คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
1.คุณมีสถานะค้างชำระเกิน 30 วัน 60 วัน 90 วัน และ 120 วันก่อนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อยู่แล้ว ถ้าใช้คำว่าติดเครดิตบูโร นั่นคือคุณติดเครดิตบูโรมาตั้งแต่วันที่ค้างชำระ 30 วัน สถานะคุณได้เปลี่ยนไปแล้วคุณกู้เงินเพิ่มไม่ได้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว
2.การปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ คือการปิดสัญญาเก่า แล้วเอาวงเงินมาตั้งใหม่ด้วยดอกเบี้ยใหม่ (โดยปกติดอกเบี้ยจะลดลงเพื่อรั้งให้ลูกค้าผ่อนต่อ ธนาคารไม่อยากฟ้องยึดบ้าน) เมื่อคุณชำระเงินตามปกติในรายงานเครดิตบูโรสถานะบัญชีคุณจะกลับมาเป็นสถานะ 10 คือชำระปกติ แต่มันจะมีข้อมูลวันที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แสดงด้านบนของเอกสารไว้ให้ธนาคารอื่นพิจารณาเวลาให้สินเชื่อใหม่
3.อัตราดอกเบี้ยไม่มีทางโดนเป็น 100 เท่าได้ ดอกเบี้ยบ้านหรือสินเชื่อบุคคลเป็นแบบลดต้นลดดอก ชำระช่วงแรก ดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น และเมื่อชำระงวดท้ายๆ เงินต้นจะถูกตัดมากกว่าดอกเบี้ย จนครบสัญญา ถ้าทำสัญญาไว้ 10 ปีก็จบ 10 ปีตามสัญญาไม่มีเกินกว่านั้นคุณสามารถดูได้จากตารางการผ่อนชำระในสัญญา และคุณไม่มีทางผ่อนถึง 100 ปีตามที่เขียนมาได้อย่างแน่นอน
4. 3ปีหลังจากการปิดบัญชีสินเชื่อนี้ไป 3ปีข้อมูลเครดิตหายไป แต่ในความเป็นจริงธนาคารจะพิจารณาจาก Credit Scoring ภาระหนี้คงเหลือ และประวัติการผ่อนชำระในช่วง 1-3ปี (ขึ้นอยู่กับธนาคาร) ในหลายๆกรณีไม่ต้องรอจนภาระหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้หมดก็สามารถขอสินเชื่อได้เมื่อเราชำระหนี้ตามกำหนดหลังปรับโครงสร้างหนี้มาแล้ว 2-3 ปี ธนาคารก็ดูในช่วง 1-3 ปีเพียง Credit scoring คุณมากกว่า DD หรือ CC คุณมีรายได้สูง ภาระหนี้ต่ำก็มีโอกาสได้รับสินเชื่อจากธนาคาร(อื่น)ตามปกติ
5.พนักงานธนาคารชื่อเบญญาภา ก็เป็นเพียงพนักงานฝ่ายติดตามทวงถาม ส่วนของ Retention เสนอ Package ทางเลือก เพื่อให้ลูกค้ากลับมาผ่อนชำระ ไม่ต้องเสียค่าจ้างฟ้องหรือต้องขายหนี้ไป ทั้งนี้การปรับโครงสร้างหนี้อาจดูเหมือนเลวร้าย แต่มันก็คือการรับผิดชอบต่อหนี้ที่เราสร้างมา ก็ต้องคืนธนาคารไป ซึ่ง Option ที่ธนาคารเสนอก็เป็นสิ่งที่คุณรับได้ในวันที่ทำ DR ดังนั้นคุณไม่ต้องตามหาพนักงาน เธอเป็นเพียง Outsource ของธนาคารเท่านั้นเอง
6.คุณสามารถฟ้องธนาคารได้แ่นอน แต่จะไม่เป็นข่าวหน้า 1 และคุณจะแพ้ทีมทนายของธนาคารซึ่งมีหลักฐานการยอมรับสัญญาการทำ DR แล้วคุณก็ยังได้ผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่งแล้วมันก็คือการยอมรับสัญญานั้น
