วันนี้จะมารีวิวบรรดามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ใช้แล้วชอบค่ะ โดยจะรีวิวแยกตามแบรนด์นะคะเพราะบางแบรนด์สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย มีทั้งราคาเบาๆ สบายกระเป๋าไปยันเคาน์เตอร์แบรนด์ค่ะ ก่อนรีวิวต้องบอกก่อนว่าสภาพผิวหน้าเราเป็นคนผิวมันเป็นสิวค่า
1.Cerave หนึ่งในแบรนด์ลูกรักตลอดกาลของเราเลยค่ะ เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่อง Ceramide ช่วยเรื่องการเสริมสร้างปราการผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ลดการอักเสบ ระคายเคือง แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านหรือผิวที่ปราการผิวอ่อนแอ แบรนด์นี้เราใช้มาแล้วหลายตัวมากๆ เห็นผลจริงจังกับผิวมากค่ะ เป็นแบรนด์ที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายนะคะ ตัวโลชั่นเนื้อจะไม่หนักเหมือนครีม ใครที่ผิวมันแล้วชอบเนื้อไม่หนักแนะนำเลยค่ะ แต่ระยะเวลาในการเห็นผลก็จะช้ากว่าแบบเนื้อครีมหน่อย เราเคยเจอปัญหาผิวแห้งลอกค่ะ ตอนใช้แบบโลชั่นใช้เวลาประมาณ 1 เดือนค่อยๆ ดีขึ้น แต่ตอนใช้แบบครีมคือราวๆ 7 วันเองค่ะ ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอกหรือผิวอักเสบได้ดีมากๆ ถ้ามีปัญหาเรื่องผิวแห้งแตก ผิวอักเสบ แนะนำให้โบกเลยค่ะ จัดหนักไปเลย ดีขึ้นไวแน่นอน เราผ่านมาแล้ว 555
2.Physiogel เราใช้ทั้งสูตรสีฟ้าและสีแดงค่ะ เป็นแบบเนื้อโลชั่นทั้งคู่ เนื้อไม่หนัก และใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายทั้งคู่ค่ะ หลังทาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวเอาไว้ค่ะ เวลาอาบน้ำยังรู้สึกได้ว่ามีอะไรเคลือบชั้นผิวไว้อยู่เลยค่ะ มันจะลื่นๆ บริเวณที่ทาโลชั่นค่ะ คือดูแลผิวได้ยาวนานจริงๆ
3.Eucerin อันนี้เราจะขอเน้นไปทางโลชั่นบำรุงผิวกายค่ะ มีอยู่ 2 สูตรที่ชอบคือ Urea กับตัวออกใหม่เลยคือ Spotless ในที่สุดทางแบรนด์ก็ใส่ไทอามิดอลลงในโลชั่นผิวกายแล้วค่า เราอยากได้โลชั่นที่ช่วยดูแลผิวและช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสไปพร้อมกันค่ะ ตัวนี้กลิ่นหอมมาก เนื้อโลชั่นเข้มข้นค่ะ ส่วนตัว Urea จะเน้นเรื่องความชุ่มชื้นโดยเฉพาะค่ะ ใส่มา 5% เนื้อโลชั่นก็จะเข้มข้นเหมือนกันค่ะแต่เนื้อก็ยังไม่หนักเกินไปค่ะ เกลี่ยง่ายซึมง่ายอยู่
4.Kiehl’s Ultra Facial Cream เราใช้ทั้งแบบครีมและแบบเจลมาแล้วค่ะ เนื้อดีทั้งคู่ แต่ที่ว้าวคือแบบเนื้อครีมค่ะเพราะเนื้อไม่หนักเลย!!! เหมือนทาโลชั่นบางๆ อยู่มากกว่า เกลี่ยง่าย ซึมไวสุดๆ คนผิวมันอย่างเราใช้ได้โดยไม่ติดอะไรเลยแม้แต่น้อยค่ะ และอีกตัวที่เราชอบที่สุดของทาง Kiehl’s คือ Dark Spot ค่ะ อีกหนึ่งลูกรักตลอดกาลเหมือนกันค่ะตัวนี้ ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดรอยสิว จุดด่างดำได้ดีมากๆ
5.Lancome Genefique เป็นแบรนด์ที่ทำให้เราโคตรประทับใจได้แค่จากการทดลองใช้เทสเตอร์ที่แจกจากทางเคาน์เตอร์ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ทำให้เราเปิดใจกับเคาน์เตอร์แบรนด์เลย เราเพิ่งเริ่มใช้เทสเตอร์แค่ไม่นานแต่ผิวแตกต่างแบบเห็นได้ชัดค่ะ เวลาสัมผัสผิวหน้าแล้วผิวนุ่มขึ้นมาก ให้ความรู้สึกแบบเด้งๆ หน่อย ผิวอิ่นน้ำอิ่มฟูขึ้นจริงในเวลาแค่เพียง 3-5 วันเองค่ะ จากนั้นก็เลยไปซื้อแบบไซส์จิ๋วๆ มาใช้ต่อค่ะ ไซส์จิ๋วที่ว่าคือไซส์เทสเตอร์นี่แหละค่ะแต่มีขายตามแอพ 555
6.Vaseline โลชั่นวาสลีนเราชอบหลายสูตรมากเลยค่ะ ไลน์ Gluta-Hya ที่ชอบสุดคือหลอดสีชมพู ชอบเพราะกลิ่นค่ะ หอมมาก เนื้อโลชั่นก็ดีค่ะ เนื้อเกลี่ยง่ายซึมไวมากๆ แบบเซรั่มก็คือชอบสีชมพูอีกแล้ว อันนี้ที่ชอบเพราะเป็นสูตรที่ผสม B3 กับเป็นสูตรเดียวที่มีเม็ดบีทผสมค่ะ 555 แต่สำหรับตัว Pro Derma ก็คือดีมากๆ เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนี้ออกมาหลายสูตรมากๆ แล้ว ส่วนเราก็เน้นที่เบอร์ 3 ค่ะ สำหรับปรับผิวกระจ่างใส เพราะเรามีปัญหาผิวหมองคล้ำ ตัวนี้มีทั้ง B3 กับ Antioxidant ด้วยค่ะ คือมาแบบครบๆ เลยในราแค่หลักร้อยเอง ดีงามมาก
7.Nivea เป็นโลชั่นวิตามินที่มีส่วนผสมของทั้ง Vitamin A, C, E, B3, B5, B9 เน้นเรื่องการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสค่ะ ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำ บำรุงผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยในเรื่องของการเก็บความชุ่มชื้นที่ผิว เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดผิวดำแดดเเละโดนทำร้ายจากแดด ช่วยต้านทานรังสี UV และป้องกันไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแดด เป็นโลชั่นที่อัดแน่นด้วยวิตามินที่ถึง 6 ชนิดค่ะ มีกลิ่นหอม ในช่วงแรกๆ เราว่ามันหอมมากเกินไปหน่อยแต่ตอนหลังที่ซื้อมาก็ไม่เจอปัญหานี้แล้วค่ะ เนื้อโลชั่นดีมาก ซึมไว เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวเลย และยังใส่สารกันแดด SPF 15 มาในโลชั่นด้วย
[CR] มอยส์ตัวตึง..ที่หนึ่งในใจสำหรับสาวผิวมันค่ะ
1.Cerave หนึ่งในแบรนด์ลูกรักตลอดกาลของเราเลยค่ะ เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่อง Ceramide ช่วยเรื่องการเสริมสร้างปราการผิว ทำให้ผิวแข็งแรง ลดการอักเสบ ระคายเคือง แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านหรือผิวที่ปราการผิวอ่อนแอ แบรนด์นี้เราใช้มาแล้วหลายตัวมากๆ เห็นผลจริงจังกับผิวมากค่ะ เป็นแบรนด์ที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายนะคะ ตัวโลชั่นเนื้อจะไม่หนักเหมือนครีม ใครที่ผิวมันแล้วชอบเนื้อไม่หนักแนะนำเลยค่ะ แต่ระยะเวลาในการเห็นผลก็จะช้ากว่าแบบเนื้อครีมหน่อย เราเคยเจอปัญหาผิวแห้งลอกค่ะ ตอนใช้แบบโลชั่นใช้เวลาประมาณ 1 เดือนค่อยๆ ดีขึ้น แต่ตอนใช้แบบครีมคือราวๆ 7 วันเองค่ะ ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งลอกหรือผิวอักเสบได้ดีมากๆ ถ้ามีปัญหาเรื่องผิวแห้งแตก ผิวอักเสบ แนะนำให้โบกเลยค่ะ จัดหนักไปเลย ดีขึ้นไวแน่นอน เราผ่านมาแล้ว 555
2.Physiogel เราใช้ทั้งสูตรสีฟ้าและสีแดงค่ะ เป็นแบบเนื้อโลชั่นทั้งคู่ เนื้อไม่หนัก และใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายทั้งคู่ค่ะ หลังทาแล้วจะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวเอาไว้ค่ะ เวลาอาบน้ำยังรู้สึกได้ว่ามีอะไรเคลือบชั้นผิวไว้อยู่เลยค่ะ มันจะลื่นๆ บริเวณที่ทาโลชั่นค่ะ คือดูแลผิวได้ยาวนานจริงๆ
3.Eucerin อันนี้เราจะขอเน้นไปทางโลชั่นบำรุงผิวกายค่ะ มีอยู่ 2 สูตรที่ชอบคือ Urea กับตัวออกใหม่เลยคือ Spotless ในที่สุดทางแบรนด์ก็ใส่ไทอามิดอลลงในโลชั่นผิวกายแล้วค่า เราอยากได้โลชั่นที่ช่วยดูแลผิวและช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสไปพร้อมกันค่ะ ตัวนี้กลิ่นหอมมาก เนื้อโลชั่นเข้มข้นค่ะ ส่วนตัว Urea จะเน้นเรื่องความชุ่มชื้นโดยเฉพาะค่ะ ใส่มา 5% เนื้อโลชั่นก็จะเข้มข้นเหมือนกันค่ะแต่เนื้อก็ยังไม่หนักเกินไปค่ะ เกลี่ยง่ายซึมง่ายอยู่
4.Kiehl’s Ultra Facial Cream เราใช้ทั้งแบบครีมและแบบเจลมาแล้วค่ะ เนื้อดีทั้งคู่ แต่ที่ว้าวคือแบบเนื้อครีมค่ะเพราะเนื้อไม่หนักเลย!!! เหมือนทาโลชั่นบางๆ อยู่มากกว่า เกลี่ยง่าย ซึมไวสุดๆ คนผิวมันอย่างเราใช้ได้โดยไม่ติดอะไรเลยแม้แต่น้อยค่ะ และอีกตัวที่เราชอบที่สุดของทาง Kiehl’s คือ Dark Spot ค่ะ อีกหนึ่งลูกรักตลอดกาลเหมือนกันค่ะตัวนี้ ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดรอยสิว จุดด่างดำได้ดีมากๆ
5.Lancome Genefique เป็นแบรนด์ที่ทำให้เราโคตรประทับใจได้แค่จากการทดลองใช้เทสเตอร์ที่แจกจากทางเคาน์เตอร์ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ทำให้เราเปิดใจกับเคาน์เตอร์แบรนด์เลย เราเพิ่งเริ่มใช้เทสเตอร์แค่ไม่นานแต่ผิวแตกต่างแบบเห็นได้ชัดค่ะ เวลาสัมผัสผิวหน้าแล้วผิวนุ่มขึ้นมาก ให้ความรู้สึกแบบเด้งๆ หน่อย ผิวอิ่นน้ำอิ่มฟูขึ้นจริงในเวลาแค่เพียง 3-5 วันเองค่ะ จากนั้นก็เลยไปซื้อแบบไซส์จิ๋วๆ มาใช้ต่อค่ะ ไซส์จิ๋วที่ว่าคือไซส์เทสเตอร์นี่แหละค่ะแต่มีขายตามแอพ 555
6.Vaseline โลชั่นวาสลีนเราชอบหลายสูตรมากเลยค่ะ ไลน์ Gluta-Hya ที่ชอบสุดคือหลอดสีชมพู ชอบเพราะกลิ่นค่ะ หอมมาก เนื้อโลชั่นก็ดีค่ะ เนื้อเกลี่ยง่ายซึมไวมากๆ แบบเซรั่มก็คือชอบสีชมพูอีกแล้ว อันนี้ที่ชอบเพราะเป็นสูตรที่ผสม B3 กับเป็นสูตรเดียวที่มีเม็ดบีทผสมค่ะ 555 แต่สำหรับตัว Pro Derma ก็คือดีมากๆ เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนี้ออกมาหลายสูตรมากๆ แล้ว ส่วนเราก็เน้นที่เบอร์ 3 ค่ะ สำหรับปรับผิวกระจ่างใส เพราะเรามีปัญหาผิวหมองคล้ำ ตัวนี้มีทั้ง B3 กับ Antioxidant ด้วยค่ะ คือมาแบบครบๆ เลยในราแค่หลักร้อยเอง ดีงามมาก
7.Nivea เป็นโลชั่นวิตามินที่มีส่วนผสมของทั้ง Vitamin A, C, E, B3, B5, B9 เน้นเรื่องการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสค่ะ ช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำ บำรุงผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวแข็งแรง ช่วยในเรื่องของการเก็บความชุ่มชื้นที่ผิว เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เกิดผิวดำแดดเเละโดนทำร้ายจากแดด ช่วยต้านทานรังสี UV และป้องกันไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากแดด เป็นโลชั่นที่อัดแน่นด้วยวิตามินที่ถึง 6 ชนิดค่ะ มีกลิ่นหอม ในช่วงแรกๆ เราว่ามันหอมมากเกินไปหน่อยแต่ตอนหลังที่ซื้อมาก็ไม่เจอปัญหานี้แล้วค่ะ เนื้อโลชั่นดีมาก ซึมไว เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวเลย และยังใส่สารกันแดด SPF 15 มาในโลชั่นด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้