เติมพลังให้ลำไส้ ด้วยพรีไบโอติก

กระทู้สนทนา
พรีไบโอติก (Prebotic) คืออาหารของแบคทีเรียในลำไส้ของเรานะครับ โดยปกติเราก็มุ่งเน้นไปที่แบคทีเรียในลำไส้ ที่เป็นแบคทีเรียที่ดี พรีไบโอติกต่างจากโปรไบโอติก (Probiotic) ตรงที่โปรไบโอติกคือพวกแบคทีเรีย ส่วนพรีไบโอติกเป็นอาหารสำหรับแบคทีเรีย มันจะมีอีกคำนึงคือซินไบโอติก (Synbiotic) อันนั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมทั้งพรี และโปร มาด้วยกัน ซึ่งพรีไบโอติกก็มักจะมาในรูปของอาหารที่เป็นใยอาหาร หรือ Fiber นั่นเอง พรีไบโอติกมีความสำคัญต่อสุขภาพการย่อยอาหาร รวมถึงสุขภาพโดยรวมของเรา เราสามารถได้รับพรีไบโอติกได้จากการทานอาหารหลัก และในรูปแบบที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป

🥙 เติมเต็มจานของคุณด้วยอาหารที่มีพรีไบโอติกส์
วิธีง่ายๆในการได้รับพรีไบโอติก ที่อยากแนะนำให้ทำกันก็คือการทานอาหารที่มีพืช ผัก ผลไม้ เป็นส่วนประกอบในมื้ออาหาร อาหารเหล่านี้จะเป็นแหล่งพรีไบโอติกที่ดีตามธรรมชาตินะครับ ไม่เพียงแต่จะมีพรีไบโอติกแล้ว ยังมีวิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ พฤษเคมีต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลายอีกด้วย

🥗 ผัก ผลไม้ อะไรบ้างที่เป็นพรีไบโอติก ?
- ผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล กล้วย เบอรี่ องุ่น และผลไม้อีกหลายชนิด
- ผัก เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ ต้นหอม หอมญี่ปุ่น ผักกาดม่วง เห็ด เมล็ดเจีย เยอะมากนะครับ
- ถั่ว เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล
- ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลีเต็มเมล็ด

ก็จะเห็นได้ว่าจริงๆในวัตถุดิบที่เรานำมาทำอาหารหลายชนิดนั้นก็ล้วนแต่มีพรีไบโอติกทั้งนั้นนะครับ มากบ้างน้อยบ้าง มีแตกต่างกันไป การทานอาหารที่หลากหลาย ก็จะช่วยส่งเสริมการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ได้ ที่เขาเน้นบ่อยๆว่าให้ทานอาหารให้หลากหลาย ก็เพราะมันมีประโยชน์นั่นแหละครับ
นอกจากนั้นข้อดีของการได้รับพรีไบโอติกจากแหล่งอาหารหลักอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความเป็นพรีไบโอติกของอาหารนั้นจะค่อยๆถูกปล่อยออกมาอย่างช้าๆ จากกระบวนการย่อยและดูดซึมอาหาร ดังนั้นก็จะเป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนสำหรับแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียในลำไส้ของเราเติบโตและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และราคาพรีไบโอติกส์จากการทานอาหารนั้นมักจะไม่ได้มีราคาแพงอะไรนะครับ และเราก็ต้องทานอาหารกันอยู่แล้ว เพียงแค่เลือกทานให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่หลากหลายเพียงพอสักหน่อยเท่านั้นเอง

💊 อาหารเสริมที่เป็นพรีไบโอติกส์ อีกหน่วยสนับสนุนที่ช่วยได้
อย่างที่พิมพ์ไปข้างบนจะเห็นว่าในอาหารหลักที่เราทาน ก็มีพรีไบโอติกส์อยู่แล้วนะครับ จริงๆในหลายคนอาจจะไม่ต้องทานเสริมไปอีกก็ได้ ถ้าเป็นคนที่ทานอาหารมีผัก และผลไม้ที่หลากหลาย และมีปริมาณเพียงพออยู่แล้ว โดยสังเกตจากสุขภาพลำไส้ของเรา การขับถ่ายของเรานี่แหละ แต่สำหรับในบางท่าน การทานจากมื้ออาหารอาจจะไม่เพียงพอ เพราะไม่ชอบทานผักหรือผลไม้ การทานพรีไบโอติกในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

ซึ่งก็มีข้อดีของการทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอยู่ เช่น ความเข้มข้น การทานในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะได้ชนิดของพรีไบโอติก และความเข้มข้น ที่มีความจำเพาะและเข้มข้นกว่า อาหารเสริมบางชนิดมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ของแบคทีเรียในลำไส้ ที่เฉพาะเจาะจง เน้นไปที่ตัวที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพบางอย่างได้ (แต่ก็ต้องดูที่มีข้อมูลหลักฐานจากงานวิจัยรองรับที่ชัดเจนประกอบนะครับ) นอกจากนี้ยังมีเรื่องความสะดวก อย่างที่ว่าบางคนการทานผัก ผลไม้ หรือธัญพืช อาจไม่สะดวกทาน ตรงนี้พวกนี้ก็ช่วยได้ และอีกเรื่องก็เป็นเรื่องของการควบคุมปริมาณ การทานในรูปของอาหารเสริม ก็อาจช่วยให้เราควบคุมปริมาณของพรีไบโอติกส์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งก็อาจมีข้อดีบางอย่างในบางภาวะทางสุขภาพของบางท่าน

➡️ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการทานอาหารเสริมที่เป็นพรีไบโอติกจะปลอดภัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นพรีไบโอติก ก็ควรศึกษาให้ละเอียด และถ้ามีภาวะทางสุขภาพอื่นๆ ก็อาจจะต้องปรึกษานักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ก่อนที่จะเลือกซื้อเลือกทานนะครับ

ก็อยากจะแนะนำให้เลือกรับประทานจากผลิตภัณฑ์อาหารหลัก เป็นตัวหลักก่อน ถ้ามันไม่ได้ ไม่สะดวก กับเราก็มองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นทางเลือก สำหรับคนที่ไม่ค่อยทานผัก ผลไม้ ในตอนที่จะเริ่มทานเพิ่มขึ้น ก็ค่อยๆเพิ่มนะครับ อย่าไปอัดหนักเข้าตูมเดียว อาจจะมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยได้

ที่มาบทความ
https://www.fatfighting.net/article-2024-07-07-ueling-your-gut-prebiotics-from-food-and-supplements/
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่