7.การขอสินเชื่อรถยนต์มือสองคุณลองดู Option ดาวน์สูงหน่อย ไฟแนนซ์ก็น่าจะปล่อย แต่ถ้าไม่ปล่อยและรถจำเป็นต้องใช้ก็เป็นไฟแนนซ์ที่ไม่อยู่ในระบบเครดิตบูโร มีเยอะเลยดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารแต่ถ้ามันจำเป็นก็ต้องกู้แหละ
ผมไม่ใช่พนักงานธนาคาร ทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่ในสถานะปรับโครงสร้างหนี้อยู่จากช่วง COVID-19 และสามารถขอสินเชื่อใหม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนคนที่ผ่อนชำระดีสถานะบัญชีปกติ
2.การปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ คือการปิดสัญญาเก่า แล้วเอาวงเงินมาตั้งใหม่ด้วยดอกเบี้ยใหม่ (โดยปกติดอกเบี้ยจะลดลงเพื่อรั้งให้ลูกค้าผ่อนต่อ ธนาคารไม่อยากฟ้องยึดบ้าน) เมื่อคุณชำระเงินตามปกติในรายงานเครดิตบูโรสถานะบัญชีคุณจะกลับมาเป็นสถานะ 10 คือชำระปกติ แต่มันจะมีข้อมูลวันที่ปรับปรุงโครงสร้างหนี้แสดงด้านบนของเอกสารไว้ให้ธนาคารอื่นพิจารณาเวลาให้สินเชื่อใหม่
3.อัตราดอกเบี้ยไม่มีทางโดนเป็น 100 เท่าได้ ดอกเบี้ยบ้านหรือสินเชื่อบุคคลเป็นแบบลดต้นลดดอก ชำระช่วงแรก ดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น และเมื่อชำระงวดท้ายๆ เงินต้นจะถูกตัดมากกว่าดอกเบี้ย จนครบสัญญา ถ้าทำสัญญาไว้ 10 ปีก็จบ 10 ปีตามสัญญาไม่มีเกินกว่านั้นคุณสามารถดูได้จากตารางการผ่อนชำระในสัญญา และคุณไม่มีทางผ่อนถึง 100 ปีตามที่เขียนมาได้อย่างแน่นอน
4. 3ปีหลังจากการปิดบัญชีสินเชื่อนี้ไป 3ปีข้อมูลเครดิตหายไป แต่ในความเป็นจริงธนาคารจะพิจารณาจาก Credit Scoring ภาระหนี้คงเหลือ และประวัติการผ่อนชำระในช่วง 1-3ปี (ขึ้นอยู่กับธนาคาร) ในหลายๆกรณีไม่ต้องรอจนภาระหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้หมดก็สามารถขอสินเชื่อได้เมื่อเราชำระหนี้ตามกำหนดหลังปรับโครงสร้างหนี้มาแล้ว 2-3 ปี ธนาคารก็ดูในช่วง 1-3 ปีเพียง Credit scoring คุณมากกว่า DD หรือ CC คุณมีรายได้สูง ภาระหนี้ต่ำก็มีโอกาสได้รับสินเชื่อจากธนาคาร(อื่น)ตามปกติ
5.พนักงานธนาคารชื่อเบญญาภา ก็เป็นเพียงพนักงานฝ่ายติดตามทวงถาม ส่วนของ Retention เสนอ Package ทางเลือก เพื่อให้ลูกค้ากลับมาผ่อนชำระ ไม่ต้องเสียค่าจ้างฟ้องหรือต้องขายหนี้ไป ทั้งนี้การปรับโครงสร้างหนี้อาจดูเหมือนเลวร้าย แต่มันก็คือการรับผิดชอบต่อหนี้ที่เราสร้างมา ก็ต้องคืนธนาคารไป ซึ่ง Option ที่ธนาคารเสนอก็เป็นสิ่งที่คุณรับได้ในวันที่ทำ DR ดังนั้นคุณไม่ต้องตามหาพนักงาน เธอเป็นเพียง Outsource ของธนาคารเท่านั้นเอง
6.คุณสามารถฟ้องธนาคารได้แ่นอน แต่จะไม่เป็นข่าวหน้า 1 และคุณจะแพ้ทีมทนายของธนาคารซึ่งมีหลักฐานการยอมรับสัญญาการทำ DR แล้วคุณก็ยังได้ผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่งแล้วมันก็คือการยอมรับสัญญานั้น
