สวัสดีครับเพื่อนสมาชิก
ผมเป็นเกย์ในวัยทำงานครับผม
ในอดีต เวลาผมมีอารมณ์ทางเพศ ผมก็จะเป็นคนชอบไป "นวด" ครับ
โดยการไป "นวด" ในที่นี้คือ ร้านนวดพ่วงบริการเสริมทางเพศ
คนละแบบกับสปาในโรงแรมหรือHealth Landนะครับ ขออย่าสับสนหรือเข้าใจผิดในจุดนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับท่านที่ไม่เข้าใจร้านนวดของชาวเกย์ ผมได้เขียนบรรยายไว้ตามลิงค์นี้
เนื่องจากไม่สามารถโพสต์ลงในพันทิปได้ ด้วยวิจารณเหตุผลของทีมงานว่าเข้าข่ายลามกอนาจาร
เล่าสู่กันฟังเมื่อผมได้พูดคุยและใช้บริการ "ร้านนวดชายและผู้ชายขายบริการ"
ประเด็นในเรื่องของความ "ชอบธรรม" ของการขายบริการทางเพศ เป็นที่ถกเถียงกันมานาน
ในพันทิปเอง ผมลองเสิชกระทู้ก็เคยมีการพูดถึงประเด็น "เกียรติ&ศักดิ์ศรี" ของการ "ขายตัว"
ถามทุกท่าน : คุณยอมให้"โสเภณี" เป็นอาชีพที่มีเกียรติหรือไม่?
โดยกระทู้นั้นเป็นกระทู้ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 หรือกว่า 10ปีผ่านมาแล้ว
และดูเหมือนว่า การถกเถียงกันในเรื่องนี้ก็ยังคงดำเนินต่อมายังปัจจุบัน
คนจำนวนไม่น้อย มีความคิดและยึดติดอยู่กับ "ภาพ" ของผู้ขายบริการทางเพศว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
คนจำนวนไม่น้อย อีกเช่นกันที่มองงานขายบริการทางเพศเป็นงานสิ้นคิดและโง่เขลา
ประโยคที่ว่า "ถ้างานนี้มันมีเกียรติ ก็ให้คนในบ้านคุณไปทำสิ" , "มันก็แค่งานง่ายๆของคนรักสบายและร้อนเงินเท่านั้นแหละ"
ก็ยังคงฝังเป็นฐานรากของฝ่ายต่อต้านอาชีพขายบริการทางเพศ
ในขณะผู้ที่เห็นด้วยกับอาชีพนี้ต่างเรียกร้องให้รัฐคุ้มครองและให้สวัสดิการ เปลี่ยนความ "เทาๆ" ให้เป็นความชัดเจนไปเลย
ตัวผมเอง ถ้าพูดด้วยความเป็นกลางและบนพื้นฐานของคนเป็นคนเท่ากัน
ผมมองอาชีพขายบริการทางเพศ “ไม่ใช่งานง่าย” ครับ
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่:
1. เป็นอาชีพเสี่ยงภัย กล่าวคือ เสี่ยงโรคภัยทางกายและ ภัยทางสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังมีภัยจากอาชญากรรมและยาเสพติดอีกด้วย
2. เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนสูง อดทนกับอะไรอันนี้ผมคงไม่ขอบรรยายให้เป็นความอดสูหรือเข้าข่ายอนาจารนะครับ
3. เป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะ ถามว่าทักษะอะไรหรอไอ้การขายตัวเนี่ย? คำตอบคือ "ทักษะการเอาตัวรอด" ครับ
ด้วยลักษณะหลักๆของอาชีพขายบริการทางเพศสามประการที่ผมพูดถึง รายได้ของอาชีพนี้จึงสูงและล่อตาล่อใจ
แต่ถ้าเรามองว่ารายได้ที่มากนั้นเป็นเบี้ยเลี้ยง "ค่าเสี่ยงภัย" ผมว่ามันก็ยุติธรรมระหว่างสิ่งที่พวกเขา "เสีย" และสิ่งที่พวกเขา "ได้รับ"
น่าแปลกที่พนักงาน white collar ที่พาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เผชิญความเครียดสูงแลกกับผลตอบแทนสูง
เขามีสิทธิ์ใช้คำว่า “Work hard, play hard”
แต่สำหรับผู้ขายบริการทางเพศที่เผชิญความเครียดและความเสี่ยง ”Work hard, play (pay) hard” ดันกลายเป็นคำค่อนขอดของคนบางกลุ่ม
ในประเด็นเรื่องของเกียรติยศและศักดิ์ศรี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากเลย
มันควรเริ่มที่ว่า การขายบริการทางเพศเป็นอาชีพที่สุจริตและมีศีลธรรมหรือไม่?
