ทุบสถิติความสำเร็จไม่เลิก สำหรับ ซีรีย์ Queen of Tears ทำเอานักแสดงนำต้องเดินสาย Fan Meet
ไปหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยในวันที่ 24 สิหาคม 2567
ด้วยความลงตัว แบบคนเก่งๆมาเจอกัน ทั้งผู้เขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดง
ได้วิธีการเล่าเรื่องที่ได้รายละเอียดสนุกๆ
เช่น การเล่าเรื่องตัวละคร ที่ได้รับข่าวร้าย เดินลงลิฟท์
แทนที่จะเล่าว่า ผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปร้องไห้น้ำตาไหลในลิฟท์
แต่ผู้กำกับและผู้เขียนบทกลับมีวิธีการเล่าที่กระชากใจมากกว่านั้น
มุขไดรเป่าผมสายไฟเก่าๆ สัญลักษณ์ความสัมพันธ์ที่ขาด / เสื่อม
แต่เปิดทางให้คนได้เชื่อมโยงกันอีกครั้ง
หรือ ตอนที่นางเอกใช้มือไปเล่นคิ้วพระเอก ถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็คงจบที่นางเอกคิดอะไรในใจ
แต่เรื่องนี้เลือกที่จะเล่าว่า พระเอกเอามือมาจับหัวนางเอกในชุดนอนสีชมพู คล้ายๆ ว่านอนๆ อย่ากวนๆ แบบเอ็นดู
รวมถึงซีนที่หวานเกินไป ที่เกิดก่อนความจำเป็น ก็โดนตัดออก เช่น อีพีนี้ จบที่จับมือ ต้องไม่มีซีนกอด
ผู้กำกับก็เลือกที่จะตัดมันออก เพื่อให้เกิดระดับความซึ้ง
ที่ build อารมณ์คนดูขึ้นไปเรื่อยๆ แบบกราฟหุ้นปีก่อนรัฐบาลเศรษฐา
แล้วก็มีกระชากลง จนน่าสะพรึงกลัง
ซีรีย์นี้จึงได้รับความชื่นชม ส่งความบันเทิงถึงผู้ชมได้อย่างมีกระบวนการ
นักแสดงคู่ขวัญ
คิม ซู-ฮย็อน Kim Soo-hyun นักแสดงนำชาย
คิมจีวอน (Kim Ji Won) นักแสดงนำหญิง
ทั้งสองคนเหมือนณเดช ญาญ่า ตอนที่เล่นละคร 1-3 เรื่องแรก
ทั้งความสุภาพต่อกัน และความคู่ควร ในแง่ทั้งความสามารถ เสน่ห์ charisma และความมั่งคั่ง
แม้เรื่องนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ คิมจีวอน กลายเป็น iconic ระดับเอเชีย
ส่วน คิม ซู-ฮย็อน โด่งดังระดับพระเอกที่ค่าตัวสูงที่สุดของเกาหลีมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่ก็ทำนายได้ว่า รายได้ของทั้งสองในอนาคต ก้าวสู่หลักพันล้านบาท ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
เวลาเราชมผลงานเพลงของลิซ่า เรายังติดตามตัวจริงของลิซ่า
ในแบบควบรวม คือ ชอบทั้งผลงานและชอบตัวศิลปิน
ตัวศิลปินเอง เมื่อถอดตัวเองจากการสวมบท ความเป็นที่รักของมหาชน ยังคงอยู่ต่อไป
ในสิ่งที่แสดงออกลักษณะตัวตน ไลฟ์สไตล์
คิมจีวอน มักปรากฏตัวโดยสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย สีขาว (ไม่ได้หมายความว่าไม่แพง)
และความเรียบง่าย ทำให้ผู้คนใส่ใจเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆ มากขึ้น
เธอเคยบอกว่า อยากให้ผู้คนจดจำชั้นเป็นชื่อตัวละคร นั่นคือ การวางเป้าหมายทางการแสดง
ดังนั้น เธอจึงหลีกเลี่ยงการทำตัวให้ดูสำคัญหรือเป็นจุดสนใจ ในฐานะ คิมจีวอน
แต่ด้วยพลังของผลงาน ยิ่งทำให้คนยิ่งสนใจเธอมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ เช่น กระพริบตาพร่า 1 ครั้ง เมื่อพระเอกพูดสิ่งที่แทงใจ
