คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 53
ขอมาตอบทุกคนนะคะ ตอนนี้เราตกลงเลิกกันแล้วค่ะโดยมีข้อตกลงดังนี้
1.บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันเค้าจะยกให้เราและผ่อนต่อให้จนหมด
2.รถที่เราใช้อยู่เค้าจะผ่อนต่อให้ค่ะเหลืออีก 2 ปี
3.เค้าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้เดือนละ 50,000 (ไม่รวมค่าเทอมลูก และค่าเทอมเค้าจะเป็นคนจ่ายให้เหมือนเดิมค่ะ)
4.ตอนนี้ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันไปก่อน รอออฟฟิศเค้าที่กำลังสร้างเสร็จเค้าจะย้ายออกไปค่ะ
5.เค้ายังยืนยันว่าเค้าไม่มีอะไรเกินเลยกับใครจริงๆ ค่ะ แค่คุยเล่นเฉยๆ เพราะช่วงนี้เค้ารู้สึกเหงา (อันนี้เราไม่เชื่อ)
***ระหว่างนี้เราจะหางานทำด้วยค่ะ ไม่อยากหวังพึ่งเค้าอย่างเดียว อย่างที่ทุกคนบอกวันนี้พูดแบบนี้ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนค่ะต้องพึ่งตัวเองให้ได้ ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ***
***ขอเพิ่มเติมหน่อยนะคะ เรื่องเซ็ก ไม่มีอะไรกันตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือนแล้วค่ะ จากนี้และตลอดไปก็จะไม่มีเพราะเราไม่ได้รักกันแล้วค่ะ🥲***
1.บ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันเค้าจะยกให้เราและผ่อนต่อให้จนหมด
2.รถที่เราใช้อยู่เค้าจะผ่อนต่อให้ค่ะเหลืออีก 2 ปี
3.เค้าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้เดือนละ 50,000 (ไม่รวมค่าเทอมลูก และค่าเทอมเค้าจะเป็นคนจ่ายให้เหมือนเดิมค่ะ)
4.ตอนนี้ยังอยู่บ้านหลังเดียวกันไปก่อน รอออฟฟิศเค้าที่กำลังสร้างเสร็จเค้าจะย้ายออกไปค่ะ
5.เค้ายังยืนยันว่าเค้าไม่มีอะไรเกินเลยกับใครจริงๆ ค่ะ แค่คุยเล่นเฉยๆ เพราะช่วงนี้เค้ารู้สึกเหงา (อันนี้เราไม่เชื่อ)
***ระหว่างนี้เราจะหางานทำด้วยค่ะ ไม่อยากหวังพึ่งเค้าอย่างเดียว อย่างที่ทุกคนบอกวันนี้พูดแบบนี้ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนค่ะต้องพึ่งตัวเองให้ได้ ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ***
***ขอเพิ่มเติมหน่อยนะคะ เรื่องเซ็ก ไม่มีอะไรกันตั้งแต่ท้องได้ 5 เดือนแล้วค่ะ จากนี้และตลอดไปก็จะไม่มีเพราะเราไม่ได้รักกันแล้วค่ะ🥲***
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อย่างแรกทำใจค่ะ
ลองหางานทำ ดูแลตัวเอง รักตัวเองและลูกให้มากๆ
เปลี่ยนใจเค้าไม่ง่าย แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้ค่ะ
จขกท.น่าจะมีตัวเลือกในใจบ้างแล้วล่ะเนอะ สู้ๆ
ส่วนตัวเราเอง ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเหมือนกันค่ะ
จากเอวบางร่างเล็ก ขึ้นไปถึง 82 กก. นี่ใช้เวลา 8 เดือน ลดน้ำหนัก ดูแลตนเอง ลงมาได้เหลือ 52 กก