ถ้าคำตอบคุณชัดเจนว่ามันเป็น "อาชีพไม่สุจริตและไร้ศีลธรรม" ประเด็นเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีมันก็ไม่ต้องพูดกันต่อ
เพราะมันถูกทำลายลงไปโดยทัศนะเบื้องต้นที่มีต่ออาชีพ
แต่ถ้าคำตอบของคุณคือ การมองว่า "อาชีพขายบริการทางเพศเป็นงานสุจริต"
เรื่อง "ศีลธรรม,เกียรติและศักดิ์ศรี" ก็เป็นประเด็นที่ต้องมาพิจารณาต่อเป็นกรณีกรณีไป
ผมก็มองว่าการขายบริการทางเพศมันก็คืออาชีพเฉพาะอาชีพหนึ่งที่ใช้ร่างกายเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
ส่วน "เกียรติกับศักดิ์ศรี" นั้นขึ้นอยู่กับการมองตัวเองและการเคารพในตัวเอง
ความศรัทธาในตัวเองขณะทำงานนั้นจะเป็นเครื่องบอกตัวเราเองว่ามีศักดิ์ศรีหรือไม่
แต่สิ่งที่คนภายนอกอย่างเราทำได้คือคือการให้เกียรติเขา เป็นการเคารพกันและมนุษยธรรมในขั้นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนมนุษย์
ในส่วนของ "ศีลธรรม" อันนี้ผมว่ายิ่งละเอียดลึกเข้าไปในก้นบึ้งของจิตใจในแต่ละบุคคลที่ยากจะตัดสิน
ถ้าพูดกันในหลักพุทธศาสนาโดยยกศีล5มาอ้าง คำถามเรื่องศีลธรรมจะขัดแย้งและน่าจะเป็นที่ถกเถียงกันไปใหญ่
คนขายเหล้าเบียร์ , คนทำงานโรงเชือดสัตว์ , ฯลฯ ก็น่าจะต้องถูกตั้งคำถามในเรืองศีลธรรมไปด้วยหรือเปล่า
หลายท่านที่สละเวลาอ่านมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าคงมองว่าผมโลกสวย
บางคนที่ต่อต้านอาจแย้งผมกลับด้วยคำถามที่ว่า "ถ้าให้คบหรือมีอนาคตกับคนขายบริการหรือเคยขายบริการคุณจะเอาไหมหล่ะ?"
