หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ขอความช่วยเหลือโดนเจ้าของบ้านเช่าบอกให้ย้ายก่อนกำหนด ขอคืนมัดจำเจ้าตัวไม่ยอมมาคุยเอง ให้แม่ที่คุยไม่รู้เรื่องมาคุย
กระทู้คำถาม
ร้องทุกข์
ทนายความ
บ้าน
กฎหมายชาวบ้าน
ปัญหาสังคม
สวัสดีค่ะ อยากรบกวนขอคำปรึกษาค่ะ
เรื่องยาวและมีดีเทลนิดนึงนะคะ ขอจั่วหัวคำถามไว้ก่อนเลยว่าไม่รู้จะดำเนินการกับเจ้าของบ้านอย่างไรดีค่ะ
ตัวละครในเรื่องจะมี เรา แม่เจ้าของบ้านที่เราจะเรียกว่าคุณป้า (อายุ80)และคุณ ฮ (อายุ50)ที่เป็นลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชื่อทำสัญญาเช่าบ้าน
เริ่มจากทางเราต้องหาบ้านเช่าใหม่ให้ได้ภายในสิ้นเดือน พ.ค 67 ตอนที่บ้านเดิมแจ้งว่าจะปรับปรุงแล้วต้องย้ายออกเจ้าของบ้านกลางเดือน พ.คแล้วทำให้มีเวลาในการหาบ้านไม่มาก เราบังเอิญไปเจอหลังหนึ่งแถวพระรามสองซอยใกล้โรงพยาบาล ด้วยความเร่งด่วนจึงขอดูบ้านแต่ไม่ได้ดูให้ละเอียดทุกจุดเช่นความสะอาดต่างๆ บวกกับเจ้าของอ้างว่าคัตเอ้าท์ไฟอยู่สูงไม่สะดวกเปิดไฟ จึงทำให้เราดูบ้านวันนั้นแบบเร่งรีบด้วยเวลาที่จำกัด
ต่อมาตกลงจะทำทำสัญญากัน 1 ปี ตัวบ้านเช่าราคา 7,500 บาทต่อเดือนมัดจำ 15,000 เป็นทาวเฮาส์สองชั้น ก่อนทำสัญญาและย้ายเข้าในบ้านก็มีจุดเสื่อมสภาพตามอายุของบ้านหลายจุดซึ่งเราก็เข้าใจ เพียงแค่เมื่อพบจุดตำหนิก็ได้แจ้งเจ้าของบ้านไว้เพื่อเป็นการยืนยันว่ามันเป็นอยู่แต่เดิมแล้ว จะมีแค่เรื่องฝุ่นความสะอาดที่ก่อนย้ายเข้ายังพบว่าค่อนข้างสกปรกจึงแจ้งเจ้าของไปเพราะเจ้าของบอกจ้างคนมาทำความสะอาด เมื่อเจ้าของไปถามกับคนทำความสะอาดเขาก็ยอมรับว่ารีบไม่ได้ทำให้ดีจึงจะเข้ามาทำใหม่ให้ แต่ภายหลังเจ้าของมาบอกว่าไปจ้างคนใหม่มาทำความสะอาดให้อีกค่ะ (ที่เล่าตรงนี้เพราะว่าจะเป้นเรื่องที่โดนหยิบยกมาแย้งตอนหลัง)
ตอนนั้นได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้วว่านอกจากเรื่องความสะอาดสิ่งอื่นๆเป็นการแจ้งข้อมูลให้ทราบเท่านั้นว่ามีตำหนิแต่เดิม แต่ก็มีบางส่วนที่เราก็พบตำหนิหลังย้ายเข้าแต่เพราะตอนนั้นคิดว่าเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านทราบอยู่แล้วจึงไม่ได้ถ่ายแจ้งเขาเช่นประตูห้องน้ำชั้น 1 ปิดไม่ได้ค่ะ (ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นกันภายหลังอีกตอนย้ายออก)
เราย้ายเข้าบ้านหลังนี้วันที่ 9 มิ ย (เซ็นสัญญาวันที่ 3 มิ ย ) หลังอยู่แต่เมื่อเข้าไปอยู่จริงก็มีการแจ้งตำหนิที่พบเพิ่มเติมซึ่งทางคุณป้าไม่เข้าใจ คิดว่าเราต้องการให้มาซ่อมแต่จริงๆ คือเราแค่แจ้งให้ทราบเราก็จะทนๆอยู่ไปด้วยตนเองถ้ามันไม่ได้กระทบความเป็นอยู่มาก จนกระทั่งมีเรื่องปั๊มน้ำไม่ทำงาน อาการคือตัดบ่อย อาบๆอยู่น้ำก็ไม่ไหล ตัวบ้านทำวาล์วมาแบบถ้าไม่มีปั๊มน้ำจะไม่ไหลเลย ต่อให้เปิดวาล์วประปาเข้าน้ำก็ไหลอ่อนมากไม่สามารถใช้ได้ ทำให้เราต้องแจ้งเจ้าของบ้านเพราะเป็นทรัพย์สินของเขาทางเราซ่อมเองไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาในตอนแรกคือเจ้าของบ้านบอกเราเปิดวาล์วผิด ทั้งๆที่เราเปิดถูกแล้วถามช่างกี่คนก็ตอบเหมือนกันว่าถูกแล้ว สิ่งนี้เราไม่ถือสาเข้าใจว่าเขาอาจจะเข้าใจผิด แต่ประเด็นหลักคือปั๊มตัดบ่อยแต่ทางเจ้าของบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแต่ก็จะให้ช่างเข้ามาดูให้
เราจึงแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากนั้นว่ามีอาการอย่างไรเพื่อจะหวังเป็นข้อมูลให้ช่างคิดว่ามีอาการโดยละเอียดจะได้วิเคราะห์ได้ง่าย แต่สิ่งที่คุณป้าเจ้าของทำคือให้เราย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจคิดว่าเรามีปัญหาเยอะ และไม่พอใจตั้งแต่เรื่องความสะอาดที่ต้องมาทำซ้ำ จนเรื่องที่มาที่ว่าบ้านแกมีปัญหาจุดต่างๆ แกบอกว่าทางเราปัญหาเยอะให้ย้ายออกจะคืนมัดจำให้ ทางเราก็เหนื่อยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกันอีกจึงตกลงจะย้ายออก โดยคุณป้าให้เราอยู่ึงเดือน ก.ค เพื่อมีเวลาหาบ้าน
แต่ก่อนจะย้ายออกก็มีกระทบกระทั่งกันอีกค่ะ เพราะเขายืนยันจะเอาช่างมาดูปั๊มเราก็ไม่ติดแต่เขาดันมาบอกกลางดึกวันอาทิตย์ว่าจะเข้ามาเช้าวันจันทร์ซึ่งเราทำงานมาบอกกะทันหันเราลางานไม่ทัน คุณป้าก็ไม่สนใจตำหนิเราว่าพอจะให้ช่างมาดันไม่ยอมรับจะเอายังไง เราเลยตัดสินใจลางานจะได้เคลียร์ให้จบ สรุปพอถึงเวลาช่างไม่ว่างมาคุณป้ามาเองคนเดียวซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็กลับไปโดยบอกจะเอาช่างมาอีกทีวันเสาร์ พอถึงวันศุกร์เราทักไปถามว่าจะมีช่างมาไหมก็ไม่ตอบค่ะ เราาจึงไปธุระไม่ได้อยู่บ้าน สรุปคุณป้ากับลูกดันมาที่บ้านแต่ไม่ได้เอาช่างมา ดันมายืนอยู่หน้าบ้านที่มีน้องชาย น้องสาวเราอยู่แล้วถามว่าจะย้ายออกวันไหน ทั้งที่ตกลงกันว่าจะให้อยู่อีกเดือนแต่ผ่านไปไม่กี่วันมาถามกดดัน แล้วพอถามกลับว่าไม่มีช่างมาด้วยหรือคะ เขาตอบว่าไม่ต้องเพราะบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพวกเราที่ไม่คู่ควรกับบ้านหลังนี้ หลังจากเรากลับมาน้องสาวเล่าให้ฟังจึงโทรไปเคลียร์ว่าทางเจ้าของบ้านต้องการอะไร สุดท้ายเขาก็มาย้ำว่าต้องย้ายออกในสิ้นเดือน ก.ค และต้องจ่ายเงินค่าเช่าเดือน ก.ค ด้วย ไม่ยอมให้หักจากมัดจำ 15,000 ที่ถือไว้ เราต่อรองแล้วแต่ไม่ได้จึงไม่อยากเถียงอีก ทุกคนคงรู้เถียงกับวัยทองมันเหนื่อย แล้วตลอดการพูดคุยคุณ ฮ ซึ่งมีชื่อในสัญญาไม่เคยเข้ามาพูดคุยด้วยตนเอง แต่เป็นคุณป้าทำหน้าที่ส่งสารแทนตลอด ทั้งที่เรื่องบางอย่างตกลงกันโดยตรงง่ายกว่าแต่คนลูกก็ไม่ยอมคุย แล้วก็ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อให้แต่เบอร์แม่ไว้
ต่อมาวันที่ 29 ก.ค เราย้ายออกได้ทำการแจ้งเจ้าของบ้านทางไลน์และโทรบอก ได้ทำความสะอาด ตรวจความเรียบร้อยก่อนส่งคืนบ้าน โดยเจ้าของได้บอกทางโทรศัพท์แค่ว่าขอเข้าไปตรวจบ้านก่อน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องส่งคืนกุญแจบ้านแบบใด ทางเราก็จึงเก็บกุญแจไว้กับตัวเพราะคิดว่าจะมีการนัดส่งคืนพร้อมเคลียร์เงินมัดจำ เพราะเจ้าของบ้านเคยบอกว่าตนและแม่ไม่ใช้แอพธนาคารใดๆ ทำให้เราคิดว่าการเคลียร์เงินเขาคงสะดวกเป็นเงินสดเพราะตอนจะจ่ายมัดจำเขาก็จะขอเงินสดแต่ทางเราไม่สะดวกเลยโอนซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ต้องไปปรับสมุดธนาคารเพื่อตรวจสอบอีกที
