จัดวัดใกล้บ้านที่สุด หรือวัดที่สะดวกที่สุด โชคดีไม่ไปต่างประเทศ เลยหมดกังวลว่าต้องเสียงเงินส่งเถาถ่านกลับบ้าน
ตายแล้วรีบแจ้งโรงพยาบาลมหิดล ให้เค้าจัดการศพให้เรียบร้อย ผมต้องการเป็นอาจารย์ใหญ่ ญาติคนไหนไม่ยอม กุจะแกล้งให้เลขผิด
งานศพ เขียนในพินัยกรรมไว้ชัดเจนว่า ดอกไม้ประตูแจกันไม่รับ ขอเป็นเงินสดเท่านั้น เงินทั้งหมดจะเอาไปลงสองแห่ง
วัดที่ศรัทธา เน้นกรรมฐานตลอดรอดฝั่ง วัดมเหยงคณ์ อยุธยา
โรงพยาบาลที่จังหวัดเกิด อำเภอไกลปืนเที่ยง ชาวบ้านลำบากทนทุกข์มีอยู่มากมาย
และในงาน ไม่ให้เปิดเพลงใดๆ ขอให้ทุกคนมางานแล้วคุยกัน ผมจะได้แอบฟังว่าใครนินทาเรา
(ที่จริงจะไม่ให้จัดงานเลยสักวัน เคยคุยกับแม่ แม่บอกไม่ได้ ต้องจัดวันเดียวก็ต้องจัด ให้พระสวดบ้างซิ ต้องยอมแก ถ้าเราตายก่อน)
งานศพแต่ละภาค คงแตกต่างกันมากมายเด้อเจ้า
Kru Nika
งานศพทางอิสานหมดเยอะเพราะคนมาช่วยงานเยอะ แม้ไม่ได้บอกไม่แจกซองเขาก็มาช่วยเพราะถือว่าทุกคนอยู่ในสังคมเดียวกันพึ่งพากัน
อยู่ในชุมชนเดียวกัน ต่างจากสังคมเมืองที่ต่างคนต่างอยู่
รายจ่ายจึงตกไปที่เรื่องอาหารการกิน แต่หากคิดไปอีกแง่หนึ่ง หากไม่มีคนมาช่วยงานเลย งานศพนั้นจะเป็นงานที่อ้างว้างโดดเดี่ยวดูเหงาหงอย
เหมือนปล่อยเจ้าภาพทุกข์ระทมคนเดียว คนอิสานจึงนิยมมานอนเฝ้าศพเป็นเพื่อนเจ้าภาพ เรียกง่ายๆว่า "เพื่อความอบอุ่น" นั่นแหละค่ะ
ส่วนตัวนั้นดีใจที่ทุกคนมา เพราะต่อสู้มานานกับการดูแลพ่อแม่เข้าออกโรงพยาบาลตลอด นอนใต้เตียงคนไข้ นอนข้างสระโรงพยาบาล
เป็นเรื่องราวที่จดจำได้ดี พอถึงวาระสุดท้ายทุกคนไม่ทอดทิ้งคนที่อยู่ข้างหลังทำให้รู้สึกดีใจเรารู้สึกไม่อ้างว้างเพียงลำพังค่ะ
แต่ในอีกแง่มุมของวัฒนธรรมมองได้ว่ามันคือกับดักจารีตประเพณี สำหรับคนที่มีอันจะกินอาจจะมองว่า ไม่เป็นไร ทำไปเถอะเพื่อคนที่จากไป
แต่สำหรับคนที่ไม่มีนั้นน้ำตาไหล ที่ผ่านมาดูแลยามเจ็บป่วยแล้ว ตายไปยังมีหนี้ก้อนใหญ่มาให้รับไว้อีก
คนตายจากไปไม่รับรู้ คนเป็นอยู่ต่อไปเพื่อใช้ (หนี้)กรรม คนมีลูกเยอะถ้าสามัคคีกันมันจบสวย แต่ถ้ามีเยอะแต่ไม่ช่วยปล่อยเป็นภาระคนใดคนนึง
นี่น่าเวทนาเลยค่ะ
ถึงเวลาที่เราสมควรปรับเปลี่ยนประเพณีเพื่อความอยู่รอดของคนข้างหลังมั้ยคะ? ส่วนตัวหมดแล้วทั้งพ่อและแม่ คิดถึงแต่คนอื่น
ที่กำลังทำหน้าที่ตัวเองอยู่ ทำประกันชีวิตไว้บ้างหรือไม่คะ?
