การถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง บวกกับ ความคาดหวังจากแฟนบอลทำนอง "ต้องแชมป์เท่านั้น"...เซ้าธ์เกตแกก็คงกดดันบ้างแหละ แบบนี้

ลองนึกใจเขาใจเราบ้าง คิดๆแล้วก็เห็นใจแกนะ เพราะแกต้องแบกความกดดันจากความคาดหวังของเหล่าแฟนบอลไว้ซะขนาดนั้น
มานึกอีกที เหตุที่ทำให้แกต้องวางแผนเพลย์เซฟอย่างเดียว ก็น่าจะเพราะความกลัวแพ้ (ก็หากแพ้ซะแล้ว จะพาทีมไปถึงเป้าหมายคือการคว้าแชมป์ได้ยังไงล่ะ ?)

      ที่จริงผมว่าแกโดนสถานการณ์กดดันนะ เรียกว่าแบกความกดดันจนหลังแอ่นแหละ
การที่จะบรรลุเป้าหมายคือ...การคว้าแชมป์ และเพื่อเป็นลดความกดดันของตัวแกเองด้วย เลยจำเป็นต้องเล่นสไตล์นี้แหละครับ มันอุ่นใจกว่า
แต่...ผลข้างเคียงอย่างแรกคือ คนดูเชาไม่ชอบบอลสไตล์นี้ แกก็เลยโดนวิจารณ์ซะจนเละ

      พอพาทีมเข้าไปชิงได้ แต่ผลออกมาคือไปไม่ถึงดวงดาว คือดันไปแพ้สเปนในรอบชิงอีก ก็เลยหนีไม่พ้น....ต้องโดนแฟนบอลด่าซ้ำอีก
สรุปคือ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เลยนะ แบบนี้....

ปล.ตลอดยูโรหนนี้ ผมดูอังกฤษเล่นทีไรก็หัวเสียทุกที
แต่เมื่อวาน พอเห็นข่าวว่าแกลาออก ผมเลยเริ่มสะดุดคิดว่า...
การลาออกของเขา คือ "การแสดงความรับผิดชอบที่พาทีมไปได้แค่รอบชิง" อย่างนั้นละหรือ ???

      ความคาดหวังจากแฟนบอลอังกฤษยังคงเป็นแบบนี้อยู่ ใครที่ไหนมันจะกล้าเข้ามารับทำหน้าที่นี้ต่อจากเซ้าธ์เกต คงไม่มีแล้วล่ะ

ความคาดหวังประเภท "ขั้นต่ำต้องได้แชมป์นะ" มันไปกดดันความรู้สึกของโค้ชมากนะ ไม่ดีเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่