พิธา ลั่น ถ้าก้าวไกลถูกยุบ ขอให้เป็นพรรคสุดท้าย เผย 7 ส.ค.ไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9343810
“พิธา” ลุยโพธาราม ช่วย ‘ชัยรัตน์’ หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ลั่น ถ้าก้าวไกลถูกยุบ ขอให้เป็นพรรคสุดท้าย เผย 7 ส.ค.นี้ ไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง
วันที่ 3 ส.ค. 2567 ที่อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล ร่วมขึ้นรถแห่ปราศรัยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ช่วยนาย
ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ราชบุรี ในนามพรรคก้าวไกล
นาย
พิธา ปราศรัยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.ราชบุรี ที่ให้ความไว้วางใจพิธา และเลือกพรรคก้าวไกล กว่า 2.3 แสนเสียง เป็นอันดับหนึ่งสำหรับคะแนนบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนกับเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกเขต ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องใช้เวลาที่เหลือร่วมกันรณรงค์ บอกกับทุกคนว่าให้กลับบ้านมาเลือกตั้งให้มากที่สุด
“
1 กันยา กาเบอร์ 1 ไม่ว่าท่านจะอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลก โดยผมและผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี พรรคก้าวไกล จะใช้เวลาหลังจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 ก.ย. เพื่อเดินหน้ารณรงค์ ทำให้พี่น้องไว้วางใจพวกเราถล่มทลายเกิน 2.5 แสนเสียง
โดยการทำงานของท้องถิ่นก้าวไกลจะเชื่อมกับผู้แทนราษฎร เชื่อมกับพรรคก้าวไกล ดังนั้น พี่น้องที่กาเลือกนายก อบจ. ก้าวไกลคนเดียว ก็ได้พวกเราทุกคนเข้าไปทำงานด้วย นั่นคือจุดแข็งของพวกเรา” นาย
พิธา กล่าว
โดยในตอนหนึ่งของการปราศรัย นายพิธา กล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 7 ส.ค. 2567 ว่า พรรคการเมืองคือตัวแทนของประชาชน เราได้รับความไว้วางใจมาใช้อำนาจแทนประชาชน แต่ประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง
เมื่อพรรคการเมืองอ่อนแอลงก็หมายความว่าอำนาจของประชาชนอ่อนแอลงด้วย และเมื่อมันมีผลกระทบต่ออำนาจของพี่น้องประชาชน นั่นคือผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยที่พวกเราหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
เพราะฉะนั้นอย่ายอมเขา อย่าสิ้นหวัง เก็บความโกรธแค้นเอาไว้ ชนะทั้งทีให้มันถูกต้อง ชนะให้มันขาด เราจะชนะให้เขาปฏิเสธเราไม่ได้อีกต่อไป พรรคการเมืองคือตัวแทนอำนาจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้แทนราษฎรของพรรค ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครของพรรค ดังนั้น ประเทศแบบไหนที่เขาอยากให้พรรคการเมืองอ่อนแอ นั่นก็หมายความว่าเขาอยากให้ประชาชนอ่อนแอ
พี่น้องต้องไม่ยอม แต่ไม่ใช่ไม่ยอมเพื่อพรรคก้าวไกล เพื่อพิธา หรือพรรคการเมือง 33 พรรคที่เคยถูกยุบมาก่อน แต่ต้องไม่ยอมเพราะมันคืออำนาจของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าพี่น้องจะเคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักษาชาติ หรืออนาคตใหม่ พรรคเหล่านั้นล้วนเป็นตัวแทนประชาชนทั้งสิ้น เขาทำลายพรรคเหล่านั้นก็คือทำลายอำนาจพี่น้องประชาชน
“
ถ้าวันพุธนี้ผมไม่มีโอกาสกลับมาหาพี่น้องในฐานะผู้แทนราษฎรอีกต่อไป ก็ขอให้พิธาและพรรคก้าวไกลเป็นคนสุดท้ายที่เกิดโดยประชาชน แต่ถูกยุบลงไปจากอำนาจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน” นาย
พิธา กล่าว
นาย
พิธา กล่าวอีกว่า ขอพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ ตนและพรรคก้าวไกลได้ทำเต็มสุดความสามารถแล้ว ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกต่อไป และวันพุธนี้จะขอไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง แต่ระหว่างนี้ตนและพรรคก้าวไกลจะไม่เสียสมาธิ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุกวันแน่นอน
ทั้งนี้ ตลอดการปราศรัยหาเสียง มีประชาชนมาต้อนรับ และติดตามการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์
