ขอความช่วยเหลือโดนเจ้าของบ้านเช่าบอกให้ย้ายก่อนกำหนด ขอคืนมัดจำเจ้าตัวไม่ยอมมาคุยเอง ให้แม่ที่คุยไม่รู้เรื่องมาคุย

สวัสดีค่ะ อยากรบกวนขอคำปรึกษาค่ะ 

เรื่องยาวและมีดีเทลนิดนึงนะคะ  ขอจั่วหัวคำถามไว้ก่อนเลยว่าไม่รู้จะดำเนินการกับเจ้าของบ้านอย่างไรดีค่ะ
ตัวละครในเรื่องจะมี เรา แม่เจ้าของบ้านที่เราจะเรียกว่าคุณป้า (อายุ80)และคุณ ฮ (อายุ50)ที่เป็นลูกสาวเจ้าของบ้านซึ่งเป็นชื่อทำสัญญาเช่าบ้าน

เริ่มจากทางเราต้องหาบ้านเช่าใหม่ให้ได้ภายในสิ้นเดือน พ.ค 67 ตอนที่บ้านเดิมแจ้งว่าจะปรับปรุงแล้วต้องย้ายออกเจ้าของบ้านกลางเดือน พ.คแล้วทำให้มีเวลาในการหาบ้านไม่มาก เราบังเอิญไปเจอหลังหนึ่งแถวพระรามสองซอยใกล้โรงพยาบาล ด้วยความเร่งด่วนจึงขอดูบ้านแต่ไม่ได้ดูให้ละเอียดทุกจุดเช่นความสะอาดต่างๆ บวกกับเจ้าของอ้างว่าคัตเอ้าท์ไฟอยู่สูงไม่สะดวกเปิดไฟ จึงทำให้เราดูบ้านวันนั้นแบบเร่งรีบด้วยเวลาที่จำกัด

ต่อมาตกลงจะทำทำสัญญากัน 1 ปี ตัวบ้านเช่าราคา 7,500 บาทต่อเดือนมัดจำ 15,000 เป็นทาวเฮาส์สองชั้น ก่อนทำสัญญาและย้ายเข้าในบ้านก็มีจุดเสื่อมสภาพตามอายุของบ้านหลายจุดซึ่งเราก็เข้าใจ เพียงแค่เมื่อพบจุดตำหนิก็ได้แจ้งเจ้าของบ้านไว้เพื่อเป็นการยืนยันว่ามันเป็นอยู่แต่เดิมแล้ว จะมีแค่เรื่องฝุ่นความสะอาดที่ก่อนย้ายเข้ายังพบว่าค่อนข้างสกปรกจึงแจ้งเจ้าของไปเพราะเจ้าของบอกจ้างคนมาทำความสะอาด เมื่อเจ้าของไปถามกับคนทำความสะอาดเขาก็ยอมรับว่ารีบไม่ได้ทำให้ดีจึงจะเข้ามาทำใหม่ให้ แต่ภายหลังเจ้าของมาบอกว่าไปจ้างคนใหม่มาทำความสะอาดให้อีกค่ะ (ที่เล่าตรงนี้เพราะว่าจะเป้นเรื่องที่โดนหยิบยกมาแย้งตอนหลัง)





ตอนนั้นได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้วว่านอกจากเรื่องความสะอาดสิ่งอื่นๆเป็นการแจ้งข้อมูลให้ทราบเท่านั้นว่ามีตำหนิแต่เดิม แต่ก็มีบางส่วนที่เราก็พบตำหนิหลังย้ายเข้าแต่เพราะตอนนั้นคิดว่าเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านทราบอยู่แล้วจึงไม่ได้ถ่ายแจ้งเขาเช่นประตูห้องน้ำชั้น 1 ปิดไม่ได้ค่ะ (ซึ่งกลายมาเป็นประเด็นกันภายหลังอีกตอนย้ายออก)