คำตอบของผมก็คงเป็นไปตามลิงค์ด้านล่างนี้
เมื่อผมพาตัวเองมาอยู่ในสถานะ "เบอร์2" เป็นตัวสำรอง & คนเบื้องหลังในมุมมืดของ "ชายแท้"
ผมไม่ได้มาเรียกร้องสิทธิ์หรือตัดสินชุดความคิดใดความคิดหนึ่งว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด
แต่ผมสงสัยจากใจว่า ในขณะที่สังคมดูเหมือนจะเปิดกว้างขึ้น ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลในแง่มุมที่หลากหลายมากขึ้น
ทำไมอาชีพ "ขายบริการทางเพศ" ถึงเป็นที่กังขาและถกเถียงในเรื่องของศีลธรรม, ความชอบธรรม , เกียรติยศและศักดิ์ศรี
และดูเหมือนว่าจะยังคงดำเนินต่อไปและอาจจะยิ่งเข้มข้นขึ้นด้วยซ้ำ
ทำไมอาชีพ "ขายบริการทางเพศ" ถึงเป็นที่กังขาในเรื่องของศีลธรรม, ความชอบธรรม , เกียรติยศและศักดิ์ศรีมาทุกยุคทุกสมัย
* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะผมเป็นเกย์ในวัยทำงานครับผม
ในอดีต เวลาผมมีอารมณ์ทางเพศ ผมก็จะเป็นคนชอบไป "นวด" ครับ
โดยการไป "นวด" ในที่นี้คือ ร้านนวดพ่วงบริการเสริมทางเพศ
คนละแบบกับสปาในโรงแรมหรือHealth Landนะครับ ขออย่าสับสนหรือเข้าใจผิดในจุดนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ประเด็นในเรื่องของความ "ชอบธรรม" ของการขายบริการทางเพศ เป็นที่ถกเถียงกันมานาน
ในพันทิปเอง ผมลองเสิชกระทู้ก็เคยมีการพูดถึงประเด็น "เกียรติ&ศักดิ์ศรี" ของการ "ขายตัว"
ถามทุกท่าน : คุณยอมให้"โสเภณี" เป็นอาชีพที่มีเกียรติหรือไม่?
โดยกระทู้นั้นเป็นกระทู้ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 หรือกว่า 10ปีผ่านมาแล้ว
และดูเหมือนว่า การถกเถียงกันในเรื่องนี้ก็ยังคงดำเนินต่อมายังปัจจุบัน
คนจำนวนไม่น้อย มีความคิดและยึดติดอยู่กับ "ภาพ" ของผู้ขายบริการทางเพศว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
คนจำนวนไม่น้อย อีกเช่นกันที่มองงานขายบริการทางเพศเป็นงานสิ้นคิดและโง่เขลา
ประโยคที่ว่า "ถ้างานนี้มันมีเกียรติ ก็ให้คนในบ้านคุณไปทำสิ" , "มันก็แค่งานง่ายๆของคนรักสบายและร้อนเงินเท่านั้นแหละ"
ก็ยังคงฝังเป็นฐานรากของฝ่ายต่อต้านอาชีพขายบริการทางเพศ
ในขณะผู้ที่เห็นด้วยกับอาชีพนี้ต่างเรียกร้องให้รัฐคุ้มครองและให้สวัสดิการ เปลี่ยนความ "เทาๆ" ให้เป็นความชัดเจนไปเลย
ตัวผมเอง ถ้าพูดด้วยความเป็นกลางและบนพื้นฐานของคนเป็นคนเท่ากัน
ผมมองอาชีพขายบริการทางเพศ “ไม่ใช่งานง่าย” ครับ
อาชีพนี้เป็นอาชีพที่:
1. เป็นอาชีพเสี่ยงภัย กล่าวคือ เสี่ยงโรคภัยทางกายและ ภัยทางสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังมีภัยจากอาชญากรรมและยาเสพติดอีกด้วย
2. เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนสูง อดทนกับอะไรอันนี้ผมคงไม่ขอบรรยายให้เป็นความอดสูหรือเข้าข่ายอนาจารนะครับ
3. เป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะ ถามว่าทักษะอะไรหรอไอ้การขายตัวเนี่ย? คำตอบคือ "ทักษะการเอาตัวรอด" ครับ
ด้วยลักษณะหลักๆของอาชีพขายบริการทางเพศสามประการที่ผมพูดถึง รายได้ของอาชีพนี้จึงสูงและล่อตาล่อใจ
แต่ถ้าเรามองว่ารายได้ที่มากนั้นเป็นเบี้ยเลี้ยง "ค่าเสี่ยงภัย" ผมว่ามันก็ยุติธรรมระหว่างสิ่งที่พวกเขา "เสีย" และสิ่งที่พวกเขา "ได้รับ"
น่าแปลกที่พนักงาน white collar ที่พาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เผชิญความเครียดสูงแลกกับผลตอบแทนสูง
เขามีสิทธิ์ใช้คำว่า “Work hard, play hard”
แต่สำหรับผู้ขายบริการทางเพศที่เผชิญความเครียดและความเสี่ยง ”Work hard, play (pay) hard” ดันกลายเป็นคำค่อนขอดของคนบางกลุ่ม
ในประเด็นเรื่องของเกียรติยศและศักดิ์ศรี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากเลย
มันควรเริ่มที่ว่า การขายบริการทางเพศเป็นอาชีพที่สุจริตและมีศีลธรรมหรือไม่?
