ไอ้คำว่า "เด็กๆ" ของผมเนี่ย
ต้องนับย้อนหลังไปประมาณ 50 ปี++ ครับ แหะ แหะ...
แอ๊ปเปิล เป็นผลไม้ของเมืองหนาวครับ
สมัยในเมืองไทย ไม่มีใครปลูกได้ ปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น
ต้องนำเข้าทั้งสิ้น จากอเมริกาบ้าง ออสเตรเลียบ้าง นิวซีแลนด์บ้าง
แอ๊ปเปิ้ล มัน เท่ ซะจนมีคนเอาไปตั้งชื่อลูก ชื่อหลานกันเยอะแยะ
เด็กผู้หญิงสมัยนั้น ชื่อ แอ๊ปเปิ้ล หรือ เปิ้ล กันเต็มบ้าน เต็มเมือง
"เปิ้ล" เท่กว่า เก๋ไก๋กว่า อีมะนาว อีส้ม อีส้มโอ อีเงาะ อีชมพู่ เป็นไหนๆ
อย่างผม จะได้กินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึงนี่ต้องรอช่วงปลายปีครับ แม่ ไม่ซื้อให้กินหรอก ของแบบนี้
มันเป็นของ ล้ำค่า เป็น แรร์ไอเท็ม
ต้องรอให้มีคนเค้าเอ้ากระเช้าปีใหม่ มาเยี่ยมพ่อ นั่นแหละ ถึงจะได้กิน
ในกระเช้านั้นมี แต่ "ของวิเศษ" ทั้งนั้นครับ
สำหรับเด็กแล้ว กระเช้านั้น มันน่าตื่นตาตื่นใจ และ พวกเราตื่นเต้นกันมาก
มีแอ๊ปเปิ้ลครับ มีส้มลูกใหญ่ๆ ลูกแพร์ ลูกสาลี่ มีช๊อคโกแล๊ตกล่องโลหะ ยี่ห้อ Van Houten
มีใบชากล่องเหลืองๆยี่ห้อ Lipton มีไส้กรอกกระป๋อง แช่น้ำเกลือ
มีวิสกี้ด้วย ยี่ห้อ White Horse บางทีก็ Johnnie's Black Lable
มีเนยกระปุกสีทอง ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ อ่านไม่ออก
มีคุ๊กกี้ด้วยมั๊ง ลูกเกด อัลมอนด์กระป๋อง และอะไรต่อมิอะไรจุ๊กจิ๊กๆ
ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็น "ของวิเศษ"
ตื่นเต้นๆ
วันรุ่งขึ้น พกเอาแอ๊ปเปิ้ลไปกินอวดเพื่อนที่โรงเรียน ใครๆก็ร้อง อู้หู
ความรู้สึกตอนนนั้น มันรู้สึกแบบ...แบบว่า "โก้" จริงๆครับ
กับไอ้การกินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึง (เมื่อปี 2515 นะคัรบ)
มาวันนี้ การกินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึง กลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ
แอ๊ปเปิ้ลมีเกลื่อนกลาด และ ราคาถูก จนเอามาเขวี้ยงหัวกันเล่นได้แล้ว
และ สมัยนี้ คงไม่มีใครตั้งชื่อลูกหลาน ว่า "เปิ้ล" กันอีกต่อไปแล้ว
ก็แปลกดี...
ใครจะนึกล่ะว่า วันนึง จุดนึง แอ๊ปเปิ้ล มันจะมาถึงจุดนี้ได้
จากการที่เคยเป็น "ผลไม้ล้ำค่า" มาในอดีต
เพื่อนๆ มีของ ล้ำค่าอะไรแบบนี้ มาเล่าสู่กันฟังต่อก็เชิญตามสบายครับ
อูกะ อูกะ สวัสดี
สมัยผมเป็นเด็กๆ แอ๊ปเปิ้ล นี่ถือเป็นผลไม้ ล้ำค่า มากๆเลยนะครับ
ต้องนับย้อนหลังไปประมาณ 50 ปี++ ครับ แหะ แหะ...
แอ๊ปเปิล เป็นผลไม้ของเมืองหนาวครับ
สมัยในเมืองไทย ไม่มีใครปลูกได้ ปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น
ต้องนำเข้าทั้งสิ้น จากอเมริกาบ้าง ออสเตรเลียบ้าง นิวซีแลนด์บ้าง
แอ๊ปเปิ้ล มัน เท่ ซะจนมีคนเอาไปตั้งชื่อลูก ชื่อหลานกันเยอะแยะ
เด็กผู้หญิงสมัยนั้น ชื่อ แอ๊ปเปิ้ล หรือ เปิ้ล กันเต็มบ้าน เต็มเมือง
"เปิ้ล" เท่กว่า เก๋ไก๋กว่า อีมะนาว อีส้ม อีส้มโอ อีเงาะ อีชมพู่ เป็นไหนๆ
อย่างผม จะได้กินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึงนี่ต้องรอช่วงปลายปีครับ แม่ ไม่ซื้อให้กินหรอก ของแบบนี้
มันเป็นของ ล้ำค่า เป็น แรร์ไอเท็ม
ต้องรอให้มีคนเค้าเอ้ากระเช้าปีใหม่ มาเยี่ยมพ่อ นั่นแหละ ถึงจะได้กิน
ในกระเช้านั้นมี แต่ "ของวิเศษ" ทั้งนั้นครับ
สำหรับเด็กแล้ว กระเช้านั้น มันน่าตื่นตาตื่นใจ และ พวกเราตื่นเต้นกันมาก
มีแอ๊ปเปิ้ลครับ มีส้มลูกใหญ่ๆ ลูกแพร์ ลูกสาลี่ มีช๊อคโกแล๊ตกล่องโลหะ ยี่ห้อ Van Houten
มีใบชากล่องเหลืองๆยี่ห้อ Lipton มีไส้กรอกกระป๋อง แช่น้ำเกลือ
มีวิสกี้ด้วย ยี่ห้อ White Horse บางทีก็ Johnnie's Black Lable
มีเนยกระปุกสีทอง ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ อ่านไม่ออก
มีคุ๊กกี้ด้วยมั๊ง ลูกเกด อัลมอนด์กระป๋อง และอะไรต่อมิอะไรจุ๊กจิ๊กๆ
ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็น "ของวิเศษ"
ตื่นเต้นๆ
วันรุ่งขึ้น พกเอาแอ๊ปเปิ้ลไปกินอวดเพื่อนที่โรงเรียน ใครๆก็ร้อง อู้หู
ความรู้สึกตอนนนั้น มันรู้สึกแบบ...แบบว่า "โก้" จริงๆครับ
กับไอ้การกินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึง (เมื่อปี 2515 นะคัรบ)
มาวันนี้ การกินแอ๊ปเปิ้ลสักลูกนึง กลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ
แอ๊ปเปิ้ลมีเกลื่อนกลาด และ ราคาถูก จนเอามาเขวี้ยงหัวกันเล่นได้แล้ว
และ สมัยนี้ คงไม่มีใครตั้งชื่อลูกหลาน ว่า "เปิ้ล" กันอีกต่อไปแล้ว
ก็แปลกดี...
ใครจะนึกล่ะว่า วันนึง จุดนึง แอ๊ปเปิ้ล มันจะมาถึงจุดนี้ได้
จากการที่เคยเป็น "ผลไม้ล้ำค่า" มาในอดีต
เพื่อนๆ มีของ ล้ำค่าอะไรแบบนี้ มาเล่าสู่กันฟังต่อก็เชิญตามสบายครับ
อูกะ อูกะ สวัสดี