‘พิธา’ ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภาฯ หลังเปิดประชุมวันแรก ยกเอ็มโอยูตั้งรบ.ไม่สำเร็จ ขอให้ผลักดัน 3 เรื่อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4661042
‘พิธา’ ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภาฯ หลังเปิดประชุมวันแรก ยกเอ็มโอยูตั้งรบ.ไม่สำเร็จ ขอให้ผลักดัน 3 เรื่อง รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 กกรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ซึ่งมีนาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระ ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สส.หารือประเด็นปัญหาความเดือนร้อนต่างๆ โดยนาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่า ขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี(ครม.) สส. และพรรคการเมือง ให้ร่วมผลักดันตามที่ได้สัญญาไว้ในบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ที่พวกเรา พรรคการเมืองต่างๆทำร่วมกันเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 หรือ 1 ปีที่ผ่านมา อาจไม่ใช่ MOU จัดตั้งรัฐบาลที่เราทำได้ไม่สำเร็จ แต่เป็น MOU ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมเสนอชื่อบุคคล เพื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ 2 คน ที่ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง
นาย
พิธา กล่าวต่อว่า ขอให้ผลักดัน 3 ประเด็น ดังนี้
1. การทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
2. ความคืบหน้านิรโทษกรรมคดีการเมืองเพื่อความยุติธรรม นิติรัฐ นิติธรรม แก้วิกฤตการเมือง และคนไทยที่เห็นต่าง ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องลี้ภัย
และ 3. แก้ไขกฎหมายเพื่อปฏิรูปกองทัพ อันได้แก่ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่ ร่างพ.ร.บ.กฎอัยการศึก และร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งขณะติดอยู่ที่นายกฯ เพราะถูกตีความว่าเป็นกฎหมายการเงิน ทั้งหมดเพื่อปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
สส.ภูเก็ตก้าวไกล จี้ รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แนะทำผังเมือง-กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4660992
สส.ภูเก็ตก้าวไกล จี้ รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก มอง ปล่อยปละละเลยปล่อยเมืองขยายไม่มีแผน ปิดทางน้ำ แนะ ทำผังเมือง-กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นาย
เฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต เขต2 พรรคก้าวไกล และนาย
ธิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล แถลงกรณีปัญหาอุทกภัยในจ.ภูเก็ต
โดยนาย
เฉลิมพงศ์ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 29- 30 มิ.ย. ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กะทู้ และ อ.ถลาง มีน้ำป่าไหลหลากรุนแรงแม้ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง แต่ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ซึ่งตนและทีมงานพรรคก้าวไกลได้ลงพื้นที่ พบสภาพปัญหาหลายๆด้าน เช่นการบริหารจัดการเมืองและการบริหารจัดการน้ำที่ไม่สอดคล้องกัน ทั้งที่จ.ภูเก็ต เป็นเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้เมืองขยายตัวไปอย่างไม่มีแผน ไม่มีการศึกษาบริบทพื้นที่ให้เหมาะสม ทำให้มีการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนรวมถึงถนนเส้นทางต่างๆโดยไม่ศึกษาทางน้ำหรือวางแผนการระบายน้ำที่ดีไว้รองรับ
นาย
เฉลิมพงศ์ กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินมีความล่าช้า ส่งผลให้มีศูนย์กลางการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ทันสถานการณ์ หากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นตรงกับท้องถิ่น โดยมีงบประมาณ และมีอำนาจจัดการเต็มเชื่อว่าจะเข้าไปบริหารจัดการสถานการณณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่านี้