เราย้ายเข้าบ้านหลังนี้วันที่ 9 มิ ย (เซ็นสัญญาวันที่ 3 มิ ย ) หลังอยู่แต่เมื่อเข้าไปอยู่จริงก็มีการแจ้งตำหนิที่พบเพิ่มเติมซึ่งทางคุณป้าไม่เข้าใจ คิดว่าเราต้องการให้มาซ่อมแต่จริงๆ คือเราแค่แจ้งให้ทราบเราก็จะทนๆอยู่ไปด้วยตนเองถ้ามันไม่ได้กระทบความเป็นอยู่มาก จนกระทั่งมีเรื่องปั๊มน้ำไม่ทำงาน อาการคือตัดบ่อย อาบๆอยู่น้ำก็ไม่ไหล ตัวบ้านทำวาล์วมาแบบถ้าไม่มีปั๊มน้ำจะไม่ไหลเลย ต่อให้เปิดวาล์วประปาเข้าน้ำก็ไหลอ่อนมากไม่สามารถใช้ได้ ทำให้เราต้องแจ้งเจ้าของบ้านเพราะเป็นทรัพย์สินของเขาทางเราซ่อมเองไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมาในตอนแรกคือเจ้าของบ้านบอกเราเปิดวาล์วผิด ทั้งๆที่เราเปิดถูกแล้วถามช่างกี่คนก็ตอบเหมือนกันว่าถูกแล้ว สิ่งนี้เราไม่ถือสาเข้าใจว่าเขาอาจจะเข้าใจผิด แต่ประเด็นหลักคือปั๊มตัดบ่อยแต่ทางเจ้าของบ้านก็ยืนยันว่าไม่มีปัญหาแต่ก็จะให้ช่างเข้ามาดูให้ 



เราจึงแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากนั้นว่ามีอาการอย่างไรเพื่อจะหวังเป็นข้อมูลให้ช่างคิดว่ามีอาการโดยละเอียดจะได้วิเคราะห์ได้ง่าย แต่สิ่งที่คุณป้าเจ้าของทำคือให้เราย้ายออก เนื่องจากไม่พอใจคิดว่าเรามีปัญหาเยอะ และไม่พอใจตั้งแต่เรื่องความสะอาดที่ต้องมาทำซ้ำ จนเรื่องที่มาที่ว่าบ้านแกมีปัญหาจุดต่างๆ  แกบอกว่าทางเราปัญหาเยอะให้ย้ายออกจะคืนมัดจำให้  ทางเราก็เหนื่อยไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกันอีกจึงตกลงจะย้ายออก โดยคุณป้าให้เราอยู่ึงเดือน ก.ค เพื่อมีเวลาหาบ้าน 

แต่ก่อนจะย้ายออกก็มีกระทบกระทั่งกันอีกค่ะ เพราะเขายืนยันจะเอาช่างมาดูปั๊มเราก็ไม่ติดแต่เขาดันมาบอกกลางดึกวันอาทิตย์ว่าจะเข้ามาเช้าวันจันทร์ซึ่งเราทำงานมาบอกกะทันหันเราลางานไม่ทัน คุณป้าก็ไม่สนใจตำหนิเราว่าพอจะให้ช่างมาดันไม่ยอมรับจะเอายังไง เราเลยตัดสินใจลางานจะได้เคลียร์ให้จบ สรุปพอถึงเวลาช่างไม่ว่างมาคุณป้ามาเองคนเดียวซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็กลับไปโดยบอกจะเอาช่างมาอีกทีวันเสาร์ พอถึงวันศุกร์เราทักไปถามว่าจะมีช่างมาไหมก็ไม่ตอบค่ะ เราาจึงไปธุระไม่ได้อยู่บ้าน สรุปคุณป้ากับลูกดันมาที่บ้านแต่ไม่ได้เอาช่างมา ดันมายืนอยู่หน้าบ้านที่มีน้องชาย น้องสาวเราอยู่แล้วถามว่าจะย้ายออกวันไหน ทั้งที่ตกลงกันว่าจะให้อยู่อีกเดือนแต่ผ่านไปไม่กี่วันมาถามกดดัน แล้วพอถามกลับว่าไม่มีช่างมาด้วยหรือคะ เขาตอบว่าไม่ต้องเพราะบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพวกเราที่ไม่คู่ควรกับบ้านหลังนี้ หลังจากเรากลับมาน้องสาวเล่าให้ฟังจึงโทรไปเคลียร์ว่าทางเจ้าของบ้านต้องการอะไร สุดท้ายเขาก็มาย้ำว่าต้องย้ายออกในสิ้นเดือน ก.ค และต้องจ่ายเงินค่าเช่าเดือน ก.ค ด้วย ไม่ยอมให้หักจากมัดจำ 15,000 ที่ถือไว้ เราต่อรองแล้วแต่ไม่ได้จึงไม่อยากเถียงอีก ทุกคนคงรู้เถียงกับวัยทองมันเหนื่อย แล้วตลอดการพูดคุยคุณ ฮ ซึ่งมีชื่อในสัญญาไม่เคยเข้ามาพูดคุยด้วยตนเอง แต่เป็นคุณป้าทำหน้าที่ส่งสารแทนตลอด ทั้งที่เรื่องบางอย่างตกลงกันโดยตรงง่ายกว่าแต่คนลูกก็ไม่ยอมคุย แล้วก็ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อให้แต่เบอร์แม่ไว้

