เนยจากคาร์บอนไดออกไซด์ Savor สตาร์อัปจากแคลิฟอร์เนียซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Bill Gates ประสบความสำเร็จในการสร้างสเปรดไขมันที่เข้มข้นคล้ายเนย โดยใช้เพียงคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจนเท่านั้น ไม่มีส่วนใดเลยที่นำมาจากฟาร์มปศุสัตว์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“กระบวนการเฉพาะของเราไม่มีชีววิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง” Kathleen Alexander จาก Savor กล่าว เนยเหล่านี้เกิดจากกระบวนการเทอร์โมเคมี แต่ได้มาจากคาร์บอนในถ่านหิน มีเทน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมาใช้ผลิต
เมื่อได้วัตถุดิบแล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้นำคาร์บอนเหล่านั้นมาสร้าง ซินแก๊ส (SynGas) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน คาร์บอนมอนออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วนำไปผ่านกระบวนการที่ชื่อว่า ‘Fischer-Tropsch’ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนก๊าซให้กลายเป็นของเหลวไฮโดรคาร์บอนสายยาว
จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสุดท้ายคือเติมออกซิเจนเข้าไปเพื่อสร้างเป็นกรดไขมัน แล้วตามด้วยกลีเซอรอลเพื่อสร้างไตรกลีเซอไรด์ หรือก็คือไขมันรูปแบบหนึ่ง แต่เพื่อให้คล้ายเนยเข้าไปอีก ทีมวิจัยได้เติมน้ำและ Emulsifier ซึ่งก็คือสารที่ทำให้คงตัว ก่อนจะเติมสีและน้ำมันโรสเมรี่เพื่อให้เหมือนของจริงได้มากที่สุด
“พวกเขาเริ่มต้นด้วยความจริงที่ว่าไขมันทั้งหมดประกอบด้วยโซ่อะตอมของคาร์บอนและไฮโดรเจนที่แตกต่างกัน” Bill Gates เขียน “จากนั้น พวกเขาก็ตั้งใจที่จะสร้างโซ่คาร์บอนและไฮโดรเจนแบบเดียวกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับสัตว์หรือพืช ในที่สุดพวกเขาก็พัฒนากระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการนำคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้พวกมันร้อนขึ้น และออกซิไดซ์พวกมันเพื่อกระตุ้นการแยกตัวของ กรดไขมันแล้วก็การสร้างไขมัน"
ขั้นตอนทั้งหมดอาจฟังดูเวียนหัวสำหรับคนทั่วไป แต่จากทั้งหมดเราสามารถพูดได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าเป็นการผลิตเนยจากคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ปราศจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านฟาร์มปศุสัตว์ เนื่องจากเนยในปัจจุบันต้องใช้วัวในการผลิตเป็นส่วนใหญ่
ตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุไว้ว่า การปศุสัตว์นั้นมีส่วนรับผิดชอบในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกเป็นสัตส่วนอยู่ที่ 14.5% และไขมันทางเลือกที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบผลิตก็มีส่วนทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในวงกว้าง
ดังนั้นการผลิตเนยจากก๊าซได้นี้จึงผลกระทบด้านดัานเหล่านี้ไปเป็นจำนวนมาก และจะยิ่งกว่านั้นอีกหากเนยที่บริษัท Savor สามารถนำไปประกอบอาหารได้จริง ก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความท้าทายหลักในตอนนี้คือ ‘ต้นทุน’ และยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไปเพิ่มเติม
“ความท้าทายใหญ่คือการลดต้นทุนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์อย่าง Savor’s มีราคาไม่แพงสำหรับคนทั่วไป ไม่ว่าจะราคาเท่าไขมันสัตว์จริง ๆ หรือน้อยกว่าก็ตาม” Bill Gates เขียน “Savor มีโอกาสประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตอนนี้ เนื่องจากขั้นตอนสำคัญของกระบวนการผลิตไขมันได้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นแล้ว”
พร้อมกับเสริมว่า “กระบวนการนี้ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกใด ๆ และไม่ใช้พื้นที่เพาะปลูก อีกทั้งยังใช้น้ำน้อยกว่า 1 ใน 1000 ส่วนของการเกษตรแบบดั้งเดิม และที่สำคัญที่สุด มันมีรสชาติดีมาก เหมือนของจริงเลย เพราะว่าในทางเคมีแล้วมันเป็นอย่างนั้น(เหมือนกัน)”
