#Onthisday กล่าวกันว่า ไอติม (ของหวาน) กับแซนวิช (ของคาว) กินคู่กันก็จะไม่อร่อย แต่ถ้าเอาแซนวิช (ในแบบของหวาน) มารวมกันกลายเป็นไอติมแซนวิช นั่นก็อีกเรื่อง!
.
2 สิงหาคมของทุกปี วันไอศกรีมแซนวิชแห่งชาติ (National Ice Cream Sandwich Day)
.
หน้าร้อน (ถึงเมืองไทยมันจะร้อนในทุกหน้า) หลายคนก็จะนึกถึงไอศกรีมแสนอร่อย! ในเวอร์ชันต่างๆ แต่ถ้าเป็นในประเทศอเมริกา (ในประเทศไทยก็ด้วย) จะมีเวอร์ชันในแบบที่หลายคนชื่นชอบกันมาก คือนำเอาคุกกี้ช็อกโลแลต หรือข้าวโอ๊ตในรูปแบบแผ่นสี่เหลี่ยมหรือวงกลม 2 ชิ้น แล้วใส่ไอศกรีมไว้ตรงกลาง จากนั้นก็ทำเป็นแซนวิชชิ้นเล็กๆ (ชิ้นใหญ่ๆ ดีกว่า) ที่แสนอร่อย งับใส่ปาก คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่ารสชาติหวานๆ ครีมเย็นๆ ช็อกโกแลตแสนอร่อยในการงับคำเดียว..
.
ในหลายประเทศมีไอศกรีมแซนวิชเวอร์ชันของตัวเองกันทั้งนั้น อย่างเวียดนาม จะมีไอศกรีมสอดไส้ระหว่างขนมปัง 2 ชั้น ส่วนในอิหร่าน ไอศกรีมรสพิสตาชิโอ หรือรสกุหลาบสอดไส้ระหว่างเวเฟอร์ ในประเทศไทย ถ้ามองตั้งแต่เก่าก่อน ก็จะเป็นไอศกรีมกะทิวางตรงกลางขนมปัง โรยด้วยถั่วลิสงหรือท็อปปิ้งต่างๆ
.
ไอศกรีมแซนวิช ที่สุดยอดแห่งความอร่อยของแต่ละคนอาจจะต่างกัน แต่ขอยกตัวอย่าง ที่คาดว่าหลายๆ คนน่าจะชอบ อย่าง ไอศกรีมคุกกี้ช็อกโกแลตชิบ สอดไส้ไอศกรีมรสดาร์กช็อกโกแลต..หืมมม
.
#History
หากเล่าเรื่องราวในอดีตของชาวอเมริกาที่ชื่นชอบไอศกรีมแซนวิชกัน คงต้องย้อนกลับไปช่วงปลายทศวรรษ 1800 พ่อค้าแม่ค้าริมถนนในนิวยอร์กซิตี้ จะขายสิ่งที่เรียกว่า "โฮกี้โปเกะ" (hokey pokes) เป็นไอศกรีมที่กดไว้ระหว่างกระดาษสองแผ่น (ข้อมูลจาก Mental Floss) เจอรี ควินซิโอ ผู้เขียนหนังสือ Dessert: A Tale of Happy Endings และ Of Sugar and Snow: A History of Ice Cream Making บอกกับหนังสือพิมพ์ Boston Globe ว่าไอศกรีมแซนวิชเหล่านี้ "ขายได้ในราคาเพนนีเดียว และผู้ที่จะซื้อต้องเตรียมเงินให้พอดี เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะขายเร็วมากจนไม่มีเวลาทอนเงิน
.
และไอศกรีมเหล่านี้นั้นเป็นของหวานที่ขายให้กับชนชั้นแรงงาน (ในอดีตมีการแบ่งชนชั้นแรงงาน) แต่พอเวลาผ่านไป ทั้งเหล่านักการธนาคาร นักการเงินทั้งหลายได้มาลองชิม ก็ติดใจในรสชาติ และชอบกันจนกลายเป็นที่โด่งดัง
.
