
พาไปเที่ยวกันต่อค่ะ หลังจากที่พาไปชมน้ำตก Niagara และทะเลสาบ Moraine ทางฝั่งแคนาดา วันนี้เราขอข้ามมาที่อเมริกากันค่ะ
เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวหาเพื่อนที่เมืองนึงในรัฐ Washington ซึ่งรัฐนี้จะอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา(ถ้าพูดถึงเมืองที่ทุกคนจะรู้จักของรัฐนี้ก็คือเมือง Seattle) ก็เลยถือโอกาสไปเที่ยว Mountain Rainier ซึ่งอยู่ในรัฐนี้ ย้อนไปคือเราเคยเห็นรูปดอกไม้ป่ากับ Background ที่เป็นภูเขาปกคลุมไปด้วยหิมะ ก็คิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปเที่ยวสักครั้ง แต่เพื่อนที่ไปพักด้วยไปได้แค่เช้าเย็นกลับ และอาจจะไม่สามารถเดิน Trail ขึ้นเขากับเราได้ ก็เลยตัดสินใจว่าจะเช่ารถขับไปเที่ยวเองคนเดียวและจะพักแถวนั้น 2 คืนจะได้ไม่ต้องรีบไปกลับ
ปีนี้ 2024 เป็นปีแรกที่ทางอุทยานมีการจำกัดจำนวนคนเข้าออกเนื่องจากมีนักท่องเที่ยว/คนเดินเขาจำนวนมากซึ่งทำให้มีผลกับระบบนิเวศ ดังนั้นถ้าจะเข้าออกเขตอุทยานระหว่าง 7:00-15:00 น. จะต้องจองบัตรที่เรียกว่า Timed Entry Reservation สำหรับการเข้าทางฝั่ง Paradise หรือ Sunrise แยกกันด้วยค่ะ อุทยานจะเปิดให้จอง 2 รอบ โควต้าบางส่วนเปิดให้จองตั้งแต่ 1 พ.ค. และจะเหลือโค้วต้าบางส่วนสำหรับรอบ 2 ซึ่งจะเปิดให้จองล่วงหน้า 1 วันตอน 19:00 น. ด้วยความต้องการที่สูงคนจึงแย่งกันมากและหมดเร็วมากภายใน 5 นาทีเลยค่ะ(เหมาะสำหรับพวกเราคนไทยนักกดบัตรอยู่แล้ว 55+) ถ้าใครจะไปอย่างไรเช็ครายละเอียดก่อนนะคะ แล้วไม่รู้ว่าปีต่อไปเค้าจะมีปรับเปลี่ยนหรือเปล่านะคะ (ก่อนไปเราจะเข้ากลุ่ม FB ชื่อ Mt. Rainier Hiking เก็บข้อมูล แนะนำเลยค่ะ)
วันแรกเราโชคดีจองรอบ 13:00 - 15:00 ไว้ แต่เราไปถึงทางฝั่ง Paradise ประมาณเกือบบ่าย 3 โมงเพราะเสียเวลาเรื่องรถเช่าจากที่ตั้งใจจะถึงประมาณบ่ายโมง ป้ายฝั่ง Paradise เห็นรถแวะจอดถ่ายรูปกันเราก็ไม่พลาดค่ะ
พอไปถึงที่เริ่มต้นเทรลเราก็เปลี่ยนรองเท้าเตรียมของกินเล็กน้อยแล้วก็เริ่มเดินเลย เราเดินเทรลที่เรียกว่า Skyline Trail ซึ่งเป็นเทรลที่คนนิยมเดินกัน และเพื่อนบอกว่าสำหรับผู้เริ่มต้น เด็กๆ ก็เดินได้
บันไดเริ่มต้นก็จะเจอ Quote นี้ของ John Muir นักอนุรักษ์ฯ "...the most luxuriant and the most extravagantly beautiful of all the alpine gardens I ever beheld in all my mountain-top wanderings." เป็นการบรรยายว่าที่นี่เป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์และงดงามที่สุดในบรรดาเทือกเขาแอลป์ที่เค้าเคยเห็น ถ้าอย่างนั้นเราต้องไปพิสูจน์กัน
เริ่มต้นออกเดินทางเราก็จะเห็นยอดเขาอยู่ใกลๆ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงดอกลิลลี่ป่า (Avalanche-lily) สลับกับดอกไม้อื่นๆ ขึ้นอยู่สองข้างทาง (ดอกไม้ป่าจะสลับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไปตลอดหน้าร้อน)
