เรื่องมีอยู่ว่า มีคู่รักวัยรุ่นคู่นึง คบกันได้ไม่นาน แต่ผู้ชายดันทำฝ่ายหญิงท้อง แต่ไม่กล้าบอกใคร จนเวลาผ่านไปฝ่ายหญิงท้องได้ประมาณ 6 เดือน ฝ่ายหญิงจึงจำเป็นต้องสารภาพกับครอบครัวตัวเองว่า ตัวเองท้อง ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ ครอบครัวฝ่ายหญิงเลยไปคุยกับครอบครัวฝ่ายชายว่า ไหนๆ ก็ท้องไปแล้ว งั้นก็แต่งงานกันไปเลยละกัน โอเค ทั้งสองก็แต่งงานกันในอีก 2 เดือนถัดไป แค่แต่งงานไม่ได้จดทะเบียนสมรส
เวลาผ่านไป เดือน พ.ค ถึงกำหนดคลอดลูก ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ผู้หญิงก็อยู่บ้านผู้ชายเลี้ยงลูกไป พอลูกน้อยอายุได้ ประมาณ 2 เดือน แม่ของฝ่ายชายที่ทำงานอยู่ กทม ก็ชวน ผู้ชายไปทำงานที่ กทม ด้วยเหตุผลที่ว่า มีลูกแล้วค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นมาทำงานที่นี่ดีกว่า ซึ่งมันก็เป็นดี ผู้หญิงก็สนับสนุน
ดังนั้นผู้ชายจึงตัดสินใจไปทำงานที่ กทม ตอนที่ลูกน้อยอายุได้ 2 เดือนนิดๆ โดยจะให้ผู้ชายไปก่อนส่วนผู้หญิงจะตามไปทีหลัง เพราะยังลูกเล็กเดินทางไกลไม่สะดวก
ผู้ชายได้งานทำเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน กทม เป็นร้านเดียวกันกับที่น้องชายของเขาทำงานอยู่แต่คนละแผนก ในระหว่างที่ห่างกัน ผู้หญิงก็ย้ายมาอยู่บ้านตัวเองกับลูก ก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ลูกน้อยอายุได้ประมาณ 8 เดือน ผู้ชายก็ตัดสินใจมารับผู้หญิงมาอยู่ด้วยกันที่ กทม ช่วงแรกๆที่ไปอยู่ ผู้หญิงต้องอยู่ห้องพักที่นอนรวมกันทั้ง ตัวผู้หญิง ลูกน้อย ผู้ชาย น้องชายฝ่ายชาย พ่อแม่ฝ่ายชาย ในห้องนั้น แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันหลายคนย่อมมีปัญหาเล็กๆน้อยๆตามมา และเหมือนว่าผู้หญิงจะเข้าไม่ได้กับแม่ของฝ่ายชาย ตอนนี้ผู้หญิงยังไม่ได้ทำงาน ยังเลี้ยงลูกอยู่ในห้อง ผู้หญิงทนอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน ก็ตัดสินใจบอกกับผู้ชายว่า พวกเราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันเถอะ เธอทนอยู่ไม่ได้พ่อแม่เธอหาเรื่องตำหนิฉันแทบทุกวัน เลี้ยงลูกฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ยังต้องมาคอยฟังแม่เธอบ่นนั่นบ่นนี่อีกเหรอ แน่นอนว่าการแยกไปอยู่ที่อื่นพ่อแม่ฝ่ายชายย่อมไม่พอใจ เพราะไม่มีคนช่วยหารค่าห้องต่อ แต่สุดท้ายพวกเขา 2 คนก็สามารถแยกไปอยู่ที่อื่นได้สำเร็จ
หลังจากแยกมาอยู่เองทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตปกติ ผู้ชายทำงาน ส่วนผู้หญิงเลี้ยงลูกอยู่ห้อง ชีวิตการทำงานของผู้ชายก็ต้องมีเพื่อนฝูง มีการปาตี้ กินเลี้ยงบ้างตามประสา แต่ก็เหมือนไม่มีปัญหาอะไร (เนียนมาก) ผู้หญิงก็ไม่ได้สงสัยอะไรในตัวผู้ชาย ก็ใช้ชีวิตเลี้ยงลูกไป เวลาผ่านไปลูกน้อยอายุ ได้ 1 ปี ผู้หญิงตัดสินใจจะออกไปทำงานบ้าง เลยบอกกับแฟนว่า ตัวเธอจะเอาลูกไปฝากยายที่บ้านต่างจังหวัดเลี้ยงนะ เธอจะออกไปหางานทำ พอเป็นแบบนี้ผู้ชายก็คิดว่าดี ทั้งสองตัดสินใจพาลูกกลับต่างจังหวัด โดยผู้หญิงจะอยู่บ้านต่างจังหวัดสักพักเพื่อให้ลูกปรับตัวแล้วค่อยกลับ กทม ส่วนผู้ชายต้องกลับไปทำงานก่อน
