สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์เรื่องราวของคนดัชท์อีกครั้ง เสนอเรื่องการว่ายน้ำค่ะ
จากผลสำรวจ ประชากร 97% ของประเทศเนเธอร์แลนด์สามารถว่ายน้ำได้แบบไม่มีตัวช่วย (เกณฑ์คือว่ายเอาตัวรอดที่น้ำลึก ไม่ใช่ที่น้ำตื้นค่ะ)
สืบเนื่องมาจากประเทศนี้มีเนื้อที่เกินครึ่งอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล และสมัยก่อน(นานมาแล้วมากๆ)เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่และมีคนเสียชีวิตมาก
นับจากนั้นคนในประเทศก็เห็นความสำคัญของการว่ายน้ำ โรงเรียนมีหลักสูตรบังคับว่ายน้ำอยู่นาน จนกระทั่งถอดออกแต่ประชาชนก็ยังพาเด็กๆไปเรียนว่ายน้ำกัน (จ่ายตังกันเอง แต่ใครรายได้น้อยรัฐช่วยออกเงินด้วยนะคะ)
ลูกสาวเราเข้า 4 ขวบ เราก็จัดการลงทะเบียน ตั้งแต่เดือนธันวา 22 แต่ด้วยความที่คนเยอะกว่าจะได้เริ่มเรียนก็คือเดือนกันยา 23 เข้าไปแล้วค่ะ
ทางนี้เด็กคนไหนที่ไม่ได้เรียนว่ายน้ำจะโดนเด็กคนอื่นๆมองว่าประหลาด เพราะใครๆก็ทำค่ะ ใครๆก็มีใบประกาศกัน
ต้องบอกให้เข้าใจว่าเรียนว่ายน้ำของที่นี่ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นการกีฬา แต่มันคือการว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอดค่ะ เด็กๆที่ว่ายน้ำได้แล้วจะต้องสอบเอาใบประกาศ
ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 ใบ คือใบประกาศ A. ใบประกาศ B. และใบประกาศ C หน้าตาเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งประเทศค่ะ
ซึ่งใบประกาศ C นั้น เป็นข้อบังคับว่าผู้ที่ต้องการทำงานด้าน First Responder (ตำรวจ ดับเพลิง พนักงานขับรถฉุกเฉิน รวมถึงทหารต้องมีค่ะ)
เหนือกว่าใบปรกาศ C คือการเรียน ช่วยชีวิตผู้จมน้ำค่ะ
ลูกสาวเราไปเรี่มเรียนมาตั้งแต่ปีทีแล้วเดือนกันยา แรกๆก็เริ่มจากการ เรียนๆเล่น หัดลอยตัว หัดกลั้นหายใจลงหยิบของเล่นในน้ำ ในกรุ๊ปมีประมาณ 7-8 คนค่ะ ครูคนเดียว ไม่อนุญาติให้ผู้ปกครองเข้าใกล้ เราดูอยู่ห่างๆจากตู้กระจก
เราพาลูกสาวไปเข้าคลาสเด็กทรกเล่นน้ำมาตั้งแต่แบเบาะเกือบทุกอาทิตย์ก่อนที่ลูกจะเริ่มเข้าโรงเรียน นางเลยไม่กลัวน้ำ และหลายๆอย่างพอจะทำได้อยู่แล้ว