วันนี้แดดร้อนมากและไม่มีเมฆเลย เราพยายามใส่เสื้อคลุมกันแดดแต่มันร้อนอบอ้าวจนเราต้องถอดออก นี่เป็นการเดินเทรลแรกของเรา เดินไปไม่เท่าไหร่ก็เหนื่อยแล้ว เลยจะเดินๆ หยุดๆ ไปตลอดทางพร้อมจะท้อตลอดเวลา แต่ก็จะบอกตัวเองว่าไปอีกนิดดีกว่าๆ เดี๋ยวขึ้นไปตรงนี้ก็พอแล้ว
เราขึ้นมาจนสุดทางจนถึงทางเดินที่มีแต่หิมะปกคลุมแล้ว ก็ลังเลว่าจะไปต่อหรือเดินกลับทางเดิมดี แต่เห็นคนอื่นเดินเลาะเขาขึ้นไปกันต่ออีก เลยคิดว่าถ้างั้นเราขึ้นไปอีกนิดเผื่อจะมีทางลงอื่น จะได้ไม่ต้องย้อนทางเก่า
อันนี้ทางที่ปีนขึ้นมา ลื่นไปหลายรอบแต่ก็รอดมาได้ 55+
เรานั่งพักถ่ายรูป ระหว่างที่ถ่ายอยู่ก็เหลือบไปเห็นคนอื่นถ่ายรูปด้านหลังเรา ก็เลยหันไปดู อ้าววววว นั่นแพะภูเขา
เรารีบหันกล้องมาถ่ายได้ 1 รูปถ้วนแล้วไม่เห็นหน้าด้วย
เราเลยลองปีนขึ้นไปดูตรงที่เค้าถ่ายกัน แต่แพะหายไปแล้ว คนแถวนั้นเลยบอกว่าเธอปีนขึ้นไปอีกซิ อาจจะเจออีกก็ได้นะ
เราก็เลยตัดสินใจเดินต่อไป กะว่าถ้าไปอีกนิดไม่เห็นอะไรก็จะกลับทางเดิม แต่แล้วก็เจอน้องมาร์มอต แล้วก็ชิปมั้งค์ ที่นี้ก็ไล่ตามถ่ายไปเรื่อยๆ
เราคิดในใจแบบให้กำลังใจตัวเองว่าน้องๆ คงมานำทางเรา เพราะสุดท้ายเดินขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดได้เจอน้องแพะภูเขา 5 ตัว เรียกว่าแทบจะกรีดร้องเพราะเจอตัวเดี๋ยวก็ดีใจมากแล้ว รีบถไลหิมะลงมาหาแพะ กางเกงเลอะก็ไม่สนใจแล้วจุดนี้ เราถ่ายรูปอยู่นานด้วยความตื่นเต้นแล้วอยู่ๆ น้องก็เดินมาใกล้มาก ระยะประชิด (ตอนนั้นไม่มีความกลัวเลย ถ่ายแต่รูป มาดูรูปตอนนี้เพิ่งคิดได้ว่ามันใกล้มา อันตรายมาก อย่าทำตามนะคะ)
พอถ่ายรูปไปสักพัก มองซ้ายขวาอ้าวววว ไม่มีคนเหลือเลย ไปเถอะเราพระอาทิตย์กำลังจะตกแถมลืมเอาไฟฉายมาด้วย ที่นี้ก็จ้ำอ้าวละ รีบเดินกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังมีแอบแวะถ่ายรูปอยู่บ้าง ก็มันอดใจไม่ไหว 55+
จบการเดินเขาครั้งแรกพร้อมพระอาทิตย์ตกดิน ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเดินไปกลับทั้งหมด 6 กิโลด้วยระยะเวลา 5 ชั่วโมง อยากจะบอกว่าไม่เคยได้ยินเสียงหัวใจตัวเองชัดขนาดนี้ อยากจะบอกเพื่อนว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ... ดีที่ไม่ตุย 55+ ...

ขอบคุณที่ไปเดินเขาด้วยกันนะคะ เดี๋ยวจะพยายามเอารูปฝั่ง Sunrise มาฝากค่ะ

อันนี้กระทู้เก่าไปเที่ยวชมได้นะคะ
พาชม Paradise, Mount Rainier - USA, July 2024
วันแรกเราโชคดีจองรอบ 13:00 - 15:00 ไว้ แต่เราไปถึงทางฝั่ง Paradise ประมาณเกือบบ่าย 3 โมงเพราะเสียเวลาเรื่องรถเช่าจากที่ตั้งใจจะถึงประมาณบ่ายโมง ป้ายฝั่ง Paradise เห็นรถแวะจอดถ่ายรูปกันเราก็ไม่พลาดค่ะ