อยากจะบอกว่าเริ่มเปลี่ยนตนเองก่อน ไม่ต้องสนใจเค้าว่าใจเค้าจะกลับมาไหม เพื่อตนเอง สุขภาพจิต หัวใจตนเอง
กอดนะคะ
ลองหางานทำ ดูแลตัวเอง รักตัวเองและลูกให้มากๆ
เปลี่ยนใจเค้าไม่ง่าย แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้ค่ะ
จขกท.น่าจะมีตัวเลือกในใจบ้างแล้วล่ะเนอะ สู้ๆ
ส่วนตัวเราเอง ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเหมือนกันค่ะ
จากเอวบางร่างเล็ก ขึ้นไปถึง 82 กก. นี่ใช้เวลา 8 เดือน ลดน้ำหนัก ดูแลตนเอง ลงมาได้เหลือ 52 กก
อยากจะบอกว่าเริ่มเปลี่ยนตนเองก่อน ไม่ต้องสนใจเค้าว่าใจเค้าจะกลับมาไหม เพื่อตนเอง สุขภาพจิต หัวใจตนเอง
กอดนะคะ
ความคิดเห็นที่ 11
เรื่องราวของคุณยิ่งทำให้ผู้หญิงอย่างเราๆ ควรตระหนักเอาไว้เสมอว่า แม้จะแต่งงานมีลูกแล้ว ก็ไม่ควรลาออกจากงานเพื่อมาป็นแม่บ้านเต็มตัว
ไม่ว่าสามีจะตบปากรับคำดิบดีให้ลาออกมาเลี้ยงลูก หรือเขาจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้มากมายยังไง เราก็ไม่ควรเชื่อใจเขาค่ะ เพราะชีวิตคู่ไม่มีอะไรแน่นอน
หากวันนึงเลิกลากันแล้วเราไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเป็นของตัวเอง นั่นเท่ากับ เราไม่มีทางไปเลยนะคะ ยังไงก็ต้องมีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเองที่สุดค่ะ
ไม่ว่าสามีจะตบปากรับคำดิบดีให้ลาออกมาเลี้ยงลูก หรือเขาจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้มากมายยังไง เราก็ไม่ควรเชื่อใจเขาค่ะ เพราะชีวิตคู่ไม่มีอะไรแน่นอน
หากวันนึงเลิกลากันแล้วเราไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเป็นของตัวเอง นั่นเท่ากับ เราไม่มีทางไปเลยนะคะ ยังไงก็ต้องมีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเองที่สุดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 3
คือสิ่งที่เขาเสนอ มันคือสิ่งที่เขาอยากได้ไง ถ้าคุณยอมรับ นั่นคือสวรรค์ของเขาเลย มีทั้งกิ๊กคู่ใจ มีทั้งครอบครัว มีลูกที่เขาไม่ต้องดูแลเพราะมีคุณคอยดูแลอยู่แล้ว เบื่อก็ไปหาสาวคนใหม่ สวรรค์สำหรับผู้ชายทุกคนนั้นแหล่ะ แต่คุณจะปล่อยให้เขามีชีวิตสุขสบายโดยที่คุณตรอมตรมเหรอ ฝันไปเถอะ ใครจะไปเดินตามเกมส์เขากัน
คุณอาจลองพิจารณทางเลือกต่อไปนี้ ว่าคุณมีของอะไรในมืออยู่บ้าง
จดทะเบียนหรือเปล่าคะ? ถ้าจดก็ขู่ฟ้องหย่า แบ่งทรัพย์สินไปเลย อาจจะเก็บข้อมูลที่เขาคุยใน TT แล้วฟ้องชู้ต่อได้อีก (ทะเบียนสมรสที่เขาบอกให้จดๆกัน มีไว้เพื่อการนี้แหล่ะนะ) งานนี้คุณฟ้องสามีประพฤติชั่วได้ สิทธิ์ลูกจะได้อยู่ฝั่งคุณ ผช เจ็บเจียนตายแน่นอน