นายธิติกันต์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เริ่มทำผังเมืองที่ผ่านการศึกษาทางวิชาการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการหรือการพัฒนาเมือง เป็นไปอย่างมีทิศทาง หรือมีเข็มทิศที่ถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยปละใครใคร่สร้าง สร้าง ใครมีเงินสร้าง สร้าง แล้วค่อยตามไปแก้ปัญหาซึ่งถ้าปล่อยไปแบบนี้คนที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดไม่ใช่ใคร
เป็นประชาชนเดินถนนอย่างเราๆ ท่านๆ ผมไม่ปฏิเสธการพัฒนา แต่อยากเห็นการพัฒนาที่มีทิศทาง ซึ่งเราสามารถเริ่มได้จากการทำผังเมืองที่ดี เป็นพิมพ์เขียวที่เมืองระดับโลกทุกเมืองให้ความสำคัญ รวมทั้งให้มีแผนรับมือระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพราะเรื่องนี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อความเดือดร้อน ของประชาชนโดยตรง
คาดผู้ค้าออนไลน์โวย เก็บแวตสินค้านำเข้าต่ำ 1,500 บาท แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4661011
คาดผู้ค้าออนไลน์โวย เก็บแวตสินค้านำเข้าต่ำ 1,500 บาท แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ
นายวิ
ศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต เปิดเผยถึงกรณี กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับสินค้านำเข้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาท เริ่มวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ว่า ในส่วนนี้ไม่ได้มองว่าเป็นการหารายได้เข้ารัฐบาลแต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากผู้ที่นำเข้าสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจะต่ำกว่าต้นทุนที่ผลิตสินค้าเองพอสมควร
แต่การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สินค้านำเข้า โดยไม่มีข้อยกเว้นสินค้าตรงนี้อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับ พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าเพราะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% อาจไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าได้ทั้งหมด
“
หากมองในเชิงจิตวิทยาอาจจะมองว่าสินค้านำเข้าบางอย่างก็ไม่ได้ถูกอย่างที่คิด แถมต้องจ่ายภาษีอีก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณาในการอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลของการที่ต้องเก็บภาษีสินค้านำเข้าครั้งนี้เพื่อให้เข้าใจกันทุกฝ่าย” นาย
วิศิษฐ์กล่าว
JJNY : ‘พิธา’ทวงสัญญาพรรคการเมือง│สส.ภูเก็ตก้าวไกลแนะทำผังเมือง│คาดผู้ค้าออนไลน์โวย เก็บแวต│ฤดูเฮอริเคนปีนี้อันตราย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4661042
‘พิธา’ ทวงสัญญาพรรคการเมือง-ครม. กลางสภาฯ หลังเปิดประชุมวันแรก ยกเอ็มโอยูตั้งรบ.ไม่สำเร็จ ขอให้ผลักดัน 3 เรื่อง รัฐสภาก้าวหน้า-นิรโทษฯ-ปฏิรูปกองทัพ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 3 กกรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระ ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สส.หารือประเด็นปัญหาความเดือนร้อนต่างๆ โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่า ขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี(ครม.) สส. และพรรคการเมือง ให้ร่วมผลักดันตามที่ได้สัญญาไว้ในบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ที่พวกเรา พรรคการเมืองต่างๆทำร่วมกันเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 หรือ 1 ปีที่ผ่านมา อาจไม่ใช่ MOU จัดตั้งรัฐบาลที่เราทำได้ไม่สำเร็จ แต่เป็น MOU ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมเสนอชื่อบุคคล เพื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ 2 คน ที่ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง
นายพิธา กล่าวต่อว่า ขอให้ผลักดัน 3 ประเด็น ดังนี้
1. การทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
2. ความคืบหน้านิรโทษกรรมคดีการเมืองเพื่อความยุติธรรม นิติรัฐ นิติธรรม แก้วิกฤตการเมือง และคนไทยที่เห็นต่าง ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องลี้ภัย
และ 3. แก้ไขกฎหมายเพื่อปฏิรูปกองทัพ อันได้แก่ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่ ร่างพ.ร.บ.กฎอัยการศึก และร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งขณะติดอยู่ที่นายกฯ เพราะถูกตีความว่าเป็นกฎหมายการเงิน ทั้งหมดเพื่อปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