ส่วนสาเหตุที่ยอดเงินซองถวายพระมียอดสูงถึง
50,000 บาท เพราะเป็นเงินหลายเจ้าภาพหลาย ๆ คน หลายคืนที่จัดงาน บางงานมีเจ้าภาพถึง 20 คน
นำมารวมกัน รวมทั้งทางญาติของคนตายด้วย เจ้าหน้าที่ที่เขียนบัญชีงานศพ ได้นำยอดเงินมารวมกันเลยทำให้ยอดสูงถึง 50,000 บาท ส่วนค่าโลงเย็น 21,000 บาท เป็นเงินค่าจัดดอกไม้สดประดับงานศพและเมรุรวมอยู่ด้วย สำหรับค่าสัปเหร่อ 8,200 บาท สำหรับเคสนี้จัดงานศพถึง 5 วัน
ทำให้ต้องมีทีมงานสัปเหร่อสลับวันกันมาดูแล
ผมค่อนข้างสบายใจ เมื่อเปลี่ยนภพภูมินี้ไป งานศพบอกครอบครัว จัดได้จัดวันเดียวหรือไม่เกินสามวันพอ
ตายแล้วรีบแจ้งโรงพยาบาลมหิดล ให้เค้าจัดการศพให้เรียบร้อย ผมต้องการเป็นอาจารย์ใหญ่ ญาติคนไหนไม่ยอม กุจะแกล้งให้เลขผิด
งานศพ เขียนในพินัยกรรมไว้ชัดเจนว่า ดอกไม้ประตูแจกันไม่รับ ขอเป็นเงินสดเท่านั้น เงินทั้งหมดจะเอาไปลงสองแห่ง
วัดที่ศรัทธา เน้นกรรมฐานตลอดรอดฝั่ง วัดมเหยงคณ์ อยุธยา
โรงพยาบาลที่จังหวัดเกิด อำเภอไกลปืนเที่ยง ชาวบ้านลำบากทนทุกข์มีอยู่มากมาย
และในงาน ไม่ให้เปิดเพลงใดๆ ขอให้ทุกคนมางานแล้วคุยกัน ผมจะได้แอบฟังว่าใครนินทาเรา
(ที่จริงจะไม่ให้จัดงานเลยสักวัน เคยคุยกับแม่ แม่บอกไม่ได้ ต้องจัดวันเดียวก็ต้องจัด ให้พระสวดบ้างซิ ต้องยอมแก ถ้าเราตายก่อน)
งานศพแต่ละภาค คงแตกต่างกันมากมายเด้อเจ้า
Kru Nika
งานศพทางอิสานหมดเยอะเพราะคนมาช่วยงานเยอะ แม้ไม่ได้บอกไม่แจกซองเขาก็มาช่วยเพราะถือว่าทุกคนอยู่ในสังคมเดียวกันพึ่งพากัน
อยู่ในชุมชนเดียวกัน ต่างจากสังคมเมืองที่ต่างคนต่างอยู่
รายจ่ายจึงตกไปที่เรื่องอาหารการกิน แต่หากคิดไปอีกแง่หนึ่ง หากไม่มีคนมาช่วยงานเลย งานศพนั้นจะเป็นงานที่อ้างว้างโดดเดี่ยวดูเหงาหงอย
เหมือนปล่อยเจ้าภาพทุกข์ระทมคนเดียว คนอิสานจึงนิยมมานอนเฝ้าศพเป็นเพื่อนเจ้าภาพ เรียกง่ายๆว่า "เพื่อความอบอุ่น" นั่นแหละค่ะ
ส่วนตัวนั้นดีใจที่ทุกคนมา เพราะต่อสู้มานานกับการดูแลพ่อแม่เข้าออกโรงพยาบาลตลอด นอนใต้เตียงคนไข้ นอนข้างสระโรงพยาบาล
เป็นเรื่องราวที่จดจำได้ดี พอถึงวาระสุดท้ายทุกคนไม่ทอดทิ้งคนที่อยู่ข้างหลังทำให้รู้สึกดีใจเรารู้สึกไม่อ้างว้างเพียงลำพังค่ะ
แต่ในอีกแง่มุมของวัฒนธรรมมองได้ว่ามันคือกับดักจารีตประเพณี สำหรับคนที่มีอันจะกินอาจจะมองว่า ไม่เป็นไร ทำไปเถอะเพื่อคนที่จากไป
แต่สำหรับคนที่ไม่มีนั้นน้ำตาไหล ที่ผ่านมาดูแลยามเจ็บป่วยแล้ว ตายไปยังมีหนี้ก้อนใหญ่มาให้รับไว้อีก
คนตายจากไปไม่รับรู้ คนเป็นอยู่ต่อไปเพื่อใช้ (หนี้)กรรม คนมีลูกเยอะถ้าสามัคคีกันมันจบสวย แต่ถ้ามีเยอะแต่ไม่ช่วยปล่อยเป็นภาระคนใดคนนึง
นี่น่าเวทนาเลยค่ะ
ถึงเวลาที่เราสมควรปรับเปลี่ยนประเพณีเพื่อความอยู่รอดของคนข้างหลังมั้ยคะ? ส่วนตัวหมดแล้วทั้งพ่อและแม่ คิดถึงแต่คนอื่น
ที่กำลังทำหน้าที่ตัวเองอยู่ ทำประกันชีวิตไว้บ้างหรือไม่คะ?
ส่วนสาเหตุที่ยอดเงินซองถวายพระมียอดสูงถึง 50,000 บาท เพราะเป็นเงินหลายเจ้าภาพหลาย ๆ คน หลายคืนที่จัดงาน บางงานมีเจ้าภาพถึง 20 คน
นำมารวมกัน รวมทั้งทางญาติของคนตายด้วย เจ้าหน้าที่ที่เขียนบัญชีงานศพ ได้นำยอดเงินมารวมกันเลยทำให้ยอดสูงถึง 50,000 บาท ส่วนค่าโลงเย็น 21,000 บาท เป็นเงินค่าจัดดอกไม้สดประดับงานศพและเมรุรวมอยู่ด้วย สำหรับค่าสัปเหร่อ 8,200 บาท สำหรับเคสนี้จัดงานศพถึง 5 วัน
ทำให้ต้องมีทีมงานสัปเหร่อสลับวันกันมาดูแล