หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ช่วยรีวิวและจิวารณ์หนังเรื่อง" แพรดำ 2503 "หน่อยครับ หากใครเคยรับชมช่วยวิจาร์ณหน่อยครับว่าจุดเด่นจุดด้อยว่าเป็นไง
กระทู้คำถาม
ภาพยนตร์
ภาพยนตร์ไทย
นักแสดงภาพยนตร์
นักแสดงภาพยนตร์ไทย
เทศกาลหนัง
สวัสดีครับ ในกระทู้นี้ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้ทุกท่านช่วยกันรีวิวหน่อยครับ นั่นคือเรื่อง
แพรดำ
จากปี2503
ซึ่งเป็นผลงานของ อ.
รัตน์ เปสตันยี
ผู้กำกับภาพยนตร์มือเก๋าเจ้าของรางวัลมากมายแห่งค่ายหนุมานภาพยนตร์ ที่ท่านเป็นผู้เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทย
แล้วแพรดำเนื้อเรื่องเป็นเช่นใดหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องราวของแพร แม่ม่ายสาวผู้ฝักใฝ่ธรรมมะเข้าวัดฟังธรรมทุกวันโดยอาศัยกับนางแดงอาหญิงของเธอ
ซึ่งในเรื่องเธอเป็นคู่รักของทม
ผู้คุมไนท์คลับรามสูรของเสนีย์ที่กำลังติดปัญหาเรื่องหนี้สินกับนายวันซึ่งเขาจะฟ้องเสนีย์ให้ศาลยึดไนท์คลับปิดรามสูร
ซึ่งทมเองก็คิดที่จะหาวิธีหาเงินจากตรงนี้หากวันใดวันหนึ่งเขาต้องหางานใหม่
ในวันต่อมาเสนีย์ได้ทราบข่าวว่าเสมาพี่ชายฝาแฝดเขาป่วยหนัก เขาจึงพาทมและผลลูกน้องไปที่กระท่อมของเสมา
ปรากฏว่าเสมาได้ตายเสียแล้ว เสนีย์จึงได้แผนการบางอย่าง
โดยขอให้ทมและผลช่วยเขาแอบฝังศพเสมาแถวนั้น
เมื่อเสนีย์พาทมกลับมาบ้านเขาจึงให้ทมพาแพรไปที่บ้านของนายวัน
เมื่อทมได้ชวนแพรไปที่บ้านของนายวันได้สำเร็จเสนีย์จึงพาทั้งสองคนไปที่บ้านของนายวัน
เมื่อทุกคน คือ แพร ทม เสนีย์ นายวันและนายสินหลานและมือขวานายวันมาที่โต๊ะรับแขก นายสินพูดจาดูถูกเหยียดหยามแพรที่เป็นหญิงม่าย ความวุ่นวายจึงเริ่มขึ้นเมื่อทมจะไปต่อยเขาแต่ถูกสินสวนกลับ
เสนีย์จึงตบหน้าสินจนล้ม แล้วบีบคอนายวัน สินจึงจะแก้แค้นโดยเอามีดยาวจะแทงทมให้ตายแต่ทมยิงเขาจนตาย
เสนีย์จึงหยิบของมีค่าใส่กระเป๋าแล้วเอาร่างของสินไปด้วย
เขาจัดการผลักรถลงเหวแล้วเผารถให้ดูเหมือนอุบัติเหตุ หลังจากที่ทมและแพรกลับมาบ้าน ทมก็ได้สายจากสน.ให้ทราบเรื่องเสนีย์ตาย(แต่ความจริงแล้วเสนีย์สวมรอยเป็นเสมา)ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้มีบางสิ่งที่ทั้งสามลืมเอาไว้...
