อนุกรมวิธาน
Kingdom :
Animalia (สัตว์)
Phylum :
Arthropoda (สัตว์ขาปล้อง)
Subphylum :
Hexapoda (สัตว์ 6 ขา)
Class :
Insecta (แมลง)
Order :
Hemiptera (True bug)
Superfamily :
Cicadoidea (จักจั่น)
จักจั่นทุกๆสายพันธุ์ อยู่ใน Superfamily
Cicadoidea ภายใต้ Order
Hemiptera หรือ True bug (Bug ที่แท้จริง)
ตั้งแต่เด็กมาเราอาจจะคุ้นเคยคำว่า Bug หรือ สัตว์เล็ก กับสัตว์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มด ด้วง ผีเสื้อ แมงมุม กิ้งกือ ตะขาบ
แต่สำหรับนักอนุกรมวิธาน เค้าได้ให้คำจำกัดความของ Bug เอาไว้หลักๆ 2 ประการ คือ
- มีปากแหลมไว้แทงดูดของเหลว
พวกมันไม่สามารถเคี้ยวได้ จะดูดอย่างเดียวเท่านั้น โดยก่อนดูด จะปล่อยเอนไซม์ออกไปย่อยให้เหลวก่อนแล้วค่อยดูด
- ปีกมีลักษณะแข็งทื่อในส่วนต้น และอ่อนย้อยในส่วนปลาย และเราเรียกปีกแบบนี้ว่า Hemelytra
อันเป็นที่มาของชื่ออันดับ
Hemi ที่แปลว่า ครึ่ง +
Pteron ที่แปลว่า ปีก นั่นเอง
1. จักจั่น มีอยู่ในทุกทวีป ยกเว้นขั้วโลกใต้
จักจั่นชอบระบบนิเวศน์ที่มีอากาศอบอุ่น โดยเฉพาะเขต Tropics มากเป็นพิเศษ
2. จักจั่น ไม่ใช่ตั๊กแตน
นี่คือ 1 ในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจักจั่นเลย
จักจั่น จัดเป็น
Hemipteran หรือ True bug เช่นเดียวกับมวนและเพลี้ย
ในขณะซึ่ง ตั๊กแตน จัดเป็น
Orthopteran ซึ่งเป็นกลุ่มแยกของตั๊กแตนและจิ้งหรีด
ความต่างที่ชัดเจนเลยคือ ตั๊กแตนก่อฝูงทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง แต่จักจั่นไม่ทำเช่นนั้น
และ จักจั่นก็เป็นแมลงที่เป็นมิตรด้วย
3. จักจั่น คือ 1 ในแมลงที่มีอายุยืนที่สุด
จักจั่น ก็เหมือนกับแมลงส่วนใหญ่ ตรงที่ว่า ร่างที่มีอายุนานที่สุด ไม่ใช่ร่างตัวเต็มวัย
โดยปกติแล้วตัวอ่อนจักจั่นจะฝังตัวอยู่ใต้ดิน คอยดูดกินน้ำเลี้ยงต้นไม้จากทางราก
ลอกคราบใต้ดินประมาณ 5 ครั้ง แล้วเมื่อโตมากพอก็จะขุดดินขึ้นมาเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัย

ตัวเต็มวัยบนดิน มีอายุเพียงแค่ไม่กี่วีคเท่านั้น ก่อนจะตายจากไป
จักจั่นทั่วไป (Annual cicadas) จะมีอายุเฉลี่ยที่ 2-5 ปี และนี่คือระยะเวลาฝังตัวใต้ดินเช่นกัน
ในขณะที่ จักจั่นระยะเวลา (Periodic cicadas, Genus
Magicicada) ซึ่งมีอยู่ 7 สปีชีส์
จะฝังตัวใต้ดินอยู่ 13 หรือ 17 ปี เลยทีเดียว จะเป็นค่านี้เสมอเลย
4. พวกมันนับปีได้อย่างไร ยังคงเป็นความลับจนทุกวันนี้
จากข้อมูลเชิงสถิติ จักจั่นทั่วโลกกว่าพันสปีชีส์ล้วนแต่ฝังตัวด้วยเลขปีที่เป็น จำนวนเฉพาะ ทั้งหมดทั้งสิ้น
