All NEW MG 3 Hybrid+
ราคาอย่างเป็นทางการ
MG 3 Hybrid+ D 559,900 บาท
MG 3 Hybrid+ X 599,900 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี / 120,000 km.
รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Dimension มิติตัวถัง
MG 3 Hybrid+
ยาว 4,113 มิลลิเมตร
กว้าง 1,797 มิลลิเมตร
สูง 1,502 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase 2,570 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น 117 มิลลิเมตร
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ขนาด 293 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
MG 3 รุ่นเดิม
ยาว 4,055 x 1,729 x 1,516 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase 2,520 มิลลิเมตร
เทียบกับรุ่นเดิม พบว่า All NEW MG 3 Hybrid+ มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นทุกมิติ ยาวขึ้น 58 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร เตี้ยลง 14 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร
เทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน
MG 3 : 4,113 x 1,797 x 1,502 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
Honda City : 4,349 x 1,748 x 1,448 มม. | ฐานล้อ 2,589 มม.
Toyota Yaris : 4,160 x 1,730 x 1,500 มม. | ฐานล้อ 2,550 มม.
Mazda 2 : 4,080 x 1,695 x 1,515 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.5 Hybrid+
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle พละกำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 128 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
เมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-AT โปรแกรมอัตราทดเกียร์ 3 รูปแบบ แบตเตอรี่ Lithium-ion 1.83 kWh ปล่อย CO2 ที่ 100 g./km.
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 8.0 วินาที
อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 5.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด Top Speed 170 km/h
น้ำมัน 1 ถัง วิ่งทดสอบในไทยได้ไกลกว่า 970 กิโลเมตร จนน้ำมันหมดถัง (เฉลี่ยใช้งานจริง 26.2 km/l)
Highlights ของ All NEW MG 3 Hybrid+
Powertrain ระบบขับเคลื่อน
เน้นการขับขี่ที่สนุกสนาน Fun-to-Drive
โหมด Hybrid แบ่งการทำงาน : EV / Series / Series&Charge / Drive&Charge / Parallel
โหมดการขับขี่ Drive Mode มีให้เลือก 3 รูปแบบ : ECO / Standard / Sport
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ E-Shifter Dial
ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างหลัง Torsion Beam
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และ ดิสก์เบรกหลัง
Exterior ภายนอก
ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
ไฟตัดหมอกหลัง
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
Interior ภายในห้องโดยสาร
เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
ที่พักแขนกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า
เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
หน้าจอคู่ Dual Screen
มาตรวัด Full Digital ขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key
ปุ่มสตาร์ทระบบ Push Start Button
ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
ระบบกรองอากาศ PM 5
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
Safety ระบบความปลอดภัย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot
กล้อง ADAS : Advanced Driver Assistant System
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
สิ่งที่ MG 3 Hybrid+ รุ่น X แตกต่างจากรุ่น D ดังนี้
(เพิ่มเงิน 40,000 บาท)
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ
พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี
สีขาว Arctic White
สีเทา Metal Ash Grey
สีดำ Black Knight
สีแดง Scarlet Red
สีเหลือง Pastel Yellow
สีน้ำเงิน ST.Moritz Blue
ภายในห้องโดยสาร มี 2 สี
สีดำ Black (รุ่น D)
สีทูโทน ดำ Black / สีขาว White (รุ่น X)

ราคาอย่างเป็นทางการ MG 3 Hybrid+ : 559,900 – 599,900 บาท | เบนซิน 1.5 + มอเตอร์ไฟฟ้า 194 แรงม้า
ราคาอย่างเป็นทางการ
MG 3 Hybrid+ D 559,900 บาท
MG 3 Hybrid+ X 599,900 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี / 120,000 km.
รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
Dimension มิติตัวถัง
MG 3 Hybrid+
ยาว 4,113 มิลลิเมตร
กว้าง 1,797 มิลลิเมตร
สูง 1,502 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase 2,570 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น 117 มิลลิเมตร
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ขนาด 293 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
MG 3 รุ่นเดิม
ยาว 4,055 x 1,729 x 1,516 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase 2,520 มิลลิเมตร
เทียบกับรุ่นเดิม พบว่า All NEW MG 3 Hybrid+ มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นทุกมิติ ยาวขึ้น 58 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร เตี้ยลง 14 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร
เทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน
MG 3 : 4,113 x 1,797 x 1,502 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
Honda City : 4,349 x 1,748 x 1,448 มม. | ฐานล้อ 2,589 มม.
Toyota Yaris : 4,160 x 1,730 x 1,500 มม. | ฐานล้อ 2,550 มม.
Mazda 2 : 4,080 x 1,695 x 1,515 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.5 Hybrid+
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle พละกำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 128 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
เมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-AT โปรแกรมอัตราทดเกียร์ 3 รูปแบบ แบตเตอรี่ Lithium-ion 1.83 kWh ปล่อย CO2 ที่ 100 g./km.
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 8.0 วินาที
อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 5.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด Top Speed 170 km/h
น้ำมัน 1 ถัง วิ่งทดสอบในไทยได้ไกลกว่า 970 กิโลเมตร จนน้ำมันหมดถัง (เฉลี่ยใช้งานจริง 26.2 km/l)
Highlights ของ All NEW MG 3 Hybrid+
Powertrain ระบบขับเคลื่อน
เน้นการขับขี่ที่สนุกสนาน Fun-to-Drive
โหมด Hybrid แบ่งการทำงาน : EV / Series / Series&Charge / Drive&Charge / Parallel
โหมดการขับขี่ Drive Mode มีให้เลือก 3 รูปแบบ : ECO / Standard / Sport
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ E-Shifter Dial
ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
ช่วงล่างหลัง Torsion Beam
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และ ดิสก์เบรกหลัง
Exterior ภายนอก
ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
ไฟตัดหมอกหลัง
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
Interior ภายในห้องโดยสาร
เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
ที่พักแขนกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า
เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
หน้าจอคู่ Dual Screen
มาตรวัด Full Digital ขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key
ปุ่มสตาร์ทระบบ Push Start Button
ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
ระบบกรองอากาศ PM 5
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
Safety ระบบความปลอดภัย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot
กล้อง ADAS : Advanced Driver Assistant System
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
สิ่งที่ MG 3 Hybrid+ รุ่น X แตกต่างจากรุ่น D ดังนี้
(เพิ่มเงิน 40,000 บาท)
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensor
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ
พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี
สีขาว Arctic White
สีเทา Metal Ash Grey
สีดำ Black Knight
สีแดง Scarlet Red
สีเหลือง Pastel Yellow
สีน้ำเงิน ST.Moritz Blue
ภายในห้องโดยสาร มี 2 สี
สีดำ Black (รุ่น D)
สีทูโทน ดำ Black / สีขาว White (รุ่น X)