โลกร้อนทำพิษ! ญี่ปุ่นขาดแคลนข้าวสาร คาดยาวนาน 2 - 3 ปี ราคาข้าวญี่ปุ่นพุ่งสูง สะท้อนความขาดแคลน สต็อกต่ำสุดในรอบศตวรรษ
ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนข้าว เป็นผลมาจากภัยแล้งเมื่อปีที่แล้วทำให้ผลผลิตลดลงสวนทางกลับความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้น
ปัญหาภัยแล้งเมื่อปี 2566 ทั้งจากคลื่นความร้อนรุนแรงเป็นประวัติการณ์และฝนแล้ง ทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกของญี่ปุ่นลดลงต่ำสุดในรอบศตวรรษ ขณะที่ความต้องการภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคที่ต้องแบกรับภาระซื้อข้าวในราคาที่แพงขึ้น เจ้าของร้านขายข้าวสารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวเผยว่า ไม่เคยเจอสถานการณ์สต็อกข้าวเหลือน้อยเช่นนี้มาก่อน ขณะนี้ที่ร้านมีข้าวอยู่ในสต็อกไม่ถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา คาดว่า ปัญหานี้จะยืดเยื้อไปอีกปีสองปี
ปริมาณข้าวที่ลดลงส่งผลให้ข้าวมีราคาแพงขึ้น ตัวเลขล่าสุดของกระทรวงเกษตรระบุว่า ในปีนี้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อปีที่แล้วถึงร้อยละ 12 ผู้บริโภคจำนวนมากต้องหันไปหาซื้อข้าวที่มีราคาถูกมารับประทาน ผู้บริโภครายหนึ่งเปิดเผยว่า เดิมเคยซื้อข้าวสารบรรจุถุงขนาด 4-5 กิโลกรัมในราคาประมาณ 333 บาท แต่ตอนนี้ราคาดีดขึ้นไปถึงถุงละ 476 บาท
กระทรวงเกษตรระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ข้าวขาดแคลนมาจากการที่อุตสาหกรรมอาหารกำลังฟื้นตัวหลังโควิด 19 นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่ต้องการมาลิ้มลองอาหารญี่ปุ่น
สื่อยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น แนะนำให้บริโภคข้าวของต่างประเทศ โดยเเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทย เป็นข้าวจากต่างประเทศที่มีคุณภาพสูงสุดในตลาดญี่ปุ่น พร้อมบรรยายสรรพคุณทางโภชนาการดีต่อร่างกาย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะพันธมิตรที่สำคัญต่อการค้าข้าวของไทย โดยในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่น ประมาณ 290,000-310,000 ตัน/ปี ครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในญี่ปุ่น ประมาณ 46.74% โดยข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่น ประมาณ 96% เป็นข้าวขาว ส่วนที่เหลือเป็นข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิไทย และปลายข้าว
ญี่ปุ่นให้ความเชื่อมั่นคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล สถานการณ์ขาดแคลนข้าวสารของญี่ปุ่นจึงเป็นโอกาสทองที่จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิของไทย เพื่อตอบสนองความตื่นตัวในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ยึดถือในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตนเองมีความเชื่อมั่นสูง (Brand royalty) และพร้อมที่จะจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์
สำนักข่าวญี่ปุ่นแนะนำให้บริโภคข้าวหอมมะลิของไทย
ข่าวญี่ปุ่นขาดแคลนข้าวสาร
สื่อดังญี่ปุ่นแนะนำให้กิน "ข้าวหอมมะลิไทย" แทนข้าวท้องถิ่นของญี่ปุ่น ชูจุดเด่นคุณภาพสูงที่สุดในตลาด
ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาขาดแคลนข้าว เป็นผลมาจากภัยแล้งเมื่อปีที่แล้วทำให้ผลผลิตลดลงสวนทางกลับความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้น
ปัญหาภัยแล้งเมื่อปี 2566 ทั้งจากคลื่นความร้อนรุนแรงเป็นประวัติการณ์และฝนแล้ง ทำให้ปริมาณข้าวในสต็อกของญี่ปุ่นลดลงต่ำสุดในรอบศตวรรษ ขณะที่ความต้องการภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคที่ต้องแบกรับภาระซื้อข้าวในราคาที่แพงขึ้น เจ้าของร้านขายข้าวสารแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวเผยว่า ไม่เคยเจอสถานการณ์สต็อกข้าวเหลือน้อยเช่นนี้มาก่อน ขณะนี้ที่ร้านมีข้าวอยู่ในสต็อกไม่ถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา คาดว่า ปัญหานี้จะยืดเยื้อไปอีกปีสองปี
ปริมาณข้าวที่ลดลงส่งผลให้ข้าวมีราคาแพงขึ้น ตัวเลขล่าสุดของกระทรวงเกษตรระบุว่า ในปีนี้ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นจากเมื่อปีที่แล้วถึงร้อยละ 12 ผู้บริโภคจำนวนมากต้องหันไปหาซื้อข้าวที่มีราคาถูกมารับประทาน ผู้บริโภครายหนึ่งเปิดเผยว่า เดิมเคยซื้อข้าวสารบรรจุถุงขนาด 4-5 กิโลกรัมในราคาประมาณ 333 บาท แต่ตอนนี้ราคาดีดขึ้นไปถึงถุงละ 476 บาท
กระทรวงเกษตรระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ข้าวขาดแคลนมาจากการที่อุตสาหกรรมอาหารกำลังฟื้นตัวหลังโควิด 19 นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศจำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่ต้องการมาลิ้มลองอาหารญี่ปุ่น
สื่อยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น แนะนำให้บริโภคข้าวของต่างประเทศ โดยเเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทย เป็นข้าวจากต่างประเทศที่มีคุณภาพสูงสุดในตลาดญี่ปุ่น พร้อมบรรยายสรรพคุณทางโภชนาการดีต่อร่างกาย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในฐานะพันธมิตรที่สำคัญต่อการค้าข้าวของไทย โดยในแต่ละปีไทยส่งออกข้าวไปญี่ปุ่น ประมาณ 290,000-310,000 ตัน/ปี ครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในญี่ปุ่น ประมาณ 46.74% โดยข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่น ประมาณ 96% เป็นข้าวขาว ส่วนที่เหลือเป็นข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิไทย และปลายข้าว
ญี่ปุ่นให้ความเชื่อมั่นคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ในฐานะผู้ส่งออกข้าวที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล สถานการณ์ขาดแคลนข้าวสารของญี่ปุ่นจึงเป็นโอกาสทองที่จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิของไทย เพื่อตอบสนองความตื่นตัวในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ยึดถือในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตนเองมีความเชื่อมั่นสูง (Brand royalty) และพร้อมที่จะจ่ายเงินแพงขึ้นเพื่อคุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์
สำนักข่าวญี่ปุ่นแนะนำให้บริโภคข้าวหอมมะลิของไทย
ข่าวญี่ปุ่นขาดแคลนข้าวสาร