ขยับขึ้นมาขึ้นที่สูงขึ้นแล้ว เปลี่ยนมาสระที่ใหญ่ขึ้น อันนี้น้ำประมาณหน้าอกของเด็กๆ คุณครูกำลังสอนว่าต้องทำอะไรบ้าง ขึ้นนี้คือ ลอยตัวหงายหลังในน้ำ และใช้เท้ายันน้ำไปค่ะ (ไม่ใช่ตีน้ำนะคะ)

ลอยตัวคว่ำหน้าในน้ำ
พอเริ่มทำได้ ก็ต้องลอทำให้นานขึ้น ขยับขึ้นมาอีกขั้น
เก่งขึ้นอีกแล้ว ครั้งนี้ไปน้ำลึกขึ้นแล้วค่ะ เด็กๆจะยืนไม่ได้แล้ว (เราเองยังยืนไม่ได้ แต่ครูยืนได้เพราะเราเตี้ย 55)
ต่อไปคือท่าสำคัญที่เด็กๆทุกคนจะต้องทำได้ ก็คือการว่ายท่ากบเงยหน้าค่ะ
ฝึกกันนานพอควรกว่าจะจับเทคนิคกันได้ ท่ากบนี้ว่ายแล้วเหนื่อยน้อยมาก สำคัญคือว่ายได้นานและโอกาสรอดชีวิตสูงถ้าตกน้ำค่ะ เลยจัดเป็นทักษสำคัญที่สุดของเรียนว่ายน้ำของที่นี่
กบได้แล้ว ก็ต้องเรียนลอยตัวในน้ำแนวดิ่ง (Water tread)
ทักษะฟรีสไตล์เบื้องต้น
หัดทักษะกระโดดน้ำแบบ Dive และว่ายต่อโดไม่ขึ้นเหนือน้ำลอดรูใต้น้ำ โดยที่สำหรับใบประกาศแรก คือ A อุโมงค์จะอยู่ห่างจากขอบสระ 3เมตร
เริ่มทำได้แล้วคราวนี้ไปสระนักกีฬา สระใหญ่ 25 เมตร และน้ำ3เมตรครึ่ง จากวันนี้ไปไม่ได้ลงน้ำตื้นอีกแล้วค่ะ ฝึกแค่สระนี้เท่านั้น
ทุกครั้งที่มาเรียนที่สระนี้ต้องใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทับชุดว่ายน้ำมานะคะ และรองเท้าด้วยค่ะ
ซ้อมๆๆๆๆๆ
พร้อมสำหรับการสอบใบประกาศแรกแล้วนะคะ สอบที่สระนักกีฬา
ที่เด็กๆจะต้องทำคือ สำหรับใบประกาศ A คือ
ว่ายแบบสวมเสื้อผ้า:
1. กระโดดลงน้ำเอาเท้าลง
2. ตีขาน้ำเป็นเวลา 15 วินาที
3. ว่ายน้ำท่ากบเงยหน้าระยะทาง 12.5 เมตร
4. ดำน้ำลอดใต้อุโมงค์
5. หมุนครึ่งรอบตามแกนยาว
6. ว่ายน้ำท่ากรรเชียงระยะทาง 12.5 เมตร
7. ขึ้นจากน้ำโดนไม่ใช้บันได
และต่อด้วยว่ายในชุดว่ายน้ำ:
1.กระโดดลงน้ำด้วยศีรษะก่อน (Dive)
2.ว่ายน้ำใต้น้ำ 3 เมตรผ่านรู
3.ว่ายน้ำท่ากบเงยหน้าระยะทาง 50 เมตร
4.ว่ายน้ำท่ากรรเชียงระยะทาง 50 เมตร
5.ลอยตัวบนท้องไม่ขยับตัว 5 วินาที และบนหลัง 10 วินาที
6.ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ระยะทาง 5 เมตร
7. ตีขาแนวดิ่งในน้ำเป็นเวลา 60 วินาที โดยหมุนตามแกนยาว 2 ครั้ง
ทำทั้งหมดนี้ผ่านหมดก็จะได้ใบประกาศแรกมานะคะ ตามมาให้กำลังใจลูกสาวค่ะ นางรอวันนี้มานาน ถามทุกครั้งที่ไปว่ายร้ำว่าเมื่อไหร่นางจะได้เลิกใส่ห่วงแขน (ที่นี่ถ้ายังไม่มีประกาศเด็กทุกคนที่มาเล่นน้ำต้องใส่ปลอกแขนค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไปแล้วค่ะ


