ทำอย่างไรเมื่อรู้สึกเกลียดลูกอีกคนของพ่อกับแม่มากๆ (ระบายค่ะ)

เราเป็นลูกคนโต มีน้องชายคนเล็ก 1 คน เราเคยรักและห่วงน้องมากแต่น้องคนนี้โตมากลายเป็นคนที่เราใช้คำว่าเกลียดที่สุดในชีวิตได้เลย
ตั้งแต่เด็กก็ยอมรับนะคะว่ามีอิจฉาน้องบ้างตามประสาเด็ก เพราะพ่อกับแม่รักลูกไม่เท่ากันและตามใจน้องมากที่สุดจริงๆ น้องอยากได้อะไรก็มักจะได้เสมอไม่ว่าจะของเล่น ของกิน ขนม ฯลฯ ไม่เคยต้องทำงานบ้าน ในขณะที่เราที่เป็นพี่/ลูกสาว ต้องช่วยทำงานบ้าน ล้างจาน และต้องซักถุงเท้าให้น้อง เรื่องเรียนของน้องที่บ้านก็ไม่คาดหวัง เพราะมีเราที่เรียนดีอยู่แล้ว จนเรารู้สึกว่าน้องได้ใช้ชีวิตที่ดีและเรารู้สึกสึกว่ามันไม่แฟร์มาโดยตลอดกับคำที่พ่อแม่จะบอกว่า "เพราะเราเป็นพี่ น้องเป็นผู้ชาย น้องจะทำได้ยังไง" เราเริ่มไม่ชอบน้อง ประกอบกับน้องมีนิสัยที่ชอบแย่งของ ชอบกัด หยิก ทำร้ายคนอื่น เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็จะร้องและโวยวายจนเราต้องเป็นฝ่ายที่ยอมตลอด น้องไม่ค่อยมีเพื่อนเล่น และนี่คืออคติที่เรามีต่อตัวน้องตั้งแต่เด็กๆ เราเลยไม่ได้สนใจน้องเท่าไหร่และใช้ชีวิตของเราไป ต่อมาช่วงวัยรุ่นน้องเรียนไม่จบม.ต้น ส่วนเราไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ เมื่อกลับมาก็พบว่าที่บ้านก็เจอกับปัญหาการเงิน พ่อแม่กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจเลิกขาดกันจริงๆ แม่เปิดตู้เซฟแล้วพบว่าสมบัติที่เก็บไว้ เงิน ทอง เครื่องประดับ หายไปหมด  ในนั้นมีทองและเครื่องประดับของเราที่ฝากให้แม่เก็บไว้ด้วย และรู้ว่าหัวขโมยก็คือน้องชายนั่นเอง แต่ก็ไม่สามารถตามทรัพย์สินใดๆ กลับมาได้เลย และนี่คือสิ่งที่ทำให้เราเกลียดคนๆนี้ มาจนถึงทุกวันนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการขโมยของในบ้านตลอด ทั้งเงิน พระเครื่อง ฯลฯ จนเราอยากจะให้เข้าคุกสักที เพราะคนๆนี้ไม่เคยขอโทษหรือแสดงความรู้สึกผิดใดๆ ทั้งจำนำของในบ้าน ติดหนี้ยืมเงินคนอื่น จนแม่ต้องรับผิดชอบให้มานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ทำงาน กิน นอน ขอเงินแม่ไปวันๆ จนมีช่วงนึงที่พ่อมารับไปอยู่ด้วย จะให้ทำงาน แต่ก็ทำนิสัยแบบเดิม เด็กคนนี้โตมาเป็นคนแบบที่เราไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องเจอหรือต้องมานับญาติด้วยเลยค่ะ ทั้งขี้เกียจ ซกมก ไม่เอาไหน โกหก ขี้โม้ กร่าง