หลังจากกระแสหนังอินเดียเรื่อง คังคุไบ (gangubai kanthiawadi) ในปี 2022 ที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยหลายคนก็เริ่มหันมาสนใจดูหนังอินเดียกันมากขึ้น จ๋าเองก็เหมือนกันค่า ตอนนี้กลายเป็นคอหนังอินเดียไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้จ๋าเลยจะมารีวิวหนังอินเดียใน Netflix มาให้เพื่อนๆ ชาวพันทิปได้ไปตามดูกันค่า ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลยย
1.srikanth

มาเริ่มกันที่เรื่องแรกที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง "ศรีกานต์" ศรีกานต์เป็นชายหนุ่มตาบอดที่เกิดมาในครอบครัวยากจนแต่มีใจรักในการเรียน แถมยังเรียนเก่งมากด้วย เขาได้รับความช่วยเหลือจากครูเดวีที่ช่วยให้เขาได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นถึงการต่อสู้ของศรีกานต์กับระบบการศึกษาของอินเดียที่มองข้ามคนพิการ การต่อสู้ของเขาทำให้คนพิการได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเท่านั้น ในโลกของการทำงาน การที่คนพิการจะสามารถประกอบอาชีพได้เป็นเรื่องที่ยากมาก ศรีกานต์จึงต้องพิสูจน์ตัวเองหลายๆ อย่างจนเป็นที่ยอมรับของหลายๆ คน หลายคนอ่านเรื่อย่ออาจรู้สึกว่าต้องเป็นหนังเครียดมากแน่ๆ แต่สำหรับจ๋าที่ดูหนังดราม่ามาหลายเรื่อง ศรีกานต์ก็เป็นหนังที่มีความดราม่าและอาจเรียกน้ำตาคนดูได้ไม่ยาก ถึงอย่างงั้นหนังมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักหน่วงจนมากเกินไป หนังยังให้ความสุข ความอบอุ่น และเสียงหัวเราะให้คนดูได้ผ่อนคลายอยู่ สุดท้ายชีวิตของศรีกานต์จะดำเนินไปอย่างไร ต้องตามไปดูแล้วละ
ให้คะแนน 10/10 ไปเลยค่าา
2. maharaj

ไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จ๋าดูแล้วอินมากกก แบบเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเลยจริงๆ เรื่องนี้ก็สร้างมาจากเรื่องจริงเหมือนกันค่ะ ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1862 เป็นเรื่องราวของนักข่าวที่ชื่อว่า คาร์ซาน เขามีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่ง แล้วเขาก็มาจับได้ว่าคู่หมั้นของเขาแอบมีสัมพันธ์กับมหาราชซึ่งเป็นผู้นำของศาสนาที่คนนับถือมากในเวลานั้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตัวเองและครอบครัวได้เข้าถึงพระเจ้า (ในเรื่องคนนับถือพระวิษณุกันค่า) เนื่องจากคนอินเดียเชื่อว่ามหาราชก็คือตัวเเทนของพระวิษณุนั่นแหละ พอคาร์ซานรู้ก็โกรธและเสียใจมากค่ะก็เลยขอถอนหมั้นเลย แล้วพอเขาได้สืบไปสืบมาจึงรู้ว่าไม่ใช่แค่คู่หมั้นของเขาเท่านั้น แต่ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่ถูกหลอกให้ไปถวายตัวกับมหาราช คาร์ซานเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่อยู่แล้วจึงรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ เขาเลยตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ประจานความผิดของมหาราชเลยค่ะ พอมหาราชรู้ก็ไม่ยอมซิคะ เขาเลยฟ้องคาร์ซานข้อหาหมิ่นประมาทจนกลายเป็นคดีความที่ต้องขึ้นไปในชั้นศาล ก่อให้เกิดการต่อสู้ระหว่างคาร์ซานและมหาราช ซึ่งคดีความนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ในอินเดียนะคะ ชื่อคดีว่า Maharaj Libel case สำหรับใครที่สนใจลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ
ให้คะแนน 9.5/10
3. badhaai do