ถ้าคำตอบคุณชัดเจนว่ามันเป็น "อาชีพไม่สุจริตและไร้ศีลธรรม" ประเด็นเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรีมันก็ไม่ต้องพูดกันต่อ
เพราะมันถูกทำลายลงไปโดยทัศนะเบื้องต้นที่มีต่ออาชีพ
แต่ถ้าคำตอบของคุณคือ การมองว่า "อาชีพขายบริการทางเพศเป็นงานสุจริต"
เรื่อง "ศีลธรรม,เกียรติและศักดิ์ศรี" ก็เป็นประเด็นที่ต้องมาพิจารณาต่อเป็นกรณีกรณีไป
ผมก็มองว่าการขายบริการทางเพศมันก็คืออาชีพเฉพาะอาชีพหนึ่งที่ใช้ร่างกายเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
ส่วน "เกียรติกับศักดิ์ศรี" นั้นขึ้นอยู่กับการมองตัวเองและการเคารพในตัวเอง
ความศรัทธาในตัวเองขณะทำงานนั้นจะเป็นเครื่องบอกตัวเราเองว่ามีศักดิ์ศรีหรือไม่
แต่สิ่งที่คนภายนอกอย่างเราทำได้คือคือการให้เกียรติเขา เป็นการเคารพกันและมนุษยธรรมในขั้นพื้นฐานของความเป็นเพื่อนมนุษย์
ในส่วนของ "ศีลธรรม" อันนี้ผมว่ายิ่งละเอียดลึกเข้าไปในก้นบึ้งของจิตใจในแต่ละบุคคลที่ยากจะตัดสิน
ถ้าพูดกันในหลักพุทธศาสนาโดยยกศีล5มาอ้าง คำถามเรื่องศีลธรรมจะขัดแย้งและน่าจะเป็นที่ถกเถียงกันไปใหญ่
คนขายเหล้าเบียร์ , คนทำงานโรงเชือดสัตว์ , ฯลฯ ก็น่าจะต้องถูกตั้งคำถามในเรืองศีลธรรมไปด้วยหรือเปล่า
หลายท่านที่สละเวลาอ่านมาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าคงมองว่าผมโลกสวย
บางคนที่ต่อต้านอาจแย้งผมกลับด้วยคำถามที่ว่า "ถ้าให้คบหรือมีอนาคตกับคนขายบริการหรือเคยขายบริการคุณจะเอาไหมหล่ะ?"
คำตอบของผมก็คงเป็นไปตามลิงค์ด้านล่างนี้
เมื่อผมพาตัวเองมาอยู่ในสถานะ "เบอร์2" เป็นตัวสำรอง & คนเบื้องหลังในมุมมืดของ "ชายแท้"
ผมไม่ได้มาเรียกร้องสิทธิ์หรือตัดสินชุดความคิดใดความคิดหนึ่งว่าเป็นเรื่องถูกหรือผิด
แต่ผมสงสัยจากใจว่า ในขณะที่สังคมดูเหมือนจะเปิดกว้างขึ้น ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลในแง่มุมที่หลากหลายมากขึ้น
ทำไมอาชีพ "ขายบริการทางเพศ" ถึงเป็นที่กังขาและถกเถียงในเรื่องของศีลธรรม, ความชอบธรรม , เกียรติยศและศักดิ์ศรี
และดูเหมือนว่าจะยังคงดำเนินต่อไปและอาจจะยิ่งเข้มข้นขึ้นด้วยซ้ำ