ทั้งคำถามที่ว่า ทำไมต้องเป็นจำนวนปีเป๊ะๆแบบนี้ และ พวกมันนับปียังไง ยังเป็นปริศนาแห่งจักรวาล
สมมุติฐานที่น่าเชื่อถือหนึ่ง มาจากงานวิจัยอันหนึ่งที่ค้นพบว่า พวกตัวอ่อนใต้ดินอาจจะ นับปี โดยอาศัยต้นไม้ที่เกาะเอง
เพราะในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้จะสร้างน้ำตาลและโปรตีนมากมหาศาล และเกิด Byproduct ส่วนเกินขึ้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปีละ 1 ครั้งพอดี
5. จักจั่นไม่เคยจำศีล
แม้จะอยู่ใต้ดินนานเป็นปี แต่พวกมันไม่ได้เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงานอย่างการจำศีล (Hibernation) เลย
กลับกัน พวกมันแอคทีฟแทบจะตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำ
ปากหลอดดูดของพวกมัน เจาะเข้าไปใน Xylem หรือท่อลำเลียงน้ำของต้นไม้
จริงๆต้นไม้มีอีกท่อสำหรับลำเลียงอาหารโดยเฉพาะ เรียกว่า Phloem
แต่จักจั่นดูดเพียง Xylem ซึ่งมีสารอาหารอยู่เพียงน้อยนิด นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกมันโตช้ามาก
แต่การรุมเจาะเข้าที่ Xylem ก็ทำให้ต้นไม้เสียน้ำไปไม่น้อยเลย และฆ่าต้นไม้เล็กๆได้
6. จักจั่นสร้างท่อระบายความชื้นออกจากดินด้วย
ในบริเวณที่ดินมีความชื้นมากเกินไป จักจั่นจะสร้าง Turret หรือ ท่อระบายความชื้น

และท่อนี้สามารถสูงได้ถึง 30 เซนติเมตรเลย
7. จักจั่นขึ้นมาบนดิน เมื่ออากาศมีอุณหภูมิและความชื้นค่าเป๊ะๆค่าหนึ่งเพียงเท่านั้น
จักจั่นไวต่ออุณหภูมิมาก และเป๊ะมากๆ
ไม่ใช่เพียงแค่ระยะเวลาอยู่ใต้ดินต้องครบปี แต่การจะขึ้นมาข้างบน อากาศต้องมีอุณหภูมิและความชื้นที่เพอร์เฟคเท่านั้น
และนั่นคือสัญญาณเรียกร้องให้สมาชิกนับล้าน โผล่ขึ้นมาพร้อมกันในช่วงหนึ่งโดยมิได้นัดหมาย
เมื่อช่วงนั้นเกิดขึ้น เหล่าจักจั่นก็จะใช้เวลาช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกใหม่ๆ หลายวันเลยในการเคลื่อนทัพ
8. จักจั่นตัวเมีย วางไข่ได้มากถึง 600 ฟอง
เพียงไม่กี่วีคก่อนตาย จักจั่นตัวเมียตัวหนึ่ง จะวางไข่ประมาณ 400-600 ฟอง
โดยทำเป็นถุงเก็บไข่ ถุงละประมาณ 25 ฟอง ฝังไปในกิ่งไม้อ่อน
โดยกิ่งไม้อ่อนกิ่งหนึ่ง อาจจะอัดแน่นได้มากถึง 20 ถุงเลย
9. การโผล่ขึ้นดินทีนึงในปริมาณมหาศาล คือกลไกเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง
เมื่อถึงเวลาเหมาะสม จักจั่นจะทำปรากฎการณ์ Inundation หรือ การโผล่ขึ้นดินทีนึงในปริมาณมหาศาล
โผล่ขึ้นมาโดยประมาณ 370 ตัว/ตารางเมตร (อ้างอิง 1.5 ล้านตัว/เอเคอร์)