ท่าฟรีสไตล์พร้อม

กรรเชียงได้

ลอยตัวหน้าคว่ำ

ลอยตัวหงาย


ตีขาลอยตัวแนวดิ่ง 1 นาที
สำเร็จแล้วค่ะ มนุษย์ตัวน้อยของเรา ผ่านหมด ได้ใบประกาศ A มาแล้ว คนดัชท์ที่อายุ15ปีขึ้นไป มากกว่า 90% มีใบประกาศนี้ค่ะ
ตอนนี้ลูกสาวอยู่คลาสสำหรับคนที่จะสอบใบประกาศBนะคะ ซึ่ง จะมีการหงายหลังลงสระ ระยะทางที่ต้องว่ายจะไกลขึ้นทุกท่า อุโมงค์ใต้น้ำคือยาว7 เมตรครึ่ง และต้องว่ายผ่านอุปสรรคเหนือน้ำ ว่ายๆอยู่ปล่อยตัวจมดิ่งอีกหนึ่งครั้ง
สำหรับใบประกาศ C หรือที่เราบอกว่าคนจะเป็นทหาร ตำรวจและดับเพลิงต้องมีนั้น คือ ต้องสอบด้วยการเสื้อแจ๊คแก๊ต และว่ายโดยใช้แขนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นอีกคะ
ปีที่แล้วยังมาตั้งกระทู้ถามเรื่องเรียนว่ายน้ำในวัยผู้ใหญ่ค่ะ
กระทู้นี้ แต่ตอนนี้ตัวเราเองในวัย 40 ก็มีใบประกาศนี้แล้วเช่นกัน สอบได้มาเมื่อเดือนมกราค่ะ
สอบมันตอนโตๆนี่แหละค่ะ ทุกวันนี้เราชอบการว่ายน้ำมากค่ะ ไปว่ายอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง ครั้งละชั่วโมง ไม่มีอาการปวดหลังอีกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมกระทู้ของเราค่ะ
~เด็กดัชท์เรียนว่ายน้ำและสอบว่ายน้ำกันยังไง เหมือนหรือต่างกับเด็กไทยเรียนมั้ย มาดูกันมั้ยคะ :-)
จากผลสำรวจ ประชากร 97% ของประเทศเนเธอร์แลนด์สามารถว่ายน้ำได้แบบไม่มีตัวช่วย (เกณฑ์คือว่ายเอาตัวรอดที่น้ำลึก ไม่ใช่ที่น้ำตื้นค่ะ)
สืบเนื่องมาจากประเทศนี้มีเนื้อที่เกินครึ่งอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล และสมัยก่อน(นานมาแล้วมากๆ)เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่และมีคนเสียชีวิตมาก
นับจากนั้นคนในประเทศก็เห็นความสำคัญของการว่ายน้ำ โรงเรียนมีหลักสูตรบังคับว่ายน้ำอยู่นาน จนกระทั่งถอดออกแต่ประชาชนก็ยังพาเด็กๆไปเรียนว่ายน้ำกัน (จ่ายตังกันเอง แต่ใครรายได้น้อยรัฐช่วยออกเงินด้วยนะคะ)
ลูกสาวเราเข้า 4 ขวบ เราก็จัดการลงทะเบียน ตั้งแต่เดือนธันวา 22 แต่ด้วยความที่คนเยอะกว่าจะได้เริ่มเรียนก็คือเดือนกันยา 23 เข้าไปแล้วค่ะ
ทางนี้เด็กคนไหนที่ไม่ได้เรียนว่ายน้ำจะโดนเด็กคนอื่นๆมองว่าประหลาด เพราะใครๆก็ทำค่ะ ใครๆก็มีใบประกาศกัน
