น่าจะเห็นที่ผมตีแผ่กันไปบ้างในกระทู้ก่อน ๆ แล้วแหละ ว่านางโดนใส่สีตีไข่จนคำพูดถูกบิดเบือน โดยหลาย ๆ คน พยายามทำตัวรู้ศัพท์มากกว่าเจ้าของภาษาโดยใช้ Google Translate แปลภาษาเกาหลีเป็นไทย หรือแปลเป็นอังกฤษแล้วมาตีความกันเอง จากพฤติกรรมเหล่านี้มันทำให้เกิด
วาทะสร้างความเกลียดชัง (ต่อไปนี้ขอเรียกว่า Hate Speech) จนทำให้สารที่ถูกสื่อถูกบิดเบือนครับ (โดยมากมักจะตัดแปะคำมาไม่ตัดแปะมาทั้งรูปประโยค)
จริง ๆ แล้วพวกคุณควรสงสัยนะว่าพูดนานเป็นชั่วโมง ทำไมคนไทยเอามาเล่นข่าวแปลข่าวกันได้เร็วมาก? ใครเคยทำ minutes of meeting คงรู้กันนะครับว่าแค่ภาษาตัวเองการจะแกะคำและเขียนสรุปมัน
ใช้เวลานานขนาดไหน ยิ่งเป็นการแปลข่าวเกาหลีมาเป็นไทย ไม่แปลกใจกันเลยหรอว่าพวกสร้าง Fake news เก่งขนาดนั้นเลยหรือ?
คิดว่าหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยแบบผมว่า Min Hee Jin ป้าแกสร้างวลีเด็ดที่ดู Negative เหล่านั้นจริงหรือไม่ อาทิเช่น
- "นักข่าวถามบังทัน ฟิมมี่ ไอลิท เจ็บปวดจากผลกระทบของคำพูดมินฮีจิน เจ๊แกดันตอบ นิวจีนก็เจ็บเหมือนกัน แต่ฉันเจ็บปวดที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP พ่าม!!!!"
เรามาดูกันครับว่าแท้จริงแล้วในงานวันดังกล่าว 31 May 2024 ป้าพูดอะไรในวันนั้นกันถึงได้ถูกเอามาบิดคำพูด (เรื่องถนัดเค้าละพวก Fake news อะ)
วิดีโอต้นเรื่อง สนใจรับชมฉบับเต็มได้
เนื่องจากต้องการแก้ความเข้าใจผิดเฉพาะจุดนะครับ ดังนั้นผมจะไม่แปลอังกฤษเป็นไทย Part อื่น เน้นตรงที่ถูกเอามาสร้าง Hate Speech
ในวงเล็บเป็นการอธิบายเพิ่มเติมโดยการคาดเดานะครับ ถ้าดูบริบทแล้วน่าจะเป็นเช่นนั้น (อยากจะข้ามก็ข้ามได้ครับ แล้วเดาเองว่าแปลว่าอะไร)
คำกล่าวอ้างของคนที่เขียนบิดเบือนคำพูด Min Hee Jin
"นักข่าวถามบังทัน ฟิมมี่ ไอลิท เจ็บปวดจากผลกระทบของคำพูดมินฮีจิน เจ๊แกดันตอบ นิวจีนก็เจ็บเหมือนกัน แต่ฉันเจ็บปวดที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP พ่าม!!!!"
สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
นาทีที่ 53 วินาทีที่ 12
สวัสดีครับ ผมนักข่าวจาก Yonhap News TV สืบเนื่องมาจากข้อพิพาทในครั้งนี้ ผมคิดว่ามี idol groups วงอื่นเหมือนกันที่
ถูกคุกคาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ตรงนี้แปลตาม Grammar ของอังกฤษที่เค้าแปลมาอีกที ไม่มั่นใจว่าแปลเกาหลีเป็นอังกฤษพลาดมั้ย แต่บริบทตรงนี้ก็ดูจะแปลว่าถูกคุกคามมากกว่าเจ็บปวดนะอันนี้ไม่ชัวว่าเกาหลีจริง ๆ แปลว่าอะไรใครรู้มาบอกได้ครับเค้าใช้คำว่า 상처를 เท่าที่หาดูมันแปลได้ทั้งเจ็บปวดและถูกทำร้าย)
ตอนนี้มีความสงสัยเกิดขึ้นเกี่ยวกับ BTS ว่า BTS มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรแห่งหนึ่ง ILLIT และ LE SSERAFIM เองก็
ถูกคุกคามเช่นกัน คุณอยากจะพูดอะไรถึงพวกเขาเหล่านี้มั้ย?