ถ้าไม่จดทะเบียน ข้างบนก็ตัดทิ้งไป เปลี่ยนไปใช้วิธีใช้ลูกกดดันเอา ถ้ามีพ่อแม่ที่พึ่งพาได้ ให้ย้ายเอาลูกหนีเลย แล้วไปอยุ่กับพ่อแม่ให้หมด แล้วให้พ่อแม่ช่วยเลี้ยง ส่วนคุณไปหางานทำ (สินสอดที่ให้ไว้ตอนแต่งงาน มีไว้เพื่อการนี้แหล่ะนะ ) ผช ต้องวิ่งมาง้อแน่ ให้พ่อแม่คุณเตือนสติเขาไป เขาจะได้ไม่หน้าด้านทำตัวไร้ศีลแบบนี้อีก
ถ้าไม่มีทั้งคู่ แปลว่าคุณไม่ได้วางแผนชีวิตมาเผื่อความไม่แน่นอนนี้เลย คุณก็ไปหางานทำค่ะ พอได้งาน คุณก็บอก ผช เขาไปเลยว่าคุณจะไปทำงานแล้ว ส่วนลูกจะเอาไปเข้าเนิร์ส และให้เขาช่วยออกเงินด้วย เพราะคุณก็เบื่อกับการเป็นแม่บ้าน กลายเป็นของตายของเขาแล้วเหมือนกัน งานนี้เขาก็จะดิ้นอีก เพราะ ผช อะนะ มีเมียก็เพื่ออยากให้เลี้ยงลูก พอไม่ตามแผนในใจเขา เขาดิ้นอยู่แล้ว ไม่มี ผช ไหนอยากส่งลูกเข้าเนิร์สหรอก คุณก็สามารถเอาลูกมาต่อรองเขาได้อีก
คิดออกได้ 3 แผนนี้นะ ลองค่อยๆตั้งสติ แล้วไปพิจารณาดู คือเขามีสิทธิ์เสนอสิ่งที่เขาต้องการได้ คุณก็มีสิทธิ์เสนอสิ่งที่คุณต้องการได้ มันก็แฟร์ๆดี แล้วดูว่าเขาจะเอายังไง ถ้าไม่เลิกยุ่งกับ ญ อื่น ก็อย่าหวังจะมีชีวิตอย่างที่เขาต้องการ คุณต้องหาทางต่อรองเขาดูน่ะ
คุณอาจลองพิจารณทางเลือกต่อไปนี้ ว่าคุณมีของอะไรในมืออยู่บ้าง
จดทะเบียนหรือเปล่าคะ? ถ้าจดก็ขู่ฟ้องหย่า แบ่งทรัพย์สินไปเลย อาจจะเก็บข้อมูลที่เขาคุยใน TT แล้วฟ้องชู้ต่อได้อีก (ทะเบียนสมรสที่เขาบอกให้จดๆกัน มีไว้เพื่อการนี้แหล่ะนะ) งานนี้คุณฟ้องสามีประพฤติชั่วได้ สิทธิ์ลูกจะได้อยู่ฝั่งคุณ ผช เจ็บเจียนตายแน่นอน
ถ้าไม่จดทะเบียน ข้างบนก็ตัดทิ้งไป เปลี่ยนไปใช้วิธีใช้ลูกกดดันเอา ถ้ามีพ่อแม่ที่พึ่งพาได้ ให้ย้ายเอาลูกหนีเลย แล้วไปอยุ่กับพ่อแม่ให้หมด แล้วให้พ่อแม่ช่วยเลี้ยง ส่วนคุณไปหางานทำ (สินสอดที่ให้ไว้ตอนแต่งงาน มีไว้เพื่อการนี้แหล่ะนะ ) ผช ต้องวิ่งมาง้อแน่ ให้พ่อแม่คุณเตือนสติเขาไป เขาจะได้ไม่หน้าด้านทำตัวไร้ศีลแบบนี้อีก
ถ้าไม่มีทั้งคู่ แปลว่าคุณไม่ได้วางแผนชีวิตมาเผื่อความไม่แน่นอนนี้เลย คุณก็ไปหางานทำค่ะ พอได้งาน คุณก็บอก ผช เขาไปเลยว่าคุณจะไปทำงานแล้ว ส่วนลูกจะเอาไปเข้าเนิร์ส และให้เขาช่วยออกเงินด้วย เพราะคุณก็เบื่อกับการเป็นแม่บ้าน กลายเป็นของตายของเขาแล้วเหมือนกัน งานนี้เขาก็จะดิ้นอีก เพราะ ผช อะนะ มีเมียก็เพื่ออยากให้เลี้ยงลูก พอไม่ตามแผนในใจเขา เขาดิ้นอยู่แล้ว ไม่มี ผช ไหนอยากส่งลูกเข้าเนิร์สหรอก คุณก็สามารถเอาลูกมาต่อรองเขาได้อีก
คิดออกได้ 3 แผนนี้นะ ลองค่อยๆตั้งสติ แล้วไปพิจารณาดู คือเขามีสิทธิ์เสนอสิ่งที่เขาต้องการได้ คุณก็มีสิทธิ์เสนอสิ่งที่คุณต้องการได้ มันก็แฟร์ๆดี แล้วดูว่าเขาจะเอายังไง ถ้าไม่เลิกยุ่งกับ ญ อื่น ก็อย่าหวังจะมีชีวิตอย่างที่เขาต้องการ คุณต้องหาทางต่อรองเขาดูน่ะ
แสดงความคิดเห็น
สามีขอลดสถานะเป็นเพื่อน แต่ขอให้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเพราะอยากคุยกับคนอื่น เราควรทำยังไงดี