หรือ แอบกดยิ้มน้อยๆตรงไหล่ขวาของตัวเอง
เมื่อพระเอกที่นั่งด้านซ้าย เล่าว่า "ตอนนั้นหน่ะ (เจอครั้งแรก) ผมรู้สึกว่า... สเปคเลย"
เหล่านี้ เป็น acting signature ของ คิมจีวอน
และเมื่อผู้กำกับบอกว่า "ทำหน้าน่ารักหน่อย"
"การทำหน้าน่ารัก เป็นภาระของชั้น"
เธอกล่าวแบบติดตลกและถ่อมตน
รายรอบด้วยทีมงานรวมถึงพระเอก คิม ซู-ฮย็อน
เธออธิบายว่า ชั้นเติมความน่ารักของฮง แฮ อิน ลงไปเพียง 1 ช้อนชา
ไม่ให้การแสดงดูชัดเกินไป เพราะนางเอกมีปมเรื่องครอบครัว
และความทรงจำในอดีต ไปจนถึงแสดงให้เห็นว่า นางเอกรักพระเอกมากเพียงไร
ที่ยอมรับในครอบครัวพระเอก แต่ไม่อาจลดช่องว่างหรือความห่างเหินได้
การปรากฏตัวในที่สาธารณะ นักแสดงทั้งสองต่างแสดงออกต่อกันอย่างให้เกียรติ
พวกเขาดูสุภาพอ่อนโยนโดยธรรมชาติ คิม ซู-ฮย็อน เป็นสุภาพบุรุษ มักคอยส่งมือให้เวลาฝ่ายหญิงขึ้นเวที
ทำให้รู้สึกว่า อีกฝ่ายอยู่ในสายตา หากลื่นล้ม หรือ การจับมือให้ลุกขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้หญิงที่ทรุดอยู่จากการแสดง
ก็เป็นอะไรที่ action speaks louder than words สัมผัสที่แสดงออกได้อย่างเหมาะกับสถานการณ์
ซึ่งต่างจากการคุกคามทางเพศ
ยิ่งเป็นที่ฮือฮา เมื่อ คิมจีวอน เรียก คิม ซู-ฮย็อน ในรายการสัมภาษณ์ว่า
"โอปป้า เชิญตอบก่อนค่ะ" โอปป้า เป็นคำเรียกผู้ชายรุ่นพี่ที่ไว้วางใจ
คิม ซู-ฮย็อน ให้สัมภาษณ์ว่า คิมจีวอน คือ "small figure with amazing energy"
ตัวเล็ก แต่ energy ทางการแสดง สุดยอด เวลาหันไปเห็นก็ร้องไห้ได้เลย
เขาซึ่งเป็นนักแสดงที่ประสพความสำเร็จมานานกว่า เอ่ยชมว่า
คิมจีวอน คือ "Queen of Considerateness" และ " Queen of Concentration"
(ราชินีแห่งความใส่ใจผู้อื่น และราชินีแห่งสมาธิ)
คิมจีวอน รีบชมตอบต่อพิธีกรว่า "จริงๆ ที่ชั้นโฟกัสได้ก็เพราะเค้า เค้าเตรียมตัวมาดีมาก
ก่อนที่จะเข้าฉาก ทำให้ชั้นยิ่งต้องอ่านบท เตรียมทำการบ้านมามากขึ้น"
การชมคนอื่นตอบ เป็นกิริยาที่สุภาพ ไม่ต้องการถูกยกย่องอยู่ฝ่ายเดียว
คิดดูสิว่า ถ้าใครชมคุณ "วันนี้แต่งตัวสวยนะ"
คนปกติจะตอบว่า "ขอบคุณค่ะ" แต่คนสุภาพยกกำลังสองจะตอบว่า
"ทรงผมคุณก็ดูดีทีเดียว"
การที่พวกเขาให้เกียรติกัน ทำให้ผู้ชมยิ่งชื่นชอบ ติดตาม
สังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเขามีปฎิกริยาต่อกัน โดยดูบางคลิปซ้ำๆ
มันคือเสน่ห์ของการบอกไม่หมด ความลึกลับที่ไม่เปิดเผย ที่ทำงานกับสมองของคนดู
ที่ทำให้คอนเทนนอกจอ น่าสนใจไม่แพ้ตัวผลงาน
และการให้เกียรติต่อกัน ยิ่งทำให้เห็นถึงความเข้าใจต่ออาชีพ
ชื่อเสียงของอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่คนหนึ่งต้องช่วยดูแล ไม่ทำตามใจตนเอง
เพื่อที่อีกฝ่ายยังคงมูลค่าทางการตลาดที่สูงอยู่
สำหรับใครที่ชอบขวัญใจมหาชนคู่นี้ ก็ลองแชร์โมเม้นท์น่ารักๆ หรือ hints น่าประทับใจ