นาทีที่ 53 วินาทีที่ 27
มินฮีจินตอบว่า ในความคิดของฉัน
ฉันเชื่อว่า NewJeans ก็ถูกคุกคามเช่นกัน ฉันคิดว่าทุก ๆ คนถูกคุกคามโดยข้อพิพาทนี้ ดังนั้นเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง อย่างที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้านี้ ฉันเองก็เป็นคนนะ (น่าจะสื่อว่าฉันเองก็โดนคุกคามนะ) ดังนั้นหนึ่งในทีมงานของพวกเราบอกอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างส่งผลต่อฉันมาก (น่าจะหมายถึงว่าฟังแล้วเสียใจ) โดยหนึ่งในทีมงานพูดว่า "ฉันไม่คิดว่าผู้คนไม่ได้มองคุณในฐานะคน" (น่าจะหมายความว่า ผู้คนด่ามินฮีจินเสียจนเหมือนไม่ได้เป็นคนที่เจ็บเป็นเสียใจเป็น)
มินฮีจินจึงพูดต่อว่า ฉันเองก็เป็นคนเหมือนกันนะ พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นคนเช่นกัน เหล่าสมาชิกวงทั้งหลายก็เป็นคนเช่นกัน ดังนั้นฉันไม่อยากจะพูดถึงใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษและพูดถึงเขาเหล่านั้นอีกแล้ว ที่จริงแล้ว ทั้งนักข่าวและทุก ๆ คน ถ้าคุณไม่อยากให้ผู้คนถูกคุกคามหรือถูกทำร้าย พวกคุณควรจะหยุดกล่าวถึงพวกเขาเหล่านั้นได้แล้ว พวกคุณไม่จำเป็นเลยที่จะต้องพูดอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านี้ แต่ผู้คนก็ยังคงยกเรื่องเหล่านี้มาพูดถึงว่ามันเจ็บปวดหรือมันไม่เจ็บปวดกันแน่ แต่ในความเป็นจริงการกระทำเหล่านี้แหละที่น่าเจ็บปวด (น่าจะด่านักข่าวอ้อม ๆ ว่าหยุดพูดถึงชื่อคนอื่นได้แล้ว การที่พวกคุณนักข่าวและชาวเน็ตทั้งหลายยังคงวิพากย์วิจารณ์ว่ามันเจ็บปวดหรือไม่นี่สิเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด) ดังนั้นถ้าพวกคุณแคร์พวกเขาเหล่านั้นจริง ๆ ได้โปรดหยุดพูดถึงพวกเขาเหล่านั้นซะ และนอกเหนือไปจากนี้สิ่งที่จะสามารถเยียวยาบาดแผลจากเหตุการณ์นี้ได้คือ เราต้องทำงานร่วมกัน (MHJ and HYBE) เพื่อที่จะหาทางประนีประนอม เพื่อจะเดินต่อไปข้างหน้า นี่คือเหตุผลที่ฉันพูดถึงสิ่งเหล่านี้
นาทีที่ 55 วินาทีที่ 4
สวัสดีฉันนักข่าวจาก MBC, HYBE ได้กล่าวหาว่าคุณละเมิดความไว้วางใจ (Breach of trust) ตราบใดที่ HYBE ยังไม่ถอนคำร้อง การสืบสวนสอบสวนไต่สวนก็จะยังดำเนินต่อไป ในวันนี้คุณได้เสนอการประนีประนอม คุณคิดว่าคุณจะรอนานแค่ไหนในการรอคอยการประนีประนอม มี Deadline หรือไม่
นาทีที่ 55 วินาทีที่ 21
