11 หุ้นเคยรุ่ง มาร์เกตแคปแสนล้าน วันนี้เหลือหลักหมื่นล้าน EA วูบ 3.4 แสนล้าน

ในห้วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรง มาร์เกตแคปทะลุแสนล้านบาท แต่ทว่าในช่วงนี้มาร์เกตแคปลดลงเหลือหลักหมื่นล้านบาทแล้ว บางหลักทรัพย์หายไปเป็นแสนล้านบาท ซึ่งรวบรวมมาได้ 11 หลักทรัพย์ที่ล้วนแต่เป็นหุ้นที่เคยเป็นที่นิยมของนักลงทุนอย่างมาก
1.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 5.05 บาท มาร์เกตแคป 18,836.50 ล้านบาท สิ้นปี 2565 ปิด 97.00 บาท มาร์เกตแคป 361,810.00 ล้านบาท ลดลงไป 342,973.50 ล้านบาท หรือ -94.79% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -88.59% ย้อนหลัง 5 วันคือ -61.45% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 65.75/4.72 บาท ค่า P/E 3.04 เท่า อัตราปันผล 5.94%
 
ขณะนี้ราคาหุ้น EA ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 5.50 บาทต่อหุ้นแล้ว หลัง ก.ล.ต.กล่าวโทษ “สมโภชน์ อาหุนัย” บิ๊กบอส ทำให้สะเทือนแบงก์เจ้าหนี้ และหุ้นกู้ ทั้งนี้ EA เข้าตลาดหุ้น mai เมื่อ 30 ม.ค.2556 ต่อมาวันที่ 6 ม.ค.2560 ย้ายเข้าตลาด SET
 
2.BGRIM บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 21.80 บาท มาร์เกตแคป 56,830.42 ล้านบาท สิ้นปี 2563 ปิด 48.50 บาท มาร์เกตแคป 126,434.65 ล้านบาท ลดลงไป 69,604.23 ล้านบาท หรือ -55.05% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -20.00% ย้อนหลัง 5 วันคือ -3.54% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 39.00/19.50 บาท ค่า P/E 30.48 เท่า อัตราปันผล 1.65%
 
โดยปัจจัยลบจากข่าว รมว.พลังงาน อาจคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติสำหรับเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้ไว้ที่ 4.18 บาท เพื่อพยุงค่าครองชีพ และจะมีการพูดคุยกับทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับภาระหนี้ 9.8 หมื่นล้านบาท
 
3.TLI บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 7.35 บาท มาร์เกตแคป 84,157.50 ล้านบาท สิ้นปี 2565 ปิด 14.90 บาท มาร์เก็ตแคป 170,605.00 ล้านบาท ลดลงไป 86,448.00 ล้านบาท หรือ -50.67% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -19.67% ย้อนหลัง 5 วัน คือ -3.92% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 13.40/7.30 บาท ค่า P/E 8.67 เท่า อัตราปันผล 6.80%
 
ไทยประกันชีวิตกำหนดวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนที่ส่งมอบคุณค่าให้ผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้น จึงมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental/Social/ Governance)
 
4.KCE บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 45.00 บาท มาร์เกตแคป 53,193.99 ล้านบาท สิ้นปี 2564 ปิด 88.00 บาท มาร์เกตแคป 103,979.88 ล้านบาท ลดลงไป 50,785.89 ล้านบาท หรือ -48.84% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -18.18% ย้อนหลัง 5 วันคือ -1.64% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 57.50/36.50 บาท ค่า P/E 28.15 เท่า อัตราปันผล 2.86%
 
ช่วงนี้เจอปัจจัยลบจากความกังวลกรณีที่สหรัฐฯ มีความเข้มงวดในการส่งออกชิปไปยังประเทศจีน ทำให้เกิดเซนติเมนต์เชิงลบในหุ้นกลุ่มดังกล่าว
 
5.EGCO บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 103.00 บาท มาร์เกตแคป 54,225.90 ล้านบาท สิ้นปี 2563 ปิด 192.50 บาท มาร์เกตแคป 101,344.51 ล้านบาท ลดลงไป 47,118.61 ล้านบาท หรือ -46.49% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -19.53% ย้อนหลัง 5 วันคือ -3.29% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 139.50/97.00 บาท ค่า P/E - เท่า อัตราปันผล 6.31%
 
โบรกฯ คาดกำไรปกติในช่วงที่เหลือของปีเร่งตัวขึ้น หนุนโดยโครงการ Hydro ในลาวตามปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และการกลับมาเดินเครื่องปกติของโรงไฟฟ้าหลัก หลังจากหยุดซ่อมบำรุงใน Q1/67 รวมถึงความคืบการก่อสร้างของโครงการหยุนหลินเป็นไปด้วยดี เร็วกว่าแผน คาดก่อสร้างเสร็จและ COD ภายในสิ้นปีนี้
 
