ข่าวดีสำหรับแฟนลิเวอร์พูลในประเทศไทย

ขออนุญาตแชร์ข่าวนี้ครับ

รู้ไหมครับว่าสโมสรลิเวอร์พูล เคยปฏิเสธ ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในตำแหน่งผู้อำนวยการอะคาเดมี่ ประจำประเทศไทย มาแล้ว 1 รอบ เพราะไม่เชื่อมั่นว่า ซิโก้จะสามารถสอนเยาวชนในแนวทางของลิเวอร์พูลได้
แต่ซิโก้ ยืนยันว่า เขาจะยอมเปลี่ยนทุกอย่าง จะให้ทิ้งแนวทางซิโก้เวย์ของตัวเองก็ยอม นั่นทำให้ทีมหงส์แดง ตอบตกลงในที่สุด
เรื่องราวเบื้องหลังการแต่งตั้งซิโก้เป็นอย่างไร ผมจะไปเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกนะครับ
ในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน สโมสรยุโรป จะเข้าไปตั้งอะคาเดมี่ ในประเทศต่างๆ เพื่อ 2 เหตุผล
เหตุผลแรก คือ การสร้างแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแรงขึ้น เอาศาสตร์ความรู้ที่ตัวเองมีไปเผยแพร่ในต่างแดน
เหตุผลสอง คือ สร้างรายได้ใหม่ๆ เพราะประเทศไหนที่จะเอาระบบอะคาเดมี่เข้าไป ก็ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้สโมสรด้วย
และบางทีอาจได้ส้มหล่น ถ้าหากมีดาวรุ่งคนไหนเก่งๆ พุ่งขึ้นมา สโมสรก็มีสิทธิ์เข้าถึง นักเตะคนนั้นก่อนทีมอื่น
สโมสรลิเวอร์พูล นั้นเริ่มโปรเจ็กต์อะคาเดมี่นานาชาติ (LFCIA) มาหลายปีแล้ว ตอนนี้มีอะคาเดมี่กระจายไปอยู่ 47 เมืองทั่วโลก
ในโซนเอเชียตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ มีอยู่ 4 เมือง ได้แก่ โตเกียว, ฮ่องกง, คุนหมิง และ สิงคโปร์ โดยแผนของลิเวอร์พูลที่เล็งไว้มานานแล้ว คืออยากตั้งอะคาเดมี่อีกสักแห่งในไทย เพราะเป็นประเทศที่มีฐานแฟนหงส์แดงหนาแน่น น่าจะมีเด็กๆ มาเรียนเยอะ
ในอดีตมีกลุ่มทุนชาวไทย ติดต่อขอซื้อไลเซนส์กับลิเวอร์พูลหลายเจ้า แต่สเป็กยังไม่ตรง ทำให้ทีมหงส์แดงปฏิเสธเรื่อยมา
จนมาถึงปี 2023 นักธุรกิจชาวไทย ชื่อ สุรศักดิ์ อารีย์สว่างกิจ อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท จีดีซี จำกัด ในกลุ่ม จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และเป็นหุ้นส่วนอะคาเดมี่สอนแบดมินตัน ของพลศักดิ์ บุญสนะ ได้ติดต่อเข้าไปหาสโมสรลิเวอร์พูล เพื่อเสนอไอเดีย ขอสร้างอะคาเดมี่หงส์แดงในประเทศไทย
ในแวดวงกีฬา ชื่อเสียงของสุรศักดิ์ อาจจะไม่โด่งดังนัก แต่เขาไปคุยกับลิเวอร์พูลด้วยแพสชั่น และแผนงานที่เป็นรูปธรรม
สุรศักดิ์ดีลกับ 5 สถาบันการศึกษาทั่วกรุงเทพเอาไว้ ได้แก่ ABAC, อัสสัมชัญ ธนบุรี, โรงเรียนนานาชาติ DBS, โรงเรียนนานาชาติ DLTS และ โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ
โดย 5 สถาบันเหล่านี้ อนุญาตให้ใช้ Facility ของโรงเรียน ในช่วงวันหยุด เอามาทำเป็นอะคาเดมี่สอนฟุตบอลได้
นอกจากนั้นสุรศักดิ์ยังการันตีด้วยว่า ในแต่ละปี จะมีนักเรียน มาเข้าร่วมลิเวอร์พูลอะคาเดมี่ เฉลี่ยมากกว่า 1 พันคน
เขามีแผนธุรกิจที่ชัดเจนมาก ดังนั้นลิเวอร์พูลจึงส่ง แดน ไวท์ รองประธาน LFCIA เข้ามาดูความพร้อมทุกอย่าง และรู้สึกพอใจ
สโมสรตัดสินใจเซ็นสัญญา 3 ปี กับบริษัท เรดฟีนิกซ์คลับ ของสุรศักดิ์ ให้เปิดอะคาเดมี่ได้ในปี 2025, 2026, 2027 สามารถใช้เครื่องหมายการค้าของลิเวอร์พูลได้เต็มรูปแบบ
สำหรับวิธีการทำงานนั้น สโมสรลิเวอร์พูลที่อังกฤษ จะส่งโค้ชเยาวชน 1 คน มาอยู่อาศัยที่ประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่เป็น "โค้ชหลัก"
โดยโค้ชหลักคนนี้ จะเอาศาสตร์ความรู้แบบ "ลิเวอร์พูลเวย์" มาถ่ายทอดทุกอย่างให้โค้ชชาวไทย เพื่อเอาไปสอนเด็กต่อ
ตอนนี้โค้ชอังกฤษที่ทีมหงส์แดงจะส่งมาประจำที่ไทย ระบุชื่อได้แล้ว นั่นคือ แจ๊ค กรีน ซึ่งเขาจะเริ่มทำงานตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว ทั้งสถานที่ และ คำอนุญาตจากลิเวอร์พูล สิ่งสำคัญอย่างต่อไปที่สุรศักดิ์ต้องหา คือ "ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ประจำประเทศไทย"
ในลิเวอร์พูลเวย์ มีข้อกำหนด หนึ่งอย่างที่ชัดเจนมาก นั่นคือ ในคลาสสอนฟุตบอล จะมีเด็กนักเรียนไม่เกิน 16 คน ต่อโค้ช 1 คน
นั่นแปลว่า ถ้าหากมีเด็กมาสมัคร 1,000 คน ก็ต้องใช้โค้ชมากถึง 63 คน
โดยโค้ช 63 คนที่ว่านั้น จะเป็นคนไทยทั้งหมดที่ถูกคัดเลือก แล้วเอามาเข้ารับการอบรมจากแจ๊ค กรีนก่อน เมื่ออบรมเรียบร้อย เข้าใจทุกอย่าง ก็สามารถไปสอนเยาวชนได้
คำถามคือ แล้วใครล่ะ จะเป็นคนเลือกโค้ช 63 คนนี้ ท่ามกลางโค้ชคนไทย เป็นพันเป็นหมื่น
คำตอบคือ ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ประจำประเทศไทยนั่นเอง
ดังนั้นคนที่มาเป็น ผู้อำนวยการได้ ต้องมีคอนเน็กชั่นที่ดี รู้จักคนเยอะ สามารถทาบทามโค้ชเก่งๆ มาอยู่อะคาเดมี่ได้ นอกจากนั้น ต้องมีศาสตร์ความรู้ฟุตบอลที่ดีพอสมควร สื่อสารภาษาอังกฤษได้ เพื่อจะได้เป็นคนกลางคอยเชื่อมระหว่างแจ๊ค กรีน กับโค้ชชาวไทยด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปอ่านต่อในนี้ได้เลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่