สส.ภูเก็ตก้าวไกล จี้ รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แนะทำผังเมือง-กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4660992
สส.ภูเก็ตก้าวไกล จี้ รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก มอง ปล่อยปละละเลยปล่อยเมืองขยายไม่มีแผน ปิดทางน้ำ แนะ ทำผังเมือง-กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต เขต2 พรรคก้าวไกล และนายธิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล แถลงกรณีปัญหาอุทกภัยในจ.ภูเก็ต
โดยนายเฉลิมพงศ์ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 29- 30 มิ.ย. ที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.กะทู้ และ อ.ถลาง มีน้ำป่าไหลหลากรุนแรงแม้ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง แต่ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ซึ่งตนและทีมงานพรรคก้าวไกลได้ลงพื้นที่ พบสภาพปัญหาหลายๆด้าน เช่นการบริหารจัดการเมืองและการบริหารจัดการน้ำที่ไม่สอดคล้องกัน ทั้งที่จ.ภูเก็ต เป็นเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้เมืองขยายตัวไปอย่างไม่มีแผน ไม่มีการศึกษาบริบทพื้นที่ให้เหมาะสม ทำให้มีการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนรวมถึงถนนเส้นทางต่างๆโดยไม่ศึกษาทางน้ำหรือวางแผนการระบายน้ำที่ดีไว้รองรับ
นายเฉลิมพงศ์ กล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินมีความล่าช้า ส่งผลให้มีศูนย์กลางการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่ทันสถานการณ์ หากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขึ้นตรงกับท้องถิ่น โดยมีงบประมาณ และมีอำนาจจัดการเต็มเชื่อว่าจะเข้าไปบริหารจัดการสถานการณณ์เฉพาะหน้าได้ดีกว่านี้
นายธิติกันต์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เริ่มทำผังเมืองที่ผ่านการศึกษาทางวิชาการอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การบริหารจัดการหรือการพัฒนาเมือง เป็นไปอย่างมีทิศทาง หรือมีเข็มทิศที่ถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยปละใครใคร่สร้าง สร้าง ใครมีเงินสร้าง สร้าง แล้วค่อยตามไปแก้ปัญหาซึ่งถ้าปล่อยไปแบบนี้คนที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดไม่ใช่ใคร
เป็นประชาชนเดินถนนอย่างเราๆ ท่านๆ ผมไม่ปฏิเสธการพัฒนา แต่อยากเห็นการพัฒนาที่มีทิศทาง ซึ่งเราสามารถเริ่มได้จากการทำผังเมืองที่ดี เป็นพิมพ์เขียวที่เมืองระดับโลกทุกเมืองให้ความสำคัญ รวมทั้งให้มีแผนรับมือระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพราะเรื่องนี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อความเดือดร้อน ของประชาชนโดยตรง
คาดผู้ค้าออนไลน์โวย เก็บแวตสินค้านำเข้าต่ำ 1,500 บาท แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4661011
คาดผู้ค้าออนไลน์โวย เก็บแวตสินค้านำเข้าต่ำ 1,500 บาท แนะรัฐเร่งทำความเข้าใจ
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต เปิดเผยถึงกรณี กระทรวงการคลังจะเริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับสินค้านำเข้าที่ต่ำกว่า 1,500 บาท เริ่มวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ว่า ในส่วนนี้ไม่ได้มองว่าเป็นการหารายได้เข้ารัฐบาลแต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากผู้ที่นำเข้าสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าจะต่ำกว่าต้นทุนที่ผลิตสินค้าเองพอสมควร
แต่การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สินค้านำเข้า โดยไม่มีข้อยกเว้นสินค้าตรงนี้อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับ พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าเพราะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% อาจไม่เป็นธรรมกับผู้ค้าได้ทั้งหมด
“หากมองในเชิงจิตวิทยาอาจจะมองว่าสินค้านำเข้าบางอย่างก็ไม่ได้ถูกอย่างที่คิด แถมต้องจ่ายภาษีอีก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมีการพิจารณาในการอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลของการที่ต้องเก็บภาษีสินค้านำเข้าครั้งนี้เพื่อให้เข้าใจกันทุกฝ่าย” นายวิศิษฐ์กล่าว