ทางเจ้าของบ้านไม่มีการติดต่อกลับมาจนวันที่ 11 ส ค เราได้ขอนัดหมายส่งคืนกุญแจ ทางเจ้าบ้านกลับตอบมาว่าไม่ต้องมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันจะหักจากมัดจำและบ้านมีความเสียหาย ทางเรายึดกุญแจเป็นตัวประกันเขาจะถือว่าเราต้องเสียค่าเช่าอีกเดือนหากไม่คืนภายใน 17 ส ค บอกให้เราเอากุญแจไปฝากไว้ที่เพื่อนบ้าน เจ้าของบ้านตรวจบ้านแล้วไม่แจ้งกลับ ข้อมูลการคืนกุญแจนี้เราไม่เคยทราบมาก่อนมาทราบภายหลังจากการติดตามทวงถามเอง คนที่พิมพ์ยาวๆคือคนลูก คุณ ฮ มีชื่อเป็นผู้ทำสัญญา ที่ผ่านมาไม่เคยยอมคุยกันผ่านโทรศัพท์เลย
เราบริสุทธิ์ใจเอากุญแจไปคืนวันที่ 12 สค พบว่าเขาก็เข้ามาตรวจบ้านและเปลี่ยนกุญแจหน้าบ้านไปแล้ว ทางเราก็ไม่อยากมีปัญหาที่แล้วมาก็อยากอโหสิกรรมต่อกัน แต่เจ้าของบ้านดูไม่อยากเคลียร์ให้จบ ไม่มีการตอบกลับเลย หลังคืนกุญแจได้ทักไปสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือค่าน้ำค่าไฟเพราะเจ้าของบ้านบอกว่ามีความเสียหาย แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจึงทำให้เราโทรไปสอบถาม
คนรับสายก็คือคุณป้าคนแม่คนเดิม บอกว่าบ้านมีจุดเสียหาย
ประตูห้องน้ำชั้น 1 ชั้น 2 ปิดไม่ได้
ประตูเหล็กหน้าบ้านสีหลุด
ประตูใต้ซิงก์ล้างจานปิดไม่ได้
ถังขยะหน้าบ้านหายไป
คุณป้าบอกมาแค่นี้ ตามด้วยคำต่อว่ามากมาย จุดแรกประตูห้องน้ำ ชั้น 1เราคิดว่าเขาทราบอยู่แล้วบวกกับเราไม่ค่อยได้ใช้ชั้น1 มารู้ก็ตอนจะย้ายออกแล้วซึ่งตอนนั้นก็หมางใจกันมากแล้วเลยไม่ได้คิดจะไปแจ้งตำหนิเพิ่มเติมกลัวจะไปจุดความไม่พอใจแกอีก ส่วนที่ชั้นสองมันปิดได้ไม่อย่างนั้นเราจะอาบน้ำได้ยังไงในบ้านเรามีผู้ชายจะไม่ปิดประตูอาบน้ำได้ยังไง จุดนี้เราก็สงสัยว่าคำว่าปิดไม่ได้ของคุณป้าคืออะไรจึงจะขอเข้าไปดู และเรื่องถังขยะหน้าบ้านโดนคนเก็บขยะเก็บไปแกไม่พอใจบอกเราปล่อยให้เอาไปได้ยังไง
แต่จุดที่เราขอโต้แย้งอีกจุดคือประตูเหล็กที่บอกสีหลุดเพราะเรา แต่เรามีรูปที่ถ่ายไว้ตอนมมาตรวจบ้าน 5 มิ ย แม้จะไม่ชัดมาแต่เห็นอยู่ว่าสีมันร่อนอยู่แล้ว
แต่คุณป้าไม่รับฟัง แลบอกว่าตัวเองให้ช่างมาทาสีใหม่มันไม่มีทางไม่ถึงสองเดือนจะหลุด แต่คือเราอยู่บ้านนี้น้อยมากๆ แล้วใครจะพิเรนมานั่งขูดสีที่ประตูมันก็เกิดจากการใช้งานหรือเปล่า
หลังจากที่คุณป้าแจ้งปัญหามาเราก็จะขอเข้าไปดูสถนที่จริง ซึ่งทางคุณป้าบอกว่าได้ แต่เมื่อนัดหมายก็บอกว่าตัวเองไม่สะดวกวันเสาร์ที่ 17 เพราะลูกลาราชการมาเยี่ยมวันแม่ เราเลยขอนัดเสาร์ 24 เพราะลูกคุณป้า คุณ ฮ จะได้อยู่ด้วย เราอยากคุยกับคุณ ฮ โดยตรงมากกว่า ตอนแรกคุณป้าก็รับปากแต่ต่อมาโทรมาบอกว่าไม่ว่างแล้วบอกให้เรามาดูวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันจันทร์เราทำงาน เราบอกเราไม่สะดวกคุณป้าบอกให้เราลางานไป เราก็แจ้งแล้วว่าติดงานไม่สะดวก ทางคุณป้าก็บอกตัวเองไม่สะดวก