ต้องบอกให้เข้าใจว่าเรียนว่ายน้ำของที่นี่ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นการกีฬา แต่มันคือการว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอดค่ะ เด็กๆที่ว่ายน้ำได้แล้วจะต้องสอบเอาใบประกาศ
ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 ใบ คือใบประกาศ A. ใบประกาศ B. และใบประกาศ C หน้าตาเป็นแบบนี้เหมือนกันทั้งประเทศค่ะ
ซึ่งใบประกาศ C นั้น เป็นข้อบังคับว่าผู้ที่ต้องการทำงานด้าน First Responder (ตำรวจ ดับเพลิง พนักงานขับรถฉุกเฉิน รวมถึงทหารต้องมีค่ะ)
เหนือกว่าใบปรกาศ C คือการเรียน ช่วยชีวิตผู้จมน้ำค่ะ
ลูกสาวเราไปเรี่มเรียนมาตั้งแต่ปีทีแล้วเดือนกันยา แรกๆก็เริ่มจากการ เรียนๆเล่น หัดลอยตัว หัดกลั้นหายใจลงหยิบของเล่นในน้ำ ในกรุ๊ปมีประมาณ 7-8 คนค่ะ ครูคนเดียว ไม่อนุญาติให้ผู้ปกครองเข้าใกล้ เราดูอยู่ห่างๆจากตู้กระจก
เราพาลูกสาวไปเข้าคลาสเด็กทรกเล่นน้ำมาตั้งแต่แบเบาะเกือบทุกอาทิตย์ก่อนที่ลูกจะเริ่มเข้าโรงเรียน นางเลยไม่กลัวน้ำ และหลายๆอย่างพอจะทำได้อยู่แล้ว
ขยับขึ้นมาขึ้นที่สูงขึ้นแล้ว เปลี่ยนมาสระที่ใหญ่ขึ้น อันนี้น้ำประมาณหน้าอกของเด็กๆ คุณครูกำลังสอนว่าต้องทำอะไรบ้าง ขึ้นนี้คือ ลอยตัวหงายหลังในน้ำ และใช้เท้ายันน้ำไปค่ะ (ไม่ใช่ตีน้ำนะคะ)
ลอยตัวคว่ำหน้าในน้ำ
พอเริ่มทำได้ ก็ต้องลอทำให้นานขึ้น ขยับขึ้นมาอีกขั้น
เก่งขึ้นอีกแล้ว ครั้งนี้ไปน้ำลึกขึ้นแล้วค่ะ เด็กๆจะยืนไม่ได้แล้ว (เราเองยังยืนไม่ได้ แต่ครูยืนได้เพราะเราเตี้ย 55)
ต่อไปคือท่าสำคัญที่เด็กๆทุกคนจะต้องทำได้ ก็คือการว่ายท่ากบเงยหน้าค่ะ
ฝึกกันนานพอควรกว่าจะจับเทคนิคกันได้ ท่ากบนี้ว่ายแล้วเหนื่อยน้อยมาก สำคัญคือว่ายได้นานและโอกาสรอดชีวิตสูงถ้าตกน้ำค่ะ เลยจัดเป็นทักษสำคัญที่สุดของเรียนว่ายน้ำของที่นี่
กบได้แล้ว ก็ต้องเรียนลอยตัวในน้ำแนวดิ่ง (Water tread)
ทักษะฟรีสไตล์เบื้องต้น
หัดทักษะกระโดดน้ำแบบ Dive และว่ายต่อโดไม่ขึ้นเหนือน้ำลอดรูใต้น้ำ โดยที่สำหรับใบประกาศแรก คือ A อุโมงค์จะอยู่ห่างจากขอบสระ 3เมตร
เริ่มทำได้แล้วคราวนี้ไปสระนักกีฬา สระใหญ่ 25 เมตร และน้ำ3เมตรครึ่ง จากวันนี้ไปไม่ได้ลงน้ำตื้นอีกแล้วค่ะ ฝึกแค่สระนี้เท่านั้น