การทำแบบนี้ช่วยให้มันมีโอกาสรอดที่สูงกว่า เพราะด้วยไขมันที่เยอะ กินแปปเดียวก็อิ่ม
อิ่ม 1-3 รอบก็เบื่อ และไปหาอาหารใหม่ๆแล้ว ไม่นานนักล่าก็ไปหมด
เทคนิคนี้เรียกว่า Satiation คือการยอมเสียกลุ่มที่ออกมาแรกๆไปก่อน แล้วกลุ่มหลัง ก็มีโอกาสโดนล่าที่ต่ำมากๆ
10. จักจั่น เป็นอาหารให้นักล่ามากมาย
เฉกเช่นแมลงที่มีปีกใหญ่เกินความจำเป็น จักจั่นเป็นแมลงบินซุ่มซ่าม
ทำให้มันเป็นเป้าหมายให้สัตว์มากมาย ไม่ว่าจะ นก กิ้งก่า งู สัตว์ฟันแทะ แรคคูน รวมถึง ปลา หมา แมว
และนักล่าหลักของมันเองอย่าง ต่อเพชรฆาตจักจั่น (Cicada killer wasp)
11. มนุษย์ ก็กินจักจั่น
บางคนว่ามันรสชาติคล้ายกุ้ง ในขณะที่บางคนนึกถึงหน่อไม้ฝรั่ง และบางคนจินตนาการไปซะยันเนยถั่ว
จะอย่างไรก็เถอะ จักจั่น ไม่ใช่อาหารปลอดภัย 100% มันอาจจะสะสมสารปรอทในตัว และเป็นอันตรายได้
โดยเฉพาะกับคนที่แพ้หอย (ปกติหอย โดยเฉพาะหอยนางรม ในธรรมชาติก็มักจะสะสมสารปรอทในตัว)
12. เทศกาลผสมพันธุ์ครั้งหนึ่ง มีคราบจักจั่นเป็นล้านเกลื่อนพื้น
เมื่อฤดูร้อนจบลง ก็จะเกิด คราบ (Exuvia) มหาศาลซะราวกับว่าจะร่มรากต้นไม้
ซึ่งจะเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต่อไป
13. เสียงของพวกมัน ดังกระหึ่มมากกว่าเครื่องตัดหญ้า เสียอีก

เมื่อโผล่มาจนท่วมท้น เหล่าตัวผู้ก็บรรเลงเพลงจีบสาวกันสนั่นกังวาล
ด้วยความดังประมาณ 100-110 เดซิเบล

การสร้างเสียงของจักจั่น ทำโดยการเสียดสีอวัยวะส่วนที่เรียกว่า ทิมบาล (Tymbal)
อันมีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อซี่กรงสีขาว
14. ไม่ใช่จักจั่นทุกตัว ที่บรรเลงมหากาพย์
มีแค่ตัวผู้เท่านั้นที่ทำ ในขณะที่ตัวเมียนั้น สร้างเพียงแค่เสียง คลิ๊กเบาๆ เท่านั้น เพื่อใช้ตอบรับตัวผู้
15. ของเสียงดัง ก็ดึงดูดตัวเมียได้
ด้วยเสียงกระหึ่มติดต่อกันนานจนหูจะดับไปชั่วขณะ
บางทีการจะมาแยกแยะว่าใช่เสียงจักจั่นไหม ก็อาจจะยากเกินไป
อีกทั้งในธรรมชาติ มันไม่ได้มีเสียงอื่นที่ดังแข่งในช่วงเวลาเดียวกันเสียหน่อย
ดังนั้นแล้ว แค่เข้าหาแหล่งกำเนิดเสียงที่ดังกว่าใครเค้า ก็น่าจะเพียงพอนี่นา
เพราะแบบนั้น เราเลยพบจักจั่นเกาะตามเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียงดังได้ไม่ยาก
16. จักจั่น ขึ้นมาบนดินเพื่อผสมพันธุ์แล้วตายจากไป เพียงเท่านั้น
ตัวผู้ จะตายแทบทันทีหลังผสมพันธุ์เสร็จ
ส่วนตัวเมีย ก็ตายในเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นคือหลังวางไข่เสร็จ
