[SR] แชร์ประสบการณ์ฟิลเลอร์ปากที่จริงใจ! หวานฉ่ำสุดๆ

ทักทายค่าทุกคนน วันนี้พิมพ์จะมาแชร์ประสบการณ์ทำสวยแบบตัวมัม
ที่ได้ไปลองมาแล้วมันเวิร์กเกินคาดเลย นั่นก็คือการฉีดฟิลเลอร์ปากนั่นเอง
ใครที่กำลังเล็งว่าอยากไปทำรีบมามุงกันเลย พิมพ์มาจะแชร์รีวิวให้ทุกคนกันค่า
 
อย่างแรกเลย อยากเล่าปัญหาให้ฟังกันก่อนเนอะ ตัวพิมพ์เนี่ยเป็นคนที่มีปัญหาริมฝีปากบางมาก ริมฝีปากเล็กทำให้เวลายิ้มจะไม่ค่อยเห็นริมฝีปาก เสียความมั่นใจสุดๆ รู้สึกว่าตัวเองยิ้มไม่สวย ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปเติมความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากของเราสักหน่อย อยากให้ริมฝีปากอวบอิ่มน่ารัก มุมปากยกเป็นทรงดูหวานละมุนขึ้น
 
การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเลือกคุณหมอที่มีความชำนาญสูง พิมพ์ก็เลยเน้นหาข้อมูลฟิลเลอร์แต่ละแบบกับดูรีวิวเคสฉีดปากของคุณหมออย่างละเอียด ซึ่งในกรุงเทพมีคลินิกให้เลือกเยอะมาก แต่ทุกคนต้องศึกษาให้ดีๆนะคะ ตรวจสอบเปรียบเทียบว่าตัวฟิลเลอร์ที่ฉีดเราได้มาตรฐานไหม ของแท้ไหม ถ้าฟิลเลอร์ที่ใช้ไม่เหมาะฉีดกับปากโดยตรงก็จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้นะคะ อันนี้คือต้องศึกษากันดีๆนะ 
 
และสุดท้ายพิมพ์ก็เลือกตัดสินใจให้คุณหมอตั้ม ที่ AMED Clinic พระราม 9 ดูแลพิมพ์เพราะคุณหมอท่านนี้โด่งดังมากเรื่องการปั้นทรงปาก ส่วนตัวชื่นชอบผลงานเคสรีวิวปั้นทรงปากของคุณหมอท่านนี้ และคลินิกก็อยู่ใกล้ MRT พระราม 9 ซึ่งเราเดินทางสะดวกเลยเลือกที่นี่ 

 นี่คือภาพก่อนฉีดนะคะ ซึ่งเรฟที่เราอยากได้ก็คือปากแบบวอนยองวอนใจสไตล์เกาหลี
พอไปถึงคลินิกพี่พนักงานก็ต้อนรับอย่างดี ให้เราเข้าไปปรึกษาคุณหมอ แล้วก็แปะยาชาไปเลย 45 นาที ลืมบอกไปว่าพิมพ์เลือกฉีดฟิลเลอร์ของสเปน เป็น mesofiller รุ่น global ที่เลือกตัวนี้เพราะเนื้อฟิลเลอร์มีอนุภาคละเอียดเหมาะกับฉีดบริเวณปากโดยเฉพาะ สามารถคงรูปได้นานถึง 12 เดือนเลย ที่น่าสนใจคือไม่ผสมยาชา ทำให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงน้อยที่สุด และเป็นฟิลเลอร์บริสุทธิ์ที่ผสานกับผิวได้แบบธรรมชาติ พรีเมียมมากๆมั่นใจว่าปลอดภัยฉีดแล้วไม่เป็นก้อน เท่าที่ฟังคุณหมออธิบายมา mesofiller เค้ามีค่าความปลอดภัยสูงกว่ามาตรฐาน FDA ถึง 40 เท่า ว้าวไปเลยซิคะ ทำไมจะไม่เลือก
 
พอถึงเวลาฉีดก็ตื่นเต้นมากใจเต้นตุ้บๆ แต่คุณหมอตั้มสุภาพและแนะนำดีมาก มีการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้เราเห็นจะๆเพื่อความชัวร์ ทำให้เราผ่อนคลายไปเยอะ วินาทีที่หมอจิ้มเข็มไปที่ปากก็คือท่องในใจว่าอดทนเพื่อความสวย ที่คิดไว้คือต้องเจ็บมากแน่ๆ เพราะเราเลือกฟิลเลอร์แบบไม่ผสมยาชาเนื่องจากพิมพ์อยากได้ความปลอดภัยและเสี่ยงผลข้างเคียงน้อยกว่า แต่ความเป็นจริงคือมันเจ็บน้อยกว่าที่คิดมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เจ็บเลย บางจุดที่จิ้มเข็มลึกก็จะเจ็บหน่อยแต่ทนได้ค่ะ คุณหมอจะเน้นปรับปากบนให้เป็นทรงส่วนปากล่างก็ปั้นเป็นทรงอวบๆแบบละมุนน่าจุ๊บ ใช้ฟิลเลอร์ทั้งหมด 1cc

 และนี่คือภาพหลังฉีดเสร็จทันที คือทรงปากเปลี่ยนไปมากกก คุณหมอมีปรับให้ตรงกระจับไม่ตุ่ยเยอะขนาดเรฟที่ยื่น เน้นปรับให้เข้ากับหน้าเรา พอเสร็จพี่พยาบาลก็จะมาแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ระหว่างนี้ถ้ามีปัญหาอะไรไม่ต้องตกใจ คือสามารถทักไปปรึกษาคลินิกได้ตามปกติ 
 
ส่วนเอฟเฟกต์หลังฉีดมีน้อยมาก จะมีระบมนิดหน่อย ๆ เพราะพิมพ์เป็นคนช้ำง่าย ปัจจุบันคือชอบปากตัวเองมากกก ปากไม่ได้ใหญ่เกินไป ไม่ได้ตุ่ยเกินไป ได้ทรงกระจับพอดีแบบที่เราต้องการ ไม่ล้นมากจนเป็นมาสด้า พอมองรวมๆแล้วก็เข้ากับหน้าเราดียิ่งเวลาทาลิปมันดูเต็มขึ้น เพื่อนๆทักหลายคนว่าทรงปากรับกับหน้ามากขึ้นดูหวานฉ่ำ รู้งี้คือทำนานละ5555
 เอาภาพหลังผ่านไป 7 วันมาฝากค่ะ แอบคิดถูกที่เลือก AMED Clinic แฮปปี้ดีมากค่ะตั้งแต่บรรยากาศคลินิก คุณหมอตั้ม การบริการและคุณภาพของฟิลเลอร์ ใครกำลังหาคลินิกที่ปลอดภัยในการทำหัตถการพิมพ์แนะนำ AMED Clinic เลยค่า รอบหน้าก็แอบคิดนะคะว่าจะไปเติมฟิลเลอร์จุดอื่นๆอีก เห็นบอกว่ามีฟิลเลอร์สำหรับฉีดน้องสาวให้ฟูด้วย ถ้ามีโอกาสได้ไปทำส่วนอื่นไว้พิมพ์จะมารีวิวอีกนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาจนจบค่า💗💗💗