5 เครือข่าย ลุยสกายวอล์ก ล่าชื่อหนุนนิรโทษกรรมปชช. ย้ำต้องรวม ม.112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4716245
5 เครือข่าย ลุยสกายวอล์ก ล่าชื่อหนุนนิรโทษกรรมปชช. ย้ำต้องรวม ม.112
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์, เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิทางการเมือง (Thumb Rights) และเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน (People’s Amnesty) จัดกิจกรรมเรียกร้องให้มีการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. … ที่จัดทำโดยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112
บรรยากาศทั่วไปเมื่อเวลาราว 13.00 ผู้จัดกิจกรรมยืนกระจายตัวบนสกายวอล์กเชิญชวนให้ประชาชนที่ผ่านไปมารับเอกสารแผ่นพับให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลักดัน พ.ร.บ. ‘
นิรโทษกรรมประชาชน’ โดย นาย
ธัชพงศ์ แกดำ นักกิจกรรมทางการเมืองและอดีตผู้สมัคร ส.ว. ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ความรู้และเชิญชวนให้ผู้สัญจรผ่านไปมารับเอกสารและลงชื่อสนับสนุนผ่านการแสกนคิวอาร์โค้ด รวมถึงร่วมเขียนจดหมายเพื่อส่งถึงผู้ต้องขังในคดีการเมือง
นาย
ธัชพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักโทษทางการเมืองกว่า 40 คนที่ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว บางส่วนเป็นผู้ต้องขังในคดีอาญามาตรา 112 ซึ่งตนหวังว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนจะได้รับการผลักดัน และจะเป็นประตูทางออกจากความขัดแย้ง นำประเทศก้าวไปข้างหน้า รวมถึงทำให้เกิดการพูดคุยเพื่อหาทางออกสำหรับทุกฝ่าย
ด้าน น.ส.
จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ จากกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) กล่าวว่า วันนี้กลุ่มของตนและเครือข่ายจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อรณรงค์ให้พรบ.นิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองรวมคดีมาตรา 112 เข้าไปด้วย เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาจะไม่รวมคดีมาตรา 112 แต่จะเป็นการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข จึงอยากให้ประชาชนรับทราบว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการชุมนุม เริ่มมีคดีทางการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2563 มีนักโทษทางการเมืองที่ยังไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวอีกเป็นจำนวนมาก ตนจึงต้องการให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมโดยการร่วมลงชื่อเพื่อส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ
“
การแก้กฎหมายถือเป็นเสรีภาพอย่างหนึ่ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ควรจะมีการเปิดโอกาสให้มีการแก้ไข และสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางความคิดเห็นกับทั้งสองฝ่าย ส่วนตัวคิดว่ากรรมาธิการฯ น่าจะเสียงแตกเนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากหลายพรรคการเมือง บางพรรคก็สนับสนุน บางพรรคก็ไม่สนับสนุน หวังว่าผู้มีอำนาจให้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้และให้สิทธิการประกันตัวแก่นักโทษทางการเมือง” น.ส.
จุฑาทิพย์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.50 น. ผู้จัดกิจกรรมเดินเท้าไปยังสกายวอล์ก แยกราชประสงค์ เพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังมีการแจกเอกสารที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย โดยในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ที่สกายวอล์กสาทร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี จะมีการแจกเอกสารดังกล่าวอีกครั้ง เวลา 17.00-19.00 น.
อังคณา หนุนใช้กลุ่มอาชีพ ตั้งกมธ.ส.ว. เผยบางคนจองเก้าอี้ประธานแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4716233
อังคณา หนุนใช้กลุ่มอาชีพเป็นตัวตั้ง แก้ข้อบังคับกมธ. ระบุ ต้องให้พื้นที่ ‘เพศทางเลือก-คนพิการ-ชาติพันธุ์’ เหตุไม่มีตัวแทนในสภาสูง เผย มีส.ว.ร่อนโปสเตอร์เข้าไลน์กลุ่ม อ้อนขอนั่ง ปธ.กมธ.