ชอบทำตัวอวดดีว่าเก่งและรู้ดี ทั้งๆที่ความรู้มีเท่าหางอึ่ง จานชามกินไม่ล้าง พูดจาไม่ดีใส่เรา ทั้งๆที่ชอบขอเงินและขโมยของเราไปกินและใช้ เราทนไม่ไหวจนเราออกไปอยู่หอสมัยมหาลัย และพอเริ่มทำงานก็เช่าคอนโดอยู่เอง จนไปต่างประเทศอีกรอบและต้องกลับมาอยู่ที่บ้านแม่เพราะพิษโควิดและเศรษฐกิจ แล้วเราก็ต้องเจอปัญหาเดิมๆ เราพยายามไม่ยุ่ง และใช้ชีวิตของเราแล้วนะคะ แต่พ่อแม่ก็ยังคาดหวังให้เราต้องดูแลน้องบ้าง รายงานเรื่องต่างๆ (โดยเฉพาะพ่อที่ไม่ได้อยู่ด้วยมักจะโทรหรือแชทถามถึงน้องประจำ) จนเราก็เลี่ยงไม่ได้เพราะยังไงก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน จนมีอีกเหตุการณ์ที่ทะเลาะกันหนักมาก เพราะเราล็อกบ้านและน้องจะพังประตูบ้านพร้อมกับถือมีดและขู่จะฆ่าเรา เรากลัวและจิตตกไปเลยช่วงนึง แต่พ่อแม่กลับบอกเราว่าไม่มีทางที่น้องจำพูดจริง คงโมโหและไม่ได้ตั้งใจจะทำจริงๆ เราเลยยิ่งรู้สึกเกลียดเข้าไปใหญ่ เกลียดสิ่งเลวๆ ที่มันทำทุกๆ อย่างโดยเฉพาะสิ่งที่มันทำกับพ่อแม่ที่มีอีกหลายวีรกรรม  ทั้งขี่รถชนคนเสียชีวิตแต่กลับไม่ได้มีความรู้สึกสำนึกผิดหรือหรือรู้สึกอยากทำสิ่งที่ดีขึ้นเลย เกลียดที่ทุกคนยังพร้อมให้อภัยและให้ความช่วยเหลือมันตลอด ให้เงินทุน ให้เงินใช้ ในขณะที่เราต้องช่วยเหลือและซับพอร์ตตัวเองและซับพอร์ตที่บ้าน รวมถึงมันด้วยเพราะเราเป็นพี่ เราพยามใช้ชีวิตอย่างคนที่มีวุฒิภาวะแล้วแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเกลียดและอคติกับคนแบบนี้ คนที่ไม่เคย appreciate สิ่งที่คนอื่นทำให้เลย จนบางครั้งก็คิดอยากให้มันตายๆไปตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น เราเข้าใจความเป็นพ่อแม่นะคะ มันก็ลูกทั้งคน แต่สำหรับเรา มันไม่เคยทำสิ่งดีๆอะไรให้ หรือทำให้เรารู้สึกว่าคนๆนี้เป็นครอบครัวเลย เหมือนเหา แมลงสาบ หรือปลิงมากกว่าค่ะ เราจะจัดการกับความเกลียด อารมณ์โมโหนี่ยังไงได้บ้างคะ หรือเราควรย้ายออกจากบ้านถาวร แต่เราก็ห่วงสุขภาพจิตแม่มากค่ะ ถ้าต้องมาเลี้ยงดูคนแบบนี้คนเดียว อย่างน้อยเวลามีเราก็ช่วยแบ่งเบาได้บ้าง ช่วยด่า ช่วยห้ามไม่ให้แม่ตัดสินใจยอมอะไรผิดๆอีกอะค่ะแต่สุขภาพจิตเราก็เสีย เราก็ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวเลยแต่ก็ไม่รู้จะทนได้อีกนานไหม หรือเราอาจจะได้อกแตกตายไม่ก็ประสาทกินก่อนแน่ๆ ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่