ที่มา
-nature.com
-theguardian.com
-newatlas.com
-newscientist.com
Photo : tycoon101/Envato
@environmanth
'เปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกให้กินได้' สตาร์ทอัปที่ได้เงินจาก Bill Gates สร้างเนยจาก CO2 ได้สำเร็จ
“กระบวนการเฉพาะของเราไม่มีชีววิทยาเข้ามาเกี่ยวข้อง” Kathleen Alexander จาก Savor กล่าว เนยเหล่านี้เกิดจากกระบวนการเทอร์โมเคมี แต่ได้มาจากคาร์บอนในถ่านหิน มีเทน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมาใช้ผลิต
เมื่อได้วัตถุดิบแล้ว นักวิทยาศาสตร์ได้นำคาร์บอนเหล่านั้นมาสร้าง ซินแก๊ส (SynGas) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจน คาร์บอนมอนออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วนำไปผ่านกระบวนการที่ชื่อว่า ‘Fischer-Tropsch’ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนก๊าซให้กลายเป็นของเหลวไฮโดรคาร์บอนสายยาว
จากนั้นเข้าสู่กระบวนการสุดท้ายคือเติมออกซิเจนเข้าไปเพื่อสร้างเป็นกรดไขมัน แล้วตามด้วยกลีเซอรอลเพื่อสร้างไตรกลีเซอไรด์ หรือก็คือไขมันรูปแบบหนึ่ง แต่เพื่อให้คล้ายเนยเข้าไปอีก ทีมวิจัยได้เติมน้ำและ Emulsifier ซึ่งก็คือสารที่ทำให้คงตัว ก่อนจะเติมสีและน้ำมันโรสเมรี่เพื่อให้เหมือนของจริงได้มากที่สุด
“พวกเขาเริ่มต้นด้วยความจริงที่ว่าไขมันทั้งหมดประกอบด้วยโซ่อะตอมของคาร์บอนและไฮโดรเจนที่แตกต่างกัน” Bill Gates เขียน “จากนั้น พวกเขาก็ตั้งใจที่จะสร้างโซ่คาร์บอนและไฮโดรเจนแบบเดียวกัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับสัตว์หรือพืช ในที่สุดพวกเขาก็พัฒนากระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการนำคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้พวกมันร้อนขึ้น และออกซิไดซ์พวกมันเพื่อกระตุ้นการแยกตัวของ กรดไขมันแล้วก็การสร้างไขมัน"
ขั้นตอนทั้งหมดอาจฟังดูเวียนหัวสำหรับคนทั่วไป แต่จากทั้งหมดเราสามารถพูดได้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าเป็นการผลิตเนยจากคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ปราศจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านฟาร์มปศุสัตว์ เนื่องจากเนยในปัจจุบันต้องใช้วัวในการผลิตเป็นส่วนใหญ่
ตามที่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุไว้ว่า การปศุสัตว์นั้นมีส่วนรับผิดชอบในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกเป็นสัตส่วนอยู่ที่ 14.5% และไขมันทางเลือกที่ใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบผลิตก็มีส่วนทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพในวงกว้าง
ดังนั้นการผลิตเนยจากก๊าซได้นี้จึงผลกระทบด้านดัานเหล่านี้ไปเป็นจำนวนมาก และจะยิ่งกว่านั้นอีกหากเนยที่บริษัท Savor สามารถนำไปประกอบอาหารได้จริง ก็จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความท้าทายหลักในตอนนี้คือ ‘ต้นทุน’ และยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไปเพิ่มเติม
“ความท้าทายใหญ่คือการลดต้นทุนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์อย่าง Savor’s มีราคาไม่แพงสำหรับคนทั่วไป ไม่ว่าจะราคาเท่าไขมันสัตว์จริง ๆ หรือน้อยกว่าก็ตาม” Bill Gates เขียน “Savor มีโอกาสประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในตอนนี้ เนื่องจากขั้นตอนสำคัญของกระบวนการผลิตไขมันได้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นแล้ว”
พร้อมกับเสริมว่า “กระบวนการนี้ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกใด ๆ และไม่ใช้พื้นที่เพาะปลูก อีกทั้งยังใช้น้ำน้อยกว่า 1 ใน 1000 ส่วนของการเกษตรแบบดั้งเดิม และที่สำคัญที่สุด มันมีรสชาติดีมาก เหมือนของจริงเลย เพราะว่าในทางเคมีแล้วมันเป็นอย่างนั้น(เหมือนกัน)”
ที่มา
-nature.com
-theguardian.com
-newatlas.com
-newscientist.com
Photo : tycoon101/Envato
@environmanth