ผู้ชายกลับไปทำงานได้ประมาณ 4-5 วัน อยู่ๆ ก็มีข้อความแชทส่งมาให้ผู้หญิง โดยเป็นข้อความจากผู้ชาย ใจความประมาณว่า ต่อไปนี้พวกเราแยกกันอยู่เถอะ เจอแบบนี้ผู้หญิงก็อึ้งไปสิ ทั้งไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ส่วนฝ่ายชายก็หายไปเลย ดังนั้นผู้หญิงเลยตัดสินใจไปคุยกับแม่ของฝ่ายชาย ใจความประมาณว่า แม่รู้ไหมว่าลูกชายแม่ขอแยกกันอยู่กับหนู หนูติดต่อลูกชายแม่ไปก็เงียบ แม่ช่วยหน่อยได้ไหม ส่วนคำตอบที่ได้ นอกจากตำหนิฝ่ายหญิง ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปคุยกับลูกตัวเองให้ และตบท้ายด้วยคำว่าอย่ากลับมาคบกันอีก
สุดท้ายผู้หญิงก็ได้แต่รอ รอ ให้ผู้ชายติดต่อกลับมา จนผ่านไป 3-4 วัน ผู้ชายถึงติดต่อกลับมา ทั้งสองจึงได้คุยกันจะเอายังไง ทำไมทำแบบนี้ ฉันทำอะไรผิด แล้วผู้ชายก็ตอบกลับมา ประมาณว่า เบื่อ หมดรัก เธอไม่เข้าสังคม เธอเข้ากับเพื่อนเขาไม่ได้ ผู้หญิงเลยถามกลับไปว่า ฉันไม่เข้าสังคมยังไง ในระแวกที่พักที่พวกเราอยู่มีใครบ้างที่ฉันไม่รู้จัก มีใครบ้างที่ไม่รู้จักฉัน แล้วเธอล่ะรู้จักใครบ้างในระแวกนี้ และผู้ชายก็เงียบไปเพราะเถียงไม่ได้ สรุปสุดท้ายจี้ไปจี้มาผู้ชายหลุดมาว่ามีผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่บอกว่าใคร แต่ก็เหมือนจะจบด้วยดีตัวผู้หญิงแม้จะเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชายมันไปแล้วทั้งตัวทั้งใจ ตกลงกันแค่ค่าเลี้ยงดูลูกที่ไม่มีอะไรแน่นอน
แต่แม้จะจบด้วยดีแต่ตัวผู้หญิงก็ยังสงสัยว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทั้งๆที่รู้ว่าผู้ชายมีลูกมีภรรยาอยู่แล้วก็ยังมายุ่ง (ก็อย่างว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ถ้าผู้ชายไม่เล่นด้วยเรื่องคงไม่เกิด) ด้วยตัวฝ่ายหญิง สงสัยผู้หญิงที่ทำงานเดียวกับผู้ชาย แต่ก็แค่สงสัยไม่คิดว่าจะเป็นจริง เพราะตอนไปอยู่ กทม ใหม่ๆ ตัวผู้ชายก็เคยพาลูกและภรรยา ไปแนะนำให้เพื่อนที่ทำงานรู้จัก เคยทานอาหารร่วมกัน ทุกอย่างก็ปกติดี ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่สงสัย ยังไงดีล่ะ ผู้หญิงคนนั้นก็มีลูกติดนะ เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่น่าจะใช่อย่างที่สงสัย ตอนที่ผู้ชายพาภรรยากับลูกไปแนะนำ ผู้หญิงคนนั้นก็ดูเป็นมิตรกอด หอม อุ้ม ซื้อของขวัญเสื้อผ้าให้ลูกของฝ่ายชายและภรรยาก็เหมือนเพื่อนร่วมงานกันปกติ
ถ้าถามว่า ตกลงผู้หญิงคนนั้นคือใคร คำตอบที่หาได้ ก็คนเดียวกับที่สงสัย ผู้หญิงที่ทำงานเดียวกันกับผู้ชาย เพราะผู้ชายโพสต์สตอรี่ กับผู้หญิงคนนั้นไปทานข้าวด้วยกัน 2 คน ตอนที่เห็นสตอรี่ผู้ชาย ผู้หญิงถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะ เมื่อวันก่อนผู้หญิงขอเงินผู้ชายไปซื้อนมให้ลูก แต่ผู้ชายบอกมีอยู่ 200 เอามั้ยล่ะ แต่ผู้หญิงก็ไม่ได้เอาเพราะคิดว่าผู้ชายคงไม่มีจริงๆ พอมาวันที่เห็นสตอรี่ของผู้ชายที่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนนั้น คืออาหารเต็มโต๊ะ มีแต่ของดีๆ ผู้หญิงจะรู้สึกโกรธก็ไม่แปลก
ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไง ก็ให้เป็นเรื่องของคนสองคนนั้น ไม่ว่าผลสรุปสุดท้ายจะเป็นยังไง ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจเอง
เรื่องเล่าความรัก รักของเธอช่างเปราะบาง
เวลาผ่านไป เดือน พ.ค ถึงกำหนดคลอดลูก ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ผู้หญิงก็อยู่บ้านผู้ชายเลี้ยงลูกไป พอลูกน้อยอายุได้ ประมาณ 2 เดือน แม่ของฝ่ายชายที่ทำงานอยู่ กทม ก็ชวน ผู้ชายไปทำงานที่ กทม ด้วยเหตุผลที่ว่า มีลูกแล้วค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นมาทำงานที่นี่ดีกว่า ซึ่งมันก็เป็นดี ผู้หญิงก็สนับสนุน
ดังนั้นผู้ชายจึงตัดสินใจไปทำงานที่ กทม ตอนที่ลูกน้อยอายุได้ 2 เดือนนิดๆ โดยจะให้ผู้ชายไปก่อนส่วนผู้หญิงจะตามไปทีหลัง เพราะยังลูกเล็กเดินทางไกลไม่สะดวก
ผู้ชายได้งานทำเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งใน กทม เป็นร้านเดียวกันกับที่น้องชายของเขาทำงานอยู่แต่คนละแผนก ในระหว่างที่ห่างกัน ผู้หญิงก็ย้ายมาอยู่บ้านตัวเองกับลูก ก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน
และแล้วเวลาก็ผ่านไป ลูกน้อยอายุได้ประมาณ 8 เดือน ผู้ชายก็ตัดสินใจมารับผู้หญิงมาอยู่ด้วยกันที่ กทม ช่วงแรกๆที่ไปอยู่ ผู้หญิงต้องอยู่ห้องพักที่นอนรวมกันทั้ง ตัวผู้หญิง ลูกน้อย ผู้ชาย น้องชายฝ่ายชาย พ่อแม่ฝ่ายชาย ในห้องนั้น แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันหลายคนย่อมมีปัญหาเล็กๆน้อยๆตามมา และเหมือนว่าผู้หญิงจะเข้าไม่ได้กับแม่ของฝ่ายชาย ตอนนี้ผู้หญิงยังไม่ได้ทำงาน ยังเลี้ยงลูกอยู่ในห้อง ผู้หญิงทนอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน ก็ตัดสินใจบอกกับผู้ชายว่า พวกเราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันเถอะ เธอทนอยู่ไม่ได้พ่อแม่เธอหาเรื่องตำหนิฉันแทบทุกวัน เลี้ยงลูกฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ ยังต้องมาคอยฟังแม่เธอบ่นนั่นบ่นนี่อีกเหรอ แน่นอนว่าการแยกไปอยู่ที่อื่นพ่อแม่ฝ่ายชายย่อมไม่พอใจ เพราะไม่มีคนช่วยหารค่าห้องต่อ แต่สุดท้ายพวกเขา 2 คนก็สามารถแยกไปอยู่ที่อื่นได้สำเร็จ
หลังจากแยกมาอยู่เองทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตปกติ ผู้ชายทำงาน ส่วนผู้หญิงเลี้ยงลูกอยู่ห้อง ชีวิตการทำงานของผู้ชายก็ต้องมีเพื่อนฝูง มีการปาตี้ กินเลี้ยงบ้างตามประสา แต่ก็เหมือนไม่มีปัญหาอะไร (เนียนมาก) ผู้หญิงก็ไม่ได้สงสัยอะไรในตัวผู้ชาย ก็ใช้ชีวิตเลี้ยงลูกไป เวลาผ่านไปลูกน้อยอายุ ได้ 1 ปี ผู้หญิงตัดสินใจจะออกไปทำงานบ้าง เลยบอกกับแฟนว่า ตัวเธอจะเอาลูกไปฝากยายที่บ้านต่างจังหวัดเลี้ยงนะ เธอจะออกไปหางานทำ พอเป็นแบบนี้ผู้ชายก็คิดว่าดี ทั้งสองตัดสินใจพาลูกกลับต่างจังหวัด โดยผู้หญิงจะอยู่บ้านต่างจังหวัดสักพักเพื่อให้ลูกปรับตัวแล้วค่อยกลับ กทม ส่วนผู้ชายต้องกลับไปทำงานก่อน