แล้วตำหนิเราว่าทำไมต้องยืดเยื้อไปถึงวันเสาร์ จะเอายังไงกันแน่ คือไม่ใช่มีแค่ลูกคุณที่ทำงานนะคะคนอื่นก็ทำงาน ธุระคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน ทางคุณป้าไม่เข้าใจว่าเราขอดูรูปและขอไปดูสถานที่จริงด้วย เข้าใจว่าพอจะไปที่จริงก็คือไม่ดูรูปเลยไม่ส่งรูปมาพอเราอธิบายก็ไม่ฟัง ก็เกิดการโต้เถียงอีก สุดท้ายเคลียร์กันไม่ลงตัวคุณป้าตัดสายไป เราจึงส่งข้อความในไลน์ไปสอบถามเรื่องขอรูปจุดที่เสียหาย มีการอ่านไม่มีการตอบกลับ จนสอบถามย้ำถึงวันนัดหมายวันอื่นก็ยังไม่ตอบค่ะ
คือเราเสียสุขภาพจิตกับการคุยกับคุณป้าคนนี้มาก อยากคุยกับลูกเขาแต่เขาไม่ยอมมาคุยทั้งที่ชื่อเป็นคนทำสัญญาแท้ อ้างติดงานให้แม่จัดการ ตอนนี้ต้องการหาทางติดต่อคนลูกโดยตรงให้มาเคลียร์กันจะหักค่าเสียหายก็ได้แต่ต้องตามสมควรตามความจริง จะได้ตัดขายกันสักที อยากขอคำแนะนำเราจะเชิญเขามายังไง ทำจดหมายเชิญได้ไหมมาที่ สน.ได้ไหม หรือให้ตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ยได้ไหมคะ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ได้รับควาเดือดร้อนจากการเช่าห้อง สามารถทำอะไรได้บ้างคะ
เรามาเช่าห้องอยู่ได้คุยตกลงทำสัญญาวางเงินตามที่ตกลงทุกอย่าง แล้วจะมีในหลายๆอย่างที่เขาไม่ทำตามที่คุยกันไว้ ซึ่งเราก็ปล่อยผ่าน อะไรเสียตั้งแต่เรายังไม่มาอยู่แจ้งไปไม่มาทำอะไรให้เราก็ไม่อะไร แต่อยู่ไ
สมาชิกหมายเลข 8501730
ไม่มีสัญญาเช่าหอจะได้รับเงินมัดจำคืนไหมคะ
พอดีย้ายหอใหม่ค่ะ จ่ายค่ามัดจำและค่าห้องเดือนแรกไปแล้ว แต่เข้าอยู่ไม่ถึงเดือน ไม่ได้ทำสัญญาค่ะ สามารถขอเงินมัดจำคืนได้ไหมคะ
สมาชิกหมายเลข 7469275
ผู้เช่าย้ายออก มีสิทธิ์ถอดอุปกรณ์ที่ติดตั้งใหม่เอาไปด้วยไหมคะ
ให้เช่าตึกแถวทำร้านอาหาร ผู้เช่าติดเครื่องดูดควัน พัดลมติดผนัง และกันสาดเพิ่มเติม ในสัญญาเช่าระบุว่า กรณีผู้เช่าทำการดัดแปลงหรือต่อเติมอย่างหนึ่งอย่างใดในทรัพย์สินที่เช่า เมื่อสัญญาเช่าระงับลงไม่ว่าเ
Flora's secret
ต้องสอนลูกชายว่า การช่วยตัวเองต้องทำเฉพาะในห้องน้ำที่บ้านไหมคะสำหรับในยุคนี้
ตามหัวข้อเลยค่ะ วันนี้กลับมาเจอเขาเล่นปิกกาจูที่เตียง (เกริ่นก่อนค่ะ เวลากลับมาบ้าน เราจะไม่เคาะประตู เพราะเราคิดว่าเสียงกุญแจตอนไขก็น่าจะทำให้ลูกรู้แล้วว่าเรากลับมาแล้วค่ะ แต่วันนี้ลูกน่าจะไม่ได้ยิน
สมาชิกหมายเลข 9013790
สอบถามเรื่องมัดจำหอพัก (จะย้ายออก) + ปัญหาชีวิต
สมาชิกหมายเลข 8786268
ถ้าทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้จะทำยังไงกันคะ
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนนะคะ ว่าเรามีแมว และ มีประวัติการคุยแชทเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวทุกที่กับเจ้าของ ในเวลาที่เราแจ้งย้าย ที่พักทุกที่พูดเสียงเดียวกัรว่าเลี้ยงสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็นสะอาดกว่าคนยิ่งไม่ได้
สมาชิกหมายเลข 7723682
กรณีย้ายออกจากบ้านเช่าสิ้นเดือน พ.ค เจ้าของบ้านมีสิทธิ์มาเอากุญแจล้อกประตูไม่ให้เราเข้ามั้ยคะ??