6.CBG บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 67.25 บาท มาร์เกตแคป 67,250.00 ล้านบาท สิ้นปี 2564 ปิด 119.50 บาท มาร์เก็ตแคป 119,500.00 ล้านบาท ลดลงไป 52,250.00 ล้านบาท หรือ -43.72% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -18.48% ย้อนหลัง 5 วันคือ -2.54% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 89.50/61.25 บาท ค่า P/E 29.38 เท่า อัตราปันผล 1.34%
 
โบรกฯ คาดว่ายอดขายไตรมาส 2 ของเครื่องดื่มชูกำลังในต่างประเทศจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ขณะที่ฝั่งของเบียร์คาดว่าจะดีขึ้นจากการรุกทำการตลาด รวมถึงภาพอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีโมเมนตัมดีขึ้นต่อเนื่อง อิงจากยอดผลผลิตอุตสาหกรรม
 
7.BJC บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 20.30 บาท มาร์เกตแคป 81,358.27 ล้านบาท สิ้นปี 2565 ปิด 35.25 บาท มาร์เกตแคป 141,274.83 ล้านบาท ลดลงไป 59,916.56 ล้านบาท หรือ -42.41% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -18.80% ย้อนหลัง 5 วันคือ -5.14% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 36.00/20.20 บาท ค่า P/E 20.50 เท่า อัตราปันผล 3.94%
 
ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี คาดว่ากำไรปกติปี 2567 ของ BJC จะเติบโต 9% ตามยอดขายที่คาดว่าโต 4% และ margin +40 bps
 
8.LH บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 5.75 บาท มาร์เกตแคป 68,710.85 ล้านบาท สิ้นปี 2565 ปิด 9.90 บาท มาร์เกตแคป 118,302.16 ล้านบาท ลดลงไป 49,591.31 ล้านบาท หรือ -41.92% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -29.45% ย้อนหลัง 5 วันคือ -4.96% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 8.60/5.70 บาท ค่า P/E 9.34 เท่า อัตราปันผล 8.70%
 
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คงประมาณการปี 2567 คาดกำไรปกติ 6.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 21.3% จากปีก่อนเพราะฐานต่ำ หลังมีโครงการแนวราบเปิดใหม่ Segment ระดับบนเพิ่มขึ้น พร้อมกับการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงแรม Grande Centre Point สุรวงศ์
 
9.MTC บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 40.25 บาท มาร์เกตแคป 85,330.00 ล้านบาท สิ้นปี 2563 ปิด 49.00 บาท มาร์เกตแคป 125,080.00 ล้านบาท ลดลงไป 39,750.00 ล้านบาท หรือ -31.78% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -10.56% ย้อนหลัง 5 วัน คือ -3.01% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 48.50/33.75 บาท ค่า P/ E 16.33 เท่า อัตราปันผล 0.52%
ฝ่ายวิจัยฟินันเซีย ไซรัส ยังคงประมาณการกำไรปี 2567-2569 ของ MTC คาดว่าจะโตเฉลี่ย 23.1% CAGR โดยได้ปัจจัยผลักดันจากสินเชื่อที่คาดว่าจะโตเฉลี่ย 14.7-19.5% ต่อปี (จากการเปิดสาขาเชิงรุกในช่วงปี 2565-2566 และประสิทธิภาพของการปล่อยสินเชื่อต่อสาขาที่ปรับตัวดีขึ้น)
 
10.OSP บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 24.70 บาท มาร์เกตแคป 74,192.63 ล้านบาท สิ้นปี 2563 ปิด 35.50 บาท มาร์เกตแคป 106,633.13 ล้านบาท ลดลงไป 32,440.50 ล้านบาท หรือ -30.42% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ +12.27% ย้อนหลัง 5 วันคือ +6.01% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 30.75/18.30 บาท ค่า P/E 30.25 เท่า อัตราปันผล 6.68%
 
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดกำไรไตรมาส 2/67 มีแนวโน้มเติบโต YoY มีปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายในประเทศที่มีแนวโน้มดี และแนวโน้มอัตรากำไรที่ดีจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ต่ำลง
 
11.GLOBAL บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 19 ก.ค.67 ปิด 15.10 บาท มาร์เกตแคป 78,548.10 ล้านบาท สิ้นปี 2565 ปิด 22.40 บาท มาร์เกตแคป 107,558.90 ล้านบาท ลดลงไป 29,010.80 ล้านบาท หรือ -26.97% ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -8.69% ย้อนหลัง 5 วันคือ -2.58% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 18.17/14.04 บาท ค่า P/E 31.24 เท่า อัตราปันผล 1.11%
 
โบรกฯ คาด GLOBAL ใน 2Q67 จะอยู่ที่ 8.8 พันล้านบาท (+4% YoY, +0.4% QoQ) เพราะการขยายสาขาร้านมีน้ำหนักมากกว่า same-store-sales ที่ติดลบ
 
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าหุ้นเหล่านี้ในอนาคตจะพลิกสถานการณ์ และมีปัจจัยบวกใดมาหนุนนำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นและทำให้มาร์เกตแคปขยับขึ้นหลักแสนล้านได้เหมือนเดิมหรือไม่?

Cr. https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000061998


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่