เป็นหนังที่ออกมาต้อนรับ pride month ได้อย่างสวยงาม เรื่องราวของตำรวจหนุ่มที่มีแฟนเป็นผู้ชายและครูสาวที่มีแฟนเป็นผู้หญิง พวกเขาต้องแต่งงานกันเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สังคมอินเดียก็อาจจะเหมือนสังคมเอเชียโดยทั่วไปๆ ที่ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงแทบจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงเลยด้วยซ้ำ กับกลุ่ม LGBTQ ก็เช่นกัน เป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่คนในสังคมจะยอมรับ ถึงแม้หนังอาจจะมีความเรื่อยๆ ของมันไปมาก แต่ก็สะท้อนสังคมอินเดียได้เป็นอย่างดีค่ะ จ๋าคิดว่าผู้สร้างคงคาดหวังให้หนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้คนในสังคมทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น หนังเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ก็จริง แต่ก็แฝงไว้ซึ่งแง่คิดหลายอย่างให้เราได้คิดตามไปตลอดทั้งเรื่องค่ะ
ให้คะแนน 8.5/10
4. Gunjan Saxena

จบรีวิวพาทนี้ด้วยเรื่องราวของนักบินรบหญิงคนแรกของอินเดีย กัณจัญ ศักเสนา เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อกับแม่คาดหวังให้เธอได้แต่งงานและมีครอบครัวเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่กัณจัญมีความฝันที่อยากจะเป็นนักบิน เธอแอบไปสมัครเป็นนักบินรบของหน่วยทหารอินเดีย แม่กับพี่ชายโกรธมากที่เธอทำแบบนั้น มีเพียงพ่อคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวเธอ เมื่อกัณจัญได้เข้าไปฝึกเป็นนักบินในหน่วยทหาร ด้วยความที่เป็นผู้หญิงคนเดียวจึงใช้ชีวิตลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ห้องน้ำ (เพราะในที่ฝีกมีแต่ห้องน้ำชาย) คำดูถูกจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้เธอท้อแล้วท้ออีก สุดท้ายกัณจัญจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ยังไง ลองไปตามกันได้ใน Netflix ตอนนี้เลยย
ให้คะแนน 10/10
เป็นไงบ้างค่ะเพื่อนๆ ใครมีเรื่องไหนในดวงใจแวะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้น้าาา เดี๋ยวจ๋ามาต่อ part 2 แน่นอนนน
รีวิวหนังอินเดียใน Netflix (part1)
1.srikanth
มาเริ่มกันที่เรื่องแรกที่สร้างจากเรื่องจริงอย่าง "ศรีกานต์" ศรีกานต์เป็นชายหนุ่มตาบอดที่เกิดมาในครอบครัวยากจนแต่มีใจรักในการเรียน แถมยังเรียนเก่งมากด้วย เขาได้รับความช่วยเหลือจากครูเดวีที่ช่วยให้เขาได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นถึงการต่อสู้ของศรีกานต์กับระบบการศึกษาของอินเดียที่มองข้ามคนพิการ การต่อสู้ของเขาทำให้คนพิการได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนคนทั่วไปมากขึ้น แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเท่านั้น ในโลกของการทำงาน การที่คนพิการจะสามารถประกอบอาชีพได้เป็นเรื่องที่ยากมาก ศรีกานต์จึงต้องพิสูจน์ตัวเองหลายๆ อย่างจนเป็นที่ยอมรับของหลายๆ คน หลายคนอ่านเรื่อย่ออาจรู้สึกว่าต้องเป็นหนังเครียดมากแน่ๆ แต่สำหรับจ๋าที่ดูหนังดราม่ามาหลายเรื่อง ศรีกานต์ก็เป็นหนังที่มีความดราม่าและอาจเรียกน้ำตาคนดูได้ไม่ยาก ถึงอย่างงั้นหนังมันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักหน่วงจนมากเกินไป หนังยังให้ความสุข ความอบอุ่น และเสียงหัวเราะให้คนดูได้ผ่อนคลายอยู่ สุดท้ายชีวิตของศรีกานต์จะดำเนินไปอย่างไร ต้องตามไปดูแล้วละ
ให้คะแนน 10/10 ไปเลยค่าา
2. maharaj