ทุกครั้งที่มาเรียนที่สระนี้ต้องใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทับชุดว่ายน้ำมานะคะ และรองเท้าด้วยค่ะ
ซ้อมๆๆๆๆๆ
พร้อมสำหรับการสอบใบประกาศแรกแล้วนะคะ สอบที่สระนักกีฬา
ที่เด็กๆจะต้องทำคือ สำหรับใบประกาศ A คือ
ว่ายแบบสวมเสื้อผ้า:
1. กระโดดลงน้ำเอาเท้าลง
2. ตีขาน้ำเป็นเวลา 15 วินาที
3. ว่ายน้ำท่ากบเงยหน้าระยะทาง 12.5 เมตร
4. ดำน้ำลอดใต้อุโมงค์
5. หมุนครึ่งรอบตามแกนยาว
6. ว่ายน้ำท่ากรรเชียงระยะทาง 12.5 เมตร
7. ขึ้นจากน้ำโดนไม่ใช้บันได
และต่อด้วยว่ายในชุดว่ายน้ำ:
1.กระโดดลงน้ำด้วยศีรษะก่อน (Dive)
2.ว่ายน้ำใต้น้ำ 3 เมตรผ่านรู
3.ว่ายน้ำท่ากบเงยหน้าระยะทาง 50 เมตร
4.ว่ายน้ำท่ากรรเชียงระยะทาง 50 เมตร
5.ลอยตัวบนท้องไม่ขยับตัว 5 วินาที และบนหลัง 10 วินาที
6.ว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ระยะทาง 5 เมตร
7. ตีขาแนวดิ่งในน้ำเป็นเวลา 60 วินาที โดยหมุนตามแกนยาว 2 ครั้ง
ทำทั้งหมดนี้ผ่านหมดก็จะได้ใบประกาศแรกมานะคะ ตามมาให้กำลังใจลูกสาวค่ะ นางรอวันนี้มานาน ถามทุกครั้งที่ไปว่ายร้ำว่าเมื่อไหร่นางจะได้เลิกใส่ห่วงแขน (ที่นี่ถ้ายังไม่มีประกาศเด็กทุกคนที่มาเล่นน้ำต้องใส่ปลอกแขนค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำเร็จแล้วค่ะ มนุษย์ตัวน้อยของเรา ผ่านหมด ได้ใบประกาศ A มาแล้ว คนดัชท์ที่อายุ15ปีขึ้นไป มากกว่า 90% มีใบประกาศนี้ค่ะ
ตอนนี้ลูกสาวอยู่คลาสสำหรับคนที่จะสอบใบประกาศBนะคะ ซึ่ง จะมีการหงายหลังลงสระ ระยะทางที่ต้องว่ายจะไกลขึ้นทุกท่า อุโมงค์ใต้น้ำคือยาว7 เมตรครึ่ง และต้องว่ายผ่านอุปสรรคเหนือน้ำ ว่ายๆอยู่ปล่อยตัวจมดิ่งอีกหนึ่งครั้ง
สำหรับใบประกาศ C หรือที่เราบอกว่าคนจะเป็นทหาร ตำรวจและดับเพลิงต้องมีนั้น คือ ต้องสอบด้วยการเสื้อแจ๊คแก๊ต และว่ายโดยใช้แขนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นอีกคะ
ปีที่แล้วยังมาตั้งกระทู้ถามเรื่องเรียนว่ายน้ำในวัยผู้ใหญ่ค่ะ กระทู้นี้ แต่ตอนนี้ตัวเราเองในวัย 40 ก็มีใบประกาศนี้แล้วเช่นกัน สอบได้มาเมื่อเดือนมกราค่ะ
สอบมันตอนโตๆนี่แหละค่ะ ทุกวันนี้เราชอบการว่ายน้ำมากค่ะ ไปว่ายอย่างน้อยอาทิตย์ละสองครั้ง ครั้งละชั่วโมง ไม่มีอาการปวดหลังอีกแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมกระทู้ของเราค่ะ