อยากระบายล่ะมั๊ง พอมาเป็นเรื่องของตัวเองก็หนักใจ

- เรื่องคือผมเป็นผู้ชายอายุสามสิบกลาง ๆ มีแฟนอายุสามสิบพอดี ตอนนี้การงานอยู่ในเกณฑ์ที่โอเค รับราชการทั้งคู่ ตัวผมมีเงินเดือนมากกว่าฝ่ายแฟนสาว อยู่ที่ 1 : 1.5 
- เราผ่านอะไรมาด้วยกันหลายอย่าง อาจไม่ได้คบกันไม่ได้นานในสายตาคนอื่น แต่ผมก็พยายามเพื่อเธอมาเยอะเหมือนกัน เธอเป็นลูกสาวเถ้าแก่และเคยทำงานในหน่วยงานแบบรัฐวิสาหกิจมาก่อน มีโปรไฟล์ที่ดีเลยหล่ะ แต่ที่บ้านอยากให้ทำธุรกิจของที่บ้านจึงกลับไปทำอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หลังจากพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าไม่ได้ชอบทางนั้น เธอจึงเริ่มจริงจังกับการเป็นข้าราชการ ตอนที่เธอเริ่มเข้ามาสายราชการ ผมทะเลาะกับหลายคนมากเพื่อสนับสนุนเธอ ผมถูกคาดโทษจากหัวหน้างานว่าทำตัวไม่ดี แต่ก็ผ่านมาได้จนบรรจุทั้งคู่อย่างภาคภูมิใจ
- และมันก็วนกลับมาเรื่องที่วัดใจผู้ชาย ก็คือเรื่องแต่งงาน ตัวผมเองคิดว่าไม่ได้มีเงินเยอะแยะอะไรขนาดนั้นที่จะเอาไปเลี้ยงคนอื่น แต่เธอก็บอกว่ามันเป็นครั้งหนึ่งของลูกผู้หญิง หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้วผมก็ได้เก็บเงินร่วมกันเพื่อแต่งงาน 
- อยู่มาวันหนึ่งผมก็คิดว่า ผมเก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่งแล้ว น่าจะเพียงพอจัดงานเล็ก ๆ ได้แล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้ข้อสรุปและเก็บเงินต่อไป เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่โอเค เพราะผมวางแผนการใช้เงินด้านอื่นด้วย เช่นการเก็บออมสำหรับการเกษียน หรือการซื้อทรัพย์สินชิ้นใหญ่ แม้กระทั่งสำรองเงินหากทีลูก
- ผมมีปัญหาเรื่อง พสพ. กับเธอ เพราะเธอกลัวว่าจะตั้งครรภ์ แล้วต้องหาเงินมาแต่งงานเป็นก้อน และหากมีลูกก็อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนเอกชนดี ๆ มีรถขับไปทำงานระหว่างตั้งครรภ์ ถึงอย่างไรก็ตามเธอก็คุมกำเนิดด้วยยาอยู่แล้ว แต่นางจะไม่ค่อยอยากมีอะไรกัน ให้เหตุผลว่ายังไม่แต่งงานและมันพลาดได้
- ผมเริ่มทะเลาะกับเธอเรื่องการจัดการเงิน เพราะผมวางแผนเงินไว้ละเอียด แต่เธอ อยากมีมื้อพิเศษบ้าง (บ้างหมายความว่ามากกว่าที่ผมตั้งเกณฑ์ไว้) เพราะมีอีเวนต์พิเศษในชีวิต นางบอกไม่อยากลดคุณภาพชีวิตตัวเอง
- นางเป็นคนเก่ง มีโปรไฟล์ดี ตั้งใจทำงาน นางทำงานและเดินทางค่อนข้างเหนื่อย ผมพยายามซัพพอร์ตนางให้นางเหนื่อยน้อยที่สุด เพื่อให้นางมีแรงพอจะมีอะไรกับผมได้บ้าง แต่ด้วยความกลัวพลาด+ความเหนื่อย ผมก็ได้ไม่สมใจอยากอยู่ดี
- ผมรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นระเบิดของชีวิตคู่ในสักวัน ปกติผมจะเข้าใจผู้หญิงว่ามีความอ่อนไหวด้านอารมณ์สูง เรื่องเล็กน้อยไม่เหนือบ่ากว่าแรงผมจะไม่ค่อยเก็บเอามาใส่ใจ แต่พอไม่ค่อยมีอะไรกัน ผมเริ่มทนอารมณ์นางไม่ได้ เอาจริงคือผมก็ยังทนได้น่ะแหละ แต่มันไปลดที่ความรัก ความเอื้ออาทร ความพร้อมจะให้อภัยเธอทุกอย่าง
- สิ่งสุดท้ายที่ผมคิดจะทำในความสัมพันธ์คือการเลิกกับเธอ และผมไม่มีความคิดที่จะนอกกายหรือนอกใจอะไรทั้งนั้น ผมไม่ชอบความไม่ซื่อสัตย์ต่อคนรัก และเชื่อว่า พสพ.เป็นกิจกรรมระหว่างคนรัก ซึ่งการนอกกายก็อาจติดโรค และรู้สึกสกปรกด้วย ซึ่งผมคิดว่าถ้าทนไม่ไหว ผมก็จะบอกเธอตรง ๆ ว่าไม่ไหวแล้วและเลิกให้ขาดก่อนไปเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ครับ
- ผมเคยคุยกับเธอได้ทุกเรื่อง แต่หลัง ๆ พอคุยกันหนัก ๆ นางไม่ค่อยมีสมาธิ นางเครียดและไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพยายามเลย นางให้ค่ากับสิ่งที่ผมมีให้น้อยลงมาก ๆ เช่นการดูแลงานบ้าน การไปรับไปส่ง การเงิน หรือแม้กระทั่งการจดทะเบียนสมรสที่ผมบอกว่าผมพร้อมเสมอถ้าเธอต้องการ
- ผมไม่สามารถระบายในแพลตฟอร์มอื่นได้ เดี๋ยวนางจะมาเห็นแล้วจะไม่พอใจผมอีก ผมอึดอัดมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่