ขอแทน A B C D เป็นตัวละครนะครับ
เรื่องราวก็มีอยู่ว่า นาย A กับ นางสาว B ได้มีการจดทะเบียนสมรสมาแล้ว ณ ตอนนี้(ปัจจุบัน) อีก 15 วัน จะครบ 1 ปี ในทะเบียนสมรส นาย A กับ นางสาว B
ได้เป็นแฟนกันมาร่วม 7 ปีกว่า (คบกัน 4 ปีกว่าจะเข้า 5 ปี แล้วก็แต่งงานและคบกันมาจนถึง 7 ปี) และได้มาจดทะเบียนสมรสกันหลังจากปีที่ 7
นาย A กับ นางสาว B คู่นี้ รักกันดี "ไม่เคย"มีปัญหาบาดหมางหรือทะเลาะเบาะแว้ง ย้ำ รักกันดี ไม่เคยมีปัญหาแบบว่าที่จะต้องแยกกันอยู่หรือไม่อยากอยู่หรือ
ที่จะต้องทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้แต่อย่างใด นาย A กับ นางสาว B เคยมีปัญหากันคนละ 1 ครั้ง นาย A จับได้ นางสาว B คุยกับชายคนอื่น(ก็คือนอกใจ) และ
นางสาว B จับได้ นาย A คุยกับญิงอื่น(แอบไปอยู่กับหญิงอื่นก็คือนอกใจ) แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่จดทะเบียนสมรสกัน และนาย A กับ นางสาว B ได้
นั่งจับเข่าคุยกันปรับความเข้าใจกันจนเดินหน้าประคองความรักสานสันพันธ์กันต่อมาด้วยความเข้าใจไม่มีการเลิกราแต่อย่างใดเต็มใจที่จะคบกันต่อไปฉัน
สามีภรรยา แต่ต่อมา...ก่อนจะจดทะเบียนสมรส นางสาว B จะมีแพลนต้องบินไปทำงานต่างประเทศจึงได้มีการจดทะเบียนสมรสกับ นาย A เพื่อความมั่นใจของกันและกัน นางสาว B บินไป ลอนดอน ทำงาน ตั้งแต่นั้นมา ณ ปัจจุบันก็ราวๆประมาณ 8 เดือนแล้ว ทั้งคู่ติดต่อกันเรื่อยมา ทั้งโทร ทั้งคอล เห็นหน้ากัน แต่เรื่องมาเกิดตรงที่ว่า 2 เดือนก่อนปัจจุบัน นางสาว B ได้แอบไปมีสัมพันธ์กับ นาย C ชายไทยที่อยู่ในลอนดอนซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันกับ นางสาว B
และ นายC (ชู้) เท่าที่สืบมาน่าจะมีคดีติดตัวไปจากไทยไปอยู่ที่นู้นอาจจะด้วยเกี่ยวข้องกับธุรกิจ นาย C (ชู้) ที่ลอนดอนมี ภรรยา(นางสาว D) และลูกเล็ก
2 คน ที่อยู่ในไทยอยู่แล้ว ปกตินาย C ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้กับ นางสาว D และลูกตนเอง แต่ช่วง 2 เดือนที่คาดว่า นาย C มาติดพันธ์กับ นางสาว B
ที่มีคู่สมรสแล้ว ทำให้ นาย C (ชู้) ไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูไปให้ นางสาว D แม่ของลูกตนเอง
ปัญหาต่อมาคือ นาย A คู่สมรสของ นางสาว B ที่ไปทำงานที่ลอนดอนทราบเรื่อง นาย A ก็มีความประสงค์จะยุติความสัมพันธ์ลงกับ นางสาว B
และต้องการ ฟ้องหย่า ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
* มีรถยนต์ที่เป็นชื่อ นางสาว B อยู่ 1 คัน ในไทย ซื้อก่อนที่จะจดทะเบียนสมรสด้วย (ซื้อในช่วงหลังแต่งงานกันแล้วแต่ก่อนจดทะเบียนสมรส)
คำถามครับ
1. กรณีแบบนี้ นาย A ควรฟ้อง นางสาว B และ นาย C (ชู้) ด้วยไหม ถ้าฟ้อง นางสาว B และ นาย C (ชู้) %ในการฟ้องน่าจะฟ้องคู่หรือฟ้องเดี่ยว
ดีกว่ากัน เพราะ นาย C เป็นคนมีคดีติดตัวและหนีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ(เป็นผีน้อย)ร้านอาหารไทยที่นู้น นางสาว B ทำวีซ่าท่องเที่ยวอายุ 6 เดือน
แต่ปัจจุบันอยุ่นู้นได้ 8 เดือนแล้ว มีคำแนะนำอะไรมั้ยครับ
2. รถยนต์คันที่เป็นชื่อของ นางสาว B ถ้าฟ้องแล้ว (สมมุติชนะ) หรืออื่นๆ อย่างใด รถยนต์คันนี้ จะตกเป็นสินสมรส หรือ ทรัพย์สินส่วนตัวของ
ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ครับ นาย A มีสิทธิ์หรือจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากรถยนต์คันดังกล่าวไหม
*เนื่องจากเคสนี้เป็นการตัดสินใจแล้วที่จะยุติความสัมพันธ์ลง เพราะ นาย A ก่อนเกิดเรื่องได้ไปเตรียมตัวจัดการทำวีซ่า/เรียนภาษา เพื่อี่จะไปสร้างหลัก
ปักฐาน(ชั่วคราว) กับ นางสาว B แต่ นางสาว B ก็สร้างเรื่องซะก่อน
ขอคำแนะนำด้วยครับ ทางกฎหมาย สมรส ฟ้องหย่า