17. ปีกจักจั่น กันน้ำ และ ฆ่าจุลินทรีย์
บนปีกของจักจั่น มีสิ่งที่เรียกว่า Nanopillar มีลักษณะเป็นแท่งเสาปลายแหลมขนาดจิ๋ว
คุณสมบัติ Hydrophobicity อันน่าทึ่งของ Nanopillars ทำให้มันกันน้ำได้ดีกว่าเสื้อกันฝนเสียอีก
และที่ตัว Nanopillars ก็มีสารเคลือบ อันมีฤทธิ์ฆ่าจุลินทรีย์หลายๆชนิดได้
18. มีจักจั่นที่พกเชื้อราติดตัวไว้ด้วย
Ophiocordyceps spp. คือเชื้อราที่เป็นฝันร้ายของมด
เพราะว่ามันสามารถเปลี่ยนมดให้กลายเป็นซอมบี้ได้ไม่ยากเลย

กับจักจั่นก็เช่นกัน มันเข้าร่างกายวัยตัวอ่อนใต้ดิน ทำให้จักจั่นขึ้นข้างบนทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา
แล้วก็ฆ่าจักจั่นทิ้งเพื่อแพร่พันธุ์ต่อไป
แต่มีจักจั่นบางสปีชีส์ในญี่ปุ่น ที่วิวัฒนาการให้อยู่ร่วมกันได้
โดยใช้
Ophiocordyceps ที่อยู่ในตัวแปรเปลี่ยนอาหารที่มันกินเข้าไป ให้มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นไปอีก
REFERENCE
https://www.smithsonianmag.com/science-nature/14-fun-facts-about-cicadas-180977361/
https://www.treehugger.com/cicada-facts-5120497
https://smv.org/learn/blog/17-cicada-facts-celebrate-17-years/
https://www.framespestcontrol.com/blog/common-facts-about-cicadas
https://news.illinois.edu/view/6367/807902
ชีวิตมหัศจรรย์ EP. 1 - 18 เรื่องที่น่าสนใจของ จักจั่น (Cicada)
อนุกรมวิธาน
Kingdom : Animalia (สัตว์)
Phylum : Arthropoda (สัตว์ขาปล้อง)
Subphylum : Hexapoda (สัตว์ 6 ขา)
Class : Insecta (แมลง)
Order : Hemiptera (True bug)
Superfamily : Cicadoidea (จักจั่น)
จักจั่นทุกๆสายพันธุ์ อยู่ใน Superfamily Cicadoidea ภายใต้ Order Hemiptera หรือ True bug (Bug ที่แท้จริง)
ตั้งแต่เด็กมาเราอาจจะคุ้นเคยคำว่า Bug หรือ สัตว์เล็ก กับสัตว์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มด ด้วง ผีเสื้อ แมงมุม กิ้งกือ ตะขาบ
แต่สำหรับนักอนุกรมวิธาน เค้าได้ให้คำจำกัดความของ Bug เอาไว้หลักๆ 2 ประการ คือ
- มีปากแหลมไว้แทงดูดของเหลว
พวกมันไม่สามารถเคี้ยวได้ จะดูดอย่างเดียวเท่านั้น โดยก่อนดูด จะปล่อยเอนไซม์ออกไปย่อยให้เหลวก่อนแล้วค่อยดูด
- ปีกมีลักษณะแข็งทื่อในส่วนต้น และอ่อนย้อยในส่วนปลาย และเราเรียกปีกแบบนี้ว่า Hemelytra
อันเป็นที่มาของชื่ออันดับ Hemi ที่แปลว่า ครึ่ง + Pteron ที่แปลว่า ปีก นั่นเอง
1. จักจั่น มีอยู่ในทุกทวีป ยกเว้นขั้วโลกใต้
จักจั่นชอบระบบนิเวศน์ที่มีอากาศอบอุ่น โดยเฉพาะเขต Tropics มากเป็นพิเศษ
