ขอปรึกษาผู้รู้กฏหมายแรงงานหรือเคยผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาหน่อยครับ
- ที่ทำงานมีนโยบาย work form home 2 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่แรกเข้า ตอนนี้ทำงานมา 1.8 ปี แต่เดือน May ช่วงต้นเดือนป่วยด้วยอาการเอ็นเท้าอักเสบทั้งสองข้างจึงทำงานอยู่ห้องเป็นหลัก มีงานส่งตามกำหนด โดยวันที่ 24 May บอกหัวหน้าโดยตรงว่าเดือนที่ผ่านมาทำงานที่บ้านเป็นหลักนะหัวหน้าไม่ว่าอะไร
- แต่วันที่ 28 May ทาง HR เรียกคุยแจ้งข้อกล่าวหาด้วยวาจาว่าเราไม่เข้าเลยทั้งเดือนเป็นแบบอย่างไม่ดีเพราะไปเชคการ tab บัตรเข้างาน (เดือนพค มีวันหยุดหลายวัน มีวันทำงานเพียง 19 วัน ถ้าหัก WFH 8 วัน จะต้องเข้า office 11 วัน แต่เข้าไป 3 วัน ) ซึ่งที่ผ่านมามีคนอื่นไม่เข้าออฟฟิศนานกว่าผมและมากกว่าหนึ่งคนด้วย
- HR ส่งเป็นข้อความ Warning ทางอีเมล โดยมีหนึ่งในข้อบังคับให้เราเข้าออฟฟิศทุกวันในเดือน June ซึ่งเราก็ยังอยู่ในระหว่างบำบัดรักษาขาเดินไม่สะดวก มีใบรับรองแพทย์ทุกครั้ง จึงเขียนโต้แย้งพร้อมแนบเอกสารใบรับรองแพทย์ต่างๆ ขอ Sick leave
- โดย HR บอกว่าหากลาป่วยห้ามทำงาน แต่ด้วยความที่เป็นห่วงงานเพราะตำแหน่งนี้มีคนเดียวในบริษัทคล้ายๆ R&D ไม่มีคนอื่นทำแทน (เคยแจ้งในที่ประชุมไปตั้งแต่ Jan แล้วว่าหน่วยงานอื่นๆ ที่ทำมาเขามีมากกว่า 1 คน แต่ไม่มีการตอบรับ)
- มีงานเร่งด่วนต้องเคลียร์เพื่อสนับสนุนแผนกอื่นให้ทันในสิ้นเดือน June จึงลาป่วยแล้วทำงานที่บ้านเพื่อไม่ให้งานเสียเพราะบังคับให้เข้าทุกวันเคยกระเผลกเข้าไปสุดท้ายกลับมาปวดขาอีกสองวัน
- แต่เมื่อ 18 June ทาง HR นัดโทรคุยบอกว่ามีเอกสารให้เซ็นนึกว่าเซ็นรับการเชิญออก แต่ถูกบังคับให้เซ็นรับจดหมายเตือน ผมจึงตอบกลับไปด้วยการแจ้งลาออก (คิดก่อนแล้วไม่ใช่เพราะอารมณ์)
- วันนี้ 21 June ทาง HR ยังบังคับให้เซ็นรับใบเตือนในวันจันทร์ที่ 24 June และบอกว่าเป็น Final warning (ยังไม่ได้เซ็นรับสองครั้งก่อนเลย)
จึงสงสัยว่าตามกฏหมายยังต้องไปเซ็นรับหรือไม่ ผมเข้าใจว่าการรับ warning คือยินยอมปรับปรุงตัว แต่ตัดสินใจแล้วจะไม่ปรับตัวกับที่นี่และแจ้งลาออก
ที่ทำแบบข้างต้นไปเพราะจะ balance ทั้งงานและฟื้นสภาพขาที่บาดเจ็บไปด้วยกัน แต่ยังคาใจที่ขายังไม่หายแต่บังคับให้เราเข้างานออฟฟิศทุกวัน
ปรึกษาเพื่อนคนนึงบอกว่าให้ตอบอีเมลไปว่าได้ปรึกษาทางกรมแรงงานและสวัสดิการไปแล้วขอไม่เซ็นรับ เป็นการเปรยๆ ว่าเราจะฟ้องกลับ
