ชีวประวัติ นักบุญ โมเสส คนผิวดำ (Saint Moses the Black - موسى)



     นักบุญ โมเสส คนผิวดำ หรือบางคนเรียกว่า “นักบุญโมเสสแห่งเอธิโอเปีย (Saint Moses of Ethiopia)🇪🇹 , คุณพ่อ โมเสส ผู้แข็งแกร่ง (Abba Moses the Strong) , คุณพ่อ โมเสส ผู้เป็นโจร (Abba Moses the Robber)” เป็นทาสของเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศอียิปต์🇪🇬 ที่ถูกไล่ออก เพราะข้อหาลักขโมยและต้องสงสัยว่าก่อเหตุฆาตกรรมท่านได้กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรที่ออกอาละวาดไปทั่วลุ่มแม่น้ำไนล์ (Nile Valley) กับสร้างชื่อเสียงด้านความหวาดกลัวและความรุนแรง ท่านเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลและน่าเกรงขาม ครั้งหนึ่ง มีสุนัขเห่าขัดขวางนักบุญโมเสสไม่ให้ก่อเหตุอาชญากรรม ท่านจึงสาบานว่า จะแก้แค้นเจ้าของสุนัขตัวนั้น นักบุญโมเสสคาบอาวุธไว้ที่ปาก แล้วว่ายน้ำไปตามแม่น้ำเพื่อไปที่กระท่อมของเจ้าของสุนัข เจ้าของสุนัขเกิดรู้ตัว จึงไปซ่อนตัว ทำให้นักบุญโมเสสที่ผิดหวังจึงนำแกะบางตัวไปฆ่าทิ้ง ท่านพยายามหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและไปอาศัยอยู่กับบรรดาฤาษีในอารามแห่งหนึ่งในทะเลทราย Scete ใกล้กับเมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria - الإسكندرية) การอุทิศตนของบรรดาฤาษี ตลอดจนความสันติสุขและความสันโดษของพวกเขา มีอิทธิพลต่อนักบุญโมเสสอย่างมาก ไม่นานท่านก็ละทิ้งวิถีชีวิตเก่าๆ และเข้าร่วมวิถีชิวิตในชุมชนฤาษีที่ Skete

     ท่านต้องปรับตัวให้เข้ากับพระวินัยของวิถีชิวิตในชุมชนฤาษี ซึ่งค่อนข้างยาก แต่สัญชาตญาณความเป็นนักสู้ก็ยังคงอยู่ในตัวท่าน เมื่อถูกโจรกลุ่มหนึ่งโจมตีในห้องที่อยู่ของฤาษีกลางทะเลทราย นักบุญโมเสสจึงต่อสู้กลับและเอาชนะกลุ่มโจรที่บุกรุกได้จากนั้นท่านจึงลากพวกเขาไปที่วัดน้อย (Chapel) ซึ่งบรรดาฤาษีคนอื่นๆ กำลังสวดภาวนาอยู่ ท่านบอกกับพี่น้องฤาษีว่า “ท่านไม่คิดว่า การทำร้ายพวกโจรเป็นการกระทำของผู้ที่เป็นคริสตชน” และถามว่า “ท่านควรทำอย่างไรกับพวกเขาดี?” กลุ่มโจรที่ถูกทำร้ายจึงรู้สึกสำนึกผิดและกลับใจมานับถือศาสนาคริสต์ และเข้าร่วมวิถีชีวิตในชุมชนฤาษี


💪 ท่านต้องปรับตัวให้เข้ากับพระวินัยของวิถีชิวิตในชุมชนฤาษี ซึ่งค่อนข้างยาก แต่สัญชาตญาณความเป็นนักสู้ก็ยังคงอยู่ในตัวท่าน เมื่อถูกโจรกลุ่มหนึ่งโจมตีในห้องที่อยู่ของฤาษีกลางทะเลทราย นักบุญโมเสสจึงต่อสู้กลับและเอาชนะกลุ่มโจรที่บุกรุกได้ จากนั้นท่านจึงลากพวกเขาไปที่วัดน้อย (Chapel) ซึ่งบรรดาฤาษีคนอื่นๆ กำลังสวดภาวนาอยู่ ท่านบอกกับพี่น้องฤาษีว่า “ท่านไม่คิดว่า การทำร้ายพวกโจรเป็นการกระทำของผู้ที่เป็นคริสตชน” และถามว่า “ท่านควรทำอย่างไรกับพวกเขาดี?” กลุ่มโจรที่ถูกทำร้ายจึงรู้สึกสำนึกผิดและกลับใจมานับถือศาสนาคริสต์ และเข้าร่วมวิถีชีวิตในชุมชนฤาษี

     นักบุญโมเสสมีความกระตือรือร้นในทุกสิ่งที่ได้ทำ แต่กลับท้อแท้เมื่อคิดว่า ตัวท่านไม่ดีพร้อม เช้าวันหนึ่ง นักบุญอิสิดอร์แห่งพีลูเซียม (Saint Isidore of Pelusium - Ἰσίδωρος ὁ Πηλουσιώτης - القدّيس البار إيسيذوروس الفرمي) อธิการของอารามพานักบุญโมเสสขึ้นไปบนหลังคา และทั้งสองเฝ้าดูแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องลงมาบนขอบฟ้าด้วยกัน นักบุญอิสิดอร์บอกกับนักบุญโมเสสว่า “แสงของดวงอาทิตย์จะค่อยๆ ขับไล่ความมืดและนำพาเข้าสู่วันใหม่ และด้วยเหตุนี้ คนเราจึงกลายเป็นผู้เพ่งพินิศอย่างสมบูรณ์ได้อย่างโดยไม่ต้องรีบร้อน”


