‘ทักษิณ’ มาศาลตามนัดคดีหมิ่นเบื้องสูง ใส่เสื้อเหลืองยิ้มแย้มบอก ‘ไม่กังวลใจ’
https://www.dailynews.co.th/news/3767269/
"ทักษิณ" ยิ้มแย้มใส่เสื้อเหลือง มาศาลอาญาตามนัดตรวจหลักฐาน คดีหมิ่นเบื้องสูง ยันไม่มีความกังวลใจ ให้ทีมทนายจัดการ
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง นาย
ทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งนายทักษิณ ได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 5 เเสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
โดย นายทักษิณ เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวว่า วันนี้ไม่มีเรื่องต้องกังวลเป็นนัดตรวจหลักฐานก็ให้ทางทีมทนายจัดการ และเรื่องการสัมภาษณ์นั้นเกิดขึ้นหลังการปฏิวัติการใช้กฎหมายเป็นกระชับ ไม่มีปัญหา ไม่กังวลใจ
ถามว่าการใส่เสื้อเหลืองวันนี้สื่ออะไรหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ชัดเจนอยู่แล้วครับ
ส่วนการรักษาความปลอดภัยของศาลอาญามีมาตราเข้มข้นมากขึ้น สื่อมวลชนทุกสำนักต้องแลกบัตรและไม่อนุญาตให้ขึ้นอาคาร บริเวณรอบศาลอาญามีการขอกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และเจ้าพนักงานตำรวจศาลมาเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย.
ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยเร่ง “ฝีดาษลิง”กลายพันธุ์ เสี่ยงระบาดระดับโลกในอนาคต
https://www.tnnthailand.com/news/health/173732/
ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยสำคัญ ที่อาจเป็นตัวเร่งให้ “โรคฝีดาษลิง” กลายพันธุ์ เตือนสุ่มเสี่ยงลุกลามเป็นการระบาดระดับโลก
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
เอนไซม์ "เอโพเบค-สาม (APOBEC3)" ในร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการเร่งการกลายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิงในระดับจีโนม ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลกในปี 2565 นอกจากนี้ ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปีนี้ 2567 ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามเป็นการระบาดระดับโลกในอนาคตอันใกล้
การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในปี 2565 ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ มีความเชื่อมโยงกับการปรับตัวทางพันธุกรรมอันเนื่องมาจากเอนไซม์ APOBEC3 เอนไซม์นี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างการกลายพันธุ์ในจีโนมของไวรัส นำไปสู่การวิวัฒนาการและการปรับตัวของเชื้อ ในการระบาดครั้งนั้น ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การศึกษาพบว่า ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb มีการกลายพันธุ์จำนวนมากที่เกิดจากเอนไซม์ APOBEC3 ซึ่งเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมจาก C เป็น T และ G เป็น A บนจีโนมของไวรัส แม้ว่าปฏิกิริยานี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายไวรัส แต่กลับพบว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวช่วยให้ไวรัสปรับตัวและเพิ่มจำนวนในร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงขึ้น
การกลายพันธุ์จาก APOBEC3 อาจทำให้ความรุนแรงของไวรัสลดลง นำไปสู่การติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการแพร่เชื้อแบบไม่รู้ตัวและยากต่อการควบคุม นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าสายพันธุ์อื่นๆ ของไวรัสฝีดาษลิงอาจเกิดการวิวัฒนาการในลักษณะคล้ายคลึงกัน
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ซึ่งพัฒนามาจาก Clade I มีบทบาทสำคัญในการระบาดครั้งใหญ่ DRC เป็นแหล่งกำเนิดการระบาดของฝีดาษลิง Clade I มาอย่างยาวนาน โดยมีการระบาดครั้งสำคัญในปี 2556 ที่จังหวัด Bokungu ซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 600 เท่า
ล่าสุดในปี 2567 พบไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ในจังหวัด South Kivu โดยการวิเคราะห์จีโนมพบความแตกต่างจาก Clade I และมีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เป็นส่วนใหญ่ สิ่งนี้บ่งชี้ว่า Clade Ib อาจเกิดการกลายพันธุ์คล้ายกับ Clade IIb ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดที่แพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และการสัมผัสสารคัดหลั่ง