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นาง
อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาข้อบังคับการประชุม เพื่อปรับจำนวนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภา ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ว่า ขณะนี้มีความเห็นหลากหลาย มีผู้เสนอร่างเข้ามา 4 ฉบับ มีทั้งเสนอให้ปรับลดและเพิ่มจำนวน กมธ. แต่โดยส่วนตัวตนสนับสนุนร่างของนายประภาส ปิ่นตบแต่ง ส.ว. เพราะมองว่าควรจะนํากลุ่มอาชีพของ ส.ว.มาเป็นตัวตั้ง เพื่อให้แต่ละกลุ่มมีพื้นที่ใน กมธ.วิสามัญ และให้สอดคล้องกับที่รัฐธรรมนูญระบุไว้
นาง
อังคณากล่าวว่า แม้โครงสร้างของรัฐธรรมนูญจะให้มี ส.ว.จากกลุ่มสตรีโดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันเรามีกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีความหลากหลายทางเพศและกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเรายังไม่มีตัวแทนของคนเหล่านี้เข้ามานั่งในวุฒิสภา จึงมองว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง หากคนกลุ่มนี้ได้แยกออกมาเป็น กมธ. ก็จะสามารถศึกษาและช่วยแก้ปัญหาของพวกเขาได้ เราไม่ได้มองว่า ส.ว.ลดลง กมธ.ก็ต้องน้อยลงด้วย แต่มองที่ความจำเป็น อย่างไรก็ตาม เราสามารถออกแบบให้ กมธ.มีจำนวนสอดคล้องกับ ส.ว.ที่มีได้ โดยตนจะนําความเห็นนี้เสนอต่อวุฒิสภา
นาง
อังคณากล่าวอีกว่า เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เสนอไปจะถูกรับฟังหรือไม่ แต่หากไม่สามารถทําได้ก็จะเสนอทางเลือก ขอให้เพิ่มจำนวนอนุ กมธ. เพราะเราต้องเปิดโอกาสให้กลุ่มคนต่างๆ เข้ามาเป็น กมธ. ไม่เช่นนั้นคนบางกลุ่มก็จะหายไป เพราะไม่มีจํานวน กมธ.ที่เพียงพอในการแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนโควต้าประธาน กมธ.มีการตกลงกับ ส.ว.กลุ่มอื่นหรือยัง นาง
อังคณากล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย แต่เท่าที่ทราบมีหลายคนที่อยากเป็น เพราะเห็นมีการส่งโปสเตอร์แนะนําตัวและขอเสนอตัวเป็นประธาน กมธ.เข้ามาในไลน์กลุ่ม ส.ว. แต่ถ้าไม่มีการแบ่งสัดส่วนให้กับกลุ่มเล็กก็น่าเสียใจ เพราะตนมั่นใจว่ามีศักยภาพที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์กับประชาชน หวังว่าจะเป็นการพิจารณาอย่างเหมาะสม และเป็นธรรม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้วุฒิสภา
ร้านค้ารอชัดเจนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับกังวล
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_755813/
ร้านค้ารอชัดเจนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับกังวล บางส่วนไม่เชื่อมั่นโครงการรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะที่พาณิชย์แถลงร้านสมัครเข้าร่วม 5ส.ค.นี้
จากการสำรวจบรรยากาศร้านค้า ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ร้านอาหาร ข้าวแกง รวมถึงแผงลอย ย่านตลาดบางเขน ถึงความสนใจในการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกับรัฐบาลพบว่า บางส่วนยังไม่มีความเข้าใจในการเข้าร่วมโครงการและยอมรับว่ามีความกังวลอยู่มากกับโครงการของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้วมีการถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้เห็นถึงความยุ่งยากในเรื่องของการลงทะเบียนผ่าน Application ต่างๆ แต่ก็จะรอดูความชัดเจนก่อนว่าในส่วนของร้านค้าจะมีความยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน โดยเห็นกระแสจากการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการของประชาชนที่มีความซับซ้อนจึงมีความกังวลอยู่บ้าง ในขณะที่บางร้านปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการโดยสิ้นเชิงและยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังกับโครงการใดๆ ของรัฐบาลว่าจะเห็นผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้
และในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.นี้ ว่าจะทำให้เห็นถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจนขึ้น ในส่วนของร้านค้า และจากการลงทะเบียนของประชาชนก็เห็นชัดเจนถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งยอดลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงจะผลักดันโครงการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม อย่างแน่นอน