โดยก่อนที่เราจะพูกถึงรองเท้าที่แพรลืมไว้ ก่อนหน้านั้นเสนีย์ได้ทำประกันชีวิตไว้ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสนีย์สวมรอยเป็นเสมาจากนั้นก็โกงเงินบริษัทประกัน(ความซวยและสิ่งที่ทำให้นึกคือเสนีย์ทำประกันไปกี่เจ้า?)ที่แน่ๆ เสนีย์สวมรอยเป็นเสมาได้อย่างแนบเนียน
กิจการของเสนีย์เจริญขึ้นเป็นลำดับเพราะได้เงินที่ตนโกงมาและของมีค่าที่ตนเอามาด้วย แต่ก็ทำให้แพรและทมไม่อาจคบกันได้อีกเพราะแพรเป็นคนมีศีลธรรมและเรื่องนี้ทำให้แพรรับไม่ได้ที่ตนถูกหลอกใช้
ต่อมาเสนีย์ได้เรียกตัวไปประชุมลับเพราะแพรเป็นภัยกับเสนีย์มาก
จึงวางแผนว่าให้ผลปลอมตัวเป็นคนขับแท็กซี่
ไปลักพาตัวลูกของแพรมา
จากนั้นเมื่อแพรกับแดงมาที่บ้านผลจึงให้พาแพรไปหานายเสงี่ยม โดยให้แพรไปคนเดียว
เมื่อผลพาแพรมาที่บ้าน แพรก็ตกใจที่ทมนอนอยู่ในโลงจึงคิดว่าเสียชีวิต
เสนีย์ปลอมเสียงตนเป็นนายเสงี่ยมพ่อนายสินแล้วขู่ไม่ให้กลับมาหาตนอีก ไม่เช่นนั้นตนจะฆ่าลูกของแพรทิ้ง
ทั้งหมดนี้คือแผนการของเสนีย์ให้รู้สึกผิกกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วมันก็ได้ผล แพรได้หนีไปบวชชีโดยหวังว่าจะบวชล้างกรรมที่ตนได้ก่อไว้
แต่แล้ว ลูกของแพรก็ป่วยหนักจนพี่เลี้ยงต้องแจ้งให้ทมทราบเป็นระยะ
หลังจากนั้นทมก็ไปหาแดงเพื่อถามข่าวแพรแต่แดงไม่ยอมตอบ วันหนึ่งทมเกิดได้ข่าวจากพี่เลี้ยงของลูกแพรว่ายัยหนูอาการโคม่าเป็นตายเท่ากัน
ทมจึงไปขอร้องอีกครั้งทำให้ทมได้ไปหาแพรที่บวชชี แพรจึงยอมสึกเพื่อช่วยชีวิตลูก แต่ปรากฏว่าทมได้พาแพรกับมาบ้านเพื่อจะมาเอาตังค์ที่บ้านเพื่อจะหนีไปใช้ชีวิตใหม่กันทำให้ผลที่กลับมารีบไปแจ้งให้เสนีย์ทราบ เสนีย์ไม่พอใจทมมากจึงได้พยายามขัดขวางทุกวิถีทางโดยจะกำจัดทุกคน
แต่ทมก็ยิงไปที่เสนีย์จนตาย ผลรีบแจ้งตำรวจโดยเร็วที่สุด
ในระหว่างที่แพรถูกควบคุมตัวสอบสวน แดงก็แจ้งข่าวร้ายให้เธอฟังว่าลูกของแพรตายแล้ว
ในชั้นศาล ทมได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
แต่แพรได้บอกความจริงทุกประการ
ซึ่งศาลก็ตัดสินให้ทมถูกประหารชรวิตเพราะหลักฐานพยานมัดตัวทมแน่น ขนาดรองเท้าของแพรที่ไม่มีใครสนใจยังถูกนำไปเป็นข้อบ่งชี้และหลักฐานของคดีได้ โดยสุดท้ายทมก็ติดคุกส่วนแพรนั้นเพราะตนไม่ได้ร่วมมือกับทั้งสองคนจึงหลุดพ้นข้อกรณีกล่าวหาไป และท้ายที่สุด ไอ้ผลก็รับทรัพย์ไปคนเดียว
โดยสรุปแล้วแพรก็กลับไปบวชอีกครั้ง มันทำให้เห็นแล้วว่า กรรมมักอำนวยผลต่างไม่ว่าทางตรงหรืออ้อม ดังนั้นท่านทั้งหลายจงพึงระวังเสียให้ดี
รายนามผู้แสดง
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ – แพร
ทม วิศวชาติ – ทม
เสณี อุษณีษาณฑ์ – เสนีย์ / เสมา (ลุงของทม)
ศรินทิพย์ ศิริวรรณ – อาแดง
จมื่นมานพนริศร์
พิชิต สาลีพันธ์
จุรัย เกษมสุวรรณ
ชั้น พันธุวัต
ถวัลย์ วรวิบูล
เชาว์ นิ่มเจริญ
จรัญญา สว่างอัมพร
สมจิตต์ วิลเจริญ
ทัศนีย์ ชูวสุวัติ
เกร็ด
• ฟิล์มนัวร์ (อังกฤษ: Film Noir) ชื่อเรียกประเภทของหนังประเภทหนึ่ง โดยที่คำว่า "Noir" เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ดำ" หากจะแปลกันตรงๆ ตัว ฟิล์มนัวร์ จึงแปลว่า "ฟิล์มดำ" หรือ "ภาพยนตร์ดำ" หรือ "ภาพยนตร์มืด" มักจะมีการใช้แสงสีมืดทึบ หรือขาวดำเป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงด้านมืดในใจมนุษย์
หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบฟิล์ม 35 มม. สี เสียงซีนีมาสโคป ที่ให้ภาพจอกว้างเต็มตา
• หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาชญกรรมที่ถือได้ว่าเป็นฟิล์มนัวร์เรื่องแรกของเมืองไทย ผสมผสานองค์ประกอบที่ตีแผ่ให้เห็นด้านมืดของปุถุชนคนธรรมดา
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ เป็นบุตรสาวคนโตของ รัตน์ เปสตันยี ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งแสดงนำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในบทของ แพร หญิงหม้ายลูกติดที่สวมชุดสีดำเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสามีผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นการสร้างบุคลิกที่ชัดเจนแก่ตัวละคร ในช่วงท้ายของเรื่องซึ่งแพรได้หันหน้าเข้าหาความสงบจากพระธรรม และเพื่อจะให้ภาพสร้างจริงจึงให้โกนหัวบวชชีจริง ว่ากันว่าเป็นครั้งแรกของภาพยนตร์ไทยอีกเช่นกันที่นักแสดงหญิงลงทุนโกนหัวจริงๆ
• หนังเรื่องนี้ลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท(คำนวณตามอัตราเงินเฟ้อปี2567ได้คือ24,612,952บาท) กำกับภาพโดย รัตน์ เปสตันยี, เอเดิ้ล เปสตันยี (ลูกชายคนเล็กของรัตน์ ขณะนั้นอายุ 14 ปี) กำกับศิลป์โดย สวัสดิ์ แก่สำราญ และบันทึกเสียงโดย ปง อัศวนิกุล แทบจะกล่าวได้ว่าเรื่องนี้ถูกผลิตออกมาด้วยฝีมือของคนๆเดียว เพราะ รัตน์ เปสตันยี รับหน้าที่กำกับการแสดง-เขียนบท-อำนวยการสร้าง-ถ่ายภาพและลำดับภาพเรื่องนี้เองด้วย
• หนังเรื่องนี้ทำดนตรีประกอบโดย ปรีชา เมตไตรย์ และคณะดุริยประณีต โดยมีการใช้ทั้งเพลงไทยเดิม เพลงสากลประกอบในภาพยนตร์ และมีเพลงประกอบ 2 เพลงที่แต่งขึ้นใช้ประกอบภาพยนตร์คือ กล่อมโลก แต่งโดย ชาลี อินทรวิจิตร และ ขี่ควายชมจันทร์ แต่งโดย เกษม ชื่นประดิษฐ
• เทคนิคการวางองค์ประกอบภาพ การจัดแสงและสี เป็นจุดเด่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ รัตน์ เปสตันยี ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง ใช้การจัดแสงที่มีความเปรียบต่างสูง (High contrast) เพื่อให้เกิดลักษณะแสงที่กระด้าง ช่วยทำให้สีในหนังอิ่มตัว โดยเฉพาะสีแดง และมีเงาปรากฏอย่างชัดเจน ถือเป็นลักษณะสำคัญของการจัดแสงในฟิล์มนัวร์ ช่วยขับเน้นให้เนื้อหาของหนังที่พูดถึงความชั่วร้ายในจิตใจมนุษย์ ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
• การบันทึกเสียงจริงของนักแสดงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หนังของ รัตน์ เปสตันยี โดดเด่นและสมจริง เสียงจริงของนักแสดงเหล่านี้สามารถสื่ออารมณ์ของการแสดงให้ผู้ชมได้ดีกว่าการพากย์ที่เป็นที่นิยมกันในยุคสมัยนั้นอย่างมาก
• หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังไทยเรื่องที่สองที่ได้รับเชิญให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน (Berlin Film Festival) ในปี พ.ศ. 2504 และได้ส่งเข้าร่วมประกวดในงาน แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลใดๆ กลับมา แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนที่ไปร่วมงาน
• หนังเรื่องนี้ได้นำมาจัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี โดย มูลนิธิหนังไทย เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ พร้อมกับภาพยนตร์เรื่องอื่นที่ รัตน์ เปสตันยี กำกับและอำนวยการสร้าง
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
12 Angry Men: 12 บุรุษผู้พิโรธ ความจริงและอคติในห้องพิจารณาคดี
เรื่องย่อ "12 Angry Men" เป็นภาพยนตร์ขาว-ดำแนวดราม่า-กฎหมายคลาสสิกที่ออกฉายในปี 1957 กำกับโดย Sidney Lumet สร้างจากบทละครโทรทัศน์ชื่อเดียวกันของ Reginald Rose ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รู้จักใ
สมาชิกหมายเลข 1361058
แพรดำ โดยรัตน์ เปสตันยี หนังอาชญากรรมเรื่องแรกๆของไทย
แพรดำ เป็นภาพยนตร์ไทย ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2504 ฟิล์ม 35 มม. สี เสียง ซีนีมาสโคบ สร้างโดย หนุมานภาพยนตร์ เขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดย รัตน์ เปสตันยี นำแสดงโดย รัตนาวดี รัตนาพันธ์ เป็นบุตรสาวคนโตของ รัตน์,
สมชายน้อย
ชั่วฟ้าดินสลาย ระหว่าง "2497" VS "2559" คุณคิดว่าชอบฉบับไหนมากกว่ากัน?!
สำหรับกระทู้นี้ผมอยากจะให้พวกคุณที่หลงเข้ามาในกระทู้นี้ คุณชอบภาพยนตร์ฉบับไหนมากกว่ากัน ระหว่างปี2497 อำนวยการสร้าง : รัตน์ เปสตันยี กำกับการแสดง : มารุต นักแสดง : ชนะ ศรีอุบล (ส่างหม่อ
สมาชิกหมายเลข 7126264
(ชวนดู) ตัวอย่างแรกจากภาพยนตร์ เรื่อง เสือ จักรวาลเดียวกับ ขุนพันธ์ การเผชิญหน้ากันครั้งแรกของ “4 เสือ” ระดับตำนาน
มาแล้ว! “ตัวอย่างแรก” สุดเดือดของ “เสือ” (4 Tigers) คลิกเพื่อชมตัวอย่างแรกจาก เสือ ภาพยนตร์แอ็กชันไทยฟอร์มยักษ์แห่งปีจาก “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่พร้อม
foaund
Joker: โศกนาฏกรรมของตัวตลก การล่มสลายของมนุษย์ในเมืองที่สิ้นหวัง
เรื่องย่อ "Joker" เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ-จิตวิทยา ดราม่า ออกฉายในปี 2019 กำกับโดย Todd Phillips และนำแสดงโดย Joaquin Phoenix ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของตัวละค
สมาชิกหมายเลข 1361058
ท่าแร่ เปิดจักรวาลคู่หูปราบปีศาจ
ท่าแร่ ภาพยนตร์สยองขวัญไอเดียเจ๋งจากผู้กำกับ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา เจ้าของผลงานระดับปรากฏการณ์อย่าง ธี่หยด ทั้งสองภาค กับเรื่องราวของหนึ่งบาทหลวงและหนึ่งหมอผีที่มีความเชื่อต่างกัน แต่ต้องมาร่วมมือกันปรา
สมาชิกหมายเลข 9000753
🎞️ ฉายแล้ววันนี้ ⛪️ ท่าแร่ ที่โรงภาพยนตร์
ถ้าไม่ใช่ #ท่าแร่ คงไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้! 🕯 นักแสดงก้าวข้ามเซฟโซนสู่ความท้าทายใหม่ในเรื่องราว “ความสยอง” รูปแบบใหม่ 🕯 ศรัทธาพระเจ้า หรือ บูชาภูตผีสองขั้วความเชื่อ ทางออกสุดท้าย ใครจะเอาชน
