JJNY : ‘ทักษิณ’ใส่เสื้อเหลือง│ปัจจัยเร่ง“ฝีดาษลิง”กลายพันธุ์│สภาพัฒน์แถลงจีดีพีทั้งปีขยายตัว2.5%│มาเลเซียสกัดโรคฝีดาษลิง

‘ทักษิณ’ มาศาลตามนัดคดีหมิ่นเบื้องสูง ใส่เสื้อเหลืองยิ้มแย้มบอก ‘ไม่กังวลใจ’
https://www.dailynews.co.th/news/3767269/
 
  
"ทักษิณ" ยิ้มแย้มใส่เสื้อเหลือง มาศาลอาญาตามนัดตรวจหลักฐาน คดีหมิ่นเบื้องสูง ยันไม่มีความกังวลใจ ให้ทีมทนายจัดการ
 
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่ ศาลอาญา นัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ซึ่งนายทักษิณ ได้รับการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 5 เเสนบาท กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

โดย นายทักษิณ เดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวว่า วันนี้ไม่มีเรื่องต้องกังวลเป็นนัดตรวจหลักฐานก็ให้ทางทีมทนายจัดการ และเรื่องการสัมภาษณ์นั้นเกิดขึ้นหลังการปฏิวัติการใช้กฎหมายเป็นกระชับ ไม่มีปัญหา ไม่กังวลใจ

ถามว่าการใส่เสื้อเหลืองวันนี้สื่ออะไรหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า ชัดเจนอยู่แล้วครับ

ส่วนการรักษาความปลอดภัยของศาลอาญามีมาตราเข้มข้นมากขึ้น สื่อมวลชนทุกสำนักต้องแลกบัตรและไม่อนุญาตให้ขึ้นอาคาร บริเวณรอบศาลอาญามีการขอกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 และเจ้าพนักงานตำรวจศาลมาเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย.



ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยเร่ง “ฝีดาษลิง”กลายพันธุ์ เสี่ยงระบาดระดับโลกในอนาคต
https://www.tnnthailand.com/news/health/173732/

ศูนย์จีโนมฯ เผยปัจจัยสำคัญ ที่อาจเป็นตัวเร่งให้ “โรคฝีดาษลิง” กลายพันธุ์ เตือนสุ่มเสี่ยงลุกลามเป็นการระบาดระดับโลก
 
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า 
 
เอนไซม์ "เอโพเบค-สาม (APOBEC3)" ในร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการเร่งการกลายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิงในระดับจีโนม ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลกในปี 2565 นอกจากนี้ ยังอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกในปีนี้ 2567 ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะลุกลามเป็นการระบาดระดับโลกในอนาคตอันใกล้

การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในปี 2565 ซึ่งองค์การอนามัยโลกประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ มีความเชื่อมโยงกับการปรับตัวทางพันธุกรรมอันเนื่องมาจากเอนไซม์ APOBEC3 เอนไซม์นี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีบทบาทในการสร้างการกลายพันธุ์ในจีโนมของไวรัส นำไปสู่การวิวัฒนาการและการปรับตัวของเชื้อ ในการระบาดครั้งนั้น ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยเฉพาะผ่านการมีเพศสัมพันธ์
 
การศึกษาพบว่า ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade IIb มีการกลายพันธุ์จำนวนมากที่เกิดจากเอนไซม์ APOBEC3 ซึ่งเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมจาก C เป็น T และ G เป็น A บนจีโนมของไวรัส แม้ว่าปฏิกิริยานี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายไวรัส แต่กลับพบว่าการกลายพันธุ์ดังกล่าวช่วยให้ไวรัสปรับตัวและเพิ่มจำนวนในร่างกายมนุษย์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้มีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงขึ้น

การกลายพันธุ์จาก APOBEC3 อาจทำให้ความรุนแรงของไวรัสลดลง นำไปสู่การติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการแพร่เชื้อแบบไม่รู้ตัวและยากต่อการควบคุม นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าสายพันธุ์อื่นๆ ของไวรัสฝีดาษลิงอาจเกิดการวิวัฒนาการในลักษณะคล้ายคลึงกัน

ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ซึ่งพัฒนามาจาก Clade I มีบทบาทสำคัญในการระบาดครั้งใหญ่ DRC เป็นแหล่งกำเนิดการระบาดของฝีดาษลิง Clade I มาอย่างยาวนาน โดยมีการระบาดครั้งสำคัญในปี 2556 ที่จังหวัด Bokungu ซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึง 600 เท่า 

ล่าสุดในปี 2567 พบไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade Ib ในจังหวัด South Kivu โดยการวิเคราะห์จีโนมพบความแตกต่างจาก Clade I และมีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เป็นส่วนใหญ่ สิ่งนี้บ่งชี้ว่า Clade Ib อาจเกิดการกลายพันธุ์คล้ายกับ Clade IIb ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดที่แพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ง่ายขึ้น ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์และการสัมผัสสารคัดหลั่ง

การระบาดของ Clade Ib ใน DRC เน้นย้ำถึงความจำเป็นในทุกประเทศต้องร่วมด้วยช่วยกันถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสฝีดาษลิง ทั้งจีโนมที่แยกได้จากผู้ป่วยในประเทศและแชร์ข้อมูลไปยังฐานข้อมูลไวรัสฝีดาษลิงโลก จีเสส (GISAID) เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด การวิวัฒนาการที่เกิดจาก APOBEC3 ในไวรัสฝีดาษลิง Clade Ib อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อที่รวดเร็วและปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้ดีขึ้น คล้ายกับที่เกิดขึ้นในการระบาดทั่วโลกปี 2565 จาก Clade IIb สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสฝีดาษลิงอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนากลยุทธ์ด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ

การศึกษาในคองโกยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของอัตราการกลายพันธุ์ในแต่ละสายพันธุ์ของไวรัสฝีดาษลิง โดยพบว่า

- สายพันธุ์ Ia มีการกลายพันธุ์จาก APOBEC3 เพียง 10.7% บ่งชี้ว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
- สายพันธุ์ Ib มีการกลายพันธุ์ 20.7% แสดงถึงการแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนที่เพิ่มขึ้น
- สายพันธุ์ IIb มีการกลายพันธุ์สูงถึง 35.9% สอดคล้องกับการระบาดทั่วโลกในปี 2565 ที่แพร่เชื้อระหว่างคนเป็นหลัก

ความแตกต่างนี้สะท้อนถึงรูปแบบการแพร่เชื้อที่แตกต่างกัน โดยสายพันธุ์ Ib และ IIb มีแนวโน้มแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ Ia อย่างชัดเจน
 
https://www.facebook.com/CMGrama/posts/pfbid0mAppRmVzFpE96kdbadtZNHF9y19hhzuc9JFiVaoyQibdMwU2mG4wtMiqcFpFSkp3l
 


สภาพัฒน์ แถลงจีดีพี Q2/67 ขยายตัว 2.3% คาดทั้งปีขยายตัว 2.5%
https://www.prachachat.net/finance/news-1633043

สภาพัฒน์ แถลงจีดีพีไทยไตรมาส 2 ปี 2567 ขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ คาดทั้งปีจีดีพีขยายตัวได้ 2.5%
 
วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไตรมาส 2/2567 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.3% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 1.6% ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา และเมื่อปรับฤดูกาลแล้วเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 0.8%
 
โดยเศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงค์จาการบริโภคเอกชนที่ขยายตัว 4% การบริโภคภาครัฐบาลขยายตัวได้ 0.3% การส่งออกที่ขยายตัวได้ในไตรมาสนี้ขยายตัวได้ 1.9% และบริการ 19.8% แต่การลงทุนรวมยังหดตัวอยู่ 6.2% อย่างไรก็ตามการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐยังเป็นไปไม่ตามเป้าหมาย แต่จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเบิกจ่ายได้มากขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา และปีงบประมาณ 68 จะมีการเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเวลาที่วางไว้

ทั้งนี้ สศช.คาดว่าจีดีพีไททยในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.3 – 2.8% (ค่ากลาง 2.5%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนสําคัญจาก
1. การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว
2. การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
3. การเพิ่มขึ้นของแรงขับเคลื่อนจาก การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
4.การกลับมาขยายตัวอย่างช้า ๆ ของการส่งออกสินค้าตามการฟื้นตัว ของการค้าโลก
 
โดยคาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 4.5% และ 0.3% ตามลําดับ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 2.0% อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ในช่วง 0.4% – 0.9% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.3% ของ GDP.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่