JJNY : 5in1 พิธาลั่นขอเป็นพรรคสุดท้าย│5เครือข่ายลุยสกายวอล์ก│อังคณาหนุนใช้กลุ่มอาชีพ│ร้านค้ารอชัดเจน│ปท.ติดกับดักรายได้
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9343810
“พิธา” ลุยโพธาราม ช่วย ‘ชัยรัตน์’ หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ลั่น ถ้าก้าวไกลถูกยุบ ขอให้เป็นพรรคสุดท้าย เผย 7 ส.ค.นี้ ไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง
วันที่ 3 ส.ค. 2567 ที่อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล ร่วมขึ้นรถแห่ปราศรัยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ช่วยนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ราชบุรี ในนามพรรคก้าวไกล
นายพิธา ปราศรัยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.ราชบุรี ที่ให้ความไว้วางใจพิธา และเลือกพรรคก้าวไกล กว่า 2.3 แสนเสียง เป็นอันดับหนึ่งสำหรับคะแนนบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนกับเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกเขต ดังนั้น จึงขอให้พี่น้องใช้เวลาที่เหลือร่วมกันรณรงค์ บอกกับทุกคนว่าให้กลับบ้านมาเลือกตั้งให้มากที่สุด
“1 กันยา กาเบอร์ 1 ไม่ว่าท่านจะอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลก โดยผมและผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี พรรคก้าวไกล จะใช้เวลาหลังจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 ก.ย. เพื่อเดินหน้ารณรงค์ ทำให้พี่น้องไว้วางใจพวกเราถล่มทลายเกิน 2.5 แสนเสียง
โดยการทำงานของท้องถิ่นก้าวไกลจะเชื่อมกับผู้แทนราษฎร เชื่อมกับพรรคก้าวไกล ดังนั้น พี่น้องที่กาเลือกนายก อบจ. ก้าวไกลคนเดียว ก็ได้พวกเราทุกคนเข้าไปทำงานด้วย นั่นคือจุดแข็งของพวกเรา” นายพิธา กล่าว
โดยในตอนหนึ่งของการปราศรัย นายพิธา กล่าวถึงคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ในวันที่ 7 ส.ค. 2567 ว่า พรรคการเมืองคือตัวแทนของประชาชน เราได้รับความไว้วางใจมาใช้อำนาจแทนประชาชน แต่ประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง
เมื่อพรรคการเมืองอ่อนแอลงก็หมายความว่าอำนาจของประชาชนอ่อนแอลงด้วย และเมื่อมันมีผลกระทบต่ออำนาจของพี่น้องประชาชน นั่นคือผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยที่พวกเราหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
เพราะฉะนั้นอย่ายอมเขา อย่าสิ้นหวัง เก็บความโกรธแค้นเอาไว้ ชนะทั้งทีให้มันถูกต้อง ชนะให้มันขาด เราจะชนะให้เขาปฏิเสธเราไม่ได้อีกต่อไป พรรคการเมืองคือตัวแทนอำนาจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้แทนราษฎรของพรรค ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครของพรรค ดังนั้น ประเทศแบบไหนที่เขาอยากให้พรรคการเมืองอ่อนแอ นั่นก็หมายความว่าเขาอยากให้ประชาชนอ่อนแอ
พี่น้องต้องไม่ยอม แต่ไม่ใช่ไม่ยอมเพื่อพรรคก้าวไกล เพื่อพิธา หรือพรรคการเมือง 33 พรรคที่เคยถูกยุบมาก่อน แต่ต้องไม่ยอมเพราะมันคืออำนาจของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าพี่น้องจะเคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักษาชาติ หรืออนาคตใหม่ พรรคเหล่านั้นล้วนเป็นตัวแทนประชาชนทั้งสิ้น เขาทำลายพรรคเหล่านั้นก็คือทำลายอำนาจพี่น้องประชาชน
“ถ้าวันพุธนี้ผมไม่มีโอกาสกลับมาหาพี่น้องในฐานะผู้แทนราษฎรอีกต่อไป ก็ขอให้พิธาและพรรคก้าวไกลเป็นคนสุดท้ายที่เกิดโดยประชาชน แต่ถูกยุบลงไปจากอำนาจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า ขอพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ ตนและพรรคก้าวไกลได้ทำเต็มสุดความสามารถแล้ว ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกต่อไป และวันพุธนี้จะขอไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง แต่ระหว่างนี้ตนและพรรคก้าวไกลจะไม่เสียสมาธิ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุกวันแน่นอน
ทั้งนี้ ตลอดการปราศรัยหาเสียง มีประชาชนมาต้อนรับ และติดตามการปราศรัยจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงเชียร์
5 เครือข่าย ลุยสกายวอล์ก ล่าชื่อหนุนนิรโทษกรรมปชช. ย้ำต้องรวม ม.112
