น้ำใสราวเทพนิยาย ตำนานรักกิ้งก่าศักดิ์สิทธิ์ เกาะจันทร์เสี้ยว "Molokini"



#World เกาะโมโลคนี "Molokini" หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่าเกาะเกาะจันทร์เสี้ยว ด้วยความใสของน้ำทะเล ทัศนวิสัยที่น่าตื่นตาตื่นใจ ฝูงปลามากกว่า 250 สายพันธุ์ เช่น ปลากะพงขาว ปลากระเบนราหู โลมาปากขวด ฉลามแนวปะการัง และแม้แต่ฉลามวาฬก็สามารถพบเห็นได้ รวมทั้งสิ่งหายากต่างๆ และอีกที่คาดไม่ถึงมากมาย จึงทำให้เป็นที่ดึงดูดใจให้กับนักดำน้ำตื้น
.
Molokini เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ พื้นที่เกาะอยู่ระหว่างเกาะเมาอิ "mɐwwi" และKaho'olawe ในฮาวาย เป็นส่วนหนึ่งของ "Pleistocene" ยุคภูเขาไฟที่เกิดขึ้นก่อนประวิติศาสตร์ ที่กินเวลาประมาณ 2,580,000 ถึง 11,700 ปีก่อน
.
ด้วยขนาดพื้นที่ 23 เอเคอร์ (ประมาณ 93,000 ตารางเมตร) ตั้งอยู่ ห่างออกไป 4 กม. ทางตะวันตกของ Makena State Park และอยู่ในเขตรักษาพันธุ์นกทะเลของรัฐฮาวาย
.
Molokini เป็นปล่องภูเขาไฟ ที่ดูเหมือนพระจันทร์เสี้ยวที่เปิดออกสู่อาว Ma'alaea แต่หากน้ำลดก็จะเห็นเป็นรูปวงกลม เกาะแห่งนี้ได้ถูกตรวจสอบอายุ potassium-argon โดยนักภูเขาไฟวิทยา ที่ได้ผลสรุปว่าน่าจะเป็นผลมาจากกระปะทุของภูเขาไฟเมื่อราว 230,000 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม 20,000 ปีที่แล้ว "โมโลกินี" ไม่ใช่ตัวเลือกที่จะดำน้ำตื้น เพราะเมื่อน้ำแข็งละลายในช่วงปลายยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย เชื่อกันว่าระดับน้ำทะเลรอบๆ โมโลกินีสูงขึ้น 400 ฟุต ซึ่งทำให้ปล่องภูเขาไฟโมโลกินีทั้งหมดอยู่บนบกไม่ใช่ในน้ำ
.
#legend
มีตำนานของชาวฮาวายที่เชื่อกันว่าปล่องภูเขาไฟแห่งนี้เกิดขึ้นโดยฝีมือของเปเล "Pele" เทพธิดาแห่งภูเขาไฟที่ปรากฎตัวในตำนานของชาวฮาวายในหลายๆเรื่อง ตามตำนานเล่าว่าปล่องภูเขาไฟโมโลคินีเกิดมาจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งเกาะแห่งนี้เกิดขึ้นจากส่วนปลายหางของสัตว์ที่เป็นตัวละครในตำนานที่พบกับจุดจบอันน่าเศร้า
.
เรื่องราวของ โมโอ (mo’o—giant guardian lizards) หรือกิ้งก่ายักษ์ผู้พิทักษ์ ที่เป็นหนึ่งในตัวละครที่อยู่ในตำนาน ถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์การมีอยู่ของกิ้งก่ายักษ์เหล่านี้ "อย่างหลักฐานทงฟอสซิล" แต่ชาวฮาวายหลายคนเชื่อกันว่ากิ่งก่าศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เคยมีอยู่ทั่วเกาะ
.