😇 นักบุญอิสิดอร์แห่งพีลูเซียม (Saint Isidore of Pelusium - Ἰσίδωρος ὁ Πηλουσιώτης - القدّيس البار إيسيذوروس الفرمي)

     นักบุญโมเสสพิสูจน์แล้วว่า ท่านเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่มีประสบผล คุณพ่ออธิการได้สั่งให้บรรดาพี่น้องฤาษีถืออดอาหารเป็นเวลา 1 สัปดาห์ บรรดาพี่น้องฤาษีบางคนมาหานักบุญโมเสส และท่านเตรียมอาหารให้พวกเขา ฤาษีในละแวกนั้นเลยรายงานให้อธิการทราบว่า นักบุญโมเสสฝ่าฝืนการอดอาหาร เมื่อพวกเขามาพบท่านพวกเขาก็ได้เปลี่ยนใจไม่ถือโทษโดยกล่าวว่า "ท่านไม่ได้ถือพระบัญญัติของมนุษย์ แต่พระถือบัญญัติของพระเจ้าของการรักเพื่อนมนุษย์" บางคนมองว่า เรื่องนี้เป็นการอ้างถึงการอดอาหารในเทศกาลปัสกายุคแรก ซึ่งพัฒนามาเป็นเวลานี้

     เมื่อพี่น้องคนหนึ่งได้ทำผิด และนักบุญโมเสสได้รับเชิญไปประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินความผิดอย่างเหมาะสม ท่านปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เมื่อท่านได้รับเชิญไปประชุมอีกครั้ง ท่านก็หยิบเหยือกน้ำที่มีรอยรั่ว แล้วใส่น้ำไว้บนไหล่ของท่าน หรืออีกเวอร์ชั่นเล่าว่า ท่านแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยทราย เมื่อท่านมาถึงที่ประชุม ฤาษีคนอื่นๆถามว่า “ท่านแบกเหยือกน้ำทำไม?” นักบุญโมเสสตอบว่า “บาปของเราหมดไปแล้วและไม่สามารถเห็นได้ แต่วันนี้เราจะมาตัดสินความผิดของผู้อื่น” เมื่อบรรดาพี่น้องฤาษีที่มาร่วมประชุมได้ยินเช่นนี้ โมเสสก็ให้อภัยฤาษีที่ได้ทำผิด



     นักบุญโมเสสกลายเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของกลุ่มผู้แสวงบุญในทะเลทราย ในช่วงเวลาหนึ่ง ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ เมื่ออายุประมาณ 75 ปี หรือประมาณปีค.ศ. 407 มีข่าวมาว่า กลุ่มผู้ทรยศวางแผนโจมตีชุมชนฤาษี บรรดาพี่น้องฤาษีต้องการปกป้องตัวเอง แต่นักบุญโมเสสห้ามไว้ ท่านบอกให้พวกเขาถอยทัพ แทนที่จะหยิบอาวุธขึ้นมา ท่านและฤาษีอีก 7 คนยังคงอยู่ที่ด้านหลังของชุมชนฤาษี และต้อนรับผู้บุกรุกด้วยการอ้อมแขนที่เปิดกว้าง แต่ทั้ง 8 คนถูกโจรปล้นจนเสียชีวิต การตีความสมัยใหม่ยกย่องนักบุญโมเสส คนผิวดำเป็น “อัครสาวกแห่งการไม่ใช้ความรุนแรง(Apostle of Non-Violence)”

     ชีวิตของนักบุญโมเสส คนผิวดำ และนักบุญนอร์เบิร์ตแห่งแซนเทน (Saint Norbert of Xanten) มีความคล้ายคลึงกันที่น่าสนใจ ทั้งสองท่านใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเสเพลในช่วงวัยเยาว์ ทั้งสองท่านมีประสบการณ์การกลับใจสู่ศาสนาคริสต์ ซึ่งพวกท่านได้ยินและปฏิบัติตามกระแสเรียกเรียกของพระเจ้า ทั้งสองท่านเป็นผู้นำในชุมชนศาสนาของตนทั้งสองท่านเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำสันติ โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียกร้องผู้คนให้คืนดีและให้อภัยกันด้วยคำพูดและแบบอย่าง


😇 นักบุญนอร์เบิร์ตแห่งแซนเทน (Saint Norbert of Xanten)

CR. : https://www.ewtn.com/catholicism/saints/moses-the-black-706





⛪ Wadi El Natrun (วาดิ นาตรูนี่ - وادي النطرون) เป็นชุมชนฤาษีที่นักบุญ โมเสส คนผิวดำ อาศัยอยู่ มีอารามหลายแห่งที่ยังเปิดอยู่จนถึงปัจจุบัน
📍 Google Maps
https://maps.app.goo.gl/JaexQ9LXb9wWd2fKA?g_st=com.google.maps.preview.copy

#คริสต์ #ออร์โธด็อกซ์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญโมเสสคนผิวดำ#นักบุญโมเสสแห่งเอธิโอเปีย #คุณพ่อโมเสสผู้แข็งแกร่ง #คุณพ่อโมเสสผู้เป็นโจร#พระสงฆ์ #ฤาษี #นักพรต #นักบวช #ชุมชนฤาษี #ชุมชน #อาราม #พระเจ้า#ประวัติศาสตร์ #คาทอลิกตะวันออก #นักบุญ #สันติ #orthodox #catholic #EasternCatholic #SaintMosesTheBlack #SaintMosesOfEthiopia #AbbaMosesTheStrong #AbbaMosesTheRobber  #WadiElNatrun #monastic

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/tyaJkmkDUq1tVSj6/?mibextid=WC7FNe
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่