เฟ้นหาหุ้นเด่น กลุ่ม SET100พื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง !!
ปัจจุบันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามากดดันดัชนีต่อเนื่อง รวมถึงยังมีข่าวร้ายจากบริษัทจดทะเบียนที่กระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ยังมีโอกาสลงทุนซ่อนอยู่เสมอ
โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า อยากให้นักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐาน จะพบว่ายังมีหุ้นที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มการเติบโตอยู่ จากการตรวจสอบหุ้นใน SET100 พบว่ามีราว 40 บริษัท หรือ 40% ที่ D/E Ratio ต่ำกว่า 1 เท่า ส่วนที่สูงกว่า 1 เท่า ส่วนมากคือ กลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์และโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจนี้อยู่แล้ว ขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี รวมถึงอัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์ยังสอดคล้องกับรายได้
สำหรับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเทียบรายได้รวมในไตรมาส 1/67 ที่เป็นช่วงเศรษฐกิจเปราะบางที่สุด ฝ่ายวิเคราะห์พบว่า 76% ยังเป็นบวก ส่วนบริษัทที่กระแสเงินสดเป็นลบจะ Turnaround กลับมาเป็นบวกได้ในปี 2567 เช่น กลุ่มสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ กลุ่มที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและกระแสเงินสดหมุนเวียนดีใน SET100 ส่วนใหญ่กระจุกตัวในกลุ่มการแพทย์ พลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และอาหารเครื่องดื่ม เช่น ITC, BTG, BH, BDMS, BCH, HANA, KCE, M, OSP, STA, SJWD, PTT, GPSC, BEM เป็นต้น
ส่วนปัจจัยพื้นฐานของแต่ละหุ้น Wealthy Thai ขอยกตัวอย่างบางส่วน เช่น BDMS ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 7,564.54 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.43 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 16,280 ล้านบาท โต 13.25% จากปีก่อน ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34 บาท
ถัดมา KCE ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 1,228.46 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.35 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,007 ล้านบาท โต 28% จากปีก่อน ให้คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.50 บาท
OSP ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 1,253.88 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.43 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,746 ล้านบาท โต 25% จากปีก่อน ให้คำแนะนำ Outperform ราคาเป้าหมาย 30.50 บาท
PTT ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 86,449 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.13 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 99,810 ล้านบาท ลดลง 10.90% จากปีก่อน คงคำแนะนำ เก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 38 บาท
GPSC ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 4,628.23 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.57 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 5,349 ล้านบาท โต 44.80% จากปีก่อน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 57 บาท
และ BEM ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 2,002.96 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 2.06 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 3,941 ล้านบาท โต 13.28% จากปีก่อน ให้น้ำหนักลงทุน Outperform ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 11.00 บาท
เฟ้นหาหุ้นเด่น กลุ่ม SET100 พื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง !!
ปัจจุบันการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามากดดันดัชนีต่อเนื่อง รวมถึงยังมีข่าวร้ายจากบริษัทจดทะเบียนที่กระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ยังมีโอกาสลงทุนซ่อนอยู่เสมอ
โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า อยากให้นักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐาน จะพบว่ายังมีหุ้นที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มการเติบโตอยู่ จากการตรวจสอบหุ้นใน SET100 พบว่ามีราว 40 บริษัท หรือ 40% ที่ D/E Ratio ต่ำกว่า 1 เท่า ส่วนที่สูงกว่า 1 เท่า ส่วนมากคือ กลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์และโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจนี้อยู่แล้ว ขณะที่บริษัทส่วนใหญ่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี รวมถึงอัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์ยังสอดคล้องกับรายได้
สำหรับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเทียบรายได้รวมในไตรมาส 1/67 ที่เป็นช่วงเศรษฐกิจเปราะบางที่สุด ฝ่ายวิเคราะห์พบว่า 76% ยังเป็นบวก ส่วนบริษัทที่กระแสเงินสดเป็นลบจะ Turnaround กลับมาเป็นบวกได้ในปี 2567 เช่น กลุ่มสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ กลุ่มที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่งและกระแสเงินสดหมุนเวียนดีใน SET100 ส่วนใหญ่กระจุกตัวในกลุ่มการแพทย์ พลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขนส่ง และอาหารเครื่องดื่ม เช่น ITC, BTG, BH, BDMS, BCH, HANA, KCE, M, OSP, STA, SJWD, PTT, GPSC, BEM เป็นต้น
ส่วนปัจจัยพื้นฐานของแต่ละหุ้น Wealthy Thai ขอยกตัวอย่างบางส่วน เช่น BDMS ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 7,564.54 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 0.43 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดปี 2567 จะมีกำไรสุทธิ 16,280 ล้านบาท โต 13.25% จากปีก่อน ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34 บาท
ถัดมา KCE ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 1,228.46 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.35 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,007 ล้านบาท โต 28% จากปีก่อน ให้คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.50 บาท
OSP ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 1,253.88 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 0.43 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,746 ล้านบาท โต 25% จากปีก่อน ให้คำแนะนำ Outperform ราคาเป้าหมาย 30.50 บาท
PTT ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 86,449 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.13 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 99,810 ล้านบาท ลดลง 10.90% จากปีก่อน คงคำแนะนำ เก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 38 บาท
GPSC ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 4,628.23 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 1.57 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 5,349 ล้านบาท โต 44.80% จากปีก่อน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 57 บาท
และ BEM ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ในไตรมาส 1/67 มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานที่ 2,002.96 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อยู่ที่ 2.06 เท่า ขณะที่แนวโน้มการเติบโต นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดว่าจะมีกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 3,941 ล้านบาท โต 13.28% จากปีก่อน ให้น้ำหนักลงทุน Outperform ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 11.00 บาท