แม่เป็นโรค AVM (พบได้ 1 ใน 10,000 คน) (แก้บน)

สวัสดี กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตของตัวเราเอง 

เหตุผลที่มาเจียนกระทู้นี้ เป็นเพียงการ"แก้บน" ในความตั้งใจของเรา เนื่องจาก 2 เดือนที่ผ่านมา
ครอบครัวเราได้พบกับวิกฤตหนักที่สุดในชีวิต (22/03/67)  คือ คุณแม่ล้มป่วย ด้วยโรคเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก แบบกระทันหัน (โรคประจำตัวAVM ก่อให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก)
ข้อย้อนความไปวันที่เกิดเหตุ คือ  ขอท้าวความก่อนว่า ปกติเราและคุณแม่ สนิทกันมาก โทรศัพท์คุยกันทุกวันเป็นกิจวัตร ในช่วงเวลา 20.00น.
แต่วันนั้น ช่วง18.00น. เราได้แจ้งแม่ว่า วันนี้ไม่น่าจะได้คุยโทรศัพท์นะ เพราะเราต้องทำสไลด์พรีเซ้นกับผู้บริหาร (เราทำงานท่ี่กรุงเทพ ส่วนครอบครัวอยู่ทางภาคใต้)  แม่ก็คือโอเค เพราะแม่ค่อนข้างเกรงใจเราเช่นเดียวกัน  เวลาผ่านไป ล่วงเลยถึง 21.00น. คือ พ่อเราโทรมาด้วยน้ำเสียงที่ เรารับโทรศัพท์คือรับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณแม่อย่างแน่นอน 100% คือ คุณพ่อโทรมาด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้โฮ และสติแตกมาก บอกว่าแม่เส้นเลือดในสมองแตก ในช่วงเวลา 1ทุ่มที่ผ่านมา ตอนนี้เข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว แต่คุณหมอแจ้งว่า โอกาสรอดไม่ถึง 10% เพราะเลือดออกเยอะมาก และก่อนที่คุณหมอจะตัดสินใจผ่าตัดให้ เขาได้เสนอกับพ่อว่า โอกาสรอดของคุณแม่ค่อนข้างน้อยและสภาพหลังผ่าตัด แทบไม่มีโอกาสที่จะเป็นใกล้เคียงแบบเดิม หมอเลยเสนออีกวิธีให้เลือกว่า ปล่อยให้คุณแม่ไปสบาย ภายใน ระยะเวลา72 ชั่วโมง แต่ด้วยความรักที่คุณพ่อรักคุณแม่อย่างมาก จึงขอสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อคุณแม่ ขอให้คุณแม่กลับมาให้ได้ สภาพไหนก็ยอมรับได้  กลับมาที่สายคุยกับพ่อ ตอนนั้นคือตอนที่พ่อรายงานเหตุการณ์ให้เราฟัง เรามีความรู้สึกเดียวเลย คือ คุณแม่ไม่น่าจะอยู่กับเราแล้ว เพราะ ด้วยคำว่า โอกาสรอดไม่ถึง10% เรา ตื้อไปหมด คิดไรไม่ออกเลย นอกจากคำว่าสติ เราก็ฮึ้บตั้งสติได้ บอกพ่อให้เขาตั้งสตินะ อบ่าเพิ่งทรุดไปอีกคน ให้ญาติ คอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิดในระหว่างที่รอคุณแม่ผ่าตัด เวลาผ่านไปสัก3-4ชั่วโมง คุณพ่อโทรมาบอกเราว่า การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว ผลการผ่าตัดก็ต้องรอดู คืนนั้ คือพ่อไม่ได้นอนเลย ส่วนเราก็น็อคไป1-2ชั่วโมง เพื่อรอบินกลับภาคใต้ในตอนเช้า ระหว่างทาง คือร้องไห้ตลอดทาง จนถึงโรงพยาบาล เราก็ทำใจแล้วว่าจะต้องเจอกับภาพที่เราไม่อยากจะเจออย่างแน่นอน  ในห้องICU คุณแม่ อยู่เตียงแยก มุมในสุด คือผู้ป่วยวิกฤตที่สุด ภาพที่เห็นคือคุณแม่เต็มไปด้วยสายอ๊อกซิเจน สายต่างๆนานา ถึง4-5สาย ณ ตอนนั้น แม่ไม่สามารถขยับตัว หรือ เปิดตาได้แล้ว แต่เมื่อเราได้พบแม่ เราก็รู้สึกว่ายังไงก็ต้องเอาให้สุด เพื่อแม่ แม่ยังไม่ไปคือโอกาสที่เขาจะฟื้นได้ทุกนาที เราไม่สิ้นหวังเลยโดยที่ในใจและภาพความเป็นจริง คือ ไม่มีหวัง แต่ไม่รู้ทำไมว่าในใจรู้สึกแบบนั้น