กระแสตลาดลักชัวรีแบรนด์ หรือ "สินค้าหรูหรา" ในประเทศไทยยังคงเติบโตร้อนแรง
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดผลวิจัย “เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” พบว่ามนุษย์เงินเดือนผู้ชายติดหรูมากกว่าผู้หญิง โดย 4 แบรนด์สุดโปรดของชาวลักซ์ ได้แก่ Apple, Starbucks, Louis Vuitton และ Dior ขณะที่ Gen X ติดลักซ์มากที่สุด
โดยสาเหตุที่ทำให้คนไทยติดหรูนั้น เพราะต้องการการยอมรับ อยากแสดงสถานะทางสังคม และอยากโดดเด่น แตกต่าง ซึ่งได้มีนิยามพฤติกรรมคนติดหรู 5 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ หรูลูกคุณ, หรูได้มีสติด้วย, หรูเจียมตัว, หรูเขียม และ หรูปริ่มน้ำ
ผศ.ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวในงานสัมมนา “Unstoppable Luxumer เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” ว่า ปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสนใจสินค้าหรูหรา ราคาแพง และบริการระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้น
ปรากฏการณ์การบริโภคแบบ “ติดหรู ดู luxurious” เกิดเป็นเทรนด์ทางการตลาดที่น่าสนใจ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ผู้คนก็ยังจะพยายามหารางวัลให้กับชีวิต และตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
โดย “ความลักซ์” ไม่ได้อยู่แค่ในสินค้าแบรนด์เนมเท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ในสินค้าหมวดหมู่ต่างๆ ตั้งแต่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี กลุ่มของสะสมต่างๆ เช่น Pop Mart ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้
"
ผู้คนต่างยอมจ่ายในราคาสูงเกินความเป็นจริง เพื่อให้ได้มาครอบครอง เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ ความสุข ความสำเร็จ และการเป็นที่ยอมรับ ส่งผลให้ตลาดสินค้าหรูในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว"
ทั้งนี้ กลยุทธ์การตลาด และการโฆษณาผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย นับว่ามีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้า และบริการระดับพรีเมียมเหล่านี้
จากกระแสดังกล่าวทำให้เกิดเทรนด์ผู้บริโภคที่เรียกว่า “LUXUMER” ซึ่งมาจากคำว่า “Luxury” และ “Consumer” ซึ่งหมายถึง กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบ และให้ความสำคัญกับสินค้า หรือบริการระดับพรีเมียมที่เน้นความหรูหราเป็นพิเศษ อาจเป็นได้ทั้งการบริโภคสินค้าหรู เช่น เสื้อผ้าหรือกระเป๋าแบรนด์เนม การเดินทางท่องเที่ยวด้วยสายการบินระดับ Business Class หรือที่พักระดับ 5 ดาว รวมถึง ไลฟ์สไตล์การบริโภคอาหาร และเครื่องดื่มที่มีราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ในหมวดผลิตภัณฑ์เดียวกัน
"
LUXUMER เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการ และนักการตลาดควรจับตาเป็นพิเศษ! เพราะหากสามารถสร้างสินค้า หรือบริการที่ LUXUMER พึงพอใจ ประทับใจได้ ก็จะกลายเป็นโอกาสทองของธุรกิจทันที เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มักให้คุณค่า และความสำคัญกับการบริโภคสิ่งของเพื่อภาพลักษณ์ และความสุขมากกว่าคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยหลัก"
ผลการสำรวจพบว่า 1ใน3 ของกลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรม “ติดลักซ์”
- 31% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมาก
- 6% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมากที่สุด
- ผู้ชายมีความติดลักซ์มากกว่าผู้หญิง
- ประเภทสินค้าที่ผู้ชายติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด ได้แก่ อุปกรณ์เทคโนโลยี