ผู้ชายกลับไปทำงานได้ประมาณ 4-5 วัน อยู่ๆ ก็มีข้อความแชทส่งมาให้ผู้หญิง โดยเป็นข้อความจากผู้ชาย ใจความประมาณว่า ต่อไปนี้พวกเราแยกกันอยู่เถอะ เจอแบบนี้ผู้หญิงก็อึ้งไปสิ ทั้งไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ส่วนฝ่ายชายก็หายไปเลย ดังนั้นผู้หญิงเลยตัดสินใจไปคุยกับแม่ของฝ่ายชาย ใจความประมาณว่า แม่รู้ไหมว่าลูกชายแม่ขอแยกกันอยู่กับหนู หนูติดต่อลูกชายแม่ไปก็เงียบ แม่ช่วยหน่อยได้ไหม ส่วนคำตอบที่ได้ นอกจากตำหนิฝ่ายหญิง ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปคุยกับลูกตัวเองให้ และตบท้ายด้วยคำว่าอย่ากลับมาคบกันอีก
สุดท้ายผู้หญิงก็ได้แต่รอ รอ ให้ผู้ชายติดต่อกลับมา จนผ่านไป 3-4 วัน ผู้ชายถึงติดต่อกลับมา ทั้งสองจึงได้คุยกันจะเอายังไง ทำไมทำแบบนี้ ฉันทำอะไรผิด แล้วผู้ชายก็ตอบกลับมา ประมาณว่า เบื่อ หมดรัก เธอไม่เข้าสังคม เธอเข้ากับเพื่อนเขาไม่ได้ ผู้หญิงเลยถามกลับไปว่า ฉันไม่เข้าสังคมยังไง ในระแวกที่พักที่พวกเราอยู่มีใครบ้างที่ฉันไม่รู้จัก มีใครบ้างที่ไม่รู้จักฉัน แล้วเธอล่ะรู้จักใครบ้างในระแวกนี้ และผู้ชายก็เงียบไปเพราะเถียงไม่ได้ สรุปสุดท้ายจี้ไปจี้มาผู้ชายหลุดมาว่ามีผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่บอกว่าใคร แต่ก็เหมือนจะจบด้วยดีตัวผู้หญิงแม้จะเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชายมันไปแล้วทั้งตัวทั้งใจ ตกลงกันแค่ค่าเลี้ยงดูลูกที่ไม่มีอะไรแน่นอน
แต่แม้จะจบด้วยดีแต่ตัวผู้หญิงก็ยังสงสัยว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทั้งๆที่รู้ว่าผู้ชายมีลูกมีภรรยาอยู่แล้วก็ยังมายุ่ง (ก็อย่างว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ถ้าผู้ชายไม่เล่นด้วยเรื่องคงไม่เกิด) ด้วยตัวฝ่ายหญิง สงสัยผู้หญิงที่ทำงานเดียวกับผู้ชาย แต่ก็แค่สงสัยไม่คิดว่าจะเป็นจริง เพราะตอนไปอยู่ กทม ใหม่ๆ ตัวผู้ชายก็เคยพาลูกและภรรยา ไปแนะนำให้เพื่อนที่ทำงานรู้จัก เคยทานอาหารร่วมกัน ทุกอย่างก็ปกติดี ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่สงสัย ยังไงดีล่ะ ผู้หญิงคนนั้นก็มีลูกติดนะ เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่น่าจะใช่อย่างที่สงสัย ตอนที่ผู้ชายพาภรรยากับลูกไปแนะนำ ผู้หญิงคนนั้นก็ดูเป็นมิตรกอด หอม อุ้ม ซื้อของขวัญเสื้อผ้าให้ลูกของฝ่ายชายและภรรยาก็เหมือนเพื่อนร่วมงานกันปกติ
ถ้าถามว่า ตกลงผู้หญิงคนนั้นคือใคร คำตอบที่หาได้ ก็คนเดียวกับที่สงสัย ผู้หญิงที่ทำงานเดียวกันกับผู้ชาย เพราะผู้ชายโพสต์สตอรี่ กับผู้หญิงคนนั้นไปทานข้าวด้วยกัน 2 คน ตอนที่เห็นสตอรี่ผู้ชาย ผู้หญิงถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะ เมื่อวันก่อนผู้หญิงขอเงินผู้ชายไปซื้อนมให้ลูก แต่ผู้ชายบอกมีอยู่ 200 เอามั้ยล่ะ แต่ผู้หญิงก็ไม่ได้เอาเพราะคิดว่าผู้ชายคงไม่มีจริงๆ พอมาวันที่เห็นสตอรี่ของผู้ชายที่ไปทานข้าวกับผู้หญิงคนนั้น คืออาหารเต็มโต๊ะ มีแต่ของดีๆ ผู้หญิงจะรู้สึกโกรธก็ไม่แปลก
ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นยังไง ก็ให้เป็นเรื่องของคนสองคนนั้น ไม่ว่าผลสรุปสุดท้ายจะเป็นยังไง ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจเอง