เคยไหมคะ ในชีวิตนี้ที่บางที เราได้รับมิตรภาพบางอย่างจากบางคนที่ไม่เคยคิดว่า จะได้รู้จัก เพราะอยู่กันคนละวงการ คนละสังคม คนละรุ่น คนละ... กันไปหมด แต่ก็ได้มารู้จักกันและเป็นมิตรกันอย่างเหลือเชื่อ
กระทู้นี้แท็กเรื่องเล่าจากผู้สูงอายุเป็นหลักนะคะ เพราะคนเล่านี่อยู่พันทิปมาตั้งแต่ปีแรก ๆ
นี่ก็นิสัยเหมือนแมว ติดที่ ไม่ค่อยติดคน เลยขอเล่าในนี้ละกันค่ะ
ต้องบอกก่อนว่า กระทู้นี้ถ้าจะฟังดู name-dropping หรือทำราวกับอวดว่ารู้จักกับคนดังคนมีชื่อเสียงบ้าง ก็ทน ๆ หน่อยละกันนะคะ คือ ไม่ได้ตั้งใจจะอวดอ้างชื่อท่าน แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ได้คัดลอกเนื้อความจากคุณน้าที่เคารพนับถือท่านหนึ่งที่ท่านเล่าเรื่องท่องเที่ยวของท่านมาแบ่งปันให้ดิฉันฟัง แล้วดิฉันขออนุญาตเอามาแชร์ต่อ เอามาแปะเป็นกระทู้ท่องเที่ยว เกือบทุกครั้ง ก็มักได้รับการโหวตเป็นกระทู้แนะนำ ดิฉันเลยคิดว่า คนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่า ตัวเองเขียนเอง จริง ๆ นี่ก็อยากเขียนให้ได้สนุกและเล่าเรื่องให้ได้อย่างนี้บ้างนะคะ แต่คนเล่าตัวจริงคือ พล.อ.ท. สหัทยา ประภาวัต หรือคุณน้าที่เคารพของดิฉันนั่นเอง
เลยอยากมาเล่าแบ่งปันว่า ธาราสินธุ์ไปรู้จักกับคุณน้าได้ยังไง ? เพราะเรารันกันคนละวงการมาก
เรื่องเริ่มจาก
ดิฉันมีกิจกรรมที่ชอบอันหนึ่งที่มักจะหาเวลาไปทำคือ การอ่านหนังสืออัดเสียงให้คนตาบอด อันนี้ทำตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีท้าย ๆ จนวันนี้ลูกสาวคนโตของดิฉันเรียนอยู่ปี 4 แล้ว
หลายปีก่อน ดิฉันอ่านเรื่อง “บินข้ามฟ้า” อัตชีวประวัติของพล.อ.ท. สหัทยา ประภาวัต ที่เคยตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในพลอยแกมเพชร แล้วรู้สึกชอบมาก เพราะสนุก และได้ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลายอย่าง ด้วยความที่ตัวเองมักจะหาโอกาสไปอ่านหนังสืออัดเสียงให้กับห้องสมุดคนตาบอด เลยเขียนจดหมายไปนิตยสารพลอยแกมเพชร แจ้งกับคุณชุลิตา บก. ให้ช่วยถามท่านเจ้าของเรื่องหน่อยว่า อนุญาตให้อ่านหนังสือของท่านอัดเสียงให้กับคนตาบอดหรือไม่ ทางคุณชุลิตา ได้ติดต่อสอบถามให้แล้วแจ้งว่าท่านยินดี ดิฉันก็อ่านไปจนจบ
หลังจากอ่านจนจบเรื่องแล้ว ดิฉันขอให้ทางห้องสมุดช่วยอัดลงซีดีเพื่อขอเป็นที่ระลึก และส่ง 1 ก๊อปปี้ผ่านทางคุณชุลิตาให้กับ พล.อ.ท.สหัทยาเป็นการขอบคุณและสำหรับท่านเก็บไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนี้ "บินข้ามฟ้า" น่าจะหมดไปจากท้องตลาดแล้ว แต่ถ้าอยากฟังหนังสือเสียง ลองเข้าที่แฟนเพจ "ฟังเพลินเพลิน" ดูนะคะ จะมีเรื่องนี้อยู่ด้วยค่ะ นี่ไม่ได้ตั้งใจจะ tie in นะคะ เนี่ย
วันหนึ่ง ดิฉันก็ได้การ์ดเขียนด้วยลายมือ (ดูเหมือนจะเป็นโปสการ์ดจากที่มาเก๊าถ้าดิฉันจำไม่ผิด) ตอบขอบคุณสำหรับซีดีที่ส่งให้ท่าน
โอ้โฮ... ปลื้มใจ ดีใจตื่นเต้นยังกับเห็นยูนิคอร์น
เพราะการตอบขอบคุณด้วยการ์ดขอบคุณที่เขียนด้วยลายมือนี่ เป็นมารยาทที่เคยแต่อ่านเจอในหนังสือที่สอน ๆ กันไว้กับเห็นในหนังฝรั่ง ในชีวิตจริง ไม่เคยเจอ ไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้เลย แถม ยังเป็นจดหมายขอบคุณจากผู้ใหญ่ที่ท่านกรุณาเขียนขอบคุณผู้น้อยด้วย นี่ก็เลยปลื้มมาก แล้วก็เลยถือโอกาสเขียนจดหมายตอบท่านกลับไป ทำไป ทำมา เราก็กลายเป็นเพื่อนทางจดหมายหรือเป็น pen friend กัน (ใช้คำนี้ นี่บอกวัยมาก ๆ ฮ่า ๆ)
ดิฉันก็เลยเรียนท่านไปว่า “หนูขอสมัครเป็นหลานนอกไส้ของคุณน้าสักคนนะคะ” คุณน้าก็กรุณามาก บางครั้ง ท่านก็ส่งหนังสือดี ๆ ที่หายาก เช่น หนังสือของ พล.อ.อ.หะริน หงสกุล คุณพ่อของท่านมาให้ ซึ่งชีวประวัติเหล่านี้ หลาย ๆ ครั้ง จะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุก ๆ ทางประวัติศาสตร์ที่หาอ่านไม่ได้จากในหนังสือวิชาการทั่วไป
เช่น สมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนนานาประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี พล.อ.อ.หะริน ท่านเป็นหนึ่งในทีมงานที่ต้องช่วยตระเตรียมเครื่องบินพระที่นั่ง และร่วมช่วยเตรียม “ของขวัญ” สำหรับผู้นำประเทศต่าง ๆ
ครั้งเมื่อจะเสด็จเยือนไต้หวัน ทีมงานก็ต้องช่วยกันคิดว่า จะเตรียมของขวัญอะไร ถึงจะเป็นของที่คิดว่าท่านจอมพลเจียงไคเช็ค ผู้นำไต้หวันในขณะนั้น น่าจะชอบ ...
ลองทายกันสิคะ
คำตอบคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้รังนกค่ะ
หนังสือของท่านหะรินอ่านสนุกมาก เพราะท่านเป็นนักเขียนที่เคยเขียนลงในนิตยสารสมัยก่อนหลายเล่ม ที่คุ้น ๆ ที่สุดน่าจะเป็นต่วยตูน และหนังสือของท่านหะรินนี่เอง ที่ดิฉันได้เคยเรียบเรียบเอามาเขียนเป็นกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/37132816
กับคุณน้า พอรู้จักกันหลายปีเข้า ก็ได้เริ่มเจอตัวจริงกัน และดิฉันก็ถือเสมือนคุณน้าท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ บางครั้ง เวลาซื้ออะไรให้หม่าม้า ก็จะนึกถึงคุณน้าด้วย (ซึ่งมักจะเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ กระจุกกระจิก เช่น ห่วงพิลาทิส สำหรับออกกำลังกาย) คุณน้าก็กรุณาดิฉันมาก บางทีท่านไปเที่ยวที่ไหน ก็มักจะมีของฝากมาให้ และท่านก็จะกรุณาเล่าเรื่องสนุก ๆ พร้อมกับส่งรูปมาให้ดูประกอบ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย
ก็เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้แชร์ความประทับใจในมิตรภาพที่เหลือเชื่ออันนี้ด้วย
ท่านอื่นล่ะคะ ? มีใครเคยได้รับมิตรภาพจากคนที่ไม่คิดว่าจะได้รู้จักแบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ ?
มิตรภาพงดงามที่เหลือเชื่อ -01
กระทู้นี้แท็กเรื่องเล่าจากผู้สูงอายุเป็นหลักนะคะ เพราะคนเล่านี่อยู่พันทิปมาตั้งแต่ปีแรก ๆ
นี่ก็นิสัยเหมือนแมว ติดที่ ไม่ค่อยติดคน เลยขอเล่าในนี้ละกันค่ะ
ต้องบอกก่อนว่า กระทู้นี้ถ้าจะฟังดู name-dropping หรือทำราวกับอวดว่ารู้จักกับคนดังคนมีชื่อเสียงบ้าง ก็ทน ๆ หน่อยละกันนะคะ คือ ไม่ได้ตั้งใจจะอวดอ้างชื่อท่าน แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ได้คัดลอกเนื้อความจากคุณน้าที่เคารพนับถือท่านหนึ่งที่ท่านเล่าเรื่องท่องเที่ยวของท่านมาแบ่งปันให้ดิฉันฟัง แล้วดิฉันขออนุญาตเอามาแชร์ต่อ เอามาแปะเป็นกระทู้ท่องเที่ยว เกือบทุกครั้ง ก็มักได้รับการโหวตเป็นกระทู้แนะนำ ดิฉันเลยคิดว่า คนอื่นจะเข้าใจผิดคิดว่า ตัวเองเขียนเอง จริง ๆ นี่ก็อยากเขียนให้ได้สนุกและเล่าเรื่องให้ได้อย่างนี้บ้างนะคะ แต่คนเล่าตัวจริงคือ พล.อ.ท. สหัทยา ประภาวัต หรือคุณน้าที่เคารพของดิฉันนั่นเอง
เลยอยากมาเล่าแบ่งปันว่า ธาราสินธุ์ไปรู้จักกับคุณน้าได้ยังไง ? เพราะเรารันกันคนละวงการมาก
เรื่องเริ่มจาก
ดิฉันมีกิจกรรมที่ชอบอันหนึ่งที่มักจะหาเวลาไปทำคือ การอ่านหนังสืออัดเสียงให้คนตาบอด อันนี้ทำตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีท้าย ๆ จนวันนี้ลูกสาวคนโตของดิฉันเรียนอยู่ปี 4 แล้ว
หลายปีก่อน ดิฉันอ่านเรื่อง “บินข้ามฟ้า” อัตชีวประวัติของพล.อ.ท. สหัทยา ประภาวัต ที่เคยตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในพลอยแกมเพชร แล้วรู้สึกชอบมาก เพราะสนุก และได้ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหลายอย่าง ด้วยความที่ตัวเองมักจะหาโอกาสไปอ่านหนังสืออัดเสียงให้กับห้องสมุดคนตาบอด เลยเขียนจดหมายไปนิตยสารพลอยแกมเพชร แจ้งกับคุณชุลิตา บก. ให้ช่วยถามท่านเจ้าของเรื่องหน่อยว่า อนุญาตให้อ่านหนังสือของท่านอัดเสียงให้กับคนตาบอดหรือไม่ ทางคุณชุลิตา ได้ติดต่อสอบถามให้แล้วแจ้งว่าท่านยินดี ดิฉันก็อ่านไปจนจบ
หลังจากอ่านจนจบเรื่องแล้ว ดิฉันขอให้ทางห้องสมุดช่วยอัดลงซีดีเพื่อขอเป็นที่ระลึก และส่ง 1 ก๊อปปี้ผ่านทางคุณชุลิตาให้กับ พล.อ.ท.สหัทยาเป็นการขอบคุณและสำหรับท่านเก็บไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันหนึ่ง ดิฉันก็ได้การ์ดเขียนด้วยลายมือ (ดูเหมือนจะเป็นโปสการ์ดจากที่มาเก๊าถ้าดิฉันจำไม่ผิด) ตอบขอบคุณสำหรับซีดีที่ส่งให้ท่าน
โอ้โฮ... ปลื้มใจ ดีใจตื่นเต้นยังกับเห็นยูนิคอร์น
เพราะการตอบขอบคุณด้วยการ์ดขอบคุณที่เขียนด้วยลายมือนี่ เป็นมารยาทที่เคยแต่อ่านเจอในหนังสือที่สอน ๆ กันไว้กับเห็นในหนังฝรั่ง ในชีวิตจริง ไม่เคยเจอ ไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้เลย แถม ยังเป็นจดหมายขอบคุณจากผู้ใหญ่ที่ท่านกรุณาเขียนขอบคุณผู้น้อยด้วย นี่ก็เลยปลื้มมาก แล้วก็เลยถือโอกาสเขียนจดหมายตอบท่านกลับไป ทำไป ทำมา เราก็กลายเป็นเพื่อนทางจดหมายหรือเป็น pen friend กัน (ใช้คำนี้ นี่บอกวัยมาก ๆ ฮ่า ๆ)
ดิฉันก็เลยเรียนท่านไปว่า “หนูขอสมัครเป็นหลานนอกไส้ของคุณน้าสักคนนะคะ” คุณน้าก็กรุณามาก บางครั้ง ท่านก็ส่งหนังสือดี ๆ ที่หายาก เช่น หนังสือของ พล.อ.อ.หะริน หงสกุล คุณพ่อของท่านมาให้ ซึ่งชีวประวัติเหล่านี้ หลาย ๆ ครั้ง จะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสนุก ๆ ทางประวัติศาสตร์ที่หาอ่านไม่ได้จากในหนังสือวิชาการทั่วไป
เช่น สมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จเยือนนานาประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี พล.อ.อ.หะริน ท่านเป็นหนึ่งในทีมงานที่ต้องช่วยตระเตรียมเครื่องบินพระที่นั่ง และร่วมช่วยเตรียม “ของขวัญ” สำหรับผู้นำประเทศต่าง ๆ
ครั้งเมื่อจะเสด็จเยือนไต้หวัน ทีมงานก็ต้องช่วยกันคิดว่า จะเตรียมของขวัญอะไร ถึงจะเป็นของที่คิดว่าท่านจอมพลเจียงไคเช็ค ผู้นำไต้หวันในขณะนั้น น่าจะชอบ ...
ลองทายกันสิคะ
คำตอบคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนังสือของท่านหะรินอ่านสนุกมาก เพราะท่านเป็นนักเขียนที่เคยเขียนลงในนิตยสารสมัยก่อนหลายเล่ม ที่คุ้น ๆ ที่สุดน่าจะเป็นต่วยตูน และหนังสือของท่านหะรินนี่เอง ที่ดิฉันได้เคยเรียบเรียบเอามาเขียนเป็นกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/37132816
กับคุณน้า พอรู้จักกันหลายปีเข้า ก็ได้เริ่มเจอตัวจริงกัน และดิฉันก็ถือเสมือนคุณน้าท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ บางครั้ง เวลาซื้ออะไรให้หม่าม้า ก็จะนึกถึงคุณน้าด้วย (ซึ่งมักจะเป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ กระจุกกระจิก เช่น ห่วงพิลาทิส สำหรับออกกำลังกาย) คุณน้าก็กรุณาดิฉันมาก บางทีท่านไปเที่ยวที่ไหน ก็มักจะมีของฝากมาให้ และท่านก็จะกรุณาเล่าเรื่องสนุก ๆ พร้อมกับส่งรูปมาให้ดูประกอบ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย
ก็เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้แชร์ความประทับใจในมิตรภาพที่เหลือเชื่ออันนี้ด้วย
ท่านอื่นล่ะคะ ? มีใครเคยได้รับมิตรภาพจากคนที่ไม่คิดว่าจะได้รู้จักแบบนี้บ้างหรือเปล่าคะ ?