ช่วยรีวิวและจิวารณ์หนังเรื่อง" แพรดำ 2503 "หน่อยครับ หากใครเคยรับชมช่วยวิจาร์ณหน่อยครับว่าจุดเด่นจุดด้อยว่าเป็นไง




สวัสดีครับ  ในกระทู้นี้ผมมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้ทุกท่านช่วยกันรีวิวหน่อยครับ  นั่นคือเรื่อง  แพรดำ  จากปี2503  


ซึ่งเป็นผลงานของ  อ.รัตน์  เปสตันยี  ผู้กำกับภาพยนตร์มือเก๋าเจ้าของรางวัลมากมายแห่งค่ายหนุมานภาพยนตร์  ที่ท่านเป็นผู้เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมหนังไทย
แล้วแพรดำเนื้อเรื่องเป็นเช่นใดหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายนามผู้แสดง
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ – แพร
ทม วิศวชาติ – ทม
เสณี อุษณีษาณฑ์ – เสนีย์ / เสมา (ลุงของทม)
ศรินทิพย์ ศิริวรรณ – อาแดง
จมื่นมานพนริศร์
พิชิต สาลีพันธ์
จุรัย เกษมสุวรรณ
ชั้น พันธุวัต
ถวัลย์ วรวิบูล
เชาว์ นิ่มเจริญ
จรัญญา สว่างอัมพร
สมจิตต์ วิลเจริญ
ทัศนีย์ ชูวสุวัติ
เกร็ด
• ฟิล์มนัวร์ (อังกฤษ: Film Noir) ชื่อเรียกประเภทของหนังประเภทหนึ่ง โดยที่คำว่า "Noir" เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ดำ" หากจะแปลกันตรงๆ ตัว ฟิล์มนัวร์ จึงแปลว่า "ฟิล์มดำ" หรือ "ภาพยนตร์ดำ" หรือ "ภาพยนตร์มืด" มักจะมีการใช้แสงสีมืดทึบ หรือขาวดำเป็นหลัก แสดงให้เห็นถึงด้านมืดในใจมนุษย์
หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบฟิล์ม 35 มม. สี เสียงซีนีมาสโคป ที่ให้ภาพจอกว้างเต็มตา
•  หนังเรื่องนี้เป็นหนังอาชญกรรมที่ถือได้ว่าเป็นฟิล์มนัวร์เรื่องแรกของเมืองไทย ผสมผสานองค์ประกอบที่ตีแผ่ให้เห็นด้านมืดของปุถุชนคนธรรมดา
รัตนาวดี รัตนาพันธ์ เป็นบุตรสาวคนโตของ รัตน์ เปสตันยี ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งแสดงนำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในบทของ แพร หญิงหม้ายลูกติดที่สวมชุดสีดำเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสามีผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นการสร้างบุคลิกที่ชัดเจนแก่ตัวละคร ในช่วงท้ายของเรื่องซึ่งแพรได้หันหน้าเข้าหาความสงบจากพระธรรม และเพื่อจะให้ภาพสร้างจริงจึงให้โกนหัวบวชชีจริง ว่ากันว่าเป็นครั้งแรกของภาพยนตร์ไทยอีกเช่นกันที่นักแสดงหญิงลงทุนโกนหัวจริงๆ
•  หนังเรื่องนี้ลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท(คำนวณตามอัตราเงินเฟ้อปี2567ได้คือ24,612,952บาท)   กำกับภาพโดย รัตน์ เปสตันยี, เอเดิ้ล เปสตันยี (ลูกชายคนเล็กของรัตน์ ขณะนั้นอายุ 14 ปี) กำกับศิลป์โดย สวัสดิ์ แก่สำราญ และบันทึกเสียงโดย ปง อัศวนิกุล แทบจะกล่าวได้ว่าเรื่องนี้ถูกผลิตออกมาด้วยฝีมือของคนๆเดียว เพราะ รัตน์ เปสตันยี รับหน้าที่กำกับการแสดง-เขียนบท-อำนวยการสร้าง-ถ่ายภาพและลำดับภาพเรื่องนี้เองด้วย
•  หนังเรื่องนี้ทำดนตรีประกอบโดย ปรีชา เมตไตรย์ และคณะดุริยประณีต โดยมีการใช้ทั้งเพลงไทยเดิม เพลงสากลประกอบในภาพยนตร์ และมีเพลงประกอบ 2 เพลงที่แต่งขึ้นใช้ประกอบภาพยนตร์คือ กล่อมโลก แต่งโดย ชาลี อินทรวิจิตร และ ขี่ควายชมจันทร์ แต่งโดย เกษม ชื่นประดิษฐ
•  เทคนิคการวางองค์ประกอบภาพ การจัดแสงและสี เป็นจุดเด่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ รัตน์ เปสตันยี ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพด้วยตัวเอง ใช้การจัดแสงที่มีความเปรียบต่างสูง (High contrast) เพื่อให้เกิดลักษณะแสงที่กระด้าง ช่วยทำให้สีในหนังอิ่มตัว โดยเฉพาะสีแดง และมีเงาปรากฏอย่างชัดเจน ถือเป็นลักษณะสำคัญของการจัดแสงในฟิล์มนัวร์ ช่วยขับเน้นให้เนื้อหาของหนังที่พูดถึงความชั่วร้ายในจิตใจมนุษย์ ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
•  การบันทึกเสียงจริงของนักแสดงกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หนังของ รัตน์ เปสตันยี โดดเด่นและสมจริง เสียงจริงของนักแสดงเหล่านี้สามารถสื่ออารมณ์ของการแสดงให้ผู้ชมได้ดีกว่าการพากย์ที่เป็นที่นิยมกันในยุคสมัยนั้นอย่างมาก
•  หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังไทยเรื่องที่สองที่ได้รับเชิญให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน (Berlin Film Festival) ในปี พ.ศ. 2504 และได้ส่งเข้าร่วมประกวดในงาน แม้ว่าจะไม่ได้รับรางวัลใดๆ กลับมา แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนที่ไปร่วมงาน
•  หนังเรื่องนี้ได้นำมาจัดจำหน่ายในรูปแบบดีวีดี โดย มูลนิธิหนังไทย เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ พร้อมกับภาพยนตร์เรื่องอื่นที่ รัตน์ เปสตันยี กำกับและอำนวยการสร้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่