https://www.matichon.co.th/politics/news_4716245
5 เครือข่าย ลุยสกายวอล์ก ล่าชื่อหนุนนิรโทษกรรมปชช. ย้ำต้องรวม ม.112
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG), คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.), กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์, เครือข่ายประชาชนเพื่อสิทธิทางการเมือง (Thumb Rights) และเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน (People’s Amnesty) จัดกิจกรรมเรียกร้องให้มีการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. … ที่จัดทำโดยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน โดยรวมผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112
บรรยากาศทั่วไปเมื่อเวลาราว 13.00 ผู้จัดกิจกรรมยืนกระจายตัวบนสกายวอล์กเชิญชวนให้ประชาชนที่ผ่านไปมารับเอกสารแผ่นพับให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลักดัน พ.ร.บ. ‘นิรโทษกรรมประชาชน’ โดย นายธัชพงศ์ แกดำ นักกิจกรรมทางการเมืองและอดีตผู้สมัคร ส.ว. ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ความรู้และเชิญชวนให้ผู้สัญจรผ่านไปมารับเอกสารและลงชื่อสนับสนุนผ่านการแสกนคิวอาร์โค้ด รวมถึงร่วมเขียนจดหมายเพื่อส่งถึงผู้ต้องขังในคดีการเมือง
นายธัชพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักโทษทางการเมืองกว่า 40 คนที่ยังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว บางส่วนเป็นผู้ต้องขังในคดีอาญามาตรา 112 ซึ่งตนหวังว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนจะได้รับการผลักดัน และจะเป็นประตูทางออกจากความขัดแย้ง นำประเทศก้าวไปข้างหน้า รวมถึงทำให้เกิดการพูดคุยเพื่อหาทางออกสำหรับทุกฝ่าย
ด้าน น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ จากกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) กล่าวว่า วันนี้กลุ่มของตนและเครือข่ายจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อรณรงค์ให้พรบ.นิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองรวมคดีมาตรา 112 เข้าไปด้วย เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาจะไม่รวมคดีมาตรา 112 แต่จะเป็นการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข จึงอยากให้ประชาชนรับทราบว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการชุมนุม เริ่มมีคดีทางการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2563 มีนักโทษทางการเมืองที่ยังไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัวอีกเป็นจำนวนมาก ตนจึงต้องการให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมโดยการร่วมลงชื่อเพื่อส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ
“การแก้กฎหมายถือเป็นเสรีภาพอย่างหนึ่ง เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ควรจะมีการเปิดโอกาสให้มีการแก้ไข และสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยทางความคิดเห็นกับทั้งสองฝ่าย ส่วนตัวคิดว่ากรรมาธิการฯ น่าจะเสียงแตกเนื่องจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากหลายพรรคการเมือง บางพรรคก็สนับสนุน บางพรรคก็ไม่สนับสนุน หวังว่าผู้มีอำนาจให้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้และให้สิทธิการประกันตัวแก่นักโทษทางการเมือง” น.ส.จุฑาทิพย์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.50 น. ผู้จัดกิจกรรมเดินเท้าไปยังสกายวอล์ก แยกราชประสงค์ เพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังมีการแจกเอกสารที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้วย โดยในวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ที่สกายวอล์กสาทร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี จะมีการแจกเอกสารดังกล่าวอีกครั้ง เวลา 17.00-19.00 น.
อังคณา หนุนใช้กลุ่มอาชีพ ตั้งกมธ.ส.ว. เผยบางคนจองเก้าอี้ประธานแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4716233
อังคณา หนุนใช้กลุ่มอาชีพเป็นตัวตั้ง แก้ข้อบังคับกมธ. ระบุ ต้องให้พื้นที่ ‘เพศทางเลือก-คนพิการ-ชาติพันธุ์’ เหตุไม่มีตัวแทนในสภาสูง เผย มีส.ว.ร่อนโปสเตอร์เข้าไลน์กลุ่ม อ้อนขอนั่ง ปธ.กมธ.