7.การขอสินเชื่อรถยนต์มือสองคุณลองดู Option ดาวน์สูงหน่อย ไฟแนนซ์ก็น่าจะปล่อย แต่ถ้าไม่ปล่อยและรถจำเป็นต้องใช้ก็เป็นไฟแนนซ์ที่ไม่อยู่ในระบบเครดิตบูโร มีเยอะเลยดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารแต่ถ้ามันจำเป็นก็ต้องกู้แหละ
ผมไม่ใช่พนักงานธนาคาร ทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่ในสถานะปรับโครงสร้างหนี้อยู่จากช่วง COVID-19 และสามารถขอสินเชื่อใหม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายเหมือนคนที่ผ่อนชำระดีสถานะบัญชีปกติ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
อนุญาตทราม ขำวะ ลูกหนี้ชั้นเลว ไม่มองว่าทั้งหมดที่เป็นอยู่ตอนนี้เกิดจากการกระทำของตัวเอง ไม่คิดบ้างว่าตอนนั้นไม่ปรับโครงสร้างหนี้ ยังไงก็หาเงินมาจ่ายให้สถานะการชำระหนี้กลับมาเป็นปกติได้ สุดท้ายธนาคารก็ต้องขายหนี้หรือฟ้องยึดทรัพย์มาจ่ายหนี้ แบบนั้นคงจะไม่มีบ้านให้อยู่อย่างตอนนี้ หรือจะดื้อด้านอยู่ในบ้านที่ถูกยึดแล้วแบบหลายๆ เคสที่เป็นข่าวก็ตามแต่นะ ไอ้ที่จะหาทนายไปฟ้องธนาคารตอนนี้นะ เลิกซะเถอะ ไปคิดหาเงินมาปิดหนี้ให้หมดจะดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 79
ตรรกะพวก loser ของแท้เลย ใครแนะนำอะไรก็เถียงหัวชนฝา
ถ้าเก่งมากทำไมไม่แก้ปัญหาเอง จะมาขอคำปรึกษาในนี้เพื่อ
อ่อและถ้าเก่งเหมือนปากคงจะมีปัญญาผ่อนบ้านให้ตรงทุกงวดแล้วแหละเนอะ
ผ่อนบ้านเกินกำหนดแค่เดือนเดียว มันก็ติดประวัติแล้วจ้าาาา นี่ตั้ง 4 เดือน จะมาเรียกร้องเอาอะไรจากเจ้าหนี้อ่ะ (ธนาคาร) ขำอ่ะ
ปสด.มากกกกกกก
เอาให้ชนะนะครับ เพราะเท่าที่อ่านจะเอาอะไรมาชนะธนาคารอ่ะ จะเอาให้เจ็บแสบ ดูละครมากไปป่าว 5555555
ถ้าเก่งมากทำไมไม่แก้ปัญหาเอง จะมาขอคำปรึกษาในนี้เพื่อ
อ่อและถ้าเก่งเหมือนปากคงจะมีปัญญาผ่อนบ้านให้ตรงทุกงวดแล้วแหละเนอะ
ผ่อนบ้านเกินกำหนดแค่เดือนเดียว มันก็ติดประวัติแล้วจ้าาาา นี่ตั้ง 4 เดือน จะมาเรียกร้องเอาอะไรจากเจ้าหนี้อ่ะ (ธนาคาร) ขำอ่ะ
ปสด.มากกกกกกก
เอาให้ชนะนะครับ เพราะเท่าที่อ่านจะเอาอะไรมาชนะธนาคารอ่ะ จะเอาให้เจ็บแสบ ดูละครมากไปป่าว 5555555
แสดงความคิดเห็น
การปรับโครงสร้างหนี้ที่ทำให้ผมเสียโอกาศดีๆ ไปตลอดชีวิต
อุทาหรณ์ ปรับโครงสร้างหนี้บ้าน ธนาคารทหารไทย เรื่องขอผมก็คือผมซื้อบ้านราคา 2.5 ล้านบาท แรกๆก็ผ่อนได้ไม่มีปัญหาอะไร ผ่อนไปได้ประมาณ9ปี พอดีผมป่วยไม่สามารถไปทำงานปรกติได้ ผมต้องทำงานที่บ้าน ผมทำงานออกแบบตกแต่งภายในครับ แต่พอผ่านไปงานก้ไม่ได้เข้ามาบ่อยๆ ผมจึงตัดสินใจเอาเงินที่เก็บไว้ไปทำธุรกิจ แต่ธุรกิจมันก็ไม่ค่อยดีนัก เลยทำให้ติดขัดไม่ได้ผ่อนบ้านเป็นบางเดือน และหยุดติดต่อกันบ้าง