MissLeko
Greyhound: ยุทธการเรือพิฆาต เมื่อคำสั่งแรกของกัปตันคือเดิมพันด้วยชีวิตลูกเรือทั้งลำ
เรื่องย่อ "Greyhound" เป็นภาพยนตร์สงครามแนวระทึกขวัญที่ออกฉายในปี 2020 ทาง Apple TV+ กำกับโดย Aaron Schneider และนำแสดงโดย Tom Hanks ซึ่งรับหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ด้วย สร้างจากนวนิยายเรื่อง &
สมาชิกหมายเลข 1361058
🎞 [#หนังใหม่] “บาทหลวง” ปะทะ “หมอเหยา”⚡️สองนักปราบผีแห่ง “ท่าแร่” ความสยองตรงหน้า ใครจะหยุดมันได้ 📌
สมาชิกหมายเลข 5555682
15 ปี สาระแนเห็นผี มาริโอ้ เมาเร่อ พัชราภา ไชยเชื้อ พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล 😱 2553
สาระแนเห็นผี เป็นภาพยนตร์ไทย ออกฉายวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของการร่วมมือของลักษ์ฟิล์มและสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล กำกับโดยนฤบดี เวชกรรม นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ, พัชราภ
คุณหนูเดมี่แมร์
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพยนตร์
ภาพยนตร์ไทย
นักแสดงภาพยนตร์
นักแสดงภาพยนตร์ไทย
เทศกาลหนัง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ช่วยรีวิวและจิวารณ์หนังเรื่อง" แพรดำ 2503 "หน่อยครับ หากใครเคยรับชมช่วยวิจาร์ณหน่อยครับว่าจุดเด่นจุดด้อยว่าเป็นไง
สวัสดีครับ ในกระทู้นี้ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้ทุกท่านช่วยกันรีวิวหน่อยครับ นั่นคือเรื่อง แพรดำ จากปี2503
ซึ่งเป็นผลงานของ อ.รัตน์ เปสตันยี ผู้กำกับภาพยนตร์มือเก๋าเจ้าของรางวัลมากมายแห่งค่ายหนุมานภาพยนตร์ ที่ท่านเป็นผู้เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทย
แล้วแพรดำเนื้อเรื่องเป็นเช่นใดหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายนามผู้แสดง
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ – แพร
ทม วิศวชาติ – ทม
เสณี อุษณีษาณฑ์ – เสนีย์ / เสมา (ลุงของทม)
ศรินทิพย์ ศิริวรรณ – อาแดง
จมื่นมานพนริศร์
พิชิต สาลีพันธ์
จุรัย เกษมสุวรรณ
ชั้น พันธุวัต
ถวัลย์ วรวิบูล
เชาว์ นิ่มเจริญ
จรัญญา สว่างอัมพร
สมจิตต์ วิลเจริญ
ทัศนีย์ ชูวสุวัติ
เกร็ด
• ฟิล์มนัวร์ (อังกฤษ: Film Noir) ชื่อเรียกประเภทของหนังประเภทหนึ่ง โดยที่คำว่า "Noir" เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ดำ" หากจะแปลกันตรงๆ ตัว ฟิล์มนัวร์ จึงแปลว่า "ฟิล์มดำ" หรือ "ภาพยนตร์ดำ" หรือ "ภาพยนตร์มืด" มักจะมีการใช้แสงสีมืดทึบ หรือขาวดำเป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงด้านมืดในใจมนุษย์
หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบฟิล์ม 35 มม. สี เสียงซีนีมาสโคป ที่ให้ภาพจอกว้างเต็มตา
• หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาชญกรรมที่ถือได้ว่าเป็นฟิล์มนัวร์เรื่องแรกของเมืองไทย ผสมผสานองค์ประกอบที่ตีแผ่ให้เห็นด้านมืดของปุถุชนคนธรรมดา