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาข้อบังคับการประชุม เพื่อปรับจำนวนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภา ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ว่า ขณะนี้มีความเห็นหลากหลาย มีผู้เสนอร่างเข้ามา 4 ฉบับ มีทั้งเสนอให้ปรับลดและเพิ่มจำนวน กมธ. แต่โดยส่วนตัวตนสนับสนุนร่างของนายประภาส ปิ่นตบแต่ง ส.ว. เพราะมองว่าควรจะนํากลุ่มอาชีพของ ส.ว.มาเป็นตัวตั้ง เพื่อให้แต่ละกลุ่มมีพื้นที่ใน กมธ.วิสามัญ และให้สอดคล้องกับที่รัฐธรรมนูญระบุไว้
นางอังคณากล่าวว่า แม้โครงสร้างของรัฐธรรมนูญจะให้มี ส.ว.จากกลุ่มสตรีโดยเฉพาะ แต่ปัจจุบันเรามีกลุ่มคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีความหลากหลายทางเพศและกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งเรายังไม่มีตัวแทนของคนเหล่านี้เข้ามานั่งในวุฒิสภา จึงมองว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง หากคนกลุ่มนี้ได้แยกออกมาเป็น กมธ. ก็จะสามารถศึกษาและช่วยแก้ปัญหาของพวกเขาได้ เราไม่ได้มองว่า ส.ว.ลดลง กมธ.ก็ต้องน้อยลงด้วย แต่มองที่ความจำเป็น อย่างไรก็ตาม เราสามารถออกแบบให้ กมธ.มีจำนวนสอดคล้องกับ ส.ว.ที่มีได้ โดยตนจะนําความเห็นนี้เสนอต่อวุฒิสภา
นางอังคณากล่าวอีกว่า เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เสนอไปจะถูกรับฟังหรือไม่ แต่หากไม่สามารถทําได้ก็จะเสนอทางเลือก ขอให้เพิ่มจำนวนอนุ กมธ. เพราะเราต้องเปิดโอกาสให้กลุ่มคนต่างๆ เข้ามาเป็น กมธ. ไม่เช่นนั้นคนบางกลุ่มก็จะหายไป เพราะไม่มีจํานวน กมธ.ที่เพียงพอในการแก้ปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนโควต้าประธาน กมธ.มีการตกลงกับ ส.ว.กลุ่มอื่นหรือยัง นางอังคณากล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย แต่เท่าที่ทราบมีหลายคนที่อยากเป็น เพราะเห็นมีการส่งโปสเตอร์แนะนําตัวและขอเสนอตัวเป็นประธาน กมธ.เข้ามาในไลน์กลุ่ม ส.ว. แต่ถ้าไม่มีการแบ่งสัดส่วนให้กับกลุ่มเล็กก็น่าเสียใจ เพราะตนมั่นใจว่ามีศักยภาพที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์กับประชาชน หวังว่าจะเป็นการพิจารณาอย่างเหมาะสม และเป็นธรรม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้วุฒิสภา
ร้านค้ารอชัดเจนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับกังวล
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_755813/
ร้านค้ารอชัดเจนลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับกังวล บางส่วนไม่เชื่อมั่นโครงการรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะที่พาณิชย์แถลงร้านสมัครเข้าร่วม 5ส.ค.นี้
จากการสำรวจบรรยากาศร้านค้า ที่จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค ร้านอาหาร ข้าวแกง รวมถึงแผงลอย ย่านตลาดบางเขน ถึงความสนใจในการเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกับรัฐบาลพบว่า บางส่วนยังไม่มีความเข้าใจในการเข้าร่วมโครงการและยอมรับว่ามีความกังวลอยู่มากกับโครงการของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาหลังจากเข้าร่วมโครงการแล้วมีการถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้เห็นถึงความยุ่งยากในเรื่องของการลงทะเบียนผ่าน Application ต่างๆ แต่ก็จะรอดูความชัดเจนก่อนว่าในส่วนของร้านค้าจะมีความยุ่งยากมากน้อยแค่ไหน โดยเห็นกระแสจากการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการของประชาชนที่มีความซับซ้อนจึงมีความกังวลอยู่บ้าง ในขณะที่บางร้านปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการโดยสิ้นเชิงและยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังกับโครงการใดๆ ของรัฐบาลว่าจะเห็นผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้
และในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.นี้ ว่าจะทำให้เห็นถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจนขึ้น ในส่วนของร้านค้า และจากการลงทะเบียนของประชาชนก็เห็นชัดเจนถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งยอดลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงจะผลักดันโครงการให้เห็นผลเป็นรูปธรรม อย่างแน่นอน