 ต่อมาวันที่ 29 ก.ค เราย้ายออกได้ทำการแจ้งเจ้าของบ้านทางไลน์และโทรบอก ได้ทำความสะอาด ตรวจความเรียบร้อยก่อนส่งคืนบ้าน โดยเจ้าของได้บอกทางโทรศัพท์แค่ว่าขอเข้าไปตรวจบ้านก่อน แต่ไม่ได้บอกว่าต้องส่งคืนกุญแจบ้านแบบใด ทางเราก็จึงเก็บกุญแจไว้กับตัวเพราะคิดว่าจะมีการนัดส่งคืนพร้อมเคลียร์เงินมัดจำ  เพราะเจ้าของบ้านเคยบอกว่าตนและแม่ไม่ใช้แอพธนาคารใดๆ ทำให้เราคิดว่าการเคลียร์เงินเขาคงสะดวกเป็นเงินสดเพราะตอนจะจ่ายมัดจำเขาก็จะขอเงินสดแต่ทางเราไม่สะดวกเลยโอนซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ต้องไปปรับสมุดธนาคารเพื่อตรวจสอบอีกที


ทางเจ้าของบ้านไม่มีการติดต่อกลับมาจนวันที่ 11 ส ค เราได้ขอนัดหมายส่งคืนกุญแจ ทางเจ้าบ้านกลับตอบมาว่าไม่ต้องมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายกันจะหักจากมัดจำและบ้านมีความเสียหาย ทางเรายึดกุญแจเป็นตัวประกันเขาจะถือว่าเราต้องเสียค่าเช่าอีกเดือนหากไม่คืนภายใน 17 ส ค  บอกให้เราเอากุญแจไปฝากไว้ที่เพื่อนบ้าน เจ้าของบ้านตรวจบ้านแล้วไม่แจ้งกลับ ข้อมูลการคืนกุญแจนี้เราไม่เคยทราบมาก่อนมาทราบภายหลังจากการติดตามทวงถามเอง  คนที่พิมพ์ยาวๆคือคนลูก คุณ ฮ มีชื่อเป็นผู้ทำสัญญา ที่ผ่านมาไม่เคยยอมคุยกันผ่านโทรศัพท์เลย



เราบริสุทธิ์ใจเอากุญแจไปคืนวันที่ 12 สค พบว่าเขาก็เข้ามาตรวจบ้านและเปลี่ยนกุญแจหน้าบ้านไปแล้ว ทางเราก็ไม่อยากมีปัญหาที่แล้วมาก็อยากอโหสิกรรมต่อกัน แต่เจ้าของบ้านดูไม่อยากเคลียร์ให้จบ ไม่มีการตอบกลับเลย หลังคืนกุญแจได้ทักไปสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือค่าน้ำค่าไฟเพราะเจ้าของบ้านบอกว่ามีความเสียหาย แต่ก็ไม่มีการตอบกลับจึงทำให้เราโทรไปสอบถาม