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 9กันยาปีที่แล้ว เราได้ไปเช่าบ้านหลังนึงที่ใกล้ที่ทำงานเพื่อเอาไว้อยู่ระหว่างทำงานอาทิคย์ละ 2-3 วัน ทำสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม จ่ายค่าเช่าก่อนอยู่ สำหรับเดือนกันยา 56
สมาชิกหมายเลข 1176678
อีกแล้ว ผู้เช่าทิ้งขยะล้นห้อง
เจ้าของห้องช็อก! สาวแต่งตัวสวย พูดจาดี แต่ทิ้งขยะล้น อยู่ได้ยังไง? 30 สิงหาคม เจ้าของห้องเช่าเล่าว่า มีบุคคลท่านนี้มาขอเช่าห้อง เช่ามาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เดือนแรกไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาเดือนที่ 2 คื
ทาสแมว
เน็ตบ้านทรูย้ายที่อยู่ ย้ายห้องได้ไหม ถ้าสัญญายังไม่ครบ1ปี?
ตอนแรกจะย้ายเน็ตไปอีกห้อง แต่ว่าโทรไปในสายพนักงานบอกว่าย้ายไม่ได้ถ้าย้ายต้องจ่ายเงินเพิ่มถ้ายังไม่ครบสัญญา จึงจำเป็นต้องถอดเร้าเตอร์ออกมามาต่ออีกหนึ่งห้องในคอนโดเดียวกันและยังไม่ได้ติดต่อช่างให้ย้าย ต
สมาชิกหมายเลข 9029275
เช่าบ้านอยู่อเมกาแล้วถูกไล่ออกไร้สาเหตุและไม่คืนเงินประกัน
รบกวนผู้รู้ แนะนำอ่ะ ครับ ผมเช่าบ้านหลังเล็กในสวนจากเจ้าของบ้านตอนแรกเข้าไปแค่จ่ายล่วงหน้าเข้าได้เลยอยู่กัน3คนผม ภรรยาและลูกชายตอนนี้11ขวบ ที่ซานตาครูซแคลิฟอเนียอยู่มาแล้ว6-7ปีค่าเช่า900น้ำ100ไฟ100และ
สมาชิกหมายเลข 7852134
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ร้องทุกข์
ทนายความ
บ้าน
กฎหมายชาวบ้าน
ปัญหาสังคม
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ขอความช่วยเหลือโดนเจ้าของบ้านเช่าบอกให้ย้ายก่อนกำหนด ขอคืนมัดจำเจ้าตัวไม่ยอมมาคุยเอง ให้แม่ที่คุยไม่รู้เรื่องมาคุย
เรื่องยาวและมีดีเทลนิดนึงนะคะ ขอจั่วหัวคำถามไว้ก่อนเลยว่าไม่รู้จะดำเนินการกับเจ้าของบ้านอย่างไรดีค่ะ
ตัวละครในเรื่องจะมี เรา แม่เจ้าของบ้านที่เราจะเรียกว่าคุณป้า (อายุ80)และคุณ ฮ (อายุ50)ที่เป็นลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชื่อทำสัญญาเช่าบ้าน
เริ่มจากทางเราต้องหาบ้านเช่าใหม่ให้ได้ภายในสิ้นเดือน พ.ค 67 ตอนที่บ้านเดิมแจ้งว่าจะปรับปรุงแล้วต้องย้ายออกเจ้าของบ้านกลางเดือน พ.คแล้วทำให้มีเวลาในการหาบ้านไม่มาก เราบังเอิญไปเจอหลังหนึ่งแถวพระรามสองซอยใกล้โรงพยาบาล ด้วยความเร่งด่วนจึงขอดูบ้านแต่ไม่ได้ดูให้ละเอียดทุกจุดเช่นความสะอาดต่างๆ บวกกับเจ้าของอ้างว่าคัตเอ้าท์ไฟอยู่สูงไม่สะดวกเปิดไฟ จึงทำให้เราดูบ้านวันนั้นแบบเร่งรีบด้วยเวลาที่จำกัด
ต่อมาตกลงจะทำทำสัญญากัน 1 ปี ตัวบ้านเช่าราคา 7,500 บาทต่อเดือนมัดจำ 15,000 เป็นทาวเฮาส์สองชั้น ก่อนทำสัญญาและย้ายเข้าในบ้านก็มีจุดเสื่อมสภาพตามอายุของบ้านหลายจุดซึ่งเราก็เข้าใจ เพียงแค่เมื่อพบจุดตำหนิก็ได้แจ้งเจ้าของบ้านไว้เพื่อเป็นการยืนยันว่ามันเป็นอยู่แต่เดิมแล้ว จะมีแค่เรื่องฝุ่นความสะอาดที่ก่อนย้ายเข้ายังพบว่าค่อนข้างสกปรกจึงแจ้งเจ้าของไปเพราะเจ้าของบอกจ้างคนมาทำความสะอาด เมื่อเจ้าของไปถามกับคนทำความสะอาดเขาก็ยอมรับว่ารีบไม่ได้ทำให้ดีจึงจะเข้ามาทำใหม่ให้ แต่ภายหลังเจ้าของมาบอกว่าไปจ้างคนใหม่มาทำความสะอาดให้อีกค่ะ (ที่เล่าตรงนี้เพราะว่าจะเป้นเรื่องที่โดนหยิบยกมาแย้งตอนหลัง)
ตอนนั้นได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้วว่านอกจากเรื่องความสะอาดสิ่งอื่นๆเป็นการแจ้งข้อมูลให้ทราบเท่านั้นว่ามีตำหนิแต่เดิม แต่ก็มีบางส่วนที่เราก็พบตำหนิหลังย้ายเข้าแต่เพราะตอนนั้นคิดว่าเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านทราบอยู่แล้วจึงไม่ได้ถ่ายแจ้งเขาเช่นประตูห้องน้ำชั้น 1 ปิดไม่ได้ค่ะ (ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นกันภายหลังอีกตอนย้ายออก)
เราย้ายเข้าบ้านหลังนี้วันที่ 9 มิ ย (เซ็นสัญญาวันที่ 3 มิ ย ) หลังอยู่แต่เมื่อเข้าไปอยู่จริงก็มีการแจ้งตำหนิที่พบเพิ่มเติมซึ่งทางคุณป้าไม่เข้าใจ คิดว่าเราต้องการให้มาซ่อมแต่จริงๆ คือเราแค่แจ้งให้ทราบเราก็จะทนๆอยู่ไปด้วยตนเองถ้ามันไม่ได้กระทบความเป็นอยู่มาก จนกระทั่งมีเรื่องปั๊มน้ำไม่ทำงาน อาการคือตัดบ่อย อาบๆอยู่น้ำก็ไม่ไหล ตัวบ้านทำวาล์วมาแบบถ้าไม่มีปั๊มน้ำจะไม่ไหลเลย ต่อให้เปิดวาล์วประปาเข้าน้ำก็ไหลอ่อนมากไม่สามารถใช้ได้ ทำให้เราต้องแจ้งเจ้าของบ้านเพราะเป็นทรัพย์สินของเขาทางเราซ่อมเองไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาในตอนแรกคือเจ้าของบ้านบอกเราเปิดวาล์วผิด ทั้งๆที่เราเปิดถูกแล้วถามช่างกี่คนก็ตอบเหมือนกันว่าถูกแล้ว สิ่งนี้เราไม่ถือสาเข้าใจว่าเขาอาจจะเข้าใจผิด แต่ประเด็นหลักคือปั๊มตัดบ่อยแต่ทางเจ้าของบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแต่ก็จะให้ช่างเข้ามาดูให้
เราจึงแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากนั้นว่ามีอาการอย่างไรเพื่อจะหวังเป็นข้อมูลให้ช่างคิดว่ามีอาการโดยละเอียดจะได้วิเคราะห์ได้ง่าย แต่สิ่งที่คุณป้าเจ้าของทำคือให้เราย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจคิดว่าเรามีปัญหาเยอะ และไม่พอใจตั้งแต่เรื่องความสะอาดที่ต้องมาทำซ้ำ จนเรื่องที่มาที่ว่าบ้านแกมีปัญหาจุดต่างๆ แกบอกว่าทางเราปัญหาเยอะให้ย้ายออกจะคืนมัดจำให้ ทางเราก็เหนื่อยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกันอีกจึงตกลงจะย้ายออก โดยคุณป้าให้เราอยู่ึงเดือน ก.ค เพื่อมีเวลาหาบ้าน
แต่ก่อนจะย้ายออกก็มีกระทบกระทั่งกันอีกค่ะ เพราะเขายืนยันจะเอาช่างมาดูปั๊มเราก็ไม่ติดแต่เขาดันมาบอกกลางดึกวันอาทิตย์ว่าจะเข้ามาเช้าวันจันทร์ซึ่งเราทำงานมาบอกกะทันหันเราลางานไม่ทัน คุณป้าก็ไม่สนใจตำหนิเราว่าพอจะให้ช่างมาดันไม่ยอมรับจะเอายังไง เราเลยตัดสินใจลางานจะได้เคลียร์ให้จบ สรุปพอถึงเวลาช่างไม่ว่างมาคุณป้ามาเองคนเดียวซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็กลับไปโดยบอกจะเอาช่างมาอีกทีวันเสาร์ พอถึงวันศุกร์เราทักไปถามว่าจะมีช่างมาไหมก็ไม่ตอบค่ะ เราาจึงไปธุระไม่ได้อยู่บ้าน สรุปคุณป้ากับลูกดันมาที่บ้านแต่ไม่ได้เอาช่างมา ดันมายืนอยู่หน้าบ้านที่มีน้องชาย น้องสาวเราอยู่แล้วถามว่าจะย้ายออกวันไหน ทั้งที่ตกลงกันว่าจะให้อยู่อีกเดือนแต่ผ่านไปไม่กี่วันมาถามกดดัน แล้วพอถามกลับว่าไม่มีช่างมาด้วยหรือคะ เขาตอบว่าไม่ต้องเพราะบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพวกเราที่ไม่คู่ควรกับบ้านหลังนี้ หลังจากเรากลับมาน้องสาวเล่าให้ฟังจึงโทรไปเคลียร์ว่าทางเจ้าของบ้านต้องการอะไร สุดท้ายเขาก็มาย้ำว่าต้องย้ายออกในสิ้นเดือน ก.ค และต้องจ่ายเงินค่าเช่าเดือน ก.ค ด้วย ไม่ยอมให้หักจากมัดจำ 15,000 ที่ถือไว้ เราต่อรองแล้วแต่ไม่ได้จึงไม่อยากเถียงอีก ทุกคนคงรู้เถียงกับวัยทองมันเหนื่อย แล้วตลอดการพูดคุยคุณ ฮ ซึ่งมีชื่อในสัญญาไม่เคยเข้ามาพูดคุยด้วยตนเอง แต่เป็นคุณป้าทำหน้าที่ส่งสารแทนตลอด ทั้งที่เรื่องบางอย่างตกลงกันโดยตรงง่ายกว่าแต่คนลูกก็ไม่ยอมคุย แล้วก็ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อให้แต่เบอร์แม่ไว้
ต่อมาวันที่ 29 ก.ค เราย้ายออกได้ทำการแจ้งเจ้าของบ้านทางไลน์และโทรบอก ได้ทำความสะอาด ตรวจความเรียบร้อยก่อนส่งคืนบ้าน โดยเจ้าของได้บอกทางโทรศัพท์แค่ว่าขอเข้าไปตรวจบ้านก่อน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องส่งคืนกุญแจบ้านแบบใด ทางเราก็จึงเก็บกุญแจไว้กับตัวเพราะคิดว่าจะมีการนัดส่งคืนพร้อมเคลียร์เงินมัดจำ เพราะเจ้าของบ้านเคยบอกว่าตนและแม่ไม่ใช้แอพธนาคารใดๆ ทำให้เราคิดว่าการเคลียร์เงินเขาคงสะดวกเป็นเงินสดเพราะตอนจะจ่ายมัดจำเขาก็จะขอเงินสดแต่ทางเราไม่สะดวกเลยโอนซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ต้องไปปรับสมุดธนาคารเพื่อตรวจสอบอีกที
ทางเจ้าของบ้านไม่มีการติดต่อกลับมาจนวันที่ 11 ส ค เราได้ขอนัดหมายส่งคืนกุญแจ ทางเจ้าบ้านกลับตอบมาว่าไม่ต้องมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันจะหักจากมัดจำและบ้านมีความเสียหาย ทางเรายึดกุญแจเป็นตัวประกันเขาจะถือว่าเราต้องเสียค่าเช่าอีกเดือนหากไม่คืนภายใน 17 ส ค บอกให้เราเอากุญแจไปฝากไว้ที่เพื่อนบ้าน เจ้าของบ้านตรวจบ้านแล้วไม่แจ้งกลับ ข้อมูลการคืนกุญแจนี้เราไม่เคยทราบมาก่อนมาทราบภายหลังจากการติดตามทวงถามเอง คนที่พิมพ์ยาวๆคือคนลูก คุณ ฮ มีชื่อเป็นผู้ทำสัญญา ที่ผ่านมาไม่เคยยอมคุยกันผ่านโทรศัพท์เลย
เราบริสุทธิ์ใจเอากุญแจไปคืนวันที่ 12 สค พบว่าเขาก็เข้ามาตรวจบ้านและเปลี่ยนกุญแจหน้าบ้านไปแล้ว ทางเราก็ไม่อยากมีปัญหาที่แล้วมาก็อยากอโหสิกรรมต่อกัน แต่เจ้าของบ้านดูไม่อยากเคลียร์ให้จบ ไม่มีการตอบกลับเลย หลังคืนกุญแจได้ทักไปสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือค่าน้ำค่าไฟเพราะเจ้าของบ้านบอกว่ามีความเสียหาย แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจึงทำให้เราโทรไปสอบถาม
คนรับสายก็คือคุณป้าคนแม่คนเดิม บอกว่าบ้านมีจุดเสียหาย
ประตูห้องน้ำชั้น 1 ชั้น 2 ปิดไม่ได้
ประตูเหล็กหน้าบ้านสีหลุด
ประตูใต้ซิงก์ล้างจานปิดไม่ได้
ถังขยะหน้าบ้านหายไป
คุณป้าบอกมาแค่นี้ ตามด้วยคำต่อว่ามากมาย จุดแรกประตูห้องน้ำ ชั้น 1เราคิดว่าเขาทราบอยู่แล้วบวกกับเราไม่ค่อยได้ใช้ชั้น1 มารู้ก็ตอนจะย้ายออกแล้วซึ่งตอนนั้นก็หมางใจกันมากแล้วเลยไม่ได้คิดจะไปแจ้งตำหนิเพิ่มเติมกลัวจะไปจุดความไม่พอใจแกอีก ส่วนที่ชั้นสองมันปิดได้ไม่อย่างนั้นเราจะอาบน้ำได้ยังไงในบ้านเรามีผู้ชายจะไม่ปิดประตูอาบน้ำได้ยังไง จุดนี้เราก็สงสัยว่าคำว่าปิดไม่ได้ของคุณป้าคืออะไรจึงจะขอเข้าไปดู และเรื่องถังขยะหน้าบ้านโดนคนเก็บขยะเก็บไปแกไม่พอใจบอกเราปล่อยให้เอาไปได้ยังไง
แต่จุดที่เราขอโต้แย้งอีกจุดคือประตูเหล็กที่บอกสีหลุดเพราะเรา แต่เรามีรูปที่ถ่ายไว้ตอนมมาตรวจบ้าน 5 มิ ย แม้จะไม่ชัดมาแต่เห็นอยู่ว่าสีมันร่อนอยู่แล้ว
แต่คุณป้าไม่รับฟัง แลบอกว่าตัวเองให้ช่างมาทาสีใหม่มันไม่มีทางไม่ถึงสองเดือนจะหลุด แต่คือเราอยู่บ้านนี้น้อยมากๆ แล้วใครจะพิเรนมานั่งขูดสีที่ประตูมันก็เกิดจากการใช้งานหรือเปล่า
หลังจากที่คุณป้าแจ้งปัญหามาเราก็จะขอเข้าไปดูสถนที่จริง ซึ่งทางคุณป้าบอกว่าได้ แต่เมื่อนัดหมายก็บอกว่าตัวเองไม่สะดวกวันเสาร์ที่ 17 เพราะลูกลาราชการมาเยี่ยมวันแม่ เราเลยขอนัดเสาร์ 24 เพราะลูกคุณป้า คุณ ฮ จะได้อยู่ด้วย เราอยากคุยกับคุณ ฮ โดยตรงมากกว่า ตอนแรกคุณป้าก็รับปากแต่ต่อมาโทรมาบอกว่าไม่ว่างแล้วบอกให้เรามาดูวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันจันทร์เราทำงาน เราบอกเราไม่สะดวกคุณป้าบอกให้เราลางานไป เราก็แจ้งแล้วว่าติดงานไม่สะดวก ทางคุณป้าก็บอกตัวเองไม่สะดวก แล้วตำหนิเราว่าทำไมต้องยืดเยื้อไปถึงวันเสาร์ จะเอายังไงกันแน่ คือไม่ใช่มีแค่ลูกคุณที่ทำงานนะคะคนอื่นก็ทำงาน ธุระคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน ทางคุณป้าไม่เข้าใจว่าเราขอดูรูปและขอไปดูสถานที่จริงด้วย เข้าใจว่าพอจะไปที่จริงก็คือไม่ดูรูปเลยไม่ส่งรูปมาพอเราอธิบายก็ไม่ฟัง ก็เกิดการโต้เถียงอีก สุดท้ายเคลียร์กันไม่ลงตัวคุณป้าตัดสายไป เราจึงส่งข้อความในไลน์ไปสอบถามเรื่องขอรูปจุดที่เสียหาย มีการอ่านไม่มีการตอบกลับ จนสอบถามย้ำถึงวันนัดหมายวันอื่นก็ยังไม่ตอบค่ะ
คือเราเสียสุขภาพจิตกับการคุยกับคุณป้าคนนี้มาก อยากคุยกับลูกเขาแต่เขาไม่ยอมมาคุยทั้งที่ชื่อเป็นคนทำสัญญาแท้ อ้างติดงานให้แม่จัดการ ตอนนี้ต้องการหาทางติดต่อคนลูกโดยตรงให้มาเคลียร์กันจะหักค่าเสียหายก็ได้แต่ต้องตามสมควรตามความจริง จะได้ตัดขายกันสักที อยากขอคำแนะนำเราจะเชิญเขามายังไง ทำจดหมายเชิญได้ไหมมาที่ สน.ได้ไหม หรือให้ตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ยได้ไหมคะ