เราอยู่ในห้องICUกับพ่อ พ่อเรียกแม่ ม๊า ลูกมาหาแล้วนะ ให้กลับมาอยู่ด้วยกันก่อนนะ เราเห็นร่างกายของแม่ไม่ได้ขยับหรือ มีปฏิกริยาใดๆ นอกจาก "น้ำตาปริ่มตรงหางตา" เราก็รุ้สึกว่าาแม่รับรู้เพียงแค่เราทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องออกจากห้องICU ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอและลุ้นในปาฏิหารย์  ขณะนั้นใจเรายึดอะไรไม่ได้เลย นอกจากสวดมนต์และไปไว้พระที่ครอบครับนับถือ ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเชื้อสายจีน ก็มีการอัญเชิญอะก๋งพระจีน (ไต่เสี่ย) แต่ตอนนั้นในใจเราก็ไม่ได้เชื่ออะไรว่าเขาจะช่วยแม่ได้ แต่มันไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวเราก็ต้องทำ  ในขณะที่อะก๋งทำพิธี แกก็เรียกเราไปคุยว่า ไอตี๋ ไม่ต้องกลัว อะก๋งจะช่วยให้มันตื่น ให้มันกลับมา พอเราได้ยินคำพูดนั้น จากที่ใจที่หมดแรง สิ้นหวัง กลับกลายเป็นช่วยฮีลใจได้ 100% รู้สึกแปลกๆว่า ยังไงแม่ก็ต้องตื่น ยังไงแม่ก็ต้องกลับมา สภาพไหนก็ขอให้แม่กลับมาอยู่กับครอบครัวของเรา   ระหว่างนั้นเราก็สวดมนต์ตลอดอยู่หน้าห้องICU โดยมีบทสวดมนต์ บทนึง ที่ญาติเราได้ให้มา เราก็ไม่ได้รู้ถึงที่มาที่ไป แต่รู้แค่ว่าญาติคนที่แนะนำเรา เขาเคยเกือบจะเสียหลานรักคนนึงไป โดยที่แทบจะเป็นปาฎิหารย์เช่นเดียวกัน เขาบอกวา่าบทสวดนี้ดี เป็นบทสวดขอองพระทางเหนือ เราก็สวดมนต์บทนี้ตลอดวันนึงเป็น10 10รอบ อาจจะถึง 100 ในตอนที่วิกฤตหนัก หลังจากนั้นอาการแม่ ก็เริ่มขยับนิ้วได้ ในวันถัดมา ชีพจรก็เริ่มดีขึ้น วันถัดมาก็เริ่มมีสัญญาณที่มีแรงหายใจได้ด้วยตัวเองได้ ไม่มีการติดเชื้อ ไม่ต้องเจาะคอ ในที่สุดก็สามารถ ถอดเครื่องหายใจ เลือดในสมองหยุดไหลแห้งสนิท มีการเปิดตาได้ครึ่งนึง ได้เห็นหน้าแม่ที่ดีขึ้นและแม่ได้เห็นหน้าเรา ณ ตอนนั้น คือสุขที่สุดแล้ว แต่เขาก็ยังพูดไม่ได้ เราก็ยิ่งสวดมนตื บทดังกล่าว เพราะเห็นว่ามันแปลกมาก ที่แม่ดีขึ้นตามลำดับ คือคุณหมอแจ้งเลยว่า มันยิ่งกว่าปาฏิหารย์ แม่อยู่ในห้องiCU 6 วัน ดีขึ้นในทุกๆวัน คือเป็นเท่าตัว ในทุกวัน จนคุณหมอสามารถ อนุญาตให้พักฟื้นในห้องพิเศษได้ เราไม่รู้ว่า อาการที่แม่ดีขึ้นมาจากปัจจัยใดเป็นหลัก แต่เราคิดว่า มาจากหลายปัจจัย คือคุณหมอเก่ง  คุณแม่เป็นคนไม่ทำบาปเลย ความรักของครอบครัว สิ่งศักสิทธิ์องค์ไต่เสี่ย องค์เทพนาจา  บทสวดดังกล่าว เราก็ยังมีความเชื่อว่า บทดังกล่าวมีส่วนค่อนข้างเยอะเช่นกันในการที่ทำให้แม่มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ปัจจุบัน แม่สามารถเดินได้ พูดคุยได้ แทบจะเหมือนคนปกติ 100% ไม่มีอาการลืมอะไรเลย สมองช้านิดหน่อย คือมันเป็นปาฏิหารย์ ที่เราไม่เคยคิดว่าจะเจอภาพนี้เลย เกินฝันมากๆๆๆ  สุดท้าย ขอสรุปว่าที่เรามาเจียนกระทู้ในวันนี้ เป็นการแก้บนว่า ถ้าแม่หายดีปกติ จะนำบทสวดดังกล่าวมาแชร์ให้กับชาวพันทิป อาจจะช่วยชาวพันทิปได้บ้างหรือไม่ได้บ้างก็ตาม สุดท้ายการมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจภาวะวิกฤต เป็นสิ่งที่สำคัญเราทราบอันนี้ดี 

ขอบคุณมากนะครับ

 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่