มินฮีจินตอบว่า Deadline... ฉันเชื่อว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องกำหนด Deadline เพราะตอนนี้ฉันเองก็ต้องเตรียมการหลาย ๆ อย่างให้พร้อมไว้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรืออาจจะไม่เกิดขึ้น มันไม่สำคัญเลยว่า HYBE จะเปิดการประชุมอื่นต่อไป หรือตัดสินใจที่จะไม่ปลดฉัน แต่มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจสู้ต่อไป ดังนั้น การกำหนด Deadline มันจำเป็นด้วยหรอ? เอาตรง ๆ แน่นอนว่ามันค่อนข้างยากสำหรับฉันที่จะต้องทำงานต่อไปกับพวกเขา รวมถึงการที่พวกเขาทำงานต่อไปกับฉัน
แต่ถ้าคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ คุณคงจะไม่พูดว่าคุณจะไม่ทำงานกับฉันต่อไป
เพราะคุณเสียความรู้สึก ฉันเองก็ทั้งรู้สึกเหนื่อย โกรธ รำคาญ แต่ถ้าคิดถึงในระยะยาว รวมถึงคิดถึงวิธีการที่จะทำให้ทุก ๆ คนได้รับผลประโยชน์ ต่อให้มันยากลำบากแค่ไหน คุณไม่คิดหรือว่าเราควรจะอดทนไว้แล้วทำงานร่วมกันต่อไป? นี่คือจุดยืนของฉันที่ฉันอยากจะถ่ายทอดให้ได้รับรู้ ดังนั้นฉันคิดว่ามันไม่สำคัญเลยว่าควรจะมี Deadline หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามฉันไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดเช่นไร เพราะต่อให้ฉันอยากจะประนีประยอมแต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจะประนีประนอมด้วย มันก็ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้
ดังนั้น ฉันคิดว่ามันไม่ผิดที่จะเลือกในสิ่งที่ให้ผลที่ดีกว่า (สู้ต่อหรือประนีประนอม) เพราะถ้าหากพวกเราคิดถึง
คนที่น่าจะเสียความรู้สึกมากที่สุดจากเหตุการณ์นี้ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นฉัน ฉันเป็น ENTP ฉันอยากจะพูดเรื่องที่ผิดและเรื่องที่ถูกเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ฉันอยากจะพูดถึงทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉันไม่ทำแบบนั้น ฉันตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น และฉันจะไม่ทำเช่นนั้น เพราะฉันอยากที่จะคิดถึงทางที่ดีที่สุดสำหรับทุก ๆ คน
สรุปสิ่งที่ได้จากการติดตาม
มินฮีจินพยายามจะบอกว่า ไม่ใช่แค่ศิลปินที่ถูก Mention จากนักข่าว Yonhap NewJeans รวมถึงตัวเธอเองก็ถูกคุกคามเช่นกัน ฉันเองก็เจ็บเป็นเหมือนกัน ดังนั้น
คงเป็นการดีที่เราจะไม่ Mention ใครอื่นอีกต่อไป ถ้าพวกนักข่าวไม่อยากไปทำร้ายใครก็อย่าไปพูดถึงคนอื่นเลย และวิธีการเยียวยาที่ดีที่สุดคือการประนีประนอมกัน
ส่วน Hate Speech ที่กล่าวหาว่านางพูดว่าฉันเป็น ENTP ไม่ได้เกี่ยวกับ เรื่องของ LSF ILLIT BTS เลยครับ ที่นางพูดคือเรื่องที่นักข่าวถามว่าคุณจะรอได้นานแค่ไหนเรื่องของการประนีประนอม นางจึงตอบไปดังด้านบนครับว่าไม่มี Deadline จะมีหรือไม่มีนางก็ต้องเตรียมตัวสู้คดีอยู่ดี สิ่งที่นางพูดคือโจมตีว่า คุณจะเลิกจ้างฉันเพียงแค่เพราะคุณเสียความรู้สึกหรอ ฉันเองก็รู้สึกแย่กับ HYBE เหมือนกัน
