JJNY : กินรวบ! นันทนา หนักใจสว.สีน้ำเงิน│“กัณวีร์” จี้แก้ปัญหาศูนย์การเรียน│หุ้นเปิดตลาดร่วง│เวียดนามอ่วม! ยางิดับ 14

กินรวบ! นันทนา หนักใจสว.สีน้ำเงินจ่อยึดเก้าอี้ประธานกมธ. หวั่นเป็นสภาอำนาจนิยม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9403288

นันทนา สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ หนักใจถูกกินรวบเก้าอี้ประธานกมธ.ทั้ง 21 คณะ หวั่นภาพการทำงานของวุฒิสภา จะกลายเป็นสภาอำนาจนิยมหรือไม่
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 ก.ย.2567 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงปัญหาการเลือกประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 
สามัญ 21 คณะ ของวุฒิสภาว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ จากกลุ่มใหญ่ ต้องจับตาดูจะจัดสรรให้เป็นไปตามสัดส่วนสว.ที่เข้ามาตามกลุ่มอาชีพ หรือป็นการกินรวบอยู่ฝ่ายเดียว
 
หากเป็นกระบวนการจัดตั้งจะมีผลระยะยาวอย่างมาก จะได้เห็นการขับเคลื่อนวาระที่ไม่ใช่ของประชาชน แต่เป็นวาระของกลุ่มสนับสนุนให้กลุ่มคนจำนวนนั้นเข้ามาในสภา ทำให้การขับเคลื่อนปัญหา การริเริ่มพัฒนาอะไรต่างๆไม่เป็นตามที่ควรเป็น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์
 
กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ได้เสนอตัวแทนเป็นประธาน กมธ.บ้างแล้ว เพราะบุคลากรมีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพตรง แต่ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่การทำหน้าที่ของกมธ.เป็นการทำงานเชิงรุก หากทั้ง 21 คณะ มีประธานกมธ.เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด จะไม่เห็นการนำปัญหาประชาชนมาสะท้อนของกลุ่มอาชีพต่างๆ
 
เท่าที่ดูจำนวนเสียงส่วนใหญ่ น่าหนักใจมากที่จะไม่ได้ประธานกมธ.ของกลุ่มเสียงข้างน้อยเลย จึงอยากให้สัดส่วนเสียงข้างมากพิจารณาว่า การทำงานตลอด 5 ปี ถ้าประธานกมธ.ใน 21 คณะ ไม่มีสัดส่วนของสว.อิสระ ภาพการทำงานจะกลายเป็นสภาอำนาจนิยมหรือไม่” น.ส.นันทนา กล่าว
 

 
“กัณวีร์” จี้แก้ปัญหาศูนย์การเรียน เด็กเคลื่อนย้ายถิ่น
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_772636/

“กัณวีร์” จี้แก้ปัญหาศูนย์การเรียน เด็กเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากประเทศเมียนมา ไล่ปิดศุนย์ ไม่เกิดประโยชน์
 
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงเหตุการณ์การปิดศูนย์การเรียนมิตตาเย๊ะ บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ฯ ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานงานจัดการศึกษาให้เด็กเคลื่อนย้ายถิ่นฐานจากประเทศเมียนมาใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีเด็กมากกว่าพันคน แต่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ไม่ได้จดทะเบียนเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามมาตรา 12 แห่ง พรบ.การศึกษาแห่งชาตินั้นกำลังถูกพูดถึงในแวดวงการศึกษา วงกฎหมาย คนทำงานด้านสิทธิมนุษยชน มนุษยธรรม และสังคมในวงกว้างโดยทั่วไป 
 
นายกัณวีร์ กล่าวว่า กรณีนี้มีความคิดแตกต่างหลากหลาย หากมองในมุมกฎหมายแล้ว ถ้าไม่จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่ ต้องมีความผิดและ มีโทษปิด ปรับ ดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทุกคน”แต่หากมองมุมกว้างๆ ขอให้ทุกคนเปิดใจในเรื่องดังกล่าวจากเหตุการณ์การ “ร้องเพลงชาติพม่า” กันก่อนนะครับ มองให้ดีครับ ตามข่าวที่ออกมา มีศูนย์การศึกษาอย่างนี้ที่ดูแลเด็กๆ ซึ่งเป็นลูกๆ
 
ของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยจากเมียนมาทั้งหมด 63 แห่งทั่วไทย ที่ดูแลเด็กๆ ทั้งหมดเกือบสองหมื่นคน และยังมีอีกส่วนมากที่ยังไม่ได้เข้าระบบ และในขณะเดียวกันระบบการศึกษาของไทยก็ไม่สามารถโอบรัดเด็กจำนวนหลายหมื่นคนที่ยังมีพื้นฐานที่แตกต่างกับเด็กไทยเข้าระบบด้วยเช่นกัน”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีเด็กที่เป็นลูกของแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยจากเมียนมา ที่เรียนอยู่ในศูนย์การเรียนรู้ 63 แห่ง มีจำนวนกว่า 2 หมื่นคน หากเจ้าหน้าที่ตามไล่ปิด แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ตนเองจึงขอตั้งคำถามว่ายิ่งปิด จะยิ่งหายไปหรือไม่ ปิดแล้วใครได้ประโยชน์ เด็กประมาณ 2 หมื่นคน หรือสังคมไทยจะได้ประโยชน์อะไร ปิดแล้วหากเด็กๆ สองหมื่นคนนี้เดินทางกลับประเทศต้นกำเนิดไม่ได้ สามารถเข้าสถานศึกษาในไทยได้มั้ย
 