การระบาดของ Clade Ib ใน DRC เน้นย้ำถึงความจำเป็นในทุกประเทศต้องร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสฝีดาษลิง ทั้งจีโนมที่แยกได้จากผู้ป่วยในประเทศและแชร์ข้อมูลไปยังฐานข้อมูลไวรัสฝีดาษลิงโลก จีเสส (GISAID) เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด การวิวัฒนาการที่เกิดจาก APOBEC3 ในไวรัสฝีดาษลิง Clade Ib อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อที่รวดเร็วและปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้ดีขึ้น คล้ายกับที่เกิดขึ้นในการระบาดทั่วโลกปี 2565 จาก Clade IIb สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสฝีดาษลิงอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนากลยุทธ์ด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาในคองโกยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของอัตราการกลายพันธุ์ในแต่ละสายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิง โดยพบว่า
- สายพันธุ์ Ia มีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เพียง 10.7% บ่งชี้ว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
- สายพันธุ์ Ib มีการกลายพันธุ์ 20.7% แสดงถึงการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนที่เพิ่มขึ้น
- สายพันธุ์ IIb มีการกลายพันธุ์สูงถึง 35.9% สอดคล้องกับการระบาดทั่วโลกในปี 2565 ที่แพร่เชื้อระหว่างคนเป็นหลัก
ความแตกต่างนี้สะท้อนถึงรูปแบบการแพร่เชื้อที่แตกต่างกัน โดยสายพันธุ์ Ib และ IIb มีแนวโน้มแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ Ia อย่างชัดเจน
https://www.facebook.com/CMGrama/posts/pfbid0mAppRmVzFpE96kdbadtZNHF9y19hhzuc9JFiVaoyQibdMwU2mG4wtMiqcFpFSkp3l
สภาพัฒน์ แถลงจีดีพี Q2/67 ขยายตัว 2.3% คาดทั้งปีขยายตัว 2.5%
https://www.prachachat.net/finance/news-1633043
สภาพัฒน์ แถลงจีดีพีไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ คาดทั้งปีจีดีพีขยายตัวได้ 2.5%
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นาย
ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 2/2567 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 1.6% ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา และเมื่อปรับฤดูกาลแล้วเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 0.8%
โดยเศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงค์จาการบริโภคเอกชนที่ขยายตัว 4% การบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวได้ 0.3% การส่งออกที่ขยายตัวได้ในไตรมาสนี้ขยายตัวได้ 1.9% และบริการ 19.8% แต่การลงทุนรวมยังหดตัวอยู่ 6.2% อย่างไรก็ตามการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐยังเป็นไปไม่ตามเป้าหมาย แต่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเบิกจ่ายได้มากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา และปีงบประมาณ 68 จะมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเวลาที่วางไว้
ทั้งนี้ สศช.คาดว่าจีดีพีไททยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.3 – 2.8% (ค่ากลาง 2.5%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนสําคัญจาก
1. การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว
2. การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
3. การเพิ่มขึ้นของแรงขับเคลื่อนจาก การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
4.การกลับมาขยายตัวอย่างช้า ๆ ของการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัว ของการค้าโลก
โดยคาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.5% และ 0.3% ตามลําดับ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 2.0% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในช่วง 0.4% – 0.9% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.3% ของ GDP.
JJNY : ‘ทักษิณ’ใส่เสื้อเหลือง│ปัจจัยเร่ง“ฝีดาษลิง”กลายพันธุ์│สภาพัฒน์แถลงจีดีพีทั้งปีขยายตัว2.5%│มาเลเซียสกัดโรคฝีดาษลิง
https://www.dailynews.co.th/news/3767269/
"ทักษิณ" ยิ้มแย้มใส่เสื้อเหลือง มาศาลอาญาตามนัดตรวจหลักฐาน คดีหมิ่นเบื้องสูง ยันไม่มีความกังวลใจ ให้ทีมทนายจัดการ
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งนายทักษิณ ได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 5 เเสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
โดย นายทักษิณ เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวว่า วันนี้ไม่มีเรื่องต้องกังวลเป็นนัดตรวจหลักฐานก็ให้ทางทีมทนายจัดการ และเรื่องการสัมภาษณ์นั้นเกิดขึ้นหลังการปฏิวัติการใช้กฎหมายเป็นกระชับ ไม่มีปัญหา ไม่กังวลใจ
ถามว่าการใส่เสื้อเหลืองวันนี้สื่ออะไรหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ชัดเจนอยู่แล้วครับ
ส่วนการรักษาความปลอดภัยของศาลอาญามีมาตราเข้มข้นมากขึ้น สื่อมวลชนทุกสำนักต้องแลกบัตรและไม่อนุญาตให้ขึ้นอาคาร บริเวณรอบศาลอาญามีการขอกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และเจ้าพนักงานตำรวจศาลมาเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย.
ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยเร่ง “ฝีดาษลิง”กลายพันธุ์ เสี่ยงระบาดระดับโลกในอนาคต
https://www.tnnthailand.com/news/health/173732/
ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยสำคัญ ที่อาจเป็นตัวเร่งให้ “โรคฝีดาษลิง” กลายพันธุ์ เตือนสุ่มเสี่ยงลุกลามเป็นการระบาดระดับโลก
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
เอนไซม์ "เอโพเบค-สาม (APOBEC3)" ในร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการเร่งการกลายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิงในระดับจีโนม ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลกในปี 2565 นอกจากนี้ ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปีนี้ 2567 ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามเป็นการระบาดระดับโลกในอนาคตอันใกล้
การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในปี 2565 ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ มีความเชื่อมโยงกับการปรับตัวทางพันธุกรรมอันเนื่องมาจากเอนไซม์ APOBEC3 เอนไซม์นี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างการกลายพันธุ์ในจีโนมของไวรัส นำไปสู่การวิวัฒนาการและการปรับตัวของเชื้อ ในการระบาดครั้งนั้น ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์
การศึกษาพบว่า ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb มีการกลายพันธุ์จำนวนมากที่เกิดจากเอนไซม์ APOBEC3 ซึ่งเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมจาก C เป็น T และ G เป็น A บนจีโนมของไวรัส แม้ว่าปฏิกิริยานี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายไวรัส แต่กลับพบว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวช่วยให้ไวรัสปรับตัวและเพิ่มจำนวนในร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงขึ้น
การกลายพันธุ์จาก APOBEC3 อาจทำให้ความรุนแรงของไวรัสลดลง นำไปสู่การติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการแพร่เชื้อแบบไม่รู้ตัวและยากต่อการควบคุม นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าสายพันธุ์อื่นๆ ของไวรัสฝีดาษลิงอาจเกิดการวิวัฒนาการในลักษณะคล้ายคลึงกัน
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ซึ่งพัฒนามาจาก Clade I มีบทบาทสำคัญในการระบาดครั้งใหญ่ DRC เป็นแหล่งกำเนิดการระบาดของฝีดาษลิง Clade I มาอย่างยาวนาน โดยมีการระบาดครั้งสำคัญในปี 2556 ที่จังหวัด Bokungu ซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 600 เท่า
ล่าสุดในปี 2567 พบไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ในจังหวัด South Kivu โดยการวิเคราะห์จีโนมพบความแตกต่างจาก Clade I และมีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เป็นส่วนใหญ่ สิ่งนี้บ่งชี้ว่า Clade Ib อาจเกิดการกลายพันธุ์คล้ายกับ Clade IIb ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดที่แพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และการสัมผัสสารคัดหลั่ง
การระบาดของ Clade Ib ใน DRC เน้นย้ำถึงความจำเป็นในทุกประเทศต้องร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสฝีดาษลิง ทั้งจีโนมที่แยกได้จากผู้ป่วยในประเทศและแชร์ข้อมูลไปยังฐานข้อมูลไวรัสฝีดาษลิงโลก จีเสส (GISAID) เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด การวิวัฒนาการที่เกิดจาก APOBEC3 ในไวรัสฝีดาษลิง Clade Ib อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อที่รวดเร็วและปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้ดีขึ้น คล้ายกับที่เกิดขึ้นในการระบาดทั่วโลกปี 2565 จาก Clade IIb สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสฝีดาษลิงอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนากลยุทธ์ด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาในคองโกยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของอัตราการกลายพันธุ์ในแต่ละสายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิง โดยพบว่า
- สายพันธุ์ Ia มีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เพียง 10.7% บ่งชี้ว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
- สายพันธุ์ Ib มีการกลายพันธุ์ 20.7% แสดงถึงการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนที่เพิ่มขึ้น
- สายพันธุ์ IIb มีการกลายพันธุ์สูงถึง 35.9% สอดคล้องกับการระบาดทั่วโลกในปี 2565 ที่แพร่เชื้อระหว่างคนเป็นหลัก
ความแตกต่างนี้สะท้อนถึงรูปแบบการแพร่เชื้อที่แตกต่างกัน โดยสายพันธุ์ Ib และ IIb มีแนวโน้มแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ Ia อย่างชัดเจน
https://www.facebook.com/CMGrama/posts/pfbid0mAppRmVzFpE96kdbadtZNHF9y19hhzuc9JFiVaoyQibdMwU2mG4wtMiqcFpFSkp3l
สภาพัฒน์ แถลงจีดีพี Q2/67 ขยายตัว 2.3% คาดทั้งปีขยายตัว 2.5%
https://www.prachachat.net/finance/news-1633043
สภาพัฒน์ แถลงจีดีพีไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ คาดทั้งปีจีดีพีขยายตัวได้ 2.5%
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 2/2567 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 1.6% ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา และเมื่อปรับฤดูกาลแล้วเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 0.8%
โดยเศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงค์จาการบริโภคเอกชนที่ขยายตัว 4% การบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวได้ 0.3% การส่งออกที่ขยายตัวได้ในไตรมาสนี้ขยายตัวได้ 1.9% และบริการ 19.8% แต่การลงทุนรวมยังหดตัวอยู่ 6.2% อย่างไรก็ตามการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐยังเป็นไปไม่ตามเป้าหมาย แต่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเบิกจ่ายได้มากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา และปีงบประมาณ 68 จะมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเวลาที่วางไว้
ทั้งนี้ สศช.คาดว่าจีดีพีไททยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.3 – 2.8% (ค่ากลาง 2.5%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนสําคัญจาก
1. การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว
2. การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
3. การเพิ่มขึ้นของแรงขับเคลื่อนจาก การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
4.การกลับมาขยายตัวอย่างช้า ๆ ของการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัว ของการค้าโลก
โดยคาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.5% และ 0.3% ตามลําดับ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 2.0% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในช่วง 0.4% – 0.9% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.3% ของ GDP.