และคนที่น่าจะเสียความรู้มากกว่าคือฉัน (มากกว่า HYBE) ฉันเป็นพวก ENTP ฉันอยากจะบ่น ฉันอยากจะระบายออกไป แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ
สรุปสิ่งที่คนนำไปบิดเบือน
- มินฮีจินไม่ขอโทษ
อันนี้จริง แต่ดูไม่ได้อยาก Mention ถึงแล้วนะอย่างน้อยมีพัฒนาการ (เข้าใจว่าหลังบ้านคงไปขอโทษ Aespa หรือเปล่าถึงได้มี Challenge ส่วนวงอื่นสุดท้ายมันคือผู้จัดการคุยกัน คนไม่ถูกกันคงไม่ขอโทษหรอกครับ ใครจะยังเกลียดต่อเชิญครับตรงนี้เรื่องของคุณเลยผมเฉย ๆ เพราะคิดว่าถ้าขอโทษออกสื่อน่าจะเป็นผลเสียในชั้นศาล เคยดูหนังมั้ยที่พระเอกนางเอกโลกสวยขอโทษแม้จะไม่ผิดกฎหมายแล้วโดนตัวร้ายเอาไปใช้ในชั้นศาลอะ)
- ฉันและ NewJeans เจ็บปวดกว่า
อันนี้มั่ว ผมเคยเห็นผ่าน ๆ ว่ามีคนคิดว่านางพูดแบบนี้ จริง ๆ คือนางบอกว่าทุก ๆ คนเจ็บหมด บริบทคืออยากให้เลิกพูดถึงคนอื่นได้แล้วไม่ใช่มาแข่งว่าใครเจ็บกว่าใคร
- ฉันเจ็บที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP
อันนี้หลุดโลกไปเลย นางตอบว่านางเสียความรู้สึกมากกว่า HYBE ไม่ได้บอกว่านางเจ็บกว่าวงไหนหรืออะไรเลย
ท้ายที่สุดผมเชื่อมั่นในสมาชิก NewJeans ครับ เด็ก ๆ สนับสนุนใครผมสนับสนุนตามแน่ ๆ เพราะผมเห็นแล้วว่าความผิดพลาดที่นางก่อมันเกิดไปแล้ว (ถ้าพวกคุณบอกว่าการ Mention= ผิด) แต่นางดูมีความพยายามเลิกทำผิดอีก (เลิก Mention แล้วนะหลายรอบละด้วยที่ออกมาพูดไม่พูดถึงใครเลย) อย่างน้อยสำนึกผิดก็ยังดี
[ตีแผ่ความจริงเรื่อง Min Hee Jin] เรามาดูวาทะสร้างความเกลียดชังที่ถูกสร้างเพื่อใช้โจมตี Min Hee Jin กันครับ
จริง ๆ แล้วพวกคุณควรสงสัยนะว่าพูดนานเป็นชั่วโมง ทำไมคนไทยเอามาเล่นข่าวแปลข่าวกันได้เร็วมาก? ใครเคยทำ minutes of meeting คงรู้กันนะครับว่าแค่ภาษาตัวเองการจะแกะคำและเขียนสรุปมันใช้เวลานานขนาดไหน ยิ่งเป็นการแปลข่าวเกาหลีมาเป็นไทย ไม่แปลกใจกันเลยหรอว่าพวกสร้าง Fake news เก่งขนาดนั้นเลยหรือ?
คิดว่าหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยแบบผมว่า Min Hee Jin ป้าแกสร้างวลีเด็ดที่ดู Negative เหล่านั้นจริงหรือไม่ อาทิเช่น
- "นักข่าวถามบังทัน ฟิมมี่ ไอลิท เจ็บปวดจากผลกระทบของคำพูดมินฮีจิน เจ๊แกดันตอบ นิวจีนก็เจ็บเหมือนกัน แต่ฉันเจ็บปวดที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP พ่าม!!!!"