2. จักจั่น ไม่ใช่ตั๊กแตน
นี่คือ 1 ในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจักจั่นเลย
จักจั่น จัดเป็น Hemipteran หรือ True bug เช่นเดียวกับมวนและเพลี้ย
ในขณะซึ่ง ตั๊กแตน จัดเป็น Orthopteran ซึ่งเป็นกลุ่มแยกของตั๊กแตนและจิ้งหรีด
ความต่างที่ชัดเจนเลยคือ ตั๊กแตนก่อฝูงทำลายล้างอย่างบ้าคลั่ง แต่จักจั่นไม่ทำเช่นนั้น
และ จักจั่นก็เป็นแมลงที่เป็นมิตรด้วย
3. จักจั่น คือ 1 ในแมลงที่มีอายุยืนที่สุด
จักจั่น ก็เหมือนกับแมลงส่วนใหญ่ ตรงที่ว่า ร่างที่มีอายุนานที่สุด ไม่ใช่ร่างตัวเต็มวัย
โดยปกติแล้วตัวอ่อนจักจั่นจะฝังตัวอยู่ใต้ดิน คอยดูดกินน้ำเลี้ยงต้นไม้จากทางราก
ลอกคราบใต้ดินประมาณ 5 ครั้ง แล้วเมื่อโตมากพอก็จะขุดดินขึ้นมาเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัย
ตัวเต็มวัยบนดิน มีอายุเพียงแค่ไม่กี่วีคเท่านั้น ก่อนจะตายจากไป
จักจั่นทั่วไป (Annual cicadas) จะมีอายุเฉลี่ยที่ 2-5 ปี และนี่คือระยะเวลาฝังตัวใต้ดินเช่นกัน
ในขณะที่ จักจั่นระยะเวลา (Periodic cicadas, Genus Magicicada) ซึ่งมีอยู่ 7 สปีชีส์
จะฝังตัวใต้ดินอยู่ 13 หรือ 17 ปี เลยทีเดียว จะเป็นค่านี้เสมอเลย
4. พวกมันนับปีได้อย่างไร ยังคงเป็นความลับจนทุกวันนี้
จากข้อมูลเชิงสถิติ จักจั่นทั่วโลกกว่าพันสปีชีส์ล้วนแต่ฝังตัวด้วยเลขปีที่เป็น จำนวนเฉพาะ ทั้งหมดทั้งสิ้น
ทั้งคำถามที่ว่า ทำไมต้องเป็นจำนวนปีเป๊ะๆแบบนี้ และ พวกมันนับปียังไง ยังเป็นปริศนาแห่งจักรวาล
สมมุติฐานที่น่าเชื่อถือหนึ่ง มาจากงานวิจัยอันหนึ่งที่ค้นพบว่า พวกตัวอ่อนใต้ดินอาจจะ นับปี โดยอาศัยต้นไม้ที่เกาะเอง
เพราะในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้จะสร้างน้ำตาลและโปรตีนมากมหาศาล และเกิด Byproduct ส่วนเกินขึ้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นปีละ 1 ครั้งพอดี
5. จักจั่นไม่เคยจำศีล
แม้จะอยู่ใต้ดินนานเป็นปี แต่พวกมันไม่ได้เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงานอย่างการจำศีล (Hibernation) เลย
กลับกัน พวกมันแอคทีฟแทบจะตลอดเวลาเสียด้วยซ้ำ
ปากหลอดดูดของพวกมัน เจาะเข้าไปใน Xylem หรือท่อลำเลียงน้ำของต้นไม้
จริงๆต้นไม้มีอีกท่อสำหรับลำเลียงอาหารโดยเฉพาะ เรียกว่า Phloem
แต่จักจั่นดูดเพียง Xylem ซึ่งมีสารอาหารอยู่เพียงน้อยนิด นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกมันโตช้ามาก
แต่การรุมเจาะเข้าที่ Xylem ก็ทำให้ต้นไม้เสียน้ำไปไม่น้อยเลย และฆ่าต้นไม้เล็กๆได้