- ประเภทสินค้าที่ผู้หญิงติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด ได้แก่ อาหาร และเครื่องดื่ม
แบรนด์ที่ผู้ชายติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- Apple (กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี)
- Louis Vuitton (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)
- Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)
แบรนด์ที่ผู้หญิงติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)
- Dior (กลุ่มเครื่องสำอาง/น้ำหอม/สกินแคร์)
- Dior (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)
หากแบ่งตามกลุ่มเจนเนอเรชั่น พบว่า
- ประเภทสินค้าที่คนติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุดใน Gen Z, Gen Y และ Baby Boomer คือ กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม
- Gen X นิยมซื้อเครื่องแต่งกาย และแฟชั่นมากที่สุด
- Gen X สนใจในสินค้าหรูหรามากที่สุดเมื่อเทียบกับเจนอื่นๆ ตามมาด้วย Gen Z, Gen Y และ Baby Boomer ตามลำดับ
เปิด 5 นิยามชาวลักซ์
- “หรูลูกคุณ” พบ 2% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูได้แบบ ไม่จำกัด มีเงินออมสูง เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย สามารถใช้จ่ายสินค้าหรูหราได้อย่างไม่ต้องกังวล
- “หรูได้มีสติด้วย” พบ6%เป็นกลุ่มที่มองหาความคุ้มค่าในการบริโภคสินค้าหรู มีรายได้สูง และเงินออมมากกว่า5ปี แม้จะมีกำลังซื้อสูงแต่ก็ไม่ตัดสินใจซื้อแบบทันทีแต่จะพิจารณาความคุ้มค่า เช่น การมองหาโปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสูงสุด
- “หรูเจียมตัว” พบ24%เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นครั้งคราว มีรายได้ และเงินออมปานกลาง ก่อนตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจะต้องวางแผนทางการเงิน และพิจารณาอย่างรอบคอบ
- “หรูเขียม” พบ28%เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูแบบจำกัด มีรายได้ และเงินออมไม่สูง แต่จะวางแผนประหยัดอดออมเพื่อให้ได้สินค้าหรูมาครอบครอง โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มักจะให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม โดยเป็นการบริโภคเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง และกลุ่มสุดท้าย
- “หรูปริ่มน้ำ” พบมากที่สุดถึง40%ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นชีวิตจิตใจ ชอบซื้อสินค้าที่อยู่ในกระแส มีรายได้ และเงินออมไม่สูงมากนัก แต่ชอบใช้จ่ายแบบไม่ค่อยยั้งคิด
ที่มา : bangkokbiznews
คนไทย 40% ‘หรูปริ่มน้ำ’ จ่ายไม่ยั้งคิด สวนทางรายได้-เงินออม
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดผลวิจัย “เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” พบว่ามนุษย์เงินเดือนผู้ชายติดหรูมากกว่าผู้หญิง โดย 4 แบรนด์สุดโปรดของชาวลักซ์ ได้แก่ Apple, Starbucks, Louis Vuitton และ Dior ขณะที่ Gen X ติดลักซ์มากที่สุด
ผศ.ดร.บุญยิ่ง คงอาชาภัทร หัวหน้าสาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวในงานสัมมนา “Unstoppable Luxumer เจาะอินไซต์ หยุดไม่ได้ใจมันลักซ์” ว่า ปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสนใจสินค้าหรูหรา ราคาแพง และบริการระดับพรีเมียมเพิ่มขึ้น
ปรากฏการณ์การบริโภคแบบ “ติดหรู ดู luxurious” เกิดเป็นเทรนด์ทางการตลาดที่น่าสนใจ แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ผู้คนก็ยังจะพยายามหารางวัลให้กับชีวิต และตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
โดย “ความลักซ์” ไม่ได้อยู่แค่ในสินค้าแบรนด์เนมเท่านั้น แต่ยังแฝงอยู่ในสินค้าหมวดหมู่ต่างๆ ตั้งแต่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องสำอาง สกินแคร์ กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี กลุ่มของสะสมต่างๆ เช่น Pop Mart ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้