ที่นักแสดงมีให้กัน โปรดใช้ภาษาที่ไม่สปอยซีรีย์มากจนเกินไป
นักแสดงนำ Queen of Tears วิธีวางตัวและปฏิบัติต่อกันน่าประทับใจ
ไปหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยในวันที่ 24 สิหาคม 2567
ด้วยความลงตัว แบบคนเก่งๆมาเจอกัน ทั้งผู้เขียนบท ผู้กำกับ และนักแสดง
ได้วิธีการเล่าเรื่องที่ได้รายละเอียดสนุกๆ
เช่น การเล่าเรื่องตัวละคร ที่ได้รับข่าวร้าย เดินลงลิฟท์
แทนที่จะเล่าว่า ผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปร้องไห้น้ำตาไหลในลิฟท์
แต่ผู้กำกับและผู้เขียนบทกลับมีวิธีการเล่าที่กระชากใจมากกว่านั้น
มุขไดรเป่าผมสายไฟเก่าๆ สัญลักษณ์ความสัมพันธ์ที่ขาด / เสื่อม
แต่เปิดทางให้คนได้เชื่อมโยงกันอีกครั้ง
หรือ ตอนที่นางเอกใช้มือไปเล่นคิ้วพระเอก ถ้าเป็นเรื่องอื่น ก็คงจบที่นางเอกคิดอะไรในใจ
แต่เรื่องนี้เลือกที่จะเล่าว่า พระเอกเอามือมาจับหัวนางเอกในชุดนอนสีชมพู คล้ายๆ ว่านอนๆ อย่ากวนๆ แบบเอ็นดู
รวมถึงซีนที่หวานเกินไป ที่เกิดก่อนความจำเป็น ก็โดนตัดออก เช่น อีพีนี้ จบที่จับมือ ต้องไม่มีซีนกอด
ผู้กำกับก็เลือกที่จะตัดมันออก เพื่อให้เกิดระดับความซึ้ง
ที่ build อารมณ์คนดูขึ้นไปเรื่อยๆ แบบกราฟหุ้นปีก่อนรัฐบาลเศรษฐา
แล้วก็มีกระชากลง จนน่าสะพรึงกลัง
ซีรีย์นี้จึงได้รับความชื่นชม ส่งความบันเทิงถึงผู้ชมได้อย่างมีกระบวนการ
นักแสดงคู่ขวัญ
คิม ซู-ฮย็อน Kim Soo-hyun นักแสดงนำชาย
คิมจีวอน (Kim Ji Won) นักแสดงนำหญิง
ทั้งสองคนเหมือนณเดช ญาญ่า ตอนที่เล่นละคร 1-3 เรื่องแรก
ทั้งความสุภาพต่อกัน และความคู่ควร ในแง่ทั้งความสามารถ เสน่ห์ charisma และความมั่งคั่ง
แม้เรื่องนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน ทำให้ คิมจีวอน กลายเป็น iconic ระดับเอเชีย
ส่วน คิม ซู-ฮย็อน โด่งดังระดับพระเอกที่ค่าตัวสูงที่สุดของเกาหลีมาแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แต่ก็ทำนายได้ว่า รายได้ของทั้งสองในอนาคต ก้าวสู่หลักพันล้านบาท ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
เวลาเราชมผลงานเพลงของลิซ่า เรายังติดตามตัวจริงของลิซ่า
ในแบบควบรวม คือ ชอบทั้งผลงานและชอบตัวศิลปิน
ตัวศิลปินเอง เมื่อถอดตัวเองจากการสวมบท ความเป็นที่รักของมหาชน ยังคงอยู่ต่อไป
ในสิ่งที่แสดงออกลักษณะตัวตน ไลฟ์สไตล์
คิมจีวอน มักปรากฏตัวโดยสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย สีขาว (ไม่ได้หมายความว่าไม่แพง)
และความเรียบง่าย ทำให้ผู้คนใส่ใจเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆ มากขึ้น
เธอเคยบอกว่า อยากให้ผู้คนจดจำชั้นเป็นชื่อตัวละคร นั่นคือ การวางเป้าหมายทางการแสดง
ดังนั้น เธอจึงหลีกเลี่ยงการทำตัวให้ดูสำคัญหรือเป็นจุดสนใจ ในฐานะ คิมจีวอน
แต่ด้วยพลังของผลงาน ยิ่งทำให้คนยิ่งสนใจเธอมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ เช่น กระพริบตาพร่า 1 ครั้ง เมื่อพระเอกพูดสิ่งที่แทงใจ
