“อีไอซี” ชี้ ลงทุนเอกชนทรุด ส่งสัญญาณเศรษฐกิจไทยเข้าสู่วัฏจักรขาลงชัดเจนในครึ่งปีหลัง จ่อหั่น จีดีพีต่ำเป้าที่ 2.5% “เกียรตินาคินภัทร”ชี้ผลกระทบแบงก์ชะลอปล่อยกู้ เริ่มมีผลกระทบเศรษฐกิจไทย “ซีไอเอ็มบีไทย” ชี้ลงทุนเอกชนติดลบแรง จับตาธุรกิจสภาพคล่องต่อเนื่อง
ภายหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ออกมาขยายตัว 2.3% แม้โดยรวมยังคงขยายตัวได้ แต่หากดูไส้ในของเศรษฐกิจไทยยังมีหลายเครื่องจักรเศรษฐกิจที่ “น่าห่วง” ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “การลงทุน” ของภาคเอกชนที่โดยรวมยังหดตัวอย่างมาก
โดยการลงทุนโดยรวมในไตรมาส 2 ปี 2567 หดตัวอยู่ 6.2% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สาม โดยมาจากการลงทุนภาคเอกชนลดลง 6.8% สาเหตุหลักๆ มาจากการลดลงของการลงทุนในหมวดยานพาหนะ 22.5% และการชะลอตัวของปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน รวมถึงการลงทุนหมวดก่อสร้างลดลง 2.2% ตามการลดลงของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างอาคารพาณิชย์เป็นสำคัญ
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มองว่าตัวเลขจีดีพีที่ออกมา 2.3% ถือว่าใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ 2.4%
แต่หากมองไปข้างหน้าจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มองว่าเศรษฐกิจไทยเปลี่ยนไปอย่างมาก ระหว่างครึ่งปีแรกกับครึ่งปีหลัง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังส่งสัญญาณอ่อนแรงลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจน
จ่อหั่น“จีดีพี”ปี67ต่ำเป้า
ดังนั้น มองว่ามีโอกาสที่ EIC จะปรับจีดีพีปีนี้ลดลงเช่นเดียวกัน แม้ปัจจุบันยังคงจีดีพีไว้ที่ระดับ 2.5% ปัจจัยหลักๆ มาจากการลงทุนเอกชนที่ติดลบค่อนข้างมาก
สะท้อนตัวเลขการผลิตที่ต่ำลงต่อเนื่อง แม้ตัวเลขโดยรวมภาคการผลิตยังเติบโต แต่มาจากการผลิตขายในประเทศ แต่การผลิตเพื่อส่งออกติดลบค่อนข้างมาก เหล่านี้สอดคล้องกับความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยที่ลดลงต่อเนื่อง หากเทียบกับเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า
ดังนั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจมาก เพราะการลงทุนถือเป็นต้นทางการหมุนของเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบต่อการจ้างงาน ต่อกำลังซื้อโดยรวมที่ลดลง ดังนั้น การลงทุน และการผลิตที่ลดลง จึงทำให้เศรษฐกิจไทยหมุนลงเร็วขึ้นได้ หากมองไปข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมองว่าหากเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาส มองว่าจะขยายตัวที่จะเห็นการขยายตัวไม่ถึง 1%
“วงจรที่เราเห็นที่เชื่อมกันระหว่างภาคอุปสงค์และอุปทานวันนี้ กำลังบอกเราว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในวัฏจักรขาลง ดังนั้นมาตรการที่จะทำในระยะข้างหน้า ต้องเราต้องการเห็นการกระตุ้นการลงทุน มากกว่า การบริโภค เพราะภาพเศรษฐกิจที่มันออกมา การลงทุนที่ทรุดตัวลงไปเยอะที่ต้องทำให้ภาพนี้กลับมาโดยเร็ว”
ทั้งนี้ มองว่าบนตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุด ในมุมมองของ กนง. อาจยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจล่าสุด ออกมาใกล้เคียงกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินไว้ แต่ท้ายที่สุดมองว่า กนง. จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ในครั้งสุดท้ายของปี
เอฟเฟกต์สินเชื่อชะลอกระทบจีดีพี-ลงทุนหด
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เศรษฐกิจไทยที่ออกมา ถือว่าต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินที่ 2.5-2.6%
โดยมีหลายภาคส่วนสำคัญที่มองว่า เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ทั้งภาคการท่องเที่ยวภาคบริการที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่หลายภาคส่วนกลับมามีสัญญาณฟื้นตัวได้ แต่หลายอุตสาหกรรมเผชิญปัญหามากขึ้น
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักอย่าง รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีที่เจอปัญหาการชะลอตัวพร้อมกัน จึงเห็นตัวเลขปิดโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง
แต่หลายอุตสาหกรรมเผชิญปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักอย่าง รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีที่เจอปัญหาการชะลอตัวพร้อมกัน จึงเห็นตัวเลขปิดโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตัวที่น่าห่วงมากขึ้นคือ การบริโภคสินค้าคงทน และการลงทุนในส่วนของที่อยู่อาศัยที่ติดลบต่อเนื่อง เหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อของระบบธนาคารที่ชะลอตัวลง เริ่มมีผลกระทบต่อตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามคือ หากสัญญาณเหล่านี้ ยังคงหดตัวต่อเนื่องในไตรมาสถัดๆ มา ผลกระทบที่อยู่แค่บางอุตสาหกรรม อาจลามมากระทบต่อภาคส่วนต่างๆของระบบเศรษฐกิจไทย
“เดิมมองว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จีดีพีต้องดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาต่ำมากแล้ว แต่การลงทุนที่หายไปเยอะ มีผลต่อจีดีพีปีนี้แน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนในภาคอสังหาฯ ที่หายไปมาก โครงการใหม่เกิดน้อยลง ขายไม่ออกมากขึ้น อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ เพราะเหล่านี้ผูกไปด้วยซัพพลายเชนเต็มไปหมด ตั้งแต่ผู้รับเหมา วัสดุก่อสร้างต่างๆ ดังนั้นสัญญาณแบบนี้น่าห่วง”
อย่างไรก็ตาม มองว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 2.6% จากสัญญาณเศรษฐกิจ และการลงทุนที่มีโอกาสชะลอตัวลงได้
ลงทุน“เอกชน”ทรุด ธุรกิจชะลอลงทุน
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยที่ออกมาไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 2.3% ถือว่าใกล้เคียงกับดีเกินคาดการณ์ไว้ หากเทียบกับประมาณการที่ซีไอเอ็มบีไทยประเมินว่าจะขยายตัวเพียง 1.8% แต่การขยายตัวดังกล่าวยังถือว่าต่ำที่สุดในอาเซียน
ทั้งนี้ การเติบโตต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย หลักๆมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้และการใช้จ่ายภาครัฐที่กลับมาเป็นบวก และเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย
แต่ที่น่าห่วงคือ การลงทุนเอกชน ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาจากการนำเข้าการลงทุนด้านเครื่องจักรด้านการก่อสร้างชะลอ ซึ่งถือเป็นสัญญาณน่าห่วงเพราะสะท้อนถึงกำลังการผลิตในระยะข้างหน้าที่อาจลดลงได้ และอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวต่อเนื่องหรือฟื้นตัวช้ามากขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนเครื่องจักรที่ติดลบ ที่น่ากังวลและต้องติดตามมากขึ้น เพราะการลงทุนที่ลดลงอาจมาจากการเร่งระบายสินค้าคงคลังในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนหรือการผลิต ซึ่งอาจมาจากผู้ประกอบการที่อาจประสบปัญหามากขึ้น ทั้งจากการเข้ามาตีตลาดของสินค้าจีน ทำให้ธุรกิจไทยขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน และขาดความเชื่อมั่นในการแข่งขันมากขึ้น
“สัญญาณการลงทุนที่ลดลง น่าห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ และเรายังไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไร จากการเร่งระบายสต็อก เพราะขาดความเชื่อมั่นของการลงทุน การขาดความสามารถในการแข่งขัน หรือการขาดเม็ดเงิน หรือ สภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อ ดังนั้นเรามองว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องติดตามและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สิ่งที่ภาครัฐควรทำคือช่วยทั้งกลุ่มเปราะบาง และผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายกลางในภาคการผลิตที่วันนี้อาจเผชิญปัญหามากขึ้นและระมัดระวังไม่ให้ปัญหามันลามมาสู่ภาคธุรกิจอื่นๆ ลามไปสู่รายเล็กรายกลาง และลามสู่สถาบันการเงินในที่สุด”
ดังนั้น จากภาพเศรษฐกิจไทย ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แม้จะยังเติบโตได้ มองว่าเอื้อต่อการลดดอกเบี้ยลงในรอบการประชุมกนง.วันที่ 21ส.ค.นี้
แต่หากไม่ลดดอกเบี้ย โอกาสข้างหน้าก็มีโอกาสลดลงเช่นเดียวกัน จากทิศทางดอกเบี้ยที่อยุ่ในทิศทางขาลง และเงินเฟ้อไม่ใช่ปัจจัยที่น่าห่วงแล้ว
Cr.