"ผู้คนต่างยอมจ่ายในราคาสูงเกินความเป็นจริง เพื่อให้ได้มาครอบครอง เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ ความสุข ความสำเร็จ และการเป็นที่ยอมรับ ส่งผลให้ตลาดสินค้าหรูในไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว"
ทั้งนี้ กลยุทธ์การตลาด และการโฆษณาผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย นับว่ามีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้า และบริการระดับพรีเมียมเหล่านี้
"LUXUMER เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการ และนักการตลาดควรจับตาเป็นพิเศษ! เพราะหากสามารถสร้างสินค้า หรือบริการที่ LUXUMER พึงพอใจ ประทับใจได้ ก็จะกลายเป็นโอกาสทองของธุรกิจทันที เพราะผู้บริโภคกลุ่มนี้มักให้คุณค่า และความสำคัญกับการบริโภคสิ่งของเพื่อภาพลักษณ์ และความสุขมากกว่าคนทั่วไป โดยส่วนใหญ่ไม่ได้คำนึงถึงราคาเป็นปัจจัยหลัก"
ผลการสำรวจพบว่า 1ใน3 ของกลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรม “ติดลักซ์”
- 31% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมาก
- 6% มีความติดลักซ์อยู่ในระดับมากที่สุด
- ผู้ชายมีความติดลักซ์มากกว่าผู้หญิง
- ประเภทสินค้าที่ผู้ชายติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด ได้แก่ อุปกรณ์เทคโนโลยี
- ประเภทสินค้าที่ผู้หญิงติดลักซ์ซื้อบ่อยที่สุด ได้แก่ อาหาร และเครื่องดื่ม
แบรนด์ที่ผู้ชายติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- Apple (กลุ่มอุปกรณ์เทคโนโลยี)
- Louis Vuitton (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)
- Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)
แบรนด์ที่ผู้หญิงติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่
- Starbucks (กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม)
- Dior (กลุ่มเครื่องสำอาง/น้ำหอม/สกินแคร์)
- Dior (กลุ่มเครื่องแต่งกาย และแฟชั่น)
หากแบ่งตามกลุ่มเจนเนอเรชั่น พบว่า
- ประเภทสินค้าที่คนติดลักซ์นิยมซื้อมากที่สุดใน Gen Z, Gen Y และ Baby Boomer คือ กลุ่มอาหาร และเครื่องดื่ม
- Gen X นิยมซื้อเครื่องแต่งกาย และแฟชั่นมากที่สุด
- Gen X สนใจในสินค้าหรูหรามากที่สุดเมื่อเทียบกับเจนอื่นๆ ตามมาด้วย Gen Z, Gen Y และ Baby Boomer ตามลำดับ
- “หรูได้มีสติด้วย” พบ6%เป็นกลุ่มที่มองหาความคุ้มค่าในการบริโภคสินค้าหรู มีรายได้สูง และเงินออมมากกว่า5ปี แม้จะมีกำลังซื้อสูงแต่ก็ไม่ตัดสินใจซื้อแบบทันทีแต่จะพิจารณาความคุ้มค่า เช่น การมองหาโปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับสูงสุด
- “หรูเจียมตัว” พบ24%เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นครั้งคราว มีรายได้ และเงินออมปานกลาง ก่อนตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งจะต้องวางแผนทางการเงิน และพิจารณาอย่างรอบคอบ
- “หรูเขียม” พบ28%เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูแบบจำกัด มีรายได้ และเงินออมไม่สูง แต่จะวางแผนประหยัดอดออมเพื่อให้ได้สินค้าหรูมาครอบครอง โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มักจะให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่ม โดยเป็นการบริโภคเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง และกลุ่มสุดท้าย
- “หรูปริ่มน้ำ” พบมากที่สุดถึง40%ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการบริโภคสินค้าหรูเป็นชีวิตจิตใจ ชอบซื้อสินค้าที่อยู่ในกระแส มีรายได้ และเงินออมไม่สูงมากนัก แต่ชอบใช้จ่ายแบบไม่ค่อยยั้งคิด
ที่มา : bangkokbiznews