หรือ แอบกดยิ้มน้อยๆตรงไหล่ขวาของตัวเอง
เมื่อพระเอกที่นั่งด้านซ้าย เล่าว่า "ตอนนั้นหน่ะ (เจอครั้งแรก) ผมรู้สึกว่า... สเปคเลย"
เหล่านี้ เป็น acting signature ของ คิมจีวอน
และเมื่อผู้กำกับบอกว่า "ทำหน้าน่ารักหน่อย"
"การทำหน้าน่ารัก เป็นภาระของชั้น"
เธอกล่าวแบบติดตลกและถ่อมตน
รายรอบด้วยทีมงานรวมถึงพระเอก คิม ซู-ฮย็อน
เธออธิบายว่า ชั้นเติมความน่ารักของฮง แฮ อิน ลงไปเพียง 1 ช้อนชา
ไม่ให้การแสดงดูชัดเกินไป เพราะนางเอกมีปมเรื่องครอบครัว
และความทรงจำในอดีต ไปจนถึงแสดงให้เห็นว่า นางเอกรักพระเอกมากเพียงไร
ที่ยอมรับในครอบครัวพระเอก แต่ไม่อาจลดช่องว่างหรือความห่างเหินได้
การปรากฏตัวในที่สาธารณะ นักแสดงทั้งสองต่างแสดงออกต่อกันอย่างให้เกียรติ
พวกเขาดูสุภาพอ่อนโยนโดยธรรมชาติ คิม ซู-ฮย็อน เป็นสุภาพบุรุษ มักคอยส่งมือให้เวลาฝ่ายหญิงขึ้นเวที
ทำให้รู้สึกว่า อีกฝ่ายอยู่ในสายตา หากลื่นล้ม หรือ การจับมือให้ลุกขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้หญิงที่ทรุดอยู่จากการแสดง
ก็เป็นอะไรที่ action speaks louder than words สัมผัสที่แสดงออกได้อย่างเหมาะกับสถานการณ์
ซึ่งต่างจากการคุกคามทางเพศ
ยิ่งเป็นที่ฮือฮา เมื่อ คิมจีวอน เรียก คิม ซู-ฮย็อน ในรายการสัมภาษณ์ว่า
"โอปป้า เชิญตอบก่อนค่ะ" โอปป้า เป็นคำเรียกผู้ชายรุ่นพี่ที่ไว้วางใจ
คิม ซู-ฮย็อน ให้สัมภาษณ์ว่า คิมจีวอน คือ "small figure with amazing energy"
ตัวเล็ก แต่ energy ทางการแสดง สุดยอด เวลาหันไปเห็นก็ร้องไห้ได้เลย
เขาซึ่งเป็นนักแสดงที่ประสพความสำเร็จมานานกว่า เอ่ยชมว่า
คิมจีวอน คือ "Queen of Considerateness" และ " Queen of Concentration"
(ราชินีแห่งความใส่ใจผู้อื่น และราชินีแห่งสมาธิ)
คิมจีวอน รีบชมตอบต่อพิธีกรว่า "จริงๆ ที่ชั้นโฟกัสได้ก็เพราะเค้า เค้าเตรียมตัวมาดีมาก
ก่อนที่จะเข้าฉาก ทำให้ชั้นยิ่งต้องอ่านบท เตรียมทำการบ้านมามากขึ้น"
การชมคนอื่นตอบ เป็นกิริยาที่สุภาพ ไม่ต้องการถูกยกย่องอยู่ฝ่ายเดียว
คิดดูสิว่า ถ้าใครชมคุณ "วันนี้แต่งตัวสวยนะ"
คนปกติจะตอบว่า "ขอบคุณค่ะ" แต่คนสุภาพยกกำลังสองจะตอบว่า
"ทรงผมคุณก็ดูดีทีเดียว"
การที่พวกเขาให้เกียรติกัน ทำให้ผู้ชมยิ่งชื่นชอบ ติดตาม
สังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเขามีปฎิกริยาต่อกัน โดยดูบางคลิปซ้ำๆ
มันคือเสน่ห์ของการบอกไม่หมด ความลึกลับที่ไม่เปิดเผย ที่ทำงานกับสมองของคนดู
ที่ทำให้คอนเทนนอกจอ น่าสนใจไม่แพ้ตัวผลงาน
และการให้เกียรติต่อกัน ยิ่งทำให้เห็นถึงความเข้าใจต่ออาชีพ
ชื่อเสียงของอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่คนหนึ่งต้องช่วยดูแล ไม่ทำตามใจตนเอง
เพื่อที่อีกฝ่ายยังคงมูลค่าทางการตลาดที่สูงอยู่
สำหรับใครที่ชอบขวัญใจมหาชนคู่นี้ ก็ลองแชร์โมเม้นท์น่ารักๆ หรือ hints น่าประทับใจ
ที่นักแสดงมีให้กัน โปรดใช้ภาษาที่ไม่สปอยซีรีย์มากจนเกินไป