ขอบคุณครับ
โดนจดหมายแจ้งเตือนแต่เราแจ้งลาออกกลับยังต้องเซ็นรับทราบไหมครับ
- ที่ทำงานมีนโยบาย work form home 2 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่แรกเข้า ตอนนี้ทำงานมา 1.8 ปี แต่เดือน May ช่วงต้นเดือนป่วยด้วยอาการเอ็นเท้าอักเสบทั้งสองข้างจึงทำงานอยู่ห้องเป็นหลัก มีงานส่งตามกำหนด โดยวันที่ 24 May บอกหัวหน้าโดยตรงว่าเดือนที่ผ่านมาทำงานที่บ้านเป็นหลักนะหัวหน้าไม่ว่าอะไร
- แต่วันที่ 28 May ทาง HR เรียกคุยแจ้งข้อกล่าวหาด้วยวาจาว่าเราไม่เข้าเลยทั้งเดือนเป็นแบบอย่างไม่ดีเพราะไปเชคการ tab บัตรเข้างาน (เดือนพค มีวันหยุดหลายวัน มีวันทำงานเพียง 19 วัน ถ้าหัก WFH 8 วัน จะต้องเข้า office 11 วัน แต่เข้าไป 3 วัน ) ซึ่งที่ผ่านมามีคนอื่นไม่เข้าออฟฟิศนานกว่าผมและมากกว่าหนึ่งคนด้วย
- HR ส่งเป็นข้อความ Warning ทางอีเมล โดยมีหนึ่งในข้อบังคับให้เราเข้าออฟฟิศทุกวันในเดือน June ซึ่งเราก็ยังอยู่ในระหว่างบำบัดรักษาขาเดินไม่สะดวก มีใบรับรองแพทย์ทุกครั้ง จึงเขียนโต้แย้งพร้อมแนบเอกสารใบรับรองแพทย์ต่างๆ ขอ Sick leave
- โดย HR บอกว่าหากลาป่วยห้ามทำงาน แต่ด้วยความที่เป็นห่วงงานเพราะตำแหน่งนี้มีคนเดียวในบริษัทคล้ายๆ R&D ไม่มีคนอื่นทำแทน (เคยแจ้งในที่ประชุมไปตั้งแต่ Jan แล้วว่าหน่วยงานอื่นๆ ที่ทำมาเขามีมากกว่า 1 คน แต่ไม่มีการตอบรับ)
- มีงานเร่งด่วนต้องเคลียร์เพื่อสนับสนุนแผนกอื่นให้ทันในสิ้นเดือน June จึงลาป่วยแล้วทำงานที่บ้านเพื่อไม่ให้งานเสียเพราะบังคับให้เข้าทุกวันเคยกระเผลกเข้าไปสุดท้ายกลับมาปวดขาอีกสองวัน
- แต่เมื่อ 18 June ทาง HR นัดโทรคุยบอกว่ามีเอกสารให้เซ็นนึกว่าเซ็นรับการเชิญออก แต่ถูกบังคับให้เซ็นรับจดหมายเตือน ผมจึงตอบกลับไปด้วยการแจ้งลาออก (คิดก่อนแล้วไม่ใช่เพราะอารมณ์)
- วันนี้ 21 June ทาง HR ยังบังคับให้เซ็นรับใบเตือนในวันจันทร์ที่ 24 June และบอกว่าเป็น Final warning (ยังไม่ได้เซ็นรับสองครั้งก่อนเลย)
จึงสงสัยว่าตามกฏหมายยังต้องไปเซ็นรับหรือไม่ ผมเข้าใจว่าการรับ warning คือยินยอมปรับปรุงตัว แต่ตัดสินใจแล้วจะไม่ปรับตัวกับที่นี่และแจ้งลาออก
ที่ทำแบบข้างต้นไปเพราะจะ balance ทั้งงานและฟื้นสภาพขาที่บาดเจ็บไปด้วยกัน แต่ยังคาใจที่ขายังไม่หายแต่บังคับให้เราเข้างานออฟฟิศทุกวัน
ปรึกษาเพื่อนคนนึงบอกว่าให้ตอบอีเมลไปว่าได้ปรึกษาทางกรมแรงงานและสวัสดิการไปแล้วขอไม่เซ็นรับ เป็นการเปรยๆ ว่าเราจะฟ้องกลับ
ขอบคุณครับ