หากเข้าไม่ได้ เค้าจะเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพอย่างไร แล้วหากต้องอยู่ในไทยอีกหลายสิบปีหรือตลอดไป และไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ เค้าจะเป็นอะไรในสังคมไทย จะส่งผลที่ดีต่อสังคมไทยหรือไม่ หากพวกเค้ายังไง ก็ต้องอยู่ในสังคมไทย เอาเค้าเข้ามาเป็นประชากรที่มีคุณภาพของไทยดีกว่าหรือไม่
 
เราต้องเริ่มตอบคำถามทีละคำถามด้วยใจที่เปิดกว้างครับ แล้วเราจะเห็นคำตอบที่ปลายทางด้วยตัวคำตอบในแต่ละคำถามมันเอง โดยปราศจากอคติใดๆ ครับ ต้องถือโอกาสนี้ในการจัดระบบศูนย์การศึกษาต่างๆเหล่านี้ทั้งระบบไปเลยครับ หากเค้าไปไหนไม่ได้ ทำให้ถูกต้องเข้าระบบ ตรวจสอบ และสนับสนุนตามนโยบายการศึกษาของเรา ผู้ปกครองพวกเค้าที่เป็นแรงงานข้ามชาติต้องนำบุตรเข้าระบบอย่างถูกต้องและต้องไม่เป็นภาระให้ใครอีกต่อไป ยืนด้วยขาตัวเอง
 
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เหมือนหลายๆ เรื่องที่มีอยู่ในไทยมาอย่างยาวนานแต่เราเอามาอยู่ใต้พรมตลอดเวลาเป็นหลายทศวรรษ ทำให้เกิดการกวาดล้างเป็นเทศกาล แต่ไม่เคยหายไปอย่างมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มเปราะบางที่ควรจะมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ที่มีประสิทธิภาพและสร้างประสิทธิผลได้มากกว่านี้ และพวกเค้าจะกลับมาช่วยพัฒนาสังคมที่พวกเค้าเข้ามาอยู่อย่างสร้างสรรค์
 
ตามที่ผมได้พูดไว้เสมอครับ “เปลี่ยนภาระ ให้เป็นพลัง” จะตามเรื่องนี้ให้ติดอีกเรื่องหนึ่งครับ ถึงแม้จะมีเสียงเดียวในสภาฯ แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ครับผม” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ



หุ้นเปิดตลาดร่วง 8.37 จุด หลังบวกแรง 2 วันติด เหตุตลาดกังวลศก.สหรัฐถดถอยมากกว่าเดิม
https://www.matichon.co.th/economy/news_4780544

หุ้นเปิดตลาดร่วง 8.37 จุด หลังบวกแรง 2 วันติด เหตุตลาดกังวลศก.สหรัฐถดถอยมากกว่าเดิม
 
วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,427.64 จุด เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,419.27 จุด ปรับลดลง 8.37 จุด หรือลบ 0.59% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,438.31 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,417.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 31,715.01 ล้านบาท

โดยนายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ทิศทางตลาดหุ้นไทย ปัจจัยบวกภายในประเทศยังมีน้ำหนักมากอยู่ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (6 กันยายน) ดัชนีแรลลี่ 1.66% (แข็งแกร่งตามคาด และเด่นกว่าหุ้นโลกอย่างชัดเจน) หนุนโดยปัจจัยในประเทศ ได้แก่ การเตรียมขายกองทุนวายุภักษ์ สัปดาห์หน้า ผนวกกับมาตรการแจกเงินของรัฐบาลที่กำลังจะออกมา หนุนความมั่นใจต่อเศรษฐกิจไทยและหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ
 
นายรักพงศ์ กล่าวว่า สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับลงค่อนข้างแรงเมื่อคืนวันศุกร์ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา บวก 1.42 แสนคน ต่ำกว่า consensus คาด และตัวเลขเดือนกรกฎาคม ถูกปรับลดลงจากเดิม เพิ่มความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐมากขึ้น ด้านเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ให้น้ำหนักเฟดลดดอกเบี้ย 1.25% ในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือของปี 2567 (ฝ่ายวิจัยฯ มองเฟดลด 1.00% ในช่วงที่เหลือของปีนี้) หุ้นแถวสอง (ที่ยังขึ้นไม่แรง และแวลูเอชั่นน่าสนใจ) น่าจะยังปรับขึ้นรับเม็ดเงินที่เข้าสู่หุ้นไทยชัดเจนมากขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งปัจจัยภายในยังหนุนตลาดได้อยู่ แต่อาจมีการตอบรับความกังวลเชิงลบสะท้อนจากดัชนีออกมาได้.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่