เรามาดูกันครับว่าแท้จริงแล้วในงานวันดังกล่าว 31 May 2024 ป้าพูดอะไรในวันนั้นกันถึงได้ถูกเอามาบิดคำพูด (เรื่องถนัดเค้าละพวก Fake news อะ)
วิดีโอต้นเรื่อง สนใจรับชมฉบับเต็มได้
เนื่องจากต้องการแก้ความเข้าใจผิดเฉพาะจุดนะครับ ดังนั้นผมจะไม่แปลอังกฤษเป็นไทย Part อื่น เน้นตรงที่ถูกเอามาสร้าง Hate Speech
ในวงเล็บเป็นการอธิบายเพิ่มเติมโดยการคาดเดานะครับ ถ้าดูบริบทแล้วน่าจะเป็นเช่นนั้น (อยากจะข้ามก็ข้ามได้ครับ แล้วเดาเองว่าแปลว่าอะไร)
คำกล่าวอ้างของคนที่เขียนบิดเบือนคำพูด Min Hee Jin
"นักข่าวถามบังทัน ฟิมมี่ ไอลิท เจ็บปวดจากผลกระทบของคำพูดมินฮีจิน เจ๊แกดันตอบ นิวจีนก็เจ็บเหมือนกัน แต่ฉันเจ็บปวดที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP พ่าม!!!!"
สิ่งที่เกิดขึ้นจริง
นาทีที่ 53 วินาทีที่ 12
สวัสดีครับ ผมนักข่าวจาก Yonhap News TV สืบเนื่องมาจากข้อพิพาทในครั้งนี้ ผมคิดว่ามี idol groups วงอื่นเหมือนกันที่ถูกคุกคาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้มีความสงสัยเกิดขึ้นเกี่ยวกับ BTS ว่า BTS มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรแห่งหนึ่ง ILLIT และ LE SSERAFIM เองก็ถูกคุกคามเช่นกัน คุณอยากจะพูดอะไรถึงพวกเขาเหล่านี้มั้ย?
นาทีที่ 53 วินาทีที่ 27
มินฮีจินตอบว่า ในความคิดของฉัน ฉันเชื่อว่า NewJeans ก็ถูกคุกคามเช่นกัน ฉันคิดว่าทุก ๆ คนถูกคุกคามโดยข้อพิพาทนี้ ดังนั้นเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง อย่างที่ฉันได้บอกไปก่อนหน้านี้ ฉันเองก็เป็นคนนะ (น่าจะสื่อว่าฉันเองก็โดนคุกคามนะ) ดังนั้นหนึ่งในทีมงานของพวกเราบอกอะไรบางอย่างที่ค่อนข้างส่งผลต่อฉันมาก (น่าจะหมายถึงว่าฟังแล้วเสียใจ) โดยหนึ่งในทีมงานพูดว่า "ฉันไม่คิดว่าผู้คนไม่ได้มองคุณในฐานะคน" (น่าจะหมายความว่า ผู้คนด่ามินฮีจินเสียจนเหมือนไม่ได้เป็นคนที่เจ็บเป็นเสียใจเป็น)
มินฮีจินจึงพูดต่อว่า ฉันเองก็เป็นคนเหมือนกันนะ พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นคนเช่นกัน เหล่าสมาชิกวงทั้งหลายก็เป็นคนเช่นกัน ดังนั้นฉันไม่อยากจะพูดถึงใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษและพูดถึงเขาเหล่านั้นอีกแล้ว ที่จริงแล้ว ทั้งนักข่าวและทุก ๆ คน ถ้าคุณไม่อยากให้ผู้คนถูกคุกคามหรือถูกทำร้าย พวกคุณควรจะหยุดกล่าวถึงพวกเขาเหล่านั้นได้แล้ว พวกคุณไม่จำเป็นเลยที่จะต้องพูดอะไรเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านี้ แต่ผู้คนก็ยังคงยกเรื่องเหล่านี้มาพูดถึงว่ามันเจ็บปวดหรือมันไม่เจ็บปวดกันแน่ แต่ในความเป็นจริงการกระทำเหล่านี้แหละที่น่าเจ็บปวด (น่าจะด่านักข่าวอ้อม ๆ ว่าหยุดพูดถึงชื่อคนอื่นได้แล้ว การที่พวกคุณนักข่าวและชาวเน็ตทั้งหลายยังคงวิพากย์วิจารณ์ว่ามันเจ็บปวดหรือไม่นี่สิเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด) ดังนั้นถ้าพวกคุณแคร์พวกเขาเหล่านั้นจริง ๆ ได้โปรดหยุดพูดถึงพวกเขาเหล่านั้นซะ และนอกเหนือไปจากนี้สิ่งที่จะสามารถเยียวยาบาดแผลจากเหตุการณ์นี้ได้คือ เราต้องทำงานร่วมกัน (MHJ and HYBE) เพื่อที่จะหาทางประนีประนอม เพื่อจะเดินต่อไปข้างหน้า นี่คือเหตุผลที่ฉันพูดถึงสิ่งเหล่านี้
นาทีที่ 55 วินาทีที่ 4
สวัสดีฉันนักข่าวจาก MBC, HYBE ได้กล่าวหาว่าคุณละเมิดความไว้วางใจ (Breach of trust) ตราบใดที่ HYBE ยังไม่ถอนคำร้อง การสืบสวนสอบสวนไต่สวนก็จะยังดำเนินต่อไป ในวันนี้คุณได้เสนอการประนีประนอม คุณคิดว่าคุณจะรอนานแค่ไหนในการรอคอยการประนีประนอม มี Deadline หรือไม่
นาทีที่ 55 วินาทีที่ 21
มินฮีจินตอบว่า Deadline... ฉันเชื่อว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องกำหนด Deadline เพราะตอนนี้ฉันเองก็ต้องเตรียมการหลาย ๆ อย่างให้พร้อมไว้สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหรืออาจจะไม่เกิดขึ้น มันไม่สำคัญเลยว่า HYBE จะเปิดการประชุมอื่นต่อไป หรือตัดสินใจที่จะไม่ปลดฉัน แต่มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะตัดสินใจสู้ต่อไป ดังนั้น การกำหนด Deadline มันจำเป็นด้วยหรอ? เอาตรง ๆ แน่นอนว่ามันค่อนข้างยากสำหรับฉันที่จะต้องทำงานต่อไปกับพวกเขา รวมถึงการที่พวกเขาทำงานต่อไปกับฉัน
แต่ถ้าคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ คุณคงจะไม่พูดว่าคุณจะไม่ทำงานกับฉันต่อไปเพราะคุณเสียความรู้สึก ฉันเองก็ทั้งรู้สึกเหนื่อย โกรธ รำคาญ แต่ถ้าคิดถึงในระยะยาว รวมถึงคิดถึงวิธีการที่จะทำให้ทุก ๆ คนได้รับผลประโยชน์ ต่อให้มันยากลำบากแค่ไหน คุณไม่คิดหรือว่าเราควรจะอดทนไว้แล้วทำงานร่วมกันต่อไป? นี่คือจุดยืนของฉันที่ฉันอยากจะถ่ายทอดให้ได้รับรู้ ดังนั้นฉันคิดว่ามันไม่สำคัญเลยว่าควรจะมี Deadline หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามฉันไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคิดเช่นไร เพราะต่อให้ฉันอยากจะประนีประยอมแต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจะประนีประนอมด้วย มันก็ไม่มีอะไรที่ฉันทำได้
ดังนั้น ฉันคิดว่ามันไม่ผิดที่จะเลือกในสิ่งที่ให้ผลที่ดีกว่า (สู้ต่อหรือประนีประนอม) เพราะถ้าหากพวกเราคิดถึงคนที่น่าจะเสียความรู้สึกมากที่สุดจากเหตุการณ์นี้ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นฉัน ฉันเป็น ENTP ฉันอยากจะพูดเรื่องที่ผิดและเรื่องที่ถูกเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ฉันอยากจะพูดถึงทุก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉันไม่ทำแบบนั้น ฉันตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น และฉันจะไม่ทำเช่นนั้น เพราะฉันอยากที่จะคิดถึงทางที่ดีที่สุดสำหรับทุก ๆ คน
สรุปสิ่งที่ได้จากการติดตาม
มินฮีจินพยายามจะบอกว่า ไม่ใช่แค่ศิลปินที่ถูก Mention จากนักข่าว Yonhap NewJeans รวมถึงตัวเธอเองก็ถูกคุกคามเช่นกัน ฉันเองก็เจ็บเป็นเหมือนกัน ดังนั้นคงเป็นการดีที่เราจะไม่ Mention ใครอื่นอีกต่อไป ถ้าพวกนักข่าวไม่อยากไปทำร้ายใครก็อย่าไปพูดถึงคนอื่นเลย และวิธีการเยียวยาที่ดีที่สุดคือการประนีประนอมกัน
ส่วน Hate Speech ที่กล่าวหาว่านางพูดว่าฉันเป็น ENTP ไม่ได้เกี่ยวกับ เรื่องของ LSF ILLIT BTS เลยครับ ที่นางพูดคือเรื่องที่นักข่าวถามว่าคุณจะรอได้นานแค่ไหนเรื่องของการประนีประนอม นางจึงตอบไปดังด้านบนครับว่าไม่มี Deadline จะมีหรือไม่มีนางก็ต้องเตรียมตัวสู้คดีอยู่ดี สิ่งที่นางพูดคือโจมตีว่า คุณจะเลิกจ้างฉันเพียงแค่เพราะคุณเสียความรู้สึกหรอ ฉันเองก็รู้สึกแย่กับ HYBE เหมือนกัน และคนที่น่าจะเสียความรู้มากกว่าคือฉัน (มากกว่า HYBE) ฉันเป็นพวก ENTP ฉันอยากจะบ่น ฉันอยากจะระบายออกไป แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ
สรุปสิ่งที่คนนำไปบิดเบือน
- มินฮีจินไม่ขอโทษ อันนี้จริง แต่ดูไม่ได้อยาก Mention ถึงแล้วนะอย่างน้อยมีพัฒนาการ (เข้าใจว่าหลังบ้านคงไปขอโทษ Aespa หรือเปล่าถึงได้มี Challenge ส่วนวงอื่นสุดท้ายมันคือผู้จัดการคุยกัน คนไม่ถูกกันคงไม่ขอโทษหรอกครับ ใครจะยังเกลียดต่อเชิญครับตรงนี้เรื่องของคุณเลยผมเฉย ๆ เพราะคิดว่าถ้าขอโทษออกสื่อน่าจะเป็นผลเสียในชั้นศาล เคยดูหนังมั้ยที่พระเอกนางเอกโลกสวยขอโทษแม้จะไม่ผิดกฎหมายแล้วโดนตัวร้ายเอาไปใช้ในชั้นศาลอะ)
- ฉันและ NewJeans เจ็บปวดกว่า อันนี้มั่ว ผมเคยเห็นผ่าน ๆ ว่ามีคนคิดว่านางพูดแบบนี้ จริง ๆ คือนางบอกว่าทุก ๆ คนเจ็บหมด บริบทคืออยากให้เลิกพูดถึงคนอื่นได้แล้วไม่ใช่มาแข่งว่าใครเจ็บกว่าใคร
- ฉันเจ็บที่สุดเพราะฉันเป็น ENTP อันนี้หลุดโลกไปเลย นางตอบว่านางเสียความรู้สึกมากกว่า HYBE ไม่ได้บอกว่านางเจ็บกว่าวงไหนหรืออะไรเลย
ท้ายที่สุดผมเชื่อมั่นในสมาชิก NewJeans ครับ เด็ก ๆ สนับสนุนใครผมสนับสนุนตามแน่ ๆ เพราะผมเห็นแล้วว่าความผิดพลาดที่นางก่อมันเกิดไปแล้ว (ถ้าพวกคุณบอกว่าการ Mention= ผิด) แต่นางดูมีความพยายามเลิกทำผิดอีก (เลิก Mention แล้วนะหลายรอบละด้วยที่ออกมาพูดไม่พูดถึงใครเลย) อย่างน้อยสำนึกผิดก็ยังดี