มีการกล่าวถึงตำนานต้นกำเนิดของโมโลคีนี เมื่อโมโอ "mo’o" เพศเมียตกหลุมรักหัวหน้าเผ่าบนเกาะเมานี " Maui" ซึ่งหัวหน้าเผาชื่อว่า โลฮิอาอู Lohiau แต่ความรักนี้ไม่อาจที่จะมีอยู่ได้ เพราะเทพธิดาแห่งภูเขาไฟ "เปเล่" ก็มีใจรักในตัว โลฮิอาอูด้วยเช่นกัน ทำให้เทพธิดาโกรธแค้นอย่างมาก จึงได้จัดการกับโมโอ กิ่งก่ายักษ์ตัวนี้ ออกเป็นสองส่วน และเปลี่ยนให้กลายเป็นหิน ซึ่งในปัจจุบันนี้ หัวของโมโอ มีอยู่จริงและชื่อว่า Pu'u Olai (เป็นส่วนหนึ่งของ Makena State Park) และส่วนหางของโมโอ ก็กลายมาเป็นพระจันทร์เสี้ยวของเกาะ Molokini ตำนานนี้มีการตีความออกไปมากมาย แต่ทุกเรื่องราวก็จะเกี่ยวข้องกับความโกรธแค้นอันหึงหวงของเปเล่ เทพธิดาแห่งภูเขาไฟ
.
ยังมีตำนานอื่นๆของชาวฮาวายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเกาะ Molokini ที่สื่อถึงหมู่เกาะฮาวายทั้งหมดเป็นบุคคลเหมือนบรรพบุรุษในยุคแรกๆ ของชาวฮาวาย อย่าง มีความเชื่อกันว่าเกาะนี้เป็นสายสะดือของเกาะ "Kaho'olawe" ที่อยู่ใกล้ๆ ที่ถูกตัดขาดโดย "Uluhina" ที่เป็นบรรพบุรุษชาวฮาวายในยุคแรก ซึ่งมาจากประเพณีโบราณในการฝังสายสะดือของอาลี หรือหัวหน้าเผ่า ทำให้มีทฤษฎีว่าโมโลกินีอาจใช้เป็นสถานที่ฝังรกรากของราชวงศ์ลงในดินอย่างเป็นพิธีการ
.
ในยุคปัจจุบัน มีการค้นพบหินจมน้ำ และเหยื่อตกปลาจากนักดำน้ำ จึงแสดงให้เห็นว่าในแถบหมู่เกาะนี้ถูกใช้เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ และรวมทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลและปลาจำนวนมาก ในส่วนของบนบก ก็ถือเป็นแหล่งทรัยากรสำหรับชาวฮาวายยุคแรกด้วยเช่นกัน
.
ครั้งเมื่อสงคราวโลกครั้งที่สอง เมื่อพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกทิ้งระเบิด "Pearl Harbor" เกาะคาโฮโอลาเว "Kaho'olawe" ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยนั้นกองทัพสหรัฐฯ ได้ใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อนทิ้งระเบิด และเกาะโมโลกินีนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ทำลายวัตถุระเบิด หลังสงครามการทิ้งระเบิดและการยิงถล่มจะหยุดลงไป แต่กว่าที่เกาะคาโฮโอลาเว จะหยุดใช้เป็นสถานที่เกี่ยวกับระเบิดก็ปี ค.ศ. 1990 
.
สิ่งที่น่าเศร้าของการสูญเสียมากมายนั้นนอกจากการทิ้งระเบิดที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ระเบิดเหล่านี้ยังทำลายปะการัง "black coral " และปะการังจำนวนมากมายเหล่านี้กลายเป็นของมีค่าที่ถูกนำไปขายตามร้านเครื่องประดับ ซึ่งกว่าจะกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ทะเลในปี ค.ศ. 1977 
.
ทุกวันนี้ "Molokini" ได้รับการปกป้องแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์นกทะเลแห่งรัฐฮาวาย และมีการประเมินว่ามีนักท่องเที่ยวหลายแสนคนต่อปีที่มาเยี่ยมชมหรือดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกภายใต้น้ำทะเลที่อุดมสมบูรณ์และใสสะอาด
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikipedia
.
Better Day 
กำลังใจเติมให้กันได้ทุกวัน
...
เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ Green Green กับ Better Day  ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/betterdaydotday

ขอบคุณครับ
...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่