ไม่พูดถึงเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จ๋าดูแล้วอินมากกก แบบเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเลยจริงๆ เรื่องนี้ก็สร้างมาจากเรื่องจริงเหมือนกันค่ะ ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1862 เป็นเรื่องราวของนักข่าวที่ชื่อว่า คาร์ซาน เขามีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่ง แล้วเขาก็มาจับได้ว่าคู่หมั้นของเขาแอบมีสัมพันธ์กับมหาราชซึ่งเป็นผู้นำของศาสนาที่คนนับถือมากในเวลานั้น เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตัวเองและครอบครัวได้เข้าถึงพระเจ้า (ในเรื่องคนนับถือพระวิษณุกันค่า) เนื่องจากคนอินเดียเชื่อว่ามหาราชก็คือตัวเเทนของพระวิษณุนั่นแหละ พอคาร์ซานรู้ก็โกรธและเสียใจมากค่ะก็เลยขอถอนหมั้นเลย แล้วพอเขาได้สืบไปสืบมาจึงรู้ว่าไม่ใช่แค่คู่หมั้นของเขาเท่านั้น แต่ยังมีหญิงสาวอีกหลายคนที่ถูกหลอกให้ไปถวายตัวกับมหาราช คาร์ซานเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่อยู่แล้วจึงรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ เขาเลยตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ประจานความผิดของมหาราชเลยค่ะ พอมหาราชรู้ก็ไม่ยอมซิคะ เขาเลยฟ้องคาร์ซานข้อหาหมิ่นประมาทจนกลายเป็นคดีความที่ต้องขึ้นไปในชั้นศาล ก่อให้เกิดการต่อสู้ระหว่างคาร์ซานและมหาราช ซึ่งคดีความนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ ในอินเดียนะคะ ชื่อคดีว่า Maharaj Libel case สำหรับใครที่สนใจลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ
ให้คะแนน 9.5/10
3. badhaai do
เป็นหนังที่ออกมาต้อนรับ pride month ได้อย่างสวยงาม เรื่องราวของตำรวจหนุ่มที่มีแฟนเป็นผู้ชายและครูสาวที่มีแฟนเป็นผู้หญิง พวกเขาต้องแต่งงานกันเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สังคมอินเดียก็อาจจะเหมือนสังคมเอเชียโดยทั่วไปๆ ที่ชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงแทบจะไม่มีสิทธิ์มีเสียงเลยด้วยซ้ำ กับกลุ่ม LGBTQ ก็เช่นกัน เป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่คนในสังคมจะยอมรับ ถึงแม้หนังอาจจะมีความเรื่อยๆ ของมันไปมาก แต่ก็สะท้อนสังคมอินเดียได้เป็นอย่างดีค่ะ จ๋าคิดว่าผู้สร้างคงคาดหวังให้หนังเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้คนในสังคมทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น หนังเรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ก็จริง แต่ก็แฝงไว้ซึ่งแง่คิดหลายอย่างให้เราได้คิดตามไปตลอดทั้งเรื่องค่ะ
ให้คะแนน 8.5/10
4. Gunjan Saxena
จบรีวิวพาทนี้ด้วยเรื่องราวของนักบินรบหญิงคนแรกของอินเดีย กัณจัญ ศักเสนา เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ พ่อกับแม่คาดหวังให้เธอได้แต่งงานและมีครอบครัวเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่กัณจัญมีความฝันที่อยากจะเป็นนักบิน เธอแอบไปสมัครเป็นนักบินรบของหน่วยทหารอินเดีย แม่กับพี่ชายโกรธมากที่เธอทำแบบนั้น มีเพียงพ่อคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวเธอ เมื่อกัณจัญได้เข้าไปฝึกเป็นนักบินในหน่วยทหาร ด้วยความที่เป็นผู้หญิงคนเดียวจึงใช้ชีวิตลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ห้องน้ำ (เพราะในที่ฝีกมีแต่ห้องน้ำชาย) คำดูถูกจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้เธอท้อแล้วท้ออีก สุดท้ายกัณจัญจะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ยังไง ลองไปตามกันได้ใน Netflix ตอนนี้เลยย
ให้คะแนน 10/10
เป็นไงบ้างค่ะเพื่อนๆ ใครมีเรื่องไหนในดวงใจแวะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้น้าาา เดี๋ยวจ๋ามาต่อ part 2 แน่นอนนน