ตกลงพระพุทธเจ้าเป็นคนชาติใดแน่ครับ ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อย

กระทู้คำถาม
เป็นเรื่องสำคัญ แม้จะไม่ผิด ที่ต้องพิสูจน์ว่า พระพุทธองค์ เป็นชนชาติไทย ใครเห็นว่า ไม่สำคัญก็คงบังคับไม่ได้ หากพ่อแม่เราเป็นคนไทย แล้วมีฝรั่งมาบอกว่า เรา เป็นแขก เราก็คงไม่รับ จริงไหม? แต่นี่ เป็นเรื่ององค์พระศาสดาที่เราเคารพเทิดทูน อยู่ๆ ก็มีฝรั่งที่จะมุ่งหวังลาภสักการะ หรือผลทางการเมืองอะไรก็ช่างเถอะ มาทำการเปลี่ยนแปลงประวัติพระพุทธศาสนา เพื่อแสดงว่า เชื้อชาติของเขายิ่งใหญ่ และก็ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา มาเขียนประวัติพุทธศาสนาใหม่ ต้องถามถึงความชอบธรรมด้วย ...ปฐม เหตุแห่งความสงสัยเกิดจากคำถามและข้อสังเกตบางประการ อาทิ
"เหตุใด ในประเทศไทย จึงมีโบราณสถานและโบราณวัตถุเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า เป็นจำนวนมาก แต่ในอินเดียและเนปาล กลับมีไม่ถึง ๒๐๐ แห่ง" ทำไม พระเจ้าอโศกของอินเดียไม่ได้จารึกเรื่องสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๓ ไว้ในเสาหินอโศก ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์สำคัญมากตามที่บัญญัติไว้ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา.....
ทำไมปีที่ขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าอโศกอินเดีย (พ.ศ.๒๖๙-๓๐๖) จึงไม่ตรงกับข้อมูลที่เกี่ยวกับพระเจ้าอโศก (พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช) ที่ระบุในพระปฐมสมโพธิกถาว่า กระทำสังคายนาพระไตรปิฎก พ.ศ. ๒๓๕ และสิ้นพระชนม์ พ.ศ.๒๕๙ พระเจ้าอโศกอินเดีย กับพระเจ้าอโศกไทย จะเป็นคนละองค์กันหรือไม่....

"ช่วงเวลาเข้าพรรษา คือกลางเดือนแปด ถึงกลางเดือน ๑๑ ทำไมตรงกับเมืองไทยพอดี?''

ข้อสงสัยเหล่านี้ ประจวบกับ ข้อมูลที่ไม่ตรงกันระหว่างสภาพจริงในอินเดีย และในพระไตรปิฎก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศ ประเพณี วิถีชีวิต โบราณคดี สถาปัตยกรรม ภาษา หลักฐาน/ตำนานไทย ฯลฯ ประกอบกับงานเขียนของพระธรรมเจดีย์ (ปาน) จุดชนวนทำให้พวกเราทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ขึ้นในอินเดียปัจจุบัน มีโบราณสถานและโบราณวัตถุจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับที่มีในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากโบราณสถานที่อ้างว่า เป็นที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรม ปรินิพพาน และอีก 2-3 แห่งที่เมืองสานจี ถ้ำอาชันตา และนาลันทาแล้ว รวมทั้งสิ้นประมาณ ๑๒๑ แห่งแล้ว ไม่มีโบราณสถานอื่น เช่น พระพุทธบาท เจดีย์ วิหาร ฯลฯ หลงเหลือให้เห็นเลย แม้แต่ที่อ้างว่า พระเจ้า อโศกมหาราชสร้างวิหาร 84,000 วิหารถวายเป็นพุทธบูชา ก็ต้องถามว่า อยู่ที่ไหนบ้าง

พระเจ้าอโศกมหาราช จึงมี ๒ พระองค์ คือ พระเจ้าอโศกแขกที่ Sir Alexander Cunningham อ้างว่า ได้เขียนเสาจารึกพระเจ้าอโศกด้วยอักษรพราหมี กับพระเจ้าอโศกของไทย (พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช) ที่ครองเมืองอโสกไทย (เมืองปาตาลีบุตรหรือฮ้างหลวง) ซึ่งขณะนี้ มีหลักฐานเด่นชัดว่า เมืองปาตาลีบุตรอยู่ห่างจากศรีสัชนาลัย ๒-๓ ชั่วคืน (จารึกวัดศรีชุม) และพระเจ้าเทวานัมปิยัน ปิยทัสสี(Devanum Piyan Piyatassi) ซึ่งแขกอ้างว่า คือ พระเจ้าอโศกมหาราช กับพระเจ้าอโศกไทยที่ทำสังคายนาพระไตรปิฎกและสร้างวัดวิหาร ๘๔.๐๐๐ แห่ง เป็นคนละองค์กัน

สภาพภูมิประเทศ ของเนปาล และอินเดียในปัจจุบันไม่สอดคล้องกับที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกหลายประการที่เกี่ยวกับปราสาท 3 ฤดู ช่วงเวลา เข้าพรรษา และระยะทางจากเมืองต่างๆ ตามที่ปรากฏในพระสูตร และตามที่เป็นจริง

ปราสาท 3 ฤดู ตามพุทธประวัติ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถเจริญวัย พระราชบิดาได้โปรดให้สร้างปราสาท 3 ฤดู คือ ปราสาทฤดูร้อน ปราสาทฤดูฝน และปราสาทฤดูหนาว

แต่เมื่อดูที่ตั้งในเนปาล ดินแดนที่อ้างว่าเป็นที่ตั้งของกรุงกบิลพัสดุแล้ว ปรากฏว่า อยู่เหนือเส้นขนานที่ 24 จัดอยู่ในเขต Tropic of Cancer ซึ่งมี 4 ฤดู ประเทศเนปาลตั้งอยู่เชิงเขาหิมาลัยซึ่งโดยทั่วไปจะมีอากาศเย็น ดังนั้นกรุงกบิลพัสดุซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาท 3 ฤดูจึงไม่น่าจะอยู่ใน ประเทศเนปาล

ช่วงฤดูเข้าพรรษา ตามพระวินัยกำหนดให้พระอยู่ประจำพรรษา 3 เดือนในช่วงเดือนสิงหาคม-กลางเดือนตุลาคม (กลางเดือน ๘ - กลางเดือน ๑๑) ตรงกับช่วงเข้าพรรษาในเมืองไทยไม่คลาดเคลื่อนเลย

ขอผู้รู้เข้ามาช่วยอธิบายด้วยครับ

ในสิ่งที่ผมพอรู้ว่าภาษาที่ใช้น่าจะเป็นภาษาเขมร เพราะมีทั้งบาลีแลสันสกฤต ที่ซึ่งภาษาเหล่านี้น่าจะมีใช้ในอินเดียและเนปาล
ที่ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนคือ 4 สังเวนิสถานเท่านั้นแหละ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่