การพัฒนารูปแบบเมื่อเวลาผ่านไป จากการใช้กระดาษก็ถูกแทนที่ด้วยเค้กสปันจ์เค้ก (sponge cake เค้กที่นุ่มๆ เด้งๆ ฟูๆ) แต่การแทนที่ด้วยสปันจ์เค้กนั้น เวลากินจะทำให้เลอะเทอะ จึงเริ่มมีการนำแครกเกอร์เกรแฮม (Graham crackers คุกกี้แบนและกรอบ) มาใช้แทนที่ และแนิวคิดของไอศกรีมแซนด์วิชจริงๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นจนกลายเป็นที่นิยมไปทั่ว
.
มีข้อมูลกล่าวไว้ ในปี พ.ศ. 2471 จอร์จ วิทนีย์ "George Whitney" ได้นำไอศกรีมร่วมกับคุกกี้ข้าวโอ็ตและจุ่มลงในช็อกโกแลตที่ละลาย นี่อาจเรียกได้ว่าเป็น Original ของไอศกรีมแซนวิชคุกกี้ช็อกโกแลตเลยก็ว่าได้ และราวเกือบสองทศวรรษต่อมา เจอร์รี นิวเบิร์ก "Jerry Newberg" ได้ขายแซนวิชไอศกรีมวานิลลาและเวเฟอร์ช็อกโกแลตในเกมเบสบอล (ตามรายงานของ News Nation Now) ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับไอศกรีมแซนวิชที่ทำให้ทุกคนรู้จักและชื่นชอบกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
.

...
หลังเลิกงานสำหรับเพื่อนๆอย่าลืมแวะซื้อไอติมแซนวิชไว้กินกันในวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ก็แวะซื้อได้อีก มะรืนก็อีก และวันต่อๆไป ก็นะ..
.
ว่าแต่ของโปรดของเพื่อนๆ เป็นไอติมแซนวิชแบบไหนกัน!
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: spiritoftheholidays
: tastingtable
: Mental Floss
.
Better Day
กำลังใจเติมให้กันได้ทุกวัน
...
เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ Green Green กับ Better Day ได้ที่ Facebook:
https://www.facebook.com/betterdaydotday
ขอบคุณครับ
...
วันแห่งความอร่อยของ(เกือบ)ทุกคน.. 2 สิงหาคม วันไอศกรีมแซนวิชแห่งชาติ (National Ice Cream Sandwich Day)
#Onthisday กล่าวกันว่า ไอติม (ของหวาน) กับแซนวิช (ของคาว) กินคู่กันก็จะไม่อร่อย แต่ถ้าเอาแซนวิช (ในแบบของหวาน) มารวมกันกลายเป็นไอติมแซนวิช นั่นก็อีกเรื่อง!
.
2 สิงหาคมของทุกปี วันไอศกรีมแซนวิชแห่งชาติ (National Ice Cream Sandwich Day)
.
หน้าร้อน (ถึงเมืองไทยมันจะร้อนในทุกหน้า) หลายคนก็จะนึกถึงไอศกรีมแสนอร่อย! ในเวอร์ชันต่างๆ แต่ถ้าเป็นในประเทศอเมริกา (ในประเทศไทยก็ด้วย) จะมีเวอร์ชันในแบบที่หลายคนชื่นชอบกันมาก คือนำเอาคุกกี้ช็อกโลแลต หรือข้าวโอ๊ตในรูปแบบแผ่นสี่เหลี่ยมหรือวงกลม 2 ชิ้น แล้วใส่ไอศกรีมไว้ตรงกลาง จากนั้นก็ทำเป็นแซนวิชชิ้นเล็กๆ (ชิ้นใหญ่ๆ ดีกว่า) ที่แสนอร่อย งับใส่ปาก คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่ารสชาติหวานๆ ครีมเย็นๆ ช็อกโกแลตแสนอร่อยในการงับคำเดียว..
.
ในหลายประเทศมีไอศกรีมแซนวิชเวอร์ชันของตัวเองกันทั้งนั้น อย่างเวียดนาม จะมีไอศกรีมสอดไส้ระหว่างขนมปัง 2 ชั้น ส่วนในอิหร่าน ไอศกรีมรสพิสตาชิโอ หรือรสกุหลาบสอดไส้ระหว่างเวเฟอร์ ในประเทศไทย ถ้ามองตั้งแต่เก่าก่อน ก็จะเป็นไอศกรีมกะทิวางตรงกลางขนมปัง โรยด้วยถั่วลิสงหรือท็อปปิ้งต่างๆ
.