6. จักจั่นสร้างท่อระบายความชื้นออกจากดินด้วย
ในบริเวณที่ดินมีความชื้นมากเกินไป จักจั่นจะสร้าง Turret หรือ ท่อระบายความชื้น
และท่อนี้สามารถสูงได้ถึง 30 เซนติเมตรเลย
7. จักจั่นขึ้นมาบนดิน เมื่ออากาศมีอุณหภูมิและความชื้นค่าเป๊ะๆค่าหนึ่งเพียงเท่านั้น
จักจั่นไวต่ออุณหภูมิมาก และเป๊ะมากๆ
ไม่ใช่เพียงแค่ระยะเวลาอยู่ใต้ดินต้องครบปี แต่การจะขึ้นมาข้างบน อากาศต้องมีอุณหภูมิและความชื้นที่เพอร์เฟคเท่านั้น
และนั่นคือสัญญาณเรียกร้องให้สมาชิกนับล้าน โผล่ขึ้นมาพร้อมกันในช่วงหนึ่งโดยมิได้นัดหมาย
เมื่อช่วงนั้นเกิดขึ้น เหล่าจักจั่นก็จะใช้เวลาช่วงเย็นหลังพระอาทิตย์ตกใหม่ๆ หลายวันเลยในการเคลื่อนทัพ
8. จักจั่นตัวเมีย วางไข่ได้มากถึง 600 ฟอง
เพียงไม่กี่วีคก่อนตาย จักจั่นตัวเมียตัวหนึ่ง จะวางไข่ประมาณ 400-600 ฟอง
โดยทำเป็นถุงเก็บไข่ ถุงละประมาณ 25 ฟอง ฝังไปในกิ่งไม้อ่อน
โดยกิ่งไม้อ่อนกิ่งหนึ่ง อาจจะอัดแน่นได้มากถึง 20 ถุงเลย
9. การโผล่ขึ้นดินทีนึงในปริมาณมหาศาล คือกลไกเอาตัวรอดอย่างหนึ่ง
เมื่อถึงเวลาเหมาะสม จักจั่นจะทำปรากฎการณ์ Inundation หรือ การโผล่ขึ้นดินทีนึงในปริมาณมหาศาล
โผล่ขึ้นมาโดยประมาณ 370 ตัว/ตารางเมตร (อ้างอิง 1.5 ล้านตัว/เอเคอร์)
การทำแบบนี้ช่วยให้มันมีโอกาสรอดที่สูงกว่า เพราะด้วยไขมันที่เยอะ กินแปปเดียวก็อิ่ม
อิ่ม 1-3 รอบก็เบื่อ และไปหาอาหารใหม่ๆแล้ว ไม่นานนักล่าก็ไปหมด
เทคนิคนี้เรียกว่า Satiation คือการยอมเสียกลุ่มที่ออกมาแรกๆไปก่อน แล้วกลุ่มหลัง ก็มีโอกาสโดนล่าที่ต่ำมากๆ
10. จักจั่น เป็นอาหารให้นักล่ามากมาย
เฉกเช่นแมลงที่มีปีกใหญ่เกินความจำเป็น จักจั่นเป็นแมลงบินซุ่มซ่าม
ทำให้มันเป็นเป้าหมายให้สัตว์มากมาย ไม่ว่าจะ นก กิ้งก่า งู สัตว์ฟันแทะ แรคคูน รวมถึง ปลา หมา แมว
และนักล่าหลักของมันเองอย่าง ต่อเพชรฆาตจักจั่น (Cicada killer wasp)
11. มนุษย์ ก็กินจักจั่น
บางคนว่ามันรสชาติคล้ายกุ้ง ในขณะที่บางคนนึกถึงหน่อไม้ฝรั่ง และบางคนจินตนาการไปซะยันเนยถั่ว
จะอย่างไรก็เถอะ จักจั่น ไม่ใช่อาหารปลอดภัย 100% มันอาจจะสะสมสารปรอทในตัว และเป็นอันตรายได้
โดยเฉพาะกับคนที่แพ้หอย (ปกติหอย โดยเฉพาะหอยนางรม ในธรรมชาติก็มักจะสะสมสารปรอทในตัว)
12. เทศกาลผสมพันธุ์ครั้งหนึ่ง มีคราบจักจั่นเป็นล้านเกลื่อนพื้น
เมื่อฤดูร้อนจบลง ก็จะเกิด คราบ (Exuvia) มหาศาลซะราวกับว่าจะร่มรากต้นไม้
ซึ่งจะเป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ต่อไป
13. เสียงของพวกมัน ดังกระหึ่มมากกว่าเครื่องตัดหญ้า เสียอีก