การฟ้องหย่า การมีสิทธิ์ ในสินสมรสก่อนจดทะเบียนสมรส
เรื่องราวก็มีอยู่ว่า นาย A กับ นางสาว B ได้มีการจดทะเบียนสมรสมาแล้ว ณ ตอนนี้(ปัจจุบัน) อีก 15 วัน จะครบ 1 ปี ในทะเบียนสมรส นาย A กับ นางสาว B
ได้เป็นแฟนกันมาร่วม 7 ปีกว่า (คบกัน 4 ปีกว่าจะเข้า 5 ปี แล้วก็แต่งงานและคบกันมาจนถึง 7 ปี) และได้มาจดทะเบียนสมรสกันหลังจากปีที่ 7
นาย A กับ นางสาว B คู่นี้ รักกันดี "ไม่เคย"มีปัญหาบาดหมางหรือทะเลาะเบาะแว้ง ย้ำ รักกันดี ไม่เคยมีปัญหาแบบว่าที่จะต้องแยกกันอยู่หรือไม่อยากอยู่หรือ
ที่จะต้องทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้แต่อย่างใด นาย A กับ นางสาว B เคยมีปัญหากันคนละ 1 ครั้ง นาย A จับได้ นางสาว B คุยกับชายคนอื่น(ก็คือนอกใจ) และ
นางสาว B จับได้ นาย A คุยกับญิงอื่น(แอบไปอยู่กับหญิงอื่นก็คือนอกใจ) แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่จดทะเบียนสมรสกัน และนาย A กับ นางสาว B ได้
นั่งจับเข่าคุยกันปรับความเข้าใจกันจนเดินหน้าประคองความรักสานสันพันธ์กันต่อมาด้วยความเข้าใจไม่มีการเลิกราแต่อย่างใดเต็มใจที่จะคบกันต่อไปฉัน
สามีภรรยา แต่ต่อมา...ก่อนจะจดทะเบียนสมรส นางสาว B จะมีแพลนต้องบินไปทำงานต่างประเทศจึงได้มีการจดทะเบียนสมรสกับ นาย A เพื่อความมั่นใจของกันและกัน นางสาว B บินไป ลอนดอน ทำงาน ตั้งแต่นั้นมา ณ ปัจจุบันก็ราวๆประมาณ 8 เดือนแล้ว ทั้งคู่ติดต่อกันเรื่อยมา ทั้งโทร ทั้งคอล เห็นหน้ากัน แต่เรื่องมาเกิดตรงที่ว่า 2 เดือนก่อนปัจจุบัน นางสาว B ได้แอบไปมีสัมพันธ์กับ นาย C ชายไทยที่อยู่ในลอนดอนซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันกับ นางสาว B
และ นายC (ชู้) เท่าที่สืบมาน่าจะมีคดีติดตัวไปจากไทยไปอยู่ที่นู้นอาจจะด้วยเกี่ยวข้องกับธุรกิจ นาย C (ชู้) ที่ลอนดอนมี ภรรยา(นางสาว D) และลูกเล็ก
2 คน ที่อยู่ในไทยอยู่แล้ว ปกตินาย C ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้กับ นางสาว D และลูกตนเอง แต่ช่วง 2 เดือนที่คาดว่า นาย C มาติดพันธ์กับ นางสาว B
ที่มีคู่สมรสแล้ว ทำให้ นาย C (ชู้) ไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูไปให้ นางสาว D แม่ของลูกตนเอง
ปัญหาต่อมาคือ นาย A คู่สมรสของ นางสาว B ที่ไปทำงานที่ลอนดอนทราบเรื่อง นาย A ก็มีความประสงค์จะยุติความสัมพันธ์ลงกับ นางสาว B
และต้องการ ฟ้องหย่า ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
* มีรถยนต์ที่เป็นชื่อ นางสาว B อยู่ 1 คัน ในไทย ซื้อก่อนที่จะจดทะเบียนสมรสด้วย (ซื้อในช่วงหลังแต่งงานกันแล้วแต่ก่อนจดทะเบียนสมรส)
คำถามครับ
1. กรณีแบบนี้ นาย A ควรฟ้อง นางสาว B และ นาย C (ชู้) ด้วยไหม ถ้าฟ้อง นางสาว B และ นาย C (ชู้) %ในการฟ้องน่าจะฟ้องคู่หรือฟ้องเดี่ยว
ดีกว่ากัน เพราะ นาย C เป็นคนมีคดีติดตัวและหนีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ(เป็นผีน้อย)ร้านอาหารไทยที่นู้น นางสาว B ทำวีซ่าท่องเที่ยวอายุ 6 เดือน
แต่ปัจจุบันอยุ่นู้นได้ 8 เดือนแล้ว มีคำแนะนำอะไรมั้ยครับ
2. รถยนต์คันที่เป็นชื่อของ นางสาว B ถ้าฟ้องแล้ว (สมมุติชนะ) หรืออื่นๆ อย่างใด รถยนต์คันนี้ จะตกเป็นสินสมรส หรือ ทรัพย์สินส่วนตัวของ
ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ครับ นาย A มีสิทธิ์หรือจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากรถยนต์คันดังกล่าวไหม
*เนื่องจากเคสนี้เป็นการตัดสินใจแล้วที่จะยุติความสัมพันธ์ลง เพราะ นาย A ก่อนเกิดเรื่องได้ไปเตรียมตัวจัดการทำวีซ่า/เรียนภาษา เพื่อี่จะไปสร้างหลัก
ปักฐาน(ชั่วคราว) กับ นางสาว B แต่ นางสาว B ก็สร้างเรื่องซะก่อน
ขอคำแนะนำด้วยครับ ทางกฎหมาย สมรส ฟ้องหย่า