถุสิ่งของมากขึ้นด้วยเช่นกัน