ไอศกรีมแซนวิช ที่สุดยอดแห่งความอร่อยของแต่ละคนอาจจะต่างกัน แต่ขอยกตัวอย่าง ที่คาดว่าหลายๆ คนน่าจะชอบ อย่าง ไอศกรีมคุกกี้ช็อกโกแลตชิบ สอดไส้ไอศกรีมรสดาร์กช็อกโกแลต..หืมมม
.
#History
หากเล่าเรื่องราวในอดีตของชาวอเมริกาที่ชื่นชอบไอศกรีมแซนวิชกัน คงต้องย้อนกลับไปช่วงปลายทศวรรษ 1800 พ่อค้าแม่ค้าริมถนนในนิวยอร์กซิตี้ จะขายสิ่งที่เรียกว่า "โฮกี้โปเกะ" (hokey pokes) เป็นไอศกรีมที่กดไว้ระหว่างกระดาษสองแผ่น (ข้อมูลจาก Mental Floss) เจอรี ควินซิโอ ผู้เขียนหนังสือ Dessert: A Tale of Happy Endings และ Of Sugar and Snow: A History of Ice Cream Making บอกกับหนังสือพิมพ์ Boston Globe ว่าไอศกรีมแซนวิชเหล่านี้ "ขายได้ในราคาเพนนีเดียว และผู้ที่จะซื้อต้องเตรียมเงินให้พอดี เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะขายเร็วมากจนไม่มีเวลาทอนเงิน
.
และไอศกรีมเหล่านี้นั้นเป็นของหวานที่ขายให้กับชนชั้นแรงงาน (ในอดีตมีการแบ่งชนชั้นแรงงาน) แต่พอเวลาผ่านไป ทั้งเหล่านักการธนาคาร นักการเงินทั้งหลายได้มาลองชิม ก็ติดใจในรสชาติ และชอบกันจนกลายเป็นที่โด่งดัง
.
การพัฒนารูปแบบเมื่อเวลาผ่านไป จากการใช้กระดาษก็ถูกแทนที่ด้วยเค้กสปันจ์เค้ก (sponge cake เค้กที่นุ่มๆ เด้งๆ ฟูๆ) แต่การแทนที่ด้วยสปันจ์เค้กนั้น เวลากินจะทำให้เลอะเทอะ จึงเริ่มมีการนำแครกเกอร์เกรแฮม (Graham crackers คุกกี้แบนและกรอบ) มาใช้แทนที่ และแนิวคิดของไอศกรีมแซนด์วิชจริงๆ ก็ถือกำเนิดขึ้นจนกลายเป็นที่นิยมไปทั่ว
.
มีข้อมูลกล่าวไว้ ในปี พ.ศ. 2471 จอร์จ วิทนีย์ "George Whitney" ได้นำไอศกรีมร่วมกับคุกกี้ข้าวโอ็ตและจุ่มลงในช็อกโกแลตที่ละลาย นี่อาจเรียกได้ว่าเป็น Original ของไอศกรีมแซนวิชคุกกี้ช็อกโกแลตเลยก็ว่าได้ และราวเกือบสองทศวรรษต่อมา เจอร์รี นิวเบิร์ก "Jerry Newberg" ได้ขายแซนวิชไอศกรีมวานิลลาและเวเฟอร์ช็อกโกแลตในเกมเบสบอล (ตามรายงานของ News Nation Now) ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับไอศกรีมแซนวิชที่ทำให้ทุกคนรู้จักและชื่นชอบกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก
.
...
หลังเลิกงานสำหรับเพื่อนๆอย่าลืมแวะซื้อไอติมแซนวิชไว้กินกันในวันนี้ ส่วนพรุ่งนี้ก็แวะซื้อได้อีก มะรืนก็อีก และวันต่อๆไป ก็นะ..
.
ว่าแต่ของโปรดของเพื่อนๆ เป็นไอติมแซนวิชแบบไหนกัน!
.
ขอขอบคุณข้อมูล
: spiritoftheholidays
: tastingtable
: Mental Floss
.
Better Day
กำลังใจเติมให้กันได้ทุกวัน
...
เพื่อนๆ สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ Green Green กับ Better Day ได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/betterdaydotday
ขอบคุณครับ
...