มียอดค้างชำระประมาณ4เดือนมีเบี้ยปรับ ดอกเบี้ยก็ปรับเป็นลูกค้าชั้นเลว เลยเลิกธุรกิจ แต่ยอดค้างชำระบ้านก็ไม่ได้จ่ายจนครบทันยอดปัจจุบัน ผ่านไปหลายเดือน ก็ไม่มีหนังสือทวงถามจาก ธนาคาร จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมา ชื่อเบจญาภา พูดว่า คุณลูกค้าคะ เห็นประวัติลูกค้ามีผิดชาระหนี้ ละมียอดค้างชำระอยู่4เดือน และเห็นว่า เดือนหลังๆ มีการผ่อนเข้ามาบ้าง จึงจะขอเชิญชวนลูกค้า (ลงขุมนรก) ปรับโครงสร้างหนี้ จากนั้นก็เสนอร่ายขอดีมาเกือบ30นาที ตอนนี้เราก็กลัวว่าจะโดนธนาคารฟ้อง กับติดเครดิตบูโร เจ้าหน้าที่ก็บอกกับผมว่าจะปรับดอกเบี้ยค้างกับยอดค้างชำระ ไปเป็นเงินต้นแทน และก็จะปรับดอกเบี้ยเป็นแบบปรกติ ผมผ่อนเดือนละ 13,000 บาท เป็นเงินต้น 3,000 ดอกเบี๊ย 10,000 ให้ผ่อนเป็นระยะเวลา 1 ปีหลังจากนั้นชำระอย่าให้ขาดส่ง เป็นเวลาหนึ่งปีเครดิตบูโรจะกลับเป็นภาวะปรกติ หรือ A0 ผ่านมา3ปี ผมผ่อนชำระเป็นปรกติ พอดีผมมีความจำเป็นต้องใช้รถกะบะ บรรทุกของ ผมเลยเอารถเก๋งที่บ้านไปเทริน รถกะบะมือสอง ยอดจัดแค่ 200,00 บาท ผลลัพท์คือไม่ผ่าน เขาบอกว่าผมติดบูโร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ผมก็นึกในใจว่าไอ้พนักงานชื่อ เบญญาภามันบอกว่า ผ่อนชำระไม่ขาด 1 ปี ก็จะเป็นปรกติ ผ่านมาอีก 1 ปีผมก็ลองเอารถยนต์ไปเทรินอีก คราวนี้ยอดจัดแค่ 100,000 เจ้าหน้าที่ดูสลิปเงินเดือน ดูสถานะเงินเข้า ออกเ ก็บอกว่าผ่านแน่นอน ผ่านสบายๆเลยพี่ แต่ก็ปรากฏว่าเหมือนเดิม ไม่ผ่านติดบูโร ผ่อนบ้าน ผมเลยขอปรึกษาถามเขาว่าผมจะต้องทำอย่างไร เขาเลยไขข้อค้องใจของผมว่า การที่พี่ปรับโครงสร้างหนี้เสมือนพี่ถูกศาลตัดสินแล้วและเสนอให้ปรับโครงสร้างหนี้ กำเวรผมยอมปรับโครงสร้างหนี้เพื่อไม่ให้ติดเครดิตบูโร ที่ใหนได้โดนไปเต็มๆ ผมก็เลยถามเขาว่าแล้วผมจะหลุดได้อย่างไร เขาตอบว่าพี่ต้องปิดสัญญาผ่อนบ้านฉบับนั้นก่อน แล้วอีกประมาณ3ปีก็น่าจะหลุดจากบูโร ผมเคยโทรไปหาเจ้าหน้าที่ ที่ชวนผมเข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ คุณเชื่อไหมมันไม่มีแล้ว เบญญาภาติดต่อไม่ได้ ผมเลยโทรไปหาเจ้าหน้าที่คนอื่น มันบอกผมว่าเป็นไปไม่ได้ ที่ผมจะติดเครดิตบูโร อาจเป็นเพราะผมไปขอกับธนาคารอื่น ผมก็เลยไปขอใบสมัครบัตร ธนาคารทหารไทย มากรอกไปสมัครยื่นไปดูตามคำแนะนำของเขาผลออกมาผมก็สมัครไม่ผ่านอีกคามเคย สรุปถ้าผมทำสเตปปรกติ ตอนนี้ผ่อนบ้านเหลืออีกประมาณ10ปี +ไปอีก3 ปี ในอัตราดอกเบี้ยที่โดนเป็น 100 เท่า อย่าว่าอีก 13 ปีเลยถ้าผ่อนอย่างนี้อีก 100 ปีมันก็ไม่หมด ตอนนี้ผมกำลังศึกษาข้อกฎหมาย และปรึกษาญาติที่เป็นทนายอยู่ครับ คือผมจะเอาคืน เอาแบบแสบๆ ในวิธีการของผม เอาให้เป็นข่าวหน้า 1 ให้ทุกๆคนที่โดนอย่างผมให้กล้าออกมา แฉการทำงานของเจ้าหน้าที่ธนาคาร
สรุป ผมทำธุระกรรมทางการเงินไม่ได้เลยไม่ว่ากับแบงค์ไหน ๆ