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ เป็นบุตรสาวคนโตของ รัตน์ เปสตันยี ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งแสดงนำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในบทของ แพร หญิงหม้ายลูกติดที่สวมชุดสีดำเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสามีผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นการสร้างบุคลิกที่ชัดเจนแก่ตัวละคร ในช่วงท้ายของเรื่องซึ่งแพรได้หันหน้าเข้าหาความสงบจากพระธรรม และเพื่อจะให้ภาพสร้างจริงจึงให้โกนหัวบวชชีจริง ว่ากันว่าเป็นครั้งแรกของภาพยนตร์ไทยอีกเช่นกันที่นักแสดงหญิงลงทุนโกนหัวจริงๆ
• หนังเรื่องนี้ลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท(คำนวณตามอัตราเงินเฟ้อปี2567ได้คือ24,612,952บาท) กำกับภาพโดย รัตน์ เปสตันยี, เอเดิ้ล เปสตันยี (ลูกชายคนเล็กของรัตน์ ขณะนั้นอายุ 14 ปี) กำกับศิลป์โดย สวัสดิ์ แก่สำราญ และบันทึกเสียงโดย ปง อัศวนิกุล แทบจะกล่าวได้ว่าเรื่องนี้ถูกผลิตออกมาด้วยฝีมือของคนๆเดียว เพราะ รัตน์ เปสตันยี รับหน้าที่กำกับการแสดง-เขียนบท-อำนวยการสร้าง-ถ่ายภาพและลำดับภาพเรื่องนี้เองด้วย
• หนังเรื่องนี้ทำดนตรีประกอบโดย ปรีชา เมตไตรย์ และคณะดุริยประณีต โดยมีการใช้ทั้งเพลงไทยเดิม เพลงสากลประกอบในภาพยนตร์ และมีเพลงประกอบ 2 เพลงที่แต่งขึ้นใช้ประกอบภาพยนตร์คือ กล่อมโลก แต่งโดย ชาลี อินทรวิจิตร และ ขี่ควายชมจันทร์ แต่งโดย เกษม ชื่นประดิษฐ
• เทคนิคการวางองค์ประกอบภาพ การจัดแสงและสี เป็นจุดเด่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ รัตน์ เปสตันยี ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง ใช้การจัดแสงที่มีความเปรียบต่างสูง (High contrast) เพื่อให้เกิดลักษณะแสงที่กระด้าง ช่วยทำให้สีในหนังอิ่มตัว โดยเฉพาะสีแดง และมีเงาปรากฏอย่างชัดเจน ถือเป็นลักษณะสำคัญของการจัดแสงในฟิล์มนัวร์ ช่วยขับเน้นให้เนื้อหาของหนังที่พูดถึงความชั่วร้ายในจิตใจมนุษย์ ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
• การบันทึกเสียงจริงของนักแสดงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หนังของ รัตน์ เปสตันยี โดดเด่นและสมจริง เสียงจริงของนักแสดงเหล่านี้สามารถสื่ออารมณ์ของการแสดงให้ผู้ชมได้ดีกว่าการพากย์ที่เป็นที่นิยมกันในยุคสมัยนั้นอย่างมาก
• หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังไทยเรื่องที่สองที่ได้รับเชิญให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน (Berlin Film Festival) ในปี พ.ศ. 2504 และได้ส่งเข้าร่วมประกวดในงาน แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลใดๆ กลับมา แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนที่ไปร่วมงาน
• หนังเรื่องนี้ได้นำมาจัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี โดย มูลนิธิหนังไทย เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ พร้อมกับภาพยนตร์เรื่องอื่นที่ รัตน์ เปสตันยี กำกับและอำนวยการสร้าง