คนรับสายก็คือคุณป้าคนแม่คนเดิม บอกว่าบ้านมีจุดเสียหาย
ประตูห้องน้ำชั้น 1 ชั้น 2  ปิดไม่ได้
ประตูเหล็กหน้าบ้านสีหลุด
ประตูใต้ซิงก์ล้างจานปิดไม่ได้
ถังขยะหน้าบ้านหายไป 
คุณป้าบอกมาแค่นี้ ตามด้วยคำต่อว่ามากมาย จุดแรกประตูห้องน้ำ ชั้น 1เราคิดว่าเขาทราบอยู่แล้วบวกกับเราไม่ค่อยได้ใช้ชั้น1 มารู้ก็ตอนจะย้ายออกแล้วซึ่งตอนนั้นก็หมางใจกันมากแล้วเลยไม่ได้คิดจะไปแจ้งตำหนิเพิ่มเติมกลัวจะไปจุดความไม่พอใจแกอีก ส่วนที่ชั้นสองมันปิดได้ไม่อย่างนั้นเราจะอาบน้ำได้ยังไงในบ้านเรามีผู้ชายจะไม่ปิดประตูอาบน้ำได้ยังไง จุดนี้เราก็สงสัยว่าคำว่าปิดไม่ได้ของคุณป้าคืออะไรจึงจะขอเข้าไปดู  และเรื่องถังขยะหน้าบ้านโดนคนเก็บขยะเก็บไปแกไม่พอใจบอกเราปล่อยให้เอาไปได้ยังไง

แต่จุดที่เราขอโต้แย้งอีกจุดคือประตูเหล็กที่บอกสีหลุดเพราะเรา แต่เรามีรูปที่ถ่ายไว้ตอนมมาตรวจบ้าน 5 มิ ย แม้จะไม่ชัดมาแต่เห็นอยู่ว่าสีมันร่อนอยู่แล้ว
แต่คุณป้าไม่รับฟัง แลบอกว่าตัวเองให้ช่างมาทาสีใหม่มันไม่มีทางไม่ถึงสองเดือนจะหลุด แต่คือเราอยู่บ้านนี้น้อยมากๆ แล้วใครจะพิเรนมานั่งขูดสีที่ประตูมันก็เกิดจากการใช้งานหรือเปล่า


หลังจากที่คุณป้าแจ้งปัญหามาเราก็จะขอเข้าไปดูสถนที่จริง ซึ่งทางคุณป้าบอกว่าได้ แต่เมื่อนัดหมายก็บอกว่าตัวเองไม่สะดวกวันเสาร์ที่ 17 เพราะลูกลาราชการมาเยี่ยมวันแม่ เราเลยขอนัดเสาร์ 24 เพราะลูกคุณป้า คุณ ฮ จะได้อยู่ด้วย เราอยากคุยกับคุณ ฮ โดยตรงมากกว่า ตอนแรกคุณป้าก็รับปากแต่ต่อมาโทรมาบอกว่าไม่ว่างแล้วบอกให้เรามาดูวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันจันทร์เราทำงาน เราบอกเราไม่สะดวกคุณป้าบอกให้เราลางานไป เราก็แจ้งแล้วว่าติดงานไม่สะดวก ทางคุณป้าก็บอกตัวเองไม่สะดวก แล้วตำหนิเราว่าทำไมต้องยืดเยื้อไปถึงวันเสาร์ จะเอายังไงกันแน่ คือไม่ใช่มีแค่ลูกคุณที่ทำงานนะคะคนอื่นก็ทำงาน ธุระคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน   ทางคุณป้าไม่เข้าใจว่าเราขอดูรูปและขอไปดูสถานที่จริงด้วย เข้าใจว่าพอจะไปที่จริงก็คือไม่ดูรูปเลยไม่ส่งรูปมาพอเราอธิบายก็ไม่ฟัง ก็เกิดการโต้เถียงอีก สุดท้ายเคลียร์กันไม่ลงตัวคุณป้าตัดสายไป เราจึงส่งข้อความในไลน์ไปสอบถามเรื่องขอรูปจุดที่เสียหาย มีการอ่านไม่มีการตอบกลับ จนสอบถามย้ำถึงวันนัดหมายวันอื่นก็ยังไม่ตอบค่ะ



คือเราเสียสุขภาพจิตกับการคุยกับคุณป้าคนนี้มาก อยากคุยกับลูกเขาแต่เขาไม่ยอมมาคุยทั้งที่ชื่อเป็นคนทำสัญญาแท้ อ้างติดงานให้แม่จัดการ  ตอนนี้ต้องการหาทางติดต่อคนลูกโดยตรงให้มาเคลียร์กันจะหักค่าเสียหายก็ได้แต่ต้องตามสมควรตามความจริง จะได้ตัดขายกันสักที อยากขอคำแนะนำเราจะเชิญเขามายังไง ทำจดหมายเชิญได้ไหมมาที่ สน.ได้ไหม หรือให้ตำรวจมาช่วยไกล่เกลี่ยได้ไหมคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่