เมื่อโผล่มาจนท่วมท้น เหล่าตัวผู้ก็บรรเลงเพลงจีบสาวกันสนั่นกังวาล
ด้วยความดังประมาณ 100-110 เดซิเบล
การสร้างเสียงของจักจั่น ทำโดยการเสียดสีอวัยวะส่วนที่เรียกว่า ทิมบาล (Tymbal)
อันมีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อซี่กรงสีขาว
14. ไม่ใช่จักจั่นทุกตัว ที่บรรเลงมหากาพย์
มีแค่ตัวผู้เท่านั้นที่ทำ ในขณะที่ตัวเมียนั้น สร้างเพียงแค่เสียง คลิ๊กเบาๆ เท่านั้น เพื่อใช้ตอบรับตัวผู้
15. ของเสียงดัง ก็ดึงดูดตัวเมียได้
ด้วยเสียงกระหึ่มติดต่อกันนานจนหูจะดับไปชั่วขณะ
บางทีการจะมาแยกแยะว่าใช่เสียงจักจั่นไหม ก็อาจจะยากเกินไป
อีกทั้งในธรรมชาติ มันไม่ได้มีเสียงอื่นที่ดังแข่งในช่วงเวลาเดียวกันเสียหน่อย
ดังนั้นแล้ว แค่เข้าหาแหล่งกำเนิดเสียงที่ดังกว่าใครเค้า ก็น่าจะเพียงพอนี่นา
เพราะแบบนั้น เราเลยพบจักจั่นเกาะตามเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียงดังได้ไม่ยาก
16. จักจั่น ขึ้นมาบนดินเพื่อผสมพันธุ์แล้วตายจากไป เพียงเท่านั้น
ตัวผู้ จะตายแทบทันทีหลังผสมพันธุ์เสร็จ
ส่วนตัวเมีย ก็ตายในเวลาไล่เลี่ยกัน นั่นคือหลังวางไข่เสร็จ
17. ปีกจักจั่น กันน้ำ และ ฆ่าจุลินทรีย์
บนปีกของจักจั่น มีสิ่งที่เรียกว่า Nanopillar มีลักษณะเป็นแท่งเสาปลายแหลมขนาดจิ๋ว
คุณสมบัติ Hydrophobicity อันน่าทึ่งของ Nanopillars ทำให้มันกันน้ำได้ดีกว่าเสื้อกันฝนเสียอีก
และที่ตัว Nanopillars ก็มีสารเคลือบ อันมีฤทธิ์ฆ่าจุลินทรีย์หลายๆชนิดได้
18. มีจักจั่นที่พกเชื้อราติดตัวไว้ด้วย
Ophiocordyceps spp. คือเชื้อราที่เป็นฝันร้ายของมด
เพราะว่ามันสามารถเปลี่ยนมดให้กลายเป็นซอมบี้ได้ไม่ยากเลย
กับจักจั่นก็เช่นกัน มันเข้าร่างกายวัยตัวอ่อนใต้ดิน ทำให้จักจั่นขึ้นข้างบนทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา
แล้วก็ฆ่าจักจั่นทิ้งเพื่อแพร่พันธุ์ต่อไป
แต่มีจักจั่นบางสปีชีส์ในญี่ปุ่น ที่วิวัฒนาการให้อยู่ร่วมกันได้
โดยใช้ Ophiocordyceps ที่อยู่ในตัวแปรเปลี่ยนอาหารที่มันกินเข้าไป ให้มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นไปอีก
REFERENCE
https://www.smithsonianmag.com/science-nature/14-fun-facts-about-cicadas-180977361/
https://www.treehugger.com/cicada-facts-5120497
https://smv.org/learn/blog/17-cicada-facts-celebrate-17-years/
https://www.framespestcontrol.com/blog/common-facts-about-cicadas
https://news.illinois.edu/view/6367/807902