https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1140929
นักเศรษฐศาสตร์ จ่อหั่น ‘จีดีพี’เซ่น ‘ลงทุนทรุด‘ทุบเศรษฐกิจสู่วัฏจักรขาลง
ภายหลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ออกมาขยายตัว 2.3% แม้โดยรวมยังคงขยายตัวได้ แต่หากดูไส้ในของเศรษฐกิจไทยยังมีหลายเครื่องจักรเศรษฐกิจที่ “น่าห่วง” ต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “การลงทุน” ของภาคเอกชนที่โดยรวมยังหดตัวอย่างมาก
โดยการลงทุนโดยรวมในไตรมาส 2 ปี 2567 หดตัวอยู่ 6.2% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สาม โดยมาจากการลงทุนภาคเอกชนลดลง 6.8% สาเหตุหลักๆ มาจากการลดลงของการลงทุนในหมวดยานพาหนะ 22.5% และการชะลอตัวของปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน รวมถึงการลงทุนหมวดก่อสร้างลดลง 2.2% ตามการลดลงของการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และการก่อสร้างอาคารพาณิชย์เป็นสำคัญ
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มองว่าตัวเลขจีดีพีที่ออกมา 2.3% ถือว่าใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ 2.4%
แต่หากมองไปข้างหน้าจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มองว่าเศรษฐกิจไทยเปลี่ยนไปอย่างมาก ระหว่างครึ่งปีแรกกับครึ่งปีหลัง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังส่งสัญญาณอ่อนแรงลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งจากสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจน
จ่อหั่น“จีดีพี”ปี67ต่ำเป้า
ดังนั้น มองว่ามีโอกาสที่ EIC จะปรับจีดีพีปีนี้ลดลงเช่นเดียวกัน แม้ปัจจุบันยังคงจีดีพีไว้ที่ระดับ 2.5% ปัจจัยหลักๆ มาจากการลงทุนเอกชนที่ติดลบค่อนข้างมาก
สะท้อนตัวเลขการผลิตที่ต่ำลงต่อเนื่อง แม้ตัวเลขโดยรวมภาคการผลิตยังเติบโต แต่มาจากการผลิตขายในประเทศ แต่การผลิตเพื่อส่งออกติดลบค่อนข้างมาก เหล่านี้สอดคล้องกับความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยที่ลดลงต่อเนื่อง หากเทียบกับเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า
ดังนั้น ถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจมาก เพราะการลงทุนถือเป็นต้นทางการหมุนของเศรษฐกิจ ที่มีผลกระทบต่อการจ้างงาน ต่อกำลังซื้อโดยรวมที่ลดลง ดังนั้น การลงทุน และการผลิตที่ลดลง จึงทำให้เศรษฐกิจไทยหมุนลงเร็วขึ้นได้ หากมองไปข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมองว่าหากเทียบกับไตรมาสต่อไตรมาส มองว่าจะขยายตัวที่จะเห็นการขยายตัวไม่ถึง 1%
“วงจรที่เราเห็นที่เชื่อมกันระหว่างภาคอุปสงค์และอุปทานวันนี้ กำลังบอกเราว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในวัฏจักรขาลง ดังนั้นมาตรการที่จะทำในระยะข้างหน้า ต้องเราต้องการเห็นการกระตุ้นการลงทุน มากกว่า การบริโภค เพราะภาพเศรษฐกิจที่มันออกมา การลงทุนที่ทรุดตัวลงไปเยอะที่ต้องทำให้ภาพนี้กลับมาโดยเร็ว”
ทั้งนี้ มองว่าบนตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาล่าสุด ในมุมมองของ กนง. อาจยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจล่าสุด ออกมาใกล้เคียงกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินไว้ แต่ท้ายที่สุดมองว่า กนง. จะสามารถลดดอกเบี้ยได้ในครั้งสุดท้ายของปี
เอฟเฟกต์สินเชื่อชะลอกระทบจีดีพี-ลงทุนหด
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย กรรมการผู้จัดการ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เศรษฐกิจไทยที่ออกมา ถือว่าต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินที่ 2.5-2.6%
โดยมีหลายภาคส่วนสำคัญที่มองว่า เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ทั้งภาคการท่องเที่ยวภาคบริการที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่หลายภาคส่วนกลับมามีสัญญาณฟื้นตัวได้ แต่หลายอุตสาหกรรมเผชิญปัญหามากขึ้น
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักอย่าง รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีที่เจอปัญหาการชะลอตัวพร้อมกัน จึงเห็นตัวเลขปิดโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง
แต่หลายอุตสาหกรรมเผชิญปัญหามากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักอย่าง รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีที่เจอปัญหาการชะลอตัวพร้อมกัน จึงเห็นตัวเลขปิดโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตัวที่น่าห่วงมากขึ้นคือ การบริโภคสินค้าคงทน และการลงทุนในส่วนของที่อยู่อาศัยที่ติดลบต่อเนื่อง เหล่านี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อของระบบธนาคารที่ชะลอตัวลง เริ่มมีผลกระทบต่อตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยแล้ว
ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามคือ หากสัญญาณเหล่านี้ ยังคงหดตัวต่อเนื่องในไตรมาสถัดๆ มา ผลกระทบที่อยู่แค่บางอุตสาหกรรม อาจลามมากระทบต่อภาคส่วนต่างๆของระบบเศรษฐกิจไทย
“เดิมมองว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จีดีพีต้องดีขึ้น เพราะที่ผ่านมาต่ำมากแล้ว แต่การลงทุนที่หายไปเยอะ มีผลต่อจีดีพีปีนี้แน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนในภาคอสังหาฯ ที่หายไปมาก โครงการใหม่เกิดน้อยลง ขายไม่ออกมากขึ้น อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ เพราะเหล่านี้ผูกไปด้วยซัพพลายเชนเต็มไปหมด ตั้งแต่ผู้รับเหมา วัสดุก่อสร้างต่างๆ ดังนั้นสัญญาณแบบนี้น่าห่วง”
อย่างไรก็ตาม มองว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะต่ำกว่าที่ประเมินไว้ที่ 2.6% จากสัญญาณเศรษฐกิจ และการลงทุนที่มีโอกาสชะลอตัวลงได้
ลงทุน“เอกชน”ทรุด ธุรกิจชะลอลงทุน
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยที่ออกมาไตรมาส 2 ปี 2567 ที่ 2.3% ถือว่าใกล้เคียงกับดีเกินคาดการณ์ไว้ หากเทียบกับประมาณการที่ซีไอเอ็มบีไทยประเมินว่าจะขยายตัวเพียง 1.8% แต่การขยายตัวดังกล่าวยังถือว่าต่ำที่สุดในอาเซียน
ทั้งนี้ การเติบโตต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย หลักๆมาจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้และการใช้จ่ายภาครัฐที่กลับมาเป็นบวก และเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย
แต่ที่น่าห่วงคือ การลงทุนเอกชน ที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาจากการนำเข้าการลงทุนด้านเครื่องจักรด้านการก่อสร้างชะลอ ซึ่งถือเป็นสัญญาณน่าห่วงเพราะสะท้อนถึงกำลังการผลิตในระยะข้างหน้าที่อาจลดลงได้ และอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวต่อเนื่องหรือฟื้นตัวช้ามากขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนเครื่องจักรที่ติดลบ ที่น่ากังวลและต้องติดตามมากขึ้น เพราะการลงทุนที่ลดลงอาจมาจากการเร่งระบายสินค้าคงคลังในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนหรือการผลิต ซึ่งอาจมาจากผู้ประกอบการที่อาจประสบปัญหามากขึ้น ทั้งจากการเข้ามาตีตลาดของสินค้าจีน ทำให้ธุรกิจไทยขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน และขาดความเชื่อมั่นในการแข่งขันมากขึ้น
“สัญญาณการลงทุนที่ลดลง น่าห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ และเรายังไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไร จากการเร่งระบายสต็อก เพราะขาดความเชื่อมั่นของการลงทุน การขาดความสามารถในการแข่งขัน หรือการขาดเม็ดเงิน หรือ สภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อ ดังนั้นเรามองว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องติดตามและต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สิ่งที่ภาครัฐควรทำคือช่วยทั้งกลุ่มเปราะบาง และผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายกลางในภาคการผลิตที่วันนี้อาจเผชิญปัญหามากขึ้นและระมัดระวังไม่ให้ปัญหามันลามมาสู่ภาคธุรกิจอื่นๆ ลามไปสู่รายเล็กรายกลาง และลามสู่สถาบันการเงินในที่สุด”
ดังนั้น จากภาพเศรษฐกิจไทย ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น แม้จะยังเติบโตได้ มองว่าเอื้อต่อการลดดอกเบี้ยลงในรอบการประชุมกนง.วันที่ 21ส.ค.นี้
แต่หากไม่ลดดอกเบี้ย โอกาสข้างหน้าก็มีโอกาสลดลงเช่นเดียวกัน จากทิศทางดอกเบี้ยที่อยุ่ในทิศทางขาลง และเงินเฟ้อไม่ใช่ปัจจัยที่น่าห่วงแล้ว
Cr. https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1140929