หัวข้อ เกสปุตติสูตร
Part 1.
(ข้อสังเกตุ ธรรมส่วนนี้เป็นอะกาลิโก ยังร่วมสมัยไม่จำกัดกาล)
พวกของกษัตริย์เมืองเกสปุตติ นามว่าพวกกาลามะ รู้สึกสับสนอลหม่าน
ที่มีพราห์ม 2 พวก กล่าวธรรม มีวาทะโต้เถียงดุเดือด กระทบกระทั่ง ข่มวาทะกันและกัน
พวกกลุ่มกษัตรย์ที่มีนามกาลามะ มีความหนักใจ เคลือบแคลง สงสัยลังเล
ใครจริง ใครเท็จ ใครเป็นธรรมวาที อธรรมวาที
พระพุทธองค์เมื่อได้ฟังดังนั้น ก็กล่าวว่า ก็สมควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเกิดวิจิกิจฉา
มาเถิดท่านทั้งหลาย
อย่าเชื่อเพราะนั่นคือตำราและคัมภีร์ อย่าเชื่อเพราะเล่าสืบต่อกันมา อย่าเชื่อเพราะ
อย่าเชื่อเพราะฟังตามกันมา อย่าเชื่อเพราะใช้ตรรกะอนุมาน อย่าเชื่อเพราะครูคนนี้สอนเรามา
Part 2.
เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายรู้ด้วยตัวเองว่า ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล ธรรมเหล่าใดเป็นอกุศล มีโทษ
วิญญูชนติเตียน เป็นเหตุให้รถทัวร์ลง (พี่หนุ่มกรรชัยต้องเข้า) เพื่อนร่วมงานนินทา เป็นทุกข์
ธรรมเหล่านี้คือเป็นคุณแล้วหรือ เกื้อกูลชีวิตแล้วหรือ?
เมื่อใดฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ทุจริต หื่นกาม โกหก ชักชวนกันไปในทางเสื่อม
เป็นกุศล หรือ อกุศล ? ผู้คนสรรเสริญหรือรังเกียจนินนทา ? เป็นโทษหรือเป็นคุณ?
เพราะมีโลภะ โทสะ โมหะ กลุ้มรุม
ธรรมเหล่านี้แหละ ที่ท่านไม่ต้องเชื่อใคร รู้ได้เฉพาะตน
Part 3.
(พึ่งตนพึ่งธรรม)
มาเถิด พวกท่านชาวกาลามะ
เพราะผู้นี้ไม่มีโลภะ โทสะ โมหะ กลุ้มรุม
ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ก่อการทุจริต ไม่ผิดศีลกาเมสุมิจฉาจารา ไม่พูดเท็จ ชักชวนกันไปในทางเจริญ
ธรรมเหล่าใดเป็นกุศล ไม่มีโทษ ชีวิตเจริญ มีแต่คนสรรเสริญ วิญญูชนติเตียนไม่ได้
ธรรมเหล่านี้แหละ ที่ท่านไม่ต้องเชื่อใคร รู้ได้เฉพาะตน กำจัดซึ่งความลังเลสงสัย
Part 4.
เมื่อพึ่งตน พึ่งธรรม ไม่มีอภิชชา และ โทมนัส มีสัมปชัญญะ มีสติ แผ่เมตตาไปตลอดทิศที่ 1,2,3,4
ไม่มีประมาณ เป็นอัปปมัญญา เป็นมหัคคตะ (เพราะติดแล้วข้องแล้ว ไม่รู้ซึ่งอริยะสัจทั้ง ๔)
ไม่มีขอบเขต ไม่มีเวร ไม่มีเบียดเบียน ไม่เศร้าหมอง
จึงมีความอุ่นใจ 4 ประการ อุ่นใจในคติสัมปรายะ ๑ อุ่นใจในทิฏฐธรรม ๑
คนอื่นทำบาปแต่เราไม่ทำบาปก็เกิดความอุ่นใจ ๑ คนอื่นทำกุศลเราก็ทำกุศลตนก็บริสุทธิจึงอุ่นใจ ๑
______________________________________________
ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายผู้มีกิเลสดุจธุลีน้อยด้วยปัญญาจักขุ
ผู้มีกิเลสดุจธุลีมากด้วยปัญญาจักขุ
มีอินทรีย์แก่กล้า มีอินทรีย์อ่อน
ผู้ที่แนะนำให้รู้ได้ง่าย ผู้ที่แนะนำให้รู้ได้ยาก
บางพวกเป็นผู้เห็นโทษและภัยในปรโลกอยู่ก็มี
สอดคล้องกับหลัก
การไม่ทำบาปทั้งปวง
การทำกุศลให้ถึงพร้อม,
การชำระจิตของตนให้ขาวรอบ,
ธรรม ๓ อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง
กุสะลัสสูปะสัมปะทา
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง
เอตัง พุทธานะสาสะนัง
ทำสรุป เกสปุตติสูตร (กาลามสูตร)
Part 1.
(ข้อสังเกตุ ธรรมส่วนนี้เป็นอะกาลิโก ยังร่วมสมัยไม่จำกัดกาล)
ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายผู้มีกิเลสดุจธุลีน้อยด้วยปัญญาจักขุ
ผู้มีกิเลสดุจธุลีมากด้วยปัญญาจักขุ
มีอินทรีย์แก่กล้า มีอินทรีย์อ่อน
ผู้ที่แนะนำให้รู้ได้ง่าย ผู้ที่แนะนำให้รู้ได้ยาก
บางพวกเป